ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว

ฉันถือเถ้ากระดูกบุกไปอาละวาดงานวันเกิดรักแรกของผู้ชายเลว

By:  มู่เหลียนชิงUpdated just now
Language: Thai
goodnovel4goodnovel
Not enough ratings
100Chapters
15views
Read
Add to library

Share:  

Report
Overview
Catalog
SCAN CODE TO READ ON APP

ชีวิตแต่งงานห้าปีของหนิงหนานเสว่และฟู่เฉิน ถูกประคับประคองไว้ด้วยการเหยียบย่ำศักดิ์ศรีทั้งกายและใจ เธอคิดว่าแม้ไม่มีความรัก อย่างน้อยก็ควรมีความผูกพัน จนกระทั่งวันที่... หนังสือแจ้งอาการวิกฤติของลูกเพียงคนเดียวของพวกเขา และพาดหัวข่าวบันเทิงที่เขาทุ่มเงินไม่อั้นเพื่อรักแรกปรากฏขึ้นพร้อมกันต่อหน้าเธอ ในที่สุดเธอก็ไม่ต้องสวมบทบาทคุณผู้หญิงฟู่อีกต่อไป แต่ผู้ชายใจดำคนนั้นกลับติดสินบนสื่อทุกสำนัก คุกเข่าขอร้องให้เธอกลับมาด้วยดวงตาแดงก่ำท่ามกลางหิมะ ในขณะที่หนิงหนานเสว่ปรากฏตัวพร้อมกับจับมือผู้ชายอีกคน เพื่อประกาศให้โลกรู้ว่าเขาคือคนรักใหม่ของเธอ

View More

Chapter 1

บทที่ 1

“คุณหนูหนิง คุณไม่รู้เหรอ? ลูกของคุณเป็นโรคมะเร็งกระดูกที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม อาจมีชีวิตอยู่ได้มากสุดสองเดือนเท่านั้น”

“ถ้าผมจำไม่ผิด แม่ของคุณก็เสียเพราะโรคนี้”

“ผมแนะนำว่า คุณเองก็ควรตรวจร่างกายอย่างละเอียดด้วย...”

ทันใดนั้น หนิงหนานเสว่ก็รู้สึกเหมือนแรงทั้งหมดที่มีในร่างกายถูกดูดหายไปในพริบตา

คำพูดของหมอวนเวียนอยู่ในหัวของเธอไม่หยุดหย่อน เธอตัวสั่นเทาอย่างไม่อาจควบคุมได้

“เป็นอะไรเหรอคะ มามี้?” ฟู่สุยสุยเอ่ยเสียงใสพลางมองหนิงหนานเสว่ด้วยความเป็นห่วง “สุยสุยทำอะไรให้คุณแม่ไม่สบายใจหรือเปล่าคะ?”

หนิงหนานเสว่มองใบหน้าเล็ก ๆ ที่ผอมซูบจนเห็นกระดูกของฟู่สุยสุยที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยด้วยความรู้สึกผิดเต็มหัวใจ

“ถ้าเป็นความผิดของสุยสุย หนูขอโทษนะคะ” พูดจบ ฟู่สุยสุยก็ฝืนยิ้มออกมาอย่างเข้มแข็ง

หัวใจของหนิงหนานเสว่ปวดร้าวราวกับโดนทิ่มแทง เธอไม่อยากจะเชื่อว่าลูกรักของเธอเหลือเวลาแค่หกเดือน เธอไม่มีพ่อแม่ ไม่มีครอบครัว และชีวิตคู่ก็เหลือเพียงแค่ชื่อ

สุยสุยคือความหวังเดียวที่เธอจะมีชีวิตอยู่ต่อไป

หนิงหนานเสว่กลั้นน้ำตาไว้ “แม่ไม่ได้ไม่สบายใจหรอก แม่ดีใจมากเลย เพราะสุยสุยกำลังจะหายดีแล้ว”

ดวงตาของฟู่สุยสุยเป็นประกาย เอ่ยอย่างดีใจว่า “ดีจังเลยค่ะ... แล้ววันนี้คุณพ่อจะมาหาหนูไหมคะ?”

