All Chapters of บ่าวหญิงของศิษย์รัก: Chapter 41 - Chapter 50

81 Chapters

บทที่ 41 : เขากำลังเติบโตทุกครั้งที่ต่อสู้

ท่ามกลางโถงใหญ่ของโรงเตี๊ยมไป๋อวิ๋น เสียงอาวุธเหล็กของอวี้ไป๋เฉินกับของผู้มาเยือนปะทะกันกึกก้อง ใต้แสงตะเกียงที่โยกไหวเพราะแรงลมปราณ เฉินอี้ยังยืนประจันหน้ากับ ไป่ลี่เหิน ขุนพลพรรคมารผู้ใช้มีดสั้นคู่ ชายหนุ่มร่างบางผิวซีดผ่องตรงหน้ามีท่วงท่าราวกับนักเต้นระบำ มือเรียวยาวทั้งสองถือมีดสั้นวาววับที่สะท้อนแสงสลัวในโถง ดูน่าสะพรึงกลัว แต่เฉินอี้ยังไม่ถอย แม้จะไม่มีอาวุธ แต่ฝ่าเท้าของเขาขยับอย่างแม่นยำตามที่ได้ฝึกมา เส้นทางย่างก้าวของเขาทุกก้าวเขาคือ “ปทุมยาตรา” ท่าที่เคยเห็นจากเสี่ยวซุ่ย แล้วได้รับรู้ชื่อของมันจากซูหรง ทั้งสองเคลื่อนไหวราวกำลังร่ายรำคู่กัน อีกคนรำมีดหมุนไปมาน่าหวาดเสียว อีกคนก้าวหมุนหลบหลีกไปเรื่อย จนมีดไม่อาจแตะต้องได้อยู่หลายกระบวน ถึงอย่างนั้นเฉินอี้ก็มีความเครียดจนเหงื่อตก ด้วยยังหาจุดอ่อนอีกฝ่ายเพื่อใช้ท่าเผด็จศึกยากมาก ฉัวะ! เสียงมีดบาดเนื้อดังขึ้นเมื่อเฉินอี้พลาดเพียงครึ่งจังหวะ ปลายมีดขวาของไป่ลี่เหินเฉือนผ่านต้นแขนขวาของเขา เลือด:ซึมออกมาจนย้อมแขนเสื้อเป็นสีเลือด “เจ้าหลบไม่พ้นไปตลอดหรอก” ไป่ลี่เหินหัวเราะเบา ๆ เสียงเย็นชาจนขนลุก ก่อนจะแทงมีดในมือซ้ายมาก่อน แต
last updateLast Updated : 2025-06-29
Read more

บทที่ 42 : เขายืนยันจะสู้ต่อไป

ในขณะที่เฉินอี้กำลังปะทะดุเดือดกลางลานนอกอาคารโรงเตี๊ยมไป๋อวิ๋น ไอหมอกพิษยังคละคลุ้งจากการต่อสู้ก่อนหน้า เมิ่งซุยยอดขุนพลพรรคมารผู้เชี่ยวชาญวิชาพิษ ยืนเยื้องตัวอยู่ฝั่งหนึ่ง ขวดน้ำเต้าข้างเอวสั่นไหวเบา ๆ ขณะที่เขาเคลื่อนไหวฝ่ามือช้า ๆ แล้วสูดลมหายใจเข้าลึก เมื่อเผชิญหน้ากับอู๋เป่ย ผู้ชำนาณการใช้ฝ่ามือคลื่นสวรรค์ระยะไกลควบคู่กับกระบี่“อย่าเข้ามาใกล้เลย... แต่ถ้ายังอยากเข้ามานัก ข้าจะให้เจ้าลิ้มรสความจริงแห่งลมปราณพิษ”เสียงพร่าหวานอย่างน่าสะอิดสะเอียนดังขึ้น ก่อนเมิ่งซุยจะพ่นหมอกพิษสีม่วงอมเขียวออกจากปาก ลอยลามไปในอากาศทว่าในชั่วขณะเดียวกันนั้นเอง แสงสีฟ้าครามที่ระเบิดออกจากฝ่ามือของของอู๋เป่ย คลื่นพลังลมปราณพุ่งออกไปข้างหน้า รุนแรงดั่งพายุซัด ฝ่าหมอกพิษให้กระจายตัวอย่างรวดเร็ว กลืนหายไปกับลมในพริบตา “เขาควบคุมลมปราณได้ถึงเพียงนี้เลยหรือ?” เมิ่งซุยเอ่ยพลางเบิกตากว้าง เมื่อพิษของตนเองโดนสลายไปในพริบตา พร้อมกับร่างของอู๋เป่ยที่พุ่งเข้ามาพร้อมกระบี่ในมือ!ทันใดนั้น โซ่เหล็กเส้นหนึ่งพุ่งเข้ามาพันรอบเอวเมิ่งซุย ดึงเขาขึ้นฟ้าในเสี้ยววินาที! เหวี่ยงเขาขึ้นไปอยู่บนต้นไม้ ขณะที่ร่างหนึ่งกระโ
last updateLast Updated : 2025-06-29
Read more

