Semua Bab อ่านใจทรราช สนมปลาเค็มถล่มวังหลัง: Bab 91 - Bab 100

249 Bab

บทที่ 91

รัตติกาลมืดมิดประดุจหมึก ลมหนาวโชยพัดดังหวีดหวิวความเหี้ยมเกรียมวาบผ่านดวงตาของชุนเถา นางผลักเจียงหวนไปด้านข้างอย่างแรง แล้วพลิกมือชักดาบโค้งออกจากเอว คมดาบเรืองแสงเย็นยะเยือกออกมาใต้แสงจันทร์“รนหาที่ตาย!”น้ำเสียงแหบพร่าที่ราวกับถูกขัดถูด้วยกระดาษทรายของนาง เผยจิตสังหารอันเข้มข้นออกมาแววตาของเงาหมายเลขสิบสามขรึมลง เขาใช้กระบี่สั้นขวางต้านไว้ เสียงบาดหูของโลหะกระทบกันก้องกังวานไปทั่วฟากฟ้ายามค่ำคืนในชั่วพริบตา ท่ามกลางเงาดาบและกระบี่ คนทั้งสองพลันโรมรันพันตูกันขึ้นมา หัวใจของเจียงหวนเต้นจนแทบกระดอนออกมาจากอกนี่เป็นโอกาสที่ดี นางต้องความไว้ให้ได้นางดิ้นรนขึ้นจากพื้น แล้ววิ่งออกไปหนี! ต้องหนีให้ได้!แต่เพิ่งวิ่งไปได้ไม่กี่ก้าว ด้านหลังก็มีเสียงร้องในลำคอดังมาไหล่ของเงาหมายเลขสิบสามถูกคมดาบกรีดผ่าน โลหิตสดสาดกระจายในเสี้ยววินาทีนั้นเจียงหวนก็ชะงักฝีเท้าลง ความรู้สึกผิดอันรุนแรงและความหวาดหวั่นหยุดยั้งนางไว้กับที่สัญชาตญาณทำให้นางอยากหันกลับไปช่วยคน แต่ในช่วงเวลาแห่งความเป็นตาย สมองพลันมีเหตุผลขึ้นมาอย่างน่าประหลาดหากนางหยุดลงก็มีแต่จะทำให้คนผู้นั้นบาดเจ็บโดยเปล่าปร
Baca selengkapnya

บทที่ 92

ปฏิบัติการในครั้งนี้ นางถูกฮั่วหลินจับได้คาหนังคาเขา ภารกิจได้ล้มเหลวไปแล้วครึ่งหนึ่ง บัดนี้ไม่อาจปล่อยให้เจียงหวนมีชีวิตรอดกลับไปได้อีกอย่างเด็ดขาด“หากตกลงจากหน้าผา เกรงว่าแม้แต่ซากศพที่สมบูรณ์ก็ไม่อาจรักษาไว้ได้ ไม่หลงเหลือแม้แต่กระดูก”นางหัวเราะอย่างขมึงทึง น้ำเสียงแหบแห้งและน่ากลัว“ช่างเถอะ เช่นนี้ก็นับว่าสามารถส่งภารกิจได้แล้ว!”เจียงหวนกัดริมฝีปากล่างแน่น รสหวานและคาวของเลือดแพร่กระจายไปทั่วริมฝีปากและฟันนางเตะขาทั้งคู่ลงบนพื้นหินดินทรายอย่างบ้าคลั่ง คิดจะชะลอความเร็วในการถูกลากไปที่หน้าผาแม้จะต้องตาย ก็ต้องพยายามให้สุดกำลังก่อนแล้วค่อยตาย!ไม่เช่นนั้นหากเอาแต่ขี้ขลาดหดหัว ต่อให้นางกลายเป็นผีแล้วก็คงรู้สึกไม่ยินยอมชุนเถาก็ได้รับบาดเจ็บ แล้วยังถูกความพยายามในการเอาชีวิตรอดของเจียงหวนทรมานอีกรอจนเข้าใกล้หน้าผา ขณะที่นางเงื้อมือเตรียมจะผลักเจียงหวนลงไปดันเอง ฮั่วหลินก็ได้มาถึงแล้ว เขาชักมีดสั้นออกมาซัดใส่ชุนเถาชุนเถาจึงได้แต่ถอยออกไปก้าวหนึ่งชั่วคราว“หาที่ตาย!”เสียงของฮั่วหลินดังกึกก้องดั่งอสนีบาตเมื่อชุนเถาหัน ก็เห็นฮั่วหลินที่กำลังควบม้ามา จิตสังหารในดวงตาพ
Baca selengkapnya