ดวงตากลมโตคมเข้มเปี่ยมไปด้วยความหวังที่เลือนลาง แต่พอพูดจบก็หลบตาลง ราวกับไม่กล้าหวังมากเกินไปอย่างไงอย่างงั้น

ทว่าคำพูดนี้กลับทำให้หนิงหนานเสว่เจ็บปวดยิ่งกว่าถูกเฉือนเนื้อซะอีก

หนิงหนานเสว่พยายามข่มหัวใจที่เต้นเร็วรัว “แน่นอนจ้ะ มามี้สัญญาว่าวันนี้คุณพ่อจะมาหาหนูค่ะ”

“จริงเหรอคะ...” น้ำเสียงใสซื่อแฝงไปด้วยความสงสัยที่ไม่มั่นใจ

หนิงหนานเสว่รู้ดีว่าที่สุยสุยไม่มั่นใจเกิดจากอะไร เพราะเธอเป็นแม่ที่ไม่ได้รับการยอมรับจากพ่อ

เด็กวัยสี่ขวบไม่เข้าใจความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนของพ่อแม่ ลูกแค่ต้องการครอบครัวที่ปกติธรรมดา และความรักจากพ่อเพียงเล็กน้อยเท่านั้น

แต่เธอกำลังจะเสียลูกไป

แต่เธอกลับให้สิ่งนั้นกับลูกไม่ได้

“สุยสุย แม่สัญญานะ ไม่ว่าจะยังไงก็ตาม วันนี้แม่จะพาพ่อมาหาหนูให้ได้ สุขสันต์วันเกิดนะ” เธอลูบศีรษะของฟู่สุยสุยเบา ๆ แล้วก้มลงหอมหน้าผากลูก

ฟู่สุยสุยยิ้มอย่างมีความสุข

หลังจากกล่อมลูกนอนหลับ หนิงหนานเสว่จึงโทรหาเลขาจาง

เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ “ฟู่เฉินอยู่ไหน บอกเขาว่าฉันคิดได้แล้ว”

ปลายสายเงียบไปครู่หนึ่งก่อนตอบกลับว่า “ท่านประธานฟู่กำลังฉลองวันเกิดกับคุณสวีอยู่ครับ ถ้าคุณหนิงอยากคุยไว้พรุ่งนี้ผมจะแจ้งท่านประธานฟู่ให้นะครับ”

เมื่อหนิงหนานเสว่ได้ยินคำว่า ‘คุณสวี’ ก็กลืนน้ำลายทันที “บอกฟู่เฉินไปว่า นอกจากวันนี้ ก็ไม่รอแล้ว”

พูดจบ หนิงหนานเสว่ก็วางสายทันที

ผ่านไปไม่ถึงสิบนาที เลขาจางก็โทรกลับมา และบอกสถานที่กับหนิงหนานเสว่—โรงแรมเยี่ยนจิง

...

เมื่อหนิงหนานเสว่มาถึง เลขาจางก็ออกมารับเธอ

ตอนที่ทั้งสองคนเดินมาถึงหน้าห้องจัดเลี้ยง ยังไม่ทันที่เธอจะเข้าไป เสียงภายในก็ดังลอดออกมา

“พี่เฉิน วันนี้พี่บอกกับทุกคนต่อหน้าพี่สาวผมว่า พี่แต่งงานกับหนิงหนานเสว่มาตั้งหลายปี ถึงขั้นมีลูกด้วยกัน แต่พี่ไม่มีความรู้สึกอะไรเลยอย่างนั้นเหรอ?”

หนิงหนานเสว่หน้าซีดในทันใด

หลังเสียงทุ้มต่ำแฝงไปด้วยความเย็นชาดังขึ้น บรรยากาศภายในห้องพลันเงียบสงัด

“นายคิดว่าฉันจะรักผู้หญิงที่นิสัยต่ำทราม และใช้วิธีสกปรกแบบนั้นเหรอ? ส่วนเด็ก... นอกคอกคนนั้น? ใช่ลูกฉันรึเปล่าก็ยังไม่แน่”

“อย่ามาทำให้ฉันรู้สึกขยะแขยง”

คำพูดเย็นชาและเรียบเฉย แต่กลับทำร้ายจิตใจได้มากที่สุด

ราวกับเข็มทิ่มแทงใส่เธอ

เธอยอมรับได้ที่ฟู่เฉินรังเกียจเธอ

และเกลียดชังเธอ

แต่เธอรับไม่ได้ที่ฟู่เฉินใช้คำว่า ‘เด็กนอกคอก’ เรียกขานลูกของเธอ!

หนิงหนานเสว่ผลักประตูเปิดออก คนที่อยู่ข้างในถูกเสียงนั้นดึงดูดทันที เมื่อทุกคนเห็นหนิงหนานเสว่ยืนอยู่หน้าประตูต่างก็มีสีหน้าเปลี่ยนไปฉับพลัน

ฟู่เฉินนั่งอยู่หัวโต๊ะ เขาเป็นดั่งดวงเดือนที่ถูกรายล้อมไปด้วยดวงดาวมาแต่ไหนแต่ไร เขามองหนิงหนานเสว่ด้วยสายตาเย็นชาพลางขมวดคิ้ว

ส่วนสาวสวยมีเสน่ห์ที่นั่งข้างเขาคือ ‘คุณสวี’ ที่เลขาจางพูดถึง ซึ่งก็คือสวีจือหรู แฟนเก่าของฟู่เฉิน

เมื่อเธอเห็นหนิงหนานเสว่ก็อึ้งไปชั่วขณะ และไม่เป็นธรรมชาติเช่นกัน

“หนานเสว่?” สวีจือหรูเอ่ยด้วยความประหลาดใจ “เธอมาได้ยังไง? อาเฉิน ทำไมคุณไม่บอกเลยล่ะว่าเธอจะมา...”