บทที่ 43 : เขาเกือบถูกฆ่าตายไปแล้ว

ระหว่างที่เฉินอี้ย่างเท้าเข้าใกล้ ฉีเฟิงที่สังเกตความเคลื่อนไหวของเขาเห็นจากหางตา ก็มองมาอย่างขบขัน เขาหมุนตัวหนึ่งที ผละออกจากอวี้ไป๋เฉิน ก่อนจะพุ่งพรวดมาพร้อมเสียงหัวเราะเยาะ “คิดจะมาสู้กับพวกข้างั้นเหรอ? บาดเจ็บและอ่อนแรงขนาดนั้นเนี่ยนะ” เสียงของเขาเยาะหยันอย่างจงใจ ก่อนจะพุ่งตัวเข้ามาชกด้วยหมัดขวา เฉินอี้พยายามก้าวหลบด้วยปทุมยาตรา แต่ร่างกายที่ช้ำหนักไม่ทันตอบสนองช้าไป หมัดแม้จะพลาดเป้าจากหน้าอก แต่ก็พุ่งกระแทกแขนท่อนบนของเขาแทน! “อั่ก!” เสียงร้องหลุดออกจากลำคอเฉินอี้ทันที ร่างของเขากระเด็นไปด้านข้าง ชนเข้ากับเสาค้ำภายในโรงเตี๊ยมอย่างจัง จนร่างทรุดลงกับพื้นในท่านั่ง “ไม่ต้องให้ข้าเตะก็ล้มเจ้าได้ด้วยซ้ำ... เจ้าก็แค่ลูกหมาที่เจ็บ เหนื่อยล้า จะตายอยู่รอมร่อ ยังกล้าเสนอหน้ามาสู้อีกงั้นรึ?” ฉีเฟิงหัวเราะ ย่ำเท้าเข้ามาใกล้อย่างไม่รีบร้อน พูดพลางหมุนขาเล่นเหมือนจะเตะซ้ำเพื่อให้จบ “ไม่!” เสียงกรีดร้องของเด็กสาวแหลมสูงดังแทรกขึ้นทันที เจ้าของเสียงก็คือเสี่ยวซุ่ยที่เฝ้ามองเขาอยู่จากในครัว ซึ่งทนไม่ไหวอีกต่อไปที่เห็นเฉินอี้กำลังพลาดท่า “อย่าแตะเขา!!” นางกรีดร้องสุดเสียง พลางวิ่งออกม
last updateLast Updated : 2025-06-29
Read more