บทที่ 93

ฮั่วหลินมือข้างหนึ่งกุมกระบี่ยาว อีกข้างกอดเจียงหวน อาภรณ์ปลิวสยายส่งเสียงพรึ่บพรั่บเขาชูแขนขึ้นมา ออกแรงปักตัวกระบี่เข้าไปในผนังผาอย่างรุนแรง ประกายไฟพุ่งออกมาตลอดทางที่คนทั้งสองไถลลงไป“อย่ากลัว”เจียงหวนหลับตาทั้งสองข้างแน่น นางสัมผัสได้ถึงหัวใจที่เต้นอย่างเร็วแรงของฮั่วหลินผ่านทางแผ่นอก และวงแขนที่โอบรัดอยู่รอบเอวของนางแรงนั้นทรงพลังจนแทบจะหลอมนางเข้าไปในเลือดเนื้อและกระดูกแล้วทั้งที่ตอนนี้กำลังตกลงไปเบื้องล่าง และอาจเผชิญความตายที่ไม่อาจฟื้นคืนได้ทุกเมื่อ ทว่าหัวใจของนางกลับสงบลงอย่างประหลาดราวกับจะเป็นแค่ชั่วพริบตา และคล้ายกับจะเป็นเพียงเสี้ยววินาทีการตกกระแทกจนกระดูกป่นปี้ร่างกายแหลกสลายมิได้เกิดขึ้นฮั่วหลินอาศัยกำลังภายในอันแข็งแกร่งของตน ปรับท่วงท่ากลางอากาศโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า เขายืมกิ่งก้านสาขาของไม้ใหญ่ต้นหนึ่งที่ผ่อนแรงกระแทกไว้ระลอกหนึ่งร่างกายของเขาพลันสั่นสะท้านอย่างรุนแรง แต่ด้วยเหตุนี้ก็ได้เปลี่ยนทิศทางการร่วงหล่น คนทั้งสองตกลงไปในถ้ำแห่งหนึ่งที่ยื่นออกมาอย่างหนักแทนในเสี้ยววินาทีที่แผ่นหลังของเจียงหวนกระแทกเข้ากับก้อนหินแข็ง มือของฮั่วหลินก็รองรับเข้
Baca selengkapnya

บทที่ 94

แขนขวามีรอยน้ำเป็นปื้น เห็นได้ชัดว่าไหล่หลุดแล้วแผลดาบลึกถึงกระดูกที่แขนซ้ายยังคงมีเลือดไหลออกมา ที่หนักที่สุดคือแผ่นหลังแผลถลอกบริเวณกว้างปะปนไปด้วยเศษหินเล็กๆ เลือดเนื้อเหวอะหวะหากฮั่วหลินไม่มาช่วยนาง ก็ไม่ต้องบาดเจ็บเช่นนี้ยิ่งไปกว่านั้น เรื่องประเภทการกระโดดหน้าผานี้ หากไม่ทันระวังไปเพียงครั้งเดียว ชีวิตก็ไม่เหลือแล้ว!นางแค่ส่งของกินไปให้ฮ่องเต้นิดหน่อยเท่านั้น และยังเป็นการส่งเพื่อยศถาบรรดาศักดิ์ เพื่อทรัพย์สินเงินทองอีก คู่ควรกับการที่ฮ่องเต้จะมอบความจริงใจและปฏิบัติต่อนางเช่นนี้หรือ?เจียงหวนรู้สึกผิดยิ่งกว่าเดิม แม้แต่ปลายนิ้วก็กำลังสั่นเทา น้ำตาที่ไม่ง่ายเลยกว่าจะหยุดได้ก็หยดเผาะๆ ลงมาบนหลังมือของฮั่วหลินอีกครั้ง“ทรงเรียกพวกนี้ว่าเป็นแผลเล็กๆ หรือเพคะ?”หยดน้ำตานั่นร้อนลวกราวแท่งเหล็กเผาไฟ ที่เผาไหม้หัวใจของฮั่วหลินจนเจ็บปวดหัวคิ้วของฮั่วหลินตึงเครียด เขาปลอบนางอย่างลนลาน น้ำเสียงอ่อนโยนอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน“เป็นเราพูดผิดไปแล้ว เจ้าอย่าโกรธเราเลย”เจียงหวนเงยหน้าขึ้นมา ท่ามกลางหยาดน้ำตา นางมองเห็นใบหน้าของฮั่วหลินใบหน้าของเขายังคงหล่อเหลาเช่นเคย คิ้วดุจกระ
Baca selengkapnya