ทุกคนในที่นี้รู้ว่าหนิงหนานเสว่กับฟู่เฉินกำลังจะหย่ากัน

ดังนั้นสวีจือหรูจึงสามารถใช้สถานะตัวจริงพูดแบบนั้นกับหนิงหนานเสว่อย่างเป็นธรรมชาติ

ฟู่เฉินเอ่ยด้วยสายตาเย็นชา “พวกคุณออกไปกันก่อนเถอะ...”

ทันใดนั้น สวีจือหรูพลันหน้าเสีย

หนิงหนานเสว่สบตากับสายตาเย็นชาอย่างยิ่งของฟู่เฉิน “ไม่ต้องหรอก... เรื่องระหว่างเรา ไม่มีอะไรที่พูดไม่ได้ ทุกคนอยู่นี่แหละ”

หากเป็นหนิงหนานเสว่เมื่อห้าปีก่อน เธอไม่มีทางพูดด้วยน้ำเสียงใจเย็นแบบนี้

สำหรับเธอ ฟู่เฉินเคยเป็นความรักที่โกลาหล

แต่ตอนนี้เหลือเพียงรอยเลือดเต็มตัวจากการถูกทุบตีด้วยความจริง

ในเวลานี้ เธอมีแค่ความตั้งใจเดียว

นั่นก็คือทำให้ลูกของเธอได้มีจุดเริ่มต้นและจุดจบที่สมบูรณ์

สวีจือหรูหน้าเสีย จับแขนของฟู่เฉิน

ฟู่เฉินหันมามองหนิงหนานเสว่อย่างเย็นชาทันที “เงื่อนไขของผมยังเหมือนเดิม คุณอยากจะเรียกร้องอะไรอีก?”

ในดวงตาดำขลับของหนิงหนานเสว่ดูเหมือนจะเหลือแค่ความสงบ “เงื่อนไขของฉันคือ ให้คุณอยู่กับสุยสุยหนึ่งเดือนในฐานะพ่อ นับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป”

คำพูดนี้ดังสนั่นต่อหน้าทุกคนราวกับฟ้าร้อง

น้องชายของสวีจือหรู สวีจ้าวโกรธจัด “ฉันรู้อยู่แล้วว่าเธอมันไร้ยางอาย ยังอยากเกาะพี่เฉินอีก! ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ พี่สาวฉันจะต้องแยกจากพี่เฉินนานขนาดนั้นเหรอ!”

สวีจือหรูน้ำตาคลอ รีบดึงสวีจ้าวไว้ “นายหยุดพูดได้แล้ว...”

แต่ยิ่งเธอห้าม สวีเจ้าก็ยิ่งโมโห “พี่! พี่เป็นโรคซึมเศร้าตั้งหลายปี แต่ไม่ดีขึ้นเลย จะให้ไม่ผมโมโหได้เหรอ! พี่เฉิน หรือว่าครั้งนี้พี่จะยอมโดนผู้หญิงคนนี้หลอกอีก!”

สีหน้าของฟู่เฉินเปลี่ยนไปเล็กน้อย ดวงตาสีดำสนิทจับจ้องชั่วครู่หนึ่ง ครู่ต่อมาเขาก็หันไปมองหนิงหนานเสว่ด้วยสายตาเย็นชา “ไม่มีทาง”

หนิงหนานเสว่รู้อยู่แล้วว่าฟู่เฉินจะพูดแบบนี้

“ฉันไม่เอาสินสมรสก็ได้ ไม่เอาอะไรทั้งนั้น เงื่อนไขเดียวในการหย่าของฉันคือให้คุณอยู่กับสุยสุยหนึ่งเดือน ในฐานะพ่อ”

เมื่อหนิงหนานเสว่เอ่ยถึงสุยสุย หัวใจของเธอก็เจ็บปวดรวดร้าว “ถ้าคุณไม่ตกลง ฉันก็จะไม่ยอมหย่า”

“เปรี้ยง!” สวีจ้าวเขวี้ยงถ้วยลงตรงหน้าหนิงหนานเสว่ด้วยความโมโห “อีกระหรี่ เธอไม่อายบ้างเหรอ!”