บทที่ 44 : เขาจะเก่งขึ้นกว่านี้แน่ ๆ

แสงอรุณอ่อน ๆ ของรุ่งเช้าเล็ดลอดผ่านม่านของโรงเตี๊ยมไป๋อวิ๋น กลิ่นน้ำชาจาง ๆ ลอยอ้อยอิ่ง ผสมกับกลิ่นเลือดจาง ๆ ที่ยังไม่จางหายจากเมื่อคืน ภายในห้องโถงที่ตอนนี้ใช้เป็นที่พักรักษาและรวมพล จ้าวหยางยืนอยู่เบื้องหน้าแผนผังโรงเตี๊ยมที่วาดด้วยหมึก เขากล่าวสรุปเสียงขรึมให้ทุกคนที่มาชุมนุมกันรับทราบ “เมื่อคืน มีผู้ได้รับบาดเจ็บฝั่งเรารวมสิบแปดคน เป็นคนของสำนักเทียนเฟิงสิบเจ็ดคน คนของโรงเตี๊ยมหนึ่งคน ไม่มีใครตาย แต่บาดเจ็บหนักไม่ได้สติเจ็ดคน รวมไปถึงหัวหน้าหน่วยอู๋เป่ยด้วย” เขาบอกพลางหันไปทางอีกมุมซึ่งพวกศัตรูที่ยังไม่ได้สติที่ถูกมัดตรึงไว้ “เราจับพรรคมารได้สามคน เท่าที่ตรวจสอบจากตราประจำตัว พวกมันชื่อ ไป่ลี่เหิน เมิ่งซุย และเย่หรง ส่วนอีกสามหนีไปได้ พวกมันน่าจะกลับไปรายงานกับผู้บัญชาการใหญ่ของพรรคมารในอีกไม่ช้า พวกเราอาจต้องรับศึกหนักขึ้น” อวี้ไป๋เฉินพยักหน้าเบา ๆ นั่งนิ่งราวครุ่นคิดบางอย่างในใจเฉกเช่นทุกครั้ง สถานการณ์การปะทะเมื่อคืนจบลงแต่ความสงบยังไม่คืนมาเต็มที่ เขาหันไปสบตาเฉินอี้ที่แม้จะพันแผลทั่วแขน ยังพยายามนั่งตรงและฟังรายงานอยู่เช่นเคย จนกระทั่งรายงานจบลงไป แล้วทุกคนแยกย้ายกัน “
last updateLast Updated : 2025-06-29
Read more

บทที่ 45 : เขาเอาชีวิตตัวเองไปเสี่ยง

กลิ่นไม้ที่ถูกเผาไหม้โชยตลบไปทั่วหน้าโรงเตี๊ยม พร้อมกับเสียงเปลวไฟที่แตกดังเปรี๊ยะ ๆ ไม่หยุด ทำให้จ้าวหยางรู้สึกปราหลาดใจ เขารีบสั่งการให้คนในสังกัดไปดูที่มาของกลิ่นควัน ก่อนจะพบว่ามีธนูเพลิงปักอยู่ที่ผนังด้านหน้าของอาคารโรงเตี๊ยมนับสิบ และไกลออกไปที่ลานกว้าง อวี้ไป๋เฉินนอนนิ่ง โดยมีอวี้เซี่ยหงเอาเท้าเขี่ยร่างของเขาอย่างเหยียดหยันคนจากสำนักรีบวิ่งมารายงานภาพที่เห็นให้จ้าวหยาง เขาชะงักไปพริบตาหนึ่ง ก่อนตั้งสติรีบสั่งการทันที“ไฟไหม้! เราโดนธนูไฟโจมตี!” เขาตะโกนก้อง ลมปราณในร่างแผ่พุ่งออกมาหุ้มกาย เข้าสู่สภาพเตรียมปะทะทันที ก่อนจะสั่งการคนในสังกัด“หน่วยห้า พาคนบาดเจ็บที่ไม่ได้สติทั้งหมดไปที่ลานหลังโรงเตี๊ยม! หน่วยสี่รีบช่วยกันเอาน้ำออกไปดับไฟเร็ว! ข้าจะออกไปจัดการพวกที่โจมตีพวกเรา!”ดวงตาของจ้าวหยางลุกวาบด้วยโทสะ เขาคว้าพลองเหล็กคู่ใจ วิ่งออกไปหน้าโรงเตี๊ยมทันที“กล้าลอบโจมตีผู้ที่ข้าจะคุ้มกันงั้นรึ? ถึงเป็นน้องสาวก็ไม่มีข้ออ้าง!” จ้าวหยางพุ่งเข้าหาเซี่ยหงที่ยืนอยู่ไกลออกไป หวดไม้พลองเต็มข้อในแนวนอน หมายฟาดศีรษะของนาง ทว่าอวี้เซี่ยหงยิ้กลับยิ้มบาง ๆ ก่อนสะบัดแขน ปราณสีม่
last updateLast Updated : 2025-06-29
Read more