บทที่ 95

หลังจากนั้นครึ่งชั่วยามภายหลังที่เจียงหวนก็พันแผลให้ฮั่วหลินเสร็จ ภายในถ้ำตกอยู่ในภาวะเงียบสงัดไปครู่หนึ่งนางก้มศีรษะลงเก็บแถบผ้าที่เหลือ นิ้วมือยังสั่นสะท้านอยู่บ้างเล็กน้อยไม่รู้ว่าเป็นเพราะความประหม่ากังวลจากเมื่อครู่ หรือเป็นเพราะสายตาอันร้อนแรงของฮั่วหลินเอาแต่จับจ้องอยู่บนตัวนางตลอด หัวใจของนางจึงได้เต้นไม่เป็นจังหวะฮั่วหลินลองขยับไหล่ขวา แม้จะยังเจ็บตื้อๆ อยู่บาง แต่ข้อที่หลุดก็ได้รับการจัดกลับไปแล้ว รู้สึกดีกว่าก่อนหน้ามากนักเขาก้มหน้าลงมองผ้าพันแผลบนมือที่ถูกพันไว้อย่างเป็นระเบียบ มุมปากก็ยกขึ้นบางๆ อย่างไม่อาจสังเกต“หิวหรือยัง?” จู่ๆ ฮั่วหลินก็เอ่ยปากขึ้นมา น้ำเสียงทุ้มต่ำเจียงหวนตะลึงไป ยามนี้จึงได้ตระหนักว่า นับแต่ตกจากหน้าผามาถึงตอนนี้ พวกเขายังไม่ได้ดื่มน้ำสักหยดนางลูบท้องโดยไม่รู้ตัว ยังไม่ทันตอบ ก็ได้ยินเสียงความในใจของฮั่วหลิน[นางจะต้องหิวแล้วแน่ เราต้องไปหาของกินมาสักหน่อย]“ฝ่าบาทอย่าทรงขยับเพคะ!” เจียงหวนรีบกดตัวเขาไว้ “บนร่างของพระองค์ยังมีบาดแผลอยู่ ห้ามขยับโดยไม่จำเป็นนะเพคะ”[นางเป็นห่วงเรา!]“วางใจเถอะ ย่อมไม่อาจปล่อยให้หิวตายแทนเจ็บตายกระม
Baca selengkapnya

บทที่ 96

[โดยเฉพาะนาง…][ท่าทางที่นางย่างของ ช่างดูงดงามจริงๆ]เมื่อเจียงหวนได้ยินเช่นนั้นมือก็สั่น เกือบทำเนื้อกระต่ายตกลงไปในกองไฟเสียแล้วนางพยายามสงบสติอารมณ์ ปรารถนาจะแสร้งเป็นไม่ได้ยินความในใจของเขาทว่าพวงแก้มกับเป็นดั่งเจ้ากระต่ายที่ถูกย่างอยู่บนเปลวไฟตัวนั้น ร้อนจนแทบจะมีเลือดไหลหยดออกมา“เสร็จแล้วเพคะ”นางส่งเนื้อกระต่ายที่ย่างเสร็จแล้วให้ฮั่วหลิน พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน“ฝ่าบาทลองเสวยดูสิเพคะ?”กองไฟลุกไหม้ดังเปรี๊ยะเปรี๊ยะ ขณะที่ฮั่วหลินกำลังจะไปรับ เสียงระลอกหนึ่งก็ดังขึ้นมาอย่างกะทันหันจ๊อกจ๊อกคนทั้งสองต่างตะลึงไปพร้อมกัน“เราไม่หิว”ฮั่วหลินรีบปรับสีหน้า ใช้น้ำเสียงที่จริงจังที่สุด กล่าวคำพูดที่ร้อนตัวที่สุด[จบสิ้นแล้ว! ความน่าเกรงขามของฮ่องเต้อยู่ที่ใดกัน!]เจียงหวนอยากหัวเราะอยู่บ้าง แต่ก็อดกลั้นไว้ได้แล้วเพื่อรักษาหน้าให้ฮ่องเต้ นางฉีกน่องกระต่ายที่นุ่มที่สุดส่งให้เขา“เป็นหม่อมฉันหิวแล้วเพคะ ฝ่าบาททรงกินเป็นเพื่อนหม่อมฉันหน่อยได้หรือไม่เพคะ?”เจียงหวนพูดมาถึงขนาดนี้แล้ว ฮั่วหลินจะปฏิเสธได้อย่างไรยิ่งไปกว่านั้น เดิมเขาก็หิวแล้วจริงๆ“ได้”ฮั่วหลิน
Baca selengkapnya