หนิงหนานเสว่มองเศษอาหารที่เปื้อนบนกระโปรงร่วงลงมา แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชาจนน่ากลัวว่า “ฟู่เฉิน ถ้าคุณอยากกำจัดฉันไปให้พ้น มีแค่ทางนี้ทางเดียวเท่านั้น ไม่อย่างนั้น ต่อให้คุณอยากจะหย่า คุณก็จะต้องพัวพันกับฉันไปอีกอย่างน้อยสองปี”

“แต่ถ้าคุณอยู่กับสุยสุยหนึ่งเดือน หลังจากนั้นฉันจะหย่ากับคุณโดยไม่รีรอแน่นอน”

ดวงตาของฟู่เฉินเย็นชา

ส่วนสวีจือหรูกลับสูดหายใจยาว ๆ “ฟู่เฉิน คุณตอบตกลงเถอะ”

ทันทีที่สิ้นเสียงนี้ ทำให้ทุกคนไม่คาดคิดมาก่อน

“พี่?” สวีจ้าวถามกลับเสียงดัง

สวีจือหรูจับมือฟู่เฉินแน่นพร้อมยิ้มอย่างอ่อนโยน “ถือซะว่าเพื่อเราสองคน ฉันเชื่อใจคุณ”
Expand
Next Chapter
Download