บทที่ 46 : เขาตื่นขึ้น

เปลวเพลิงที่ลามเลียผนังโรงเตี๊ยมค่อย ๆ ถูกควบคุมลงจนดับไปในที่สุด ผู้คนของสำนักคุ้มภัยเทียนเฟิงต่างหอบเหนื่อย หลังระดมสาดน้ำดับไฟจนสำเร็จ เหลือเพียงกลุ่มควันลอยเอื่อย ๆ และกลิ่นไหม้ที่ตลบอบอวลในอากาศ และเมื่อควบคุมเปลวเพลิงได้สำเร็จ พวกเขาจึงได้มีโอกาสหันไปมอง การปะทะกันที่ดุเดือดซึ่งเกิดขึ้นที่ลานกว้าง ห่างจากตัวอาคารออกไปไกลพอสมควรอวี้เซี่ยหงยืนนิ่งแผ่นหลังของนางมีแขนพลังปราณสีม่วงเข้มขนาดใหญ่ยักษ์สี่เส้นงอกออกมา ราวกับแขนปีศาจแหวกมิติออกมาจากโลกปีศาต แขนเทียมสองในสี่กำลัง รวบคออวี้ไป๋เฉินและจ้าวหยางที่ไม่ได้สติเอาไว้แน่น ทั้งคู่สิ้นสติไปแล้ว จึง ไม่อาจขัดขืนได้อีก และกำลังจะกลายเป็นเหยื่อของนางโดยสมบูรณ์ตรงนั้นเอง เฉินอี้ยืนหอบหายใจอยู่ไม่ไกล เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง เลือดไหลอาบข้างแก้ม ใจเขาเต้นแรงจนเจ็บหน้าอกจากการพยายามฝืนร่างกายก่อนหน้านี้เขาพยายามทุกทางแล้วที่จะหยุดนาง เมื่อครู่ตอนนางสะบัดแขนยักษ์ยาวแปดวามาโจมตี เขาก็ใช้กระบวนท่าฝ่ามือเคลื่อนปทุม ปัดเบี่ยงแรง หลบ และผลักใส่แขนเทียมยักษ์ข้างนั้นอย่างแม่นยำ แต่การผลักของเขาก็ทำให้แขนขยับไปเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ได้ส่งผลต่อร่างต้นแต่อ
last updateLast Updated : 2025-06-29
Read more

บทที่ 47 : เขาไล่ต้อนประมุขพรรคมาร?

อวี้เซี่ยหงยืนนิ่งอยู่ท่ามกลางกลุ่มควันจาง ๆ ที่ยังลอยล่อง มือเทียมพลังปราณสีม่วงเข้มขนาดใหญ่ที่ยังเหลืออยู่สี่เส้น วางสองผู้กล้าลง ดวงตาของนางเบิกกว้างด้วยความแปลกใจปนไม่เชื่อสายตา เมื่อเห็นร่างของเฉินอี้ที่ควรจะอ่อนล้าและสิ้นหวังในก่อนหน้า บัดนี้กลับยืนตรงด้วยแววตาเด็ดเดี่ยว พลังลมปราณแผ่พุ่งออกจากกายสีขาวนวลราวหมอกยามเช้า กล้ามเนื้อทุกส่วนกระชับราวกับฝึกมานาน แผ่นหลังตั้งตรง นิ่งเหมือนยอดเขาใหญ่ “กล้ามาก ที่เจ้าคิดว่าจะมาต่อกรกับข้าได้ด้วยตัวคนเดียว... เจ้าบ่าวกระจอก!” เสียงของนางเปล่งออกมา ก่อนที่แขนเทียมยาวแปดวาเส้นหนึ่งจะฟาดมาทางเขาด้วยพลังมหาศาล ทว่าเฉินอี้กลับก้าวเท้ากระชับตัว มือขวาหมุนวนปัดแรงพุ่งของแขนยักษ์ด้วยความแม่นยำ ส่งไปยังมือซ้ายที่แบรออยู่ จากนั้นมือซ้ายของเขาก็จับแน่นตรงข้อมือเทียมของแขนพลังปราณนั้น ตามด้วยมือขวาที่ตามมาประกบเหมือนพนมมือ แล้วพลันพุ่งลอดผ่านใต้แขนอย่างรวดเร็ว จากนั้นก้าวพร้อมกับก็หมุนสะโพก หมุนเอว บิดลำตัวทั้งร่างด้วยจังหวะที่แม่นยำราวสายน้ำหมุนวน! แขนเทียมที่เชื่อมต่อกับร่างต้นถูกบิดจนผิดรูป เขาหมุนต่ออีกรอบ สองรอบ สามรอบ ด้วยท่าเท้าปทุมยาตรา ข้
last updateLast Updated : 2025-06-30
Read more

