ฟู่เฉินนวดหว่างคิ้วอย่างเหนื่อยล้าเล็กน้อย อาการเมาค้างบวกกับความอ่อนเพลีย สภาพของเขาตอนนี้ไม่ค่อยดีเลยจริง ๆ “ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น คุณอย่าคิดฟุ้งซ่านไปเลย”สวีจือหรูเห็นดังนั้น ก็รีบเข้าไปประชิดในทันที นิ้วมือเรียวบาง นวดที่ขมับของฟู่เฉินอย่างแผ่วเบา “อาเฉิน คุณเหนื่อยเกินไปหรือเปล่าคะ แบบนี้รู้สึกดีขึ้นมาหน่อยไหม?”“สภาพของคุณเป็นแบบนี้ อย่าไปทำงานเลยดีกว่าค่ะ ตอนนี้บริษัทก็ไม่ได้มีเรื่องใหญ่โตอะไร คุณพักผ่อนที่บ้านให้เต็มที่สักหน่อยเถอะ ฉันจะไปต้มซุปให้คุณ ดีไหมคะ?”สวีจือหรูราวกับไม่มีกระดูก พูดไปพลาง อิงแอบแผงอกของฟู่เฉินไปพลาง ราวกับแมวที่อ่อนโยนว่าง่ายอย่างไรอย่างนั้น ทำให้ผู้อื่นไม่อาจปฏิเสธความหดหู่ทั้งหมดที่อยู่ในใจของฟู่เฉิน หายไปราวกับเมฆหมอกเพราะคำไม่กี่คำนี้ เขาโอบไหล่ของสวีจือหรูอย่างเป็นธรรมชาติ พลางยิ้มแล้วกล่าวว่า “หรูเอ๋อร์ ก็มีแต่คุณเท่านั้นที่เป็นห่วงผมขนาดนี้ แล้วก็มีแต่คุณเท่านั้นที่สามารถทำให้ผมสบายใจได้”ต่อให้ฟู่เฉินไม่พูดคำพูดนี้ ในใจของสวีจือหรูเองก็รู้ดีอยู่แก่ใจหากเธอไม่มีแม้แต่ความสามารถเช่นนี้ละก็ เช่นนั้นก็คงไม่สามารถอยู่ข้างกายของฟู
Baca selengkapnya