Latest chapter

More Chapters

Comments

No Comments
100 Chapters
บทที่ 1
“คุณหนูหนิง คุณไม่รู้เหรอ? ลูกของคุณเป็นโรคมะเร็งกระดูกที่ถ่ายทอดทางพันธุกรรม อาจมีชีวิตอยู่ได้มากสุดสองเดือนเท่านั้น”“ถ้าผมจำไม่ผิด แม่ของคุณก็เสียเพราะโรคนี้”“ผมแนะนำว่า คุณเองก็ควรตรวจร่างกายอย่างละเอียดด้วย...”ทันใดนั้น หนิงหนานเสว่ก็รู้สึกเหมือนแรงทั้งหมดที่มีในร่างกายถูกดูดหายไปในพริบตาคำพูดของหมอวนเวียนอยู่ในหัวของเธอไม่หยุดหย่อน เธอตัวสั่นเทาอย่างไม่อาจควบคุมได้“เป็นอะไรเหรอคะ มามี้?” ฟู่สุยสุยเอ่ยเสียงใสพลางมองหนิงหนานเสว่ด้วยความเป็นห่วง “สุยสุยทำอะไรให้คุณแม่ไม่สบายใจหรือเปล่าคะ?”หนิงหนานเสว่มองใบหน้าเล็ก ๆ ที่ผอมซูบจนเห็นกระดูกของฟู่สุยสุยที่นอนอยู่บนเตียงผู้ป่วยด้วยความรู้สึกผิดเต็มหัวใจ“ถ้าเป็นความผิดของสุยสุย หนูขอโทษนะคะ” พูดจบ ฟู่สุยสุยก็ฝืนยิ้มออกมาอย่างเข้มแข็งหัวใจของหนิงหนานเสว่ปวดร้าวราวกับโดนทิ่มแทง เธอไม่อยากจะเชื่อว่าลูกรักของเธอเหลือเวลาแค่หกเดือน เธอไม่มีพ่อแม่ ไม่มีครอบครัว และชีวิตคู่ก็เหลือเพียงแค่ชื่อสุยสุยคือความหวังเดียวที่เธอจะมีชีวิตอยู่ต่อไปหนิงหนานเสว่กลั้นน้ำตาไว้ “แม่ไม่ได้ไม่สบายใจหรอก แม่ดีใจมากเลย เพราะสุยสุยกำลังจะหายดีแล้ว
Read more
บทที่ 2
ฟู่เฉินจ้องมองมือของสวีจือหรู ค่อย ๆ รู้สึกหนักอึ้งในใจ จากนั้นพูดว่า “แค่หนึ่งเดือน หนิงหนานเสว่ ทางที่ดีคุณอย่าคิดจะเล่นอะไรตุกติก ถ้าคุณมีความคิดอะไรแอบแฝง ผมจะให้คุณต้องชดใช้”หนิงหนานเสว่แสยะยิ้ม “ตกลง ตราบใดที่คุณเต็มใจอยู่กับสุยสุย ฉันจะร่วมมือคุณทุกอย่าง”“ในฐานะพ่อ คุณไม่ควรให้ของขวัญวันเกิดกับสุยสุยหน่อยเหรอ?”ฟู่สุยสุยนอนอยู่ในอ้อมแขนของหนิงหนานเสว่ในเวลานี้ รถกำลังขับไปยังบ้านตระกูลฟู่“คุณแม่คะ คุณพ่อมาจริง ๆ เหรอคะ…” น้ำเสียงของฟู่สุยสุยสั่นเครือเล็กน้อย แม้ว่าจะพยายามควบคุมได้ดี แต่ความปรารถนาในดวงตานั้นกลับไม่สามารถควบคุมได้หนิงหนานเสว่ลูบหลังเธอเบา ๆ แล้วพูดเสียงต่ำอย่างอ่อนโยนว่า “แน่นอนจ้ะ”ฟู่สุยสุยตาเป็นประกายทันที “งั้นคุณแม่ห้ามบอกคุณพ่อว่าหนูไม่สบายนะคะ หนูกลัวคุณพ่อจะไม่สบายใจ”ในชั่วขณะนั้น หนิงหนานเสว่เพียงรู้สึกว่าดวงตาร้อนชื้น และปวดจมูกมาก เธอลูบไรผมของฟู่สุยสุย “ได้จ้ะ แม่สัญญา”ฟู่สุยสุยยื่นนิ้วก้อยออกมา หนิงหนานเสว่เข้าใจความหมายของเธอ จึงเกี่ยวก้อยกลับ“ร้อยปีก็ห้ามเปลี่ยนนะคะ…” ฟู่สุยสุยยิ้มหวานแต่ทุกสิ่งทุกอย่างกลับพร่ามัวในสายตาของหนิง
Read more
บทที่ 3
ทันใดนั้น สุยสุยพลันพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เพราะคุณแม่ชอบคุณพ่อมากยังไงล่ะคะ คุณพ่อไม่ชอบสุยสุยไม่เป็นไร แต่ชอบคุณแม่มากกว่านี้หน่อยได้ไหมคะ?”“ต่อไปนี้คุณพ่อดีกับคุณแม่ให้มากกว่านี้หน่อยได้ไหมคะ...”