บทที่ 48 : เขาอยากให้นางสำเร็จพิธีโดยดี

กลุ่มควันสีเทาเริ่มจางลงหลังการต่อสู้ที่รุนแรงสิ้นสุดลง เฉินอี้ยืนอยู่กลางลาน ไอพลังสีขาวรอบกายยังคงแผ่ซ่าน ดวงตาของเขายังคงจับจ้องร่างอวี้เซี่ยหงที่ลุกขึ้นมายืนขึ้นอีกครั้งพร้อมบอกว่านี่เป็นเพียงแค่หุ่นเชิดมนุษย์ทว่ามันไม่เหมือนท่ายืนของคนปกติ แขนห้อยข้างลำตัวอย่างไร้พลัง สายตาเลื่อนลอย สีหน้าไร้อารมณ์ ร่างกายเคลื่อนไหวอย่างกระตุก ราวกับไม่ใช่คนธรรมดาอีกต่อไป ทันใดนั้นเขาก็มองเห็นอะไรบางอย่างที่เพิ่งได้สังเกต เส้นใยสีม่วงอ่อนบางเฉียบที่มองแทบไม่เห็นผูกอยู่ทั่วร่างของนาง มันเรียวเล็กเท่าเส้นผมยากต่อการสังเกต เส้นใยเหล่านั้นหลายเส้นเชื่อมต่อกับสักที่ที่ไกลออกไป คอยส่งต่อกระแสพลังมายังร่างของนาง ทว่าตอนนี้มันขาดสะบั้นไปหลายเส้น เช่นที่แขนสองข้าง อาจเพราะการต่อสู้กับเขาเมื่อครู่ จึงทำให้การเคลื่อนไหวของร่างกายนี้ผิดปกติไปมาก“เหมือนเจ้าจะเห็นเส้นใยพลังปราณแล้วสินะ…” เจ้าของเสียงนั้นกล่าวขึ้นมา “ใช้แล้ว ร่างที่เจ้าสู้ด้วย เป็นเพียงหุ่นเชิดมนุษย์ เป็นสมุนในพรรคที่ที่แต่งตัวเหมือนข้า กับได้รับการถ่ายลมปราณบางส่วนจากตัวข้ามาให้ แล้วข้าก็คอยเฝ้าควบคุมระยะไกลเท่านั้น เจ้าล้มมันได้
last updateLast Updated : 2025-06-30
Read more

บทที่ 49 : เขาเป็นห่วงข้า

ยามบ่าย โรงเตี๊ยมไป๋อวิ๋นกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง หลังความโกลาหลวุ่นวายเมื่อยามสายสิ้นสุดลง ท้องฟ้าแจ่มใส ลมอ่อนพัดผ่านชายผ้าม่าน เสียงนกร้องจาง ๆ ลอยมากับแสงแดดอุ่นที่ลอดผ่านหน้าต่างไม้บานเล็กในห้องพักชั้นบนของอาคารหลัก หมอจากสำนักคุ้มภัยเทียนเฟิงที่มาด้วยกัน กำลังตรวจดูอาการบาดเจ็บของผู้บาดเจ็บจากเหตุการณ์เมื่อตอนสายอย่างละเอียดจ้าวหยางนอนอยู่บนเตียงไม้สาน ร่างของเขาถูกพันผ้าไว้หลายแห่ง ดามด้วยเฝือกไม้ โดยเฉพาะช่วงไหล่ และซี่โครง ที่โดนบีบขยี้ด้วยมือขนาดยักษ์“ซี่โครงด้านซ้ายร้าวห้าซี่ ขาวสองซี่ กระดูกไหล่ขวาเคลื่อน... ถ้าเป็นคนธรรมดาต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งเดือนในการพักรักษาตัว กว่าจะเริ่มเคลื่อนไหวได้อีกครั้ง” หมอวัยกลางคนพยายามอธิบายอาการบาดเจ็บให้เหล่าสำนักคุ้มภัยที่เหลือ รวมถึงเฉินอี้ได้ฟัง “โชคดีที่พลังภายในของเขาสูงมากกว่าคนทั่วไป ร่างกายจึงยังพอเยียวยาตัวเองได้... อาจใช้เวลาน้อยกว่านั้น แต่ไม่ใช่วันสองวันนี้”จากนั้นหมอก็พาทุกคนไปยังในอีกห้องหนึ่ง อวี้ไป๋เฉินเพิ่งรู้สึกตัวขึ้นหลังหมดสติไประยะใหญ่ ข้างกายเขาคือเสี่ยวผิงหลานชายพี่หลินที่มาดูแล เขาขยับตัวช้า ๆ ใช้มือยันร่างขึ้น
last updateLast Updated : 2025-07-02
Read more

บทที่ 50 : เขาขอบคุณข้า

ล่วงเข้าสู่ยามเย็น แสงแดดอ่อนคล้อยทาบลงบนแนวหลังคาโรงเตี๊ยมไป๋อวิ๋น เงาไม้ทอดยาวอยู่บนพื้นไม้เรียบ เสียงลมกระทบหน้าต่างเบา ๆ กล่อมให้บรรยากาศอบอุ่นขึ้นเล็กน้อยหลังความวุ่นวายในยามสายจางหายในห้องพักด้านใน ร่างของเสี่ยวซุ่ยนั่งพิงหมอนอิง ดวงตายังดูเหนื่อยล้าเล็กน้อยจากอาการที่เพิ่งฟื้น ทว่าริมฝีปากกลับคลี่ยิ้มบาง ๆ เมื่อบานประตูถูกเคาะเบา ๆ ก่อนที่เฉินอี้จะก้าวเข้ามาด้วยท่าทางระมัดระวัง เขามีผ้าห่มบางผืนหนึ่งพับอยู่ในมือ ใบหน้าแม้จะยังมีร่องรอยของความอ่อนล้า แต่แววตากลับเต็มไปด้วยความอบอุ่นและโล่งใจ“เจ้าไม่แล้วหรือ? ท่านหมอว่าเจ้าควรพักดูอาการอีกคืน” เขาเอ่ยเสียงเบา เสี่ยวซุ่ยหันมามองเขา สบตาเพียงครู่ ก่อนจะพยักหน้าน้อย ๆ“ข้านอนมานานพอแล้วเจ้าค่ะ” นางตอบเบา ๆเฉินอี้เดินเข้ามาใกล้ วางผ้าห่มไว้บนเก้าอี้ตัวข้างฟูก ก่อนจะนั่งลงบนพื้นข้างร่างนาง ใบหน้าของเขาดูจริงจังขึ้นเล็กน้อย“เสี่ยวซุ่ย… ข้ามีเรื่องต้องบอกเจ้า” เขาเริ่ม นางก็เลิกคิ้วน้อย ๆ“เจ้าจำไม่ได้ใช่ไหม ว่าตอนที่ข้าจะถูกสังหารในลานนั่น... อยู่ ๆ ก็มีแสงพลังสีฟ้าสว่างวาบออกจากฝ่ามือของเจ้า แล้วพลังในร่างของข้า… มันระเบิดขึ้น เหม
last updateLast Updated : 2025-07-02
Read more
PREV
1
...
34567
...
9
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status