เสียงของเธอเบามาก ๆ ดวงตากลมโตคมเข้มมองไปยังฟู่เฉินแววตาของฟู่เฉินสั่นไหวเล็กน้อยเป็นไปตามคาดเขารู้อยู่แล้วว่าจุดประสงค์ของหนิงหนานเสว่ไม่ได้บริสุทธิ์ เพื่อลูกอย่างเดียว“แม่เป็นคนสอนให้หนูพูดแบบนี้เหรอ?” ฟู่เฉินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นชา และแฝงไปด้วยความเย้ยหยัน“เปล่าค่ะ” ฟู่สุยสุยรีบส่ายหน้าฟู่เฉินย่อมไม่เชื่อแน่นอน ดวงตาของเขาเย็นชาลงเล็กน้อยฟู่สุยสุยรู้สึกว่าดูเหมือนคำพูดของเธอจะทำให้พ่อไม่พอใจ แต่เธอรู้ว่าจริง ๆ แล้วเธอก็เหมือนกับเจ้าหญิงเงือกที่มีชีวิตอยู่ได้ไม่นานแล้ว ถึงแม้ว่าแม่จะบอกว่าอาการป่วยของเธอหายดีแล้ว แต่ความเป็นจริงเธอสามารถรับรู้ได้ว่าอาการป่วยของเธอร้ายแรงมาก ๆแต่เธอก็หวังว่าถ้าวันหนึ่งเธอกลายเป็นฟองแล้วกลับคืนสู่ท้องทะเลถ้าอย่างนั้น เธอก็หวังจะมีใครสักคนรักแม่ของเธอฟู่สุยสุยลุกขึ้นยืน ย่ำเท้าบนพรมที่นุ่มสบายไปยังชั้นหนังสือเล็ก ๆ แล้วหยิบสมุดบันทึกเล่มหนึ
Read more
บทที่ 4
เห็นได้ชัดว่าโพสต์นี้ลืมบล็อคเธอแววตาของเธอลึกซึ้ง ไม่มีแม้แต่ระลอกคลื่นสร้อยคอเพชรที่ส่งไปเมื่อวาน วันนี้ก็มือของสวีจือหรูแล้ว ประสิทธิภาพสูงจนน่าทึ่งจริง ๆแต่ก็จริง เพราะสวีจือหรูคือคนที่ฟู่เฉินให้ความสำคัญเป็นพิเศษหนิงหนานเสว่หัวเราะเบา ๆ ขณะที่เธอกำลังจะปิดโทรศัพท์ก็มีข้อความหนึ่งเด้งขึ้นว่า[หนานเสว่ อีกสิบวันผมจะกลับประเทศแล้วนะ]รูปโปรไฟล์สีดำตัวย่อคือ jycบุคคลนี้ติดอยู่ในรายชื่อติดต่อของเธอมาเป็นเวลานานแล้วนับ ๆ ดูแล้วทั้งสองคนก็ไม่ได้ติดต่อกันมาหกปีแล้วลมหายใจของหนิงหนานเสว่หนักอึ้ง แต่ไม่พูดอะไรสักคำตอนเวลาสี่โมงยี่สิบ ฟู่เฉินเพิ่งจะปลีกตัวจากการประชุมที่หนักหน่วง จนกระทั่งเลขาจางเตือน เขาถึงจำเรื่องที่จะไปรับฟู่สุยสุยได้ครั้นแล้วก็เขาจึงนั่งรถตู้ธุรกิจแล้วรีบมุ่งหน้าไปยังโรงเรียนอนุบาลฟู่เฉินนวดขมับที่เหนื่อยล้าพลางเอ่ยด้วยเสียงทุ้มต่ำเล็กน้อย “เร็วหน่อย”คนขับได้ยินดังนั้นก็ตอบรับเสียงเบา “ครับ”ฟู่เฉินตั้งใจว่าจะไปรับลูกมาแล้วส่งให้หนิงหนานเสว่ จากนั้นค่อยไปบ้านของสวีจือหรูและในขณะนั้นเอง โทรศัพท์มือถือของฟู่เฉินก็ทำลายความเงียบ หน้าจอปรากฏชื่
Read more
บทที่ 5
“แค่ก แค่ก—” ฟู่สุยสุยไอหนัก ๆ อีกครั้ง ครั้งนี้เธอไอจนตัวงอแทบจะยืนไม่ไหว ร่างเล็ก ๆ ทรุดคุกเข่าลงกับพื้นเสียงดัง “ฟุ่บ” ก่อนจะกระอักเลือดออกมา “สุยสุย!” หนิงหนานเสว่เสียงสั่น รีบเข้าไปดู ใบหน้าของฟู่สุยสุยแดงก่ำดูเหมือนจะเป็นเพราะพิษไข้ แต่ริมฝีปากกลับซีดขาว “หนูไม่เป็นไรค่ะคุณแม่...” หนิงหนานเสว่รีบอุ้มลูกขึ้นมา “แม่จะพาหนูไปโรงพยาบาล” มือเล็ก ๆ ของฟู่สุยสุยจับหนิงหนานเสว่แน่น ดวงตาของเธอแดงก่ำจนผิดปกติ หนิงหนานเสว่รีบไปโรงพยาบาล หลังหมอทำการเจาะเลือดฟู่สุยสุยเสร็จ จากนั้นก็รอผลการตรวจอยู่ข้างนอก “คุณแม่คะ คุณพ่อเกลียดหนูมากใช่ไหมคะ...” เสียงที่อ่อนโยนของเธอ ในที่สุดก็เปิดเผยความอ่อนแอของตัวเองในยามป่วยไข้ หนิงหนานเสว่ได้ยินคำถามนั้นแล้ว เธอกลับตอบไม่ได้ เธออยากจะบอกลูกมากว่า สุยสุย พ่อไม่ได้เกลียดหนูเลยนะ แต่เกลียดแม่ต่างหาก ถ้าหนูเป็นลูกของสวีจือหรู หนูจะต้องมีความสุขมากแน่ ๆ หนิงหนานเสว่โกหกอีกครั้ง เธอส่ายหน้าพร้อมน้ำตาคลอเบ้า “ไม่หรอก สุยสุย พ่อไม่ได้เกลียดหนู เขาแค่ยุ่งมากเท่านั้น...” ฟู่สุยสุยยิ้มจาง ๆ ใบหน้าซีดเซียวดูอิดโรย มือเล็ก ๆ ลูบผม
Read more
บทที่ 6
“อาเฉิน ในเมื่อคุณหนิงอยากคุยกับคุณ พวกคุณก็ค่อย ๆ คุยกันเถอะ”“อย่าทะเลาะกันต่อหน้าเด็กเลยนะ”สวีจือหรูดึงมุมปากของฟู่เฉิน สายตาเต็มไปด้วยความน้อยใจที่ต้องอดกลั้น แต่ก็ยังพยายามแสดงออกว่าเป็นคนมีเหตุผล เมื่อเห็นดังนั้น ฟู่เฉินก็รู้สึกไม่ค่อยพอใจ แต่ก็ยังพยักหน้า แล้วเดินไปอีกด้านหนึ่ง หนิงหนานเสว่จำไม่ได้แล้วว่านานแค่ไหนแล้วที่พวกเขาไม่ได้อยู่ด้วยกันตามลำพังแบบนี้ ทันใดนั้น เธอจึงไม่รู้จะเริ่มพูดอย่างไรดี แต่เห็นได้ชัดว่าฟู่เฉินแทบจะไม่มีความอดทนกับเธอเลย “คุณจะพูดอะไรกันแน่?” “พาลูกมาวุ่นวายในที่แบบนี้ คุณยังเหลือความเป็นแม่อยู่ไหม?” พอฟู่เฉินนึกถึงเรื่องที่ผู้หญิงคนนี้ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้เขามา แม้กระทั่งหลอกใช้ลูกของตัวเอง เขาก็รู้สึกรังเกียจอย่างที่สุด“คุณตกลงกับฉันว่าจะอยู่กับสุยสุยหนึ่งเดือน เดือนนี้ คุณช่วยให้คุณสวีของคุณไม่ปรากฏตัวต่อหน้าสุยสุยได้ไหม?” ตอนนี้หนิงหนานเสว่ไม่สนใจแล้วว่าฟู่เฉินจะพูดอะไรเกี่ยวกับเธอ ตอนนี้เธอแค่อยากให้ลูกใช้ชีวิตอย่างมีความสุขในช่วงเวลาที่เหลือ “ผมแค่ตกลงว่าจะอยู่กับสุยสุย นอกนั้น คุณอย่าฝันไปเลย” “คุณยังเจ้าเล่ห์เหมือนเดิม
Read more
บทที่ 7
ทั่วทั้งโรงพยาบาลวุ่นวายเพราะฟู่สุยสุย แต่หนิงหนานเสว่กลับรู้สึกสมองว่างเปล่า ราวกับเหลือเพียงแค่เสียงฝีเท้าและเสียงร้องเรียกเท่านั้น เธอไม่เห็นและไม่ได้ยินอะไรเลย “คุณหนิง คุณไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?” หมอโบกมือไปมาตรงหน้าหนิงหนานเสว่ หนิงหนานเสว่ถึงตื่นจากภวังค์ เมื่อเธอเห็นหมอ ทันใดนั้น ราวกับว่าสติทั้งหมดได้หวนกลับคืนมา “ลูกสาวฉันเป็นยังไงบ้างคะ?” “ตอนนี้อาการทรงตัวแล้วครับ แต่อาการก็ทรุดลงอย่างรวดเร็ว ตอนนี้อาการแย่มาก ต้องเข้าห้อง ICU ก่อนครับ รอให้สัญญาณชีพคงที่แล้วค่อยพิจารณาว่าจะผ่าตัดได้ไหม” “คุณหนิง อาการของเด็กคนนี้ตอนนี้ ถ้าผ่าตัด...” หมอไม่ได้พูดต่อ แต่หนิงหนานเสว่รู้ดีว่าการผ่าตัดไม่มีความหมายมากนัก มันเป็นเพียงการทรมานลูกเปล่า ๆ เท่านั้นแต่เธอตัดใจไม่ได้ ตัดใจไม่ได้ที่จะปล่อยให้ลูกสาวสุดที่รักจากเธอไปแบบนี้ เธอรับผลลัพธ์แบบนี้ไม่ได้ แม้ว่าจะมีความหวังเพียงริบหรี่ เธอก็ไม่อยากยอมแพ้ “ฉันเข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณค่ะหมอ” ทันทีที่หันหลังกลับ น้ำตาก็ไหลรินออกมาโดยไม่ทันตั้งตัว หนิงหนานเสว่รีบเอื้อมมือไปเช็ดน้ำตา แต่ยิ่งเช็ดก็ยิ่งไหลมากขึ้นเรื่อย ๆ เธอทรุดตัวลงนั่งคุด
Read more
บทที่ 8
“สุยสุย!”หนิงหนานเสว่กรีดร้อง น้ำตาไหลรินทันที หัวใจของเธอราวกับถูกอะไรบางอย่างอุดกั้นไว้แน่น จนหายใจลำบาก เธอรู้ว่าสุยสุยของเธอจากไปแล้ว กลับสู่สรวงสวรรค์แล้ว เธอมายังโลกใบนี้ เห็นโลกใบนี้แล้ว เธอไม่ชอบโลกใบนี้ ผิดหวังในตัวพวกเขามาก ดังนั้นเธอจึงกลับไป และไม่กลับมาอีก “สุยสุย แม่ขอโทษนะ ขอโทษจริง ๆ!” หนิงหนานเสว่กอดลูกพลางร้องเสียงสั่นเครือ แล้วประคองใบหน้าเล็ก ๆ ที่ไร้ลมหายใจของด้วยสองมือที่สั่นเทาพลางจุมพิตซ้ำแล้วซ้ำเล่าเธอไม่ดีเอง เป็นเธอเองที่ดื้อรั้น เป็นเธอเองที่ยึดติดกับฟู่เฉิน! ทั้งหมดเป็นเพราะเธอไม่ดีเอง เธอไม่สมควรที่จะเป็นแม่ของสุยสุยด้วยซ้ำ สุยสุยของเธอ ไม่กลับมาอีกแล้ว! เมื่อหนิงหนานเสว่สงบลงแล้ว เธอก็เช็ดตัวให้สุยสุยด้วยตัวเอง แล้วเปลี่ยนชุดเจ้าหญิงสีชมพูที่สุยสุยชอบที่สุด เธอต้องการให้ลูกสาวของเธอจากโลกนี้ไปอย่างสวยงาม ในช่วงเวลาสุดท้ายนี้ เธอจะทุ่มเททุกสิ่งทุกอย่าง เพื่อให้สิ่งที่ดีที่สุดกับลูกของเธอ หมอและพยาบาลต่างก็ชอบสุยสุย นางฟ้าตัวน้อยคนนี้ ตอนนี้พวกเขารู้สึกสะเทือนใจอย่างมาก พยาบาลสาวบางคนถึงกับแอบปาดน้ำตาเงียบ ๆแต่ในฐานะแม่อย่างหนิงหนานเสว่ ตอ
Read more
บทที่ 9
“หรูหรู เป็นอะไรไป? อยู่ที่ไหน?” “ฟู่เฉิน แกทำร้ายหลานสาวฉัน ฉันไม่ปล่อยแกง่าย ๆ แน่ แกหวงผู้หญิงคนนี้มากใช่ไหม? คอยรับศพเธอได้เลย!” เสียงโหดเหี้ยมของหนิงไห่เทาดังลอดเข้ามาในโทรศัพท์ “แกอย่าทำอะไรบ้า ๆ นะ!” เสียงของฟู่เฉินสั่นเทา เห็นได้ชัดว่าเขากลัวมาก ปกติเขาจะทำตัวสูงส่งเสมอ มีแต่เรื่องของสวีจือหรูเท่านั้นที่ทำให้เขากลัวและประหม่า“ถ้าไม่อยากให้เธอตาย ก็มาหาฉันเดี๋ยวนี้!” หนิงไห่เทาทิ้งคำพูดที่โหดเหี้ยมนั้นแล้ววางสายทันที แล้วส่งที่อยู่ตามไปเขามองสวีจือหรูด้วยสายตาดุร้าย “ก็เพราะคนชั่วอย่างแกนั้นแหละ นังเมียน้อยไร้ยางอาย ทำลายครอบครัวคนอื่น!” “ฉันไม่ใช่ ฉันไม่ได้ทำ ฉันคบกับอาเฉินมาก่อน” สวีจือหรูส่ายหน้ารัว ๆ ไม่ยอมรับสถานะเมียน้อยของตัวเอง แต่หนิงไห่เทาไม่ใช่ฟู่เฉิน เขาไม่รู้จักการทะนุถนอมผู้หญิง เขารู้แค่ว่าถ้าพวกเขาหย่ากันแล้ว หนิงหนานเสว่ก็จะไม่มีอะไรเลย และเขาก็จะยิ่งไม่ได้อะไรเลย เขาตบหน้าสวีจือหรูอย่างแรง “พวกเขาเป็นสามีภรรยากันอย่างถูกต้องตามกฎหมาย รักกับป้าแกสิ! นังสารเลว ฉันว่าแกมันสมควรโดน!” “แกกล้าตบฉัน! คอยดูนะ ฟู่เฉินไม่ปล่อยแกไว้แน่!” สวีจือหรูร
Read more
บทที่ 10
รอยยิ้มนั้นทำให้ฟู่เฉินรู้สึกไม่สบายใจอย่างประหลาด มักรู้สึกเหมือนมีบางสิ่งกำลังจะหลุดลอยไปจากมือของเขาจริง ๆ“อาเฉิน เธอตกลงที่จะหย่าแล้ว เธอเซ็นชื่อแล้วจริง ๆ”สวีจือหรูอ่านข้อตกลงการหย่าในมือ ก่อนจะพูดด้วยความประหลาดใจ ซึ่งเรียกสติฟู่เฉินกลับมาฟู่เฉินแปลกใจเล็กน้อย เดิมทีเขาคิดว่านี่เป็นเพียงกลอุบายของเธอเท่านั้น แต่ไม่คิดว่าเธอจะเซ็นชื่อแล้วจริง ๆ?เขารีบคว้าข้อตกลงการหย่ามาดู แต่กลับรู้สึกว่าลายเซ็นที่ตวัดเหมือนนกและมังกรเหินฟ้านั้น ช่างบาดตาเหลือเกินเธอยอมปล่อยมือไปง่าย ๆ อย่างนี้เลยเหรอ?“ฟู่เฉิน แกนี่มันเป็นคนใจร้ายที่สุดในโลกจริง ๆ”“รีบโอนเงินห้าสิบล้านมาให้ฉันเร็วที่สุด”หนิงไห่เทามองดูหญิงร้ายชายชั่วกอดกันแล้วรู้สึกขยะแขยงอย่างที่สุด เขาหัวเราะเยาะแล้วสาวเท้าเดินจากไปเห็นได้ชัดว่านี่คือผลลัพธ์ที่เขาตั้งตารอคอยมานาน แต่ไม่รู้ทำไม ฟู่เฉินกลับรู้สึกว่างเปล่าเล็กน้อย ในใจของเขากลับมีความโกรธที่ไม่สามารถอธิบายได้“ดีใจจังเลย อาเฉิน คุณเป็นอิสระแล้ว ในที่สุดคุณก็เป็นอิสระแล้ว ในที่สุดเราก็ได้อยู่ด้วยกันแล้ว” สวีจือหรูกอดฟู่เฉินพลางร้องด้วยความดีใจเธอดีใจจริง ๆ ดีใจ
Read more
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status