บทที่ 97

วันรุ่งขึ้น ยามรุ่งสางในขณะที่แสงแห่งทิวายังคงอ่อนแรง นอกถ้ำก็มีเสียงตะโกนเรียกดังเข้ามา“ฝ่าบาท! พระสนม!”เจียงหวนตื่นขึ้นจากการหลับใหล พบว่าตนเอนพิงอยู่บนไหล่ของฮั่วหลินตั้งแต่เมื่อใดไม่รู้ไหล่กว้างของบุรุษช่วยป้องกันนางจากไอหนาวในยามเช้า ฝ่ามือของเขาวางอยู่บริเวณช่วงเอวของนางอย่างแผ่วเบา ทั้งไม่ทำให้นางรู้สึกว่าถูกล่วงเกิน และยังช่วยป้องกันการลื่นไถลของนางด้วยฮั่วหลินเห็นนางลืมตา ก็กล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำว่า“ตืนแล้วหรือ?”เจียงหวนรีบนั่งตัวตรงในทันที ปฏิกิริยาแรกคือการลูบมุมปากของตนดีมาก แห้งอยู่ ไม่ได้น้ำลายไหลก็เป็นในเวลานั้นเอง นางถึงได้พบว่า เสื้อคลุมของฮั่วหลินยังคงคลุมอยู่บนตัวนางและเขาสวมเพียงเสื้อตัวในบางๆ เท่านั้น ไม่รู้ว่านั่งอยู่กลางน้ำค้างยามเช้ามานานเพียงใดแล้วเจียงหวนรู้สึกอยากมุดรูหนีจริงๆเมื่อคืนนางก็ปล่อยให้คนเจ็บเฝ้ายามตลอดคืนเช่นนี้ แล้วตนเองกลับไปนอนหลับอุตุแล้ว?“ฝ่าบาท เหตุใดไม่ทรงปลุกหม่อมฉันเล่าเพคะ…” เจียงหวนที่ศีรษะก้มต่ำอย่างยิ่งบ่นพึมพำเบาๆฮั่วหลินขยับไหล่ที่แข็งเกร็งของเขาครู่หนึ่ง กวาดตามองเจียงหวนทีหนึ่ง มิได้กล่าวสิ่งใด[ยามนาง
Baca selengkapnya

บทที่ 98

[แต่หากครั้งหน้านางประสบกับเหตุการณ์เช่นนี้อีกครั้ง เราก็ยังคงกล้ากระโดด][ไม่ถูก ไม่อาจมีครั้งหน้าแล้ว เราต้องให้คนปกป้องนางให้ดี]เพราะภายในใจของเจียงหวนหวั่นไหวเบาๆ การส่ายศีรษะที่ฉากหน้าจึงช้าไปเล็กน้อย“หม่อมฉันสบายดีเพคะ”นางถูกปกป้องอย่างดียิ่ง ไม่ต้องลมหนาว ไม่บาดเจ็บแต่ฮั่วหลินยังคงไม่วางใจ ยืนกรานให้หมอหลวงตรวจเจียงหวนรอบหนึ่งด้วยเช่นกัน หลังมั่นใจว่าไม่เป็นอะไรจริงๆ จึงจากไปอย่างวางใจวุ่นวายไปรอบหนึ่ง ไม่ง่ายเลยกว่าจะสงบลงได้ ฮั่วหลินก็กลับไปนั่งอยู่ที่ห้องอักษรอีกแล้ว เขาไม่มีเวลาว่างเลยสักนิดระยะเวลาเพียงแค่คืนเดียว ฎีกาที่แต่ละพื้นที่ส่งมาก็กองสูงขึ้นมาฮั่วหลินเปิดอ่านทีละเล่ม ภายในมีเรื่องที่ต้องจัดการมากมายนักที่เจียงหวนถูกลอบสังหารหลายครั้ง หากพูดในเชิงลึกแล้ว ก็เพราะเกี่ยวพันพัวถึงสถานการณ์ทางการเมืองด้วยหลังนิ่งเงียบไปครู่หนึ่ง ฮั่วหลินก็กล่าวกับหวังเต๋อกุ้ยว่า “ประกาศราชโองการ อีกสองวันออกเดินทางกลับวัง”หวังเต๋อกุ้ยร้อนใจแล้ว “บาดแผลของฝ่าบาทยังไม่หายดี…”“ไม่เป็นไร ไปจัดการเถอะ”ฮั่วหลินเพียงยกมือขึ้นเบาๆ เพื่อหยุดความคิดที่จะโน้มน้าวเขาของหวังเ
Baca selengkapnya

บทที่ 99

แม้อาการบาดเจ็บของฮั่วหลินจะไม่นับว่าร้ายแรง แต่หวังเต๋อกุ้ยก็ทำราวกับกำลังรับมือข้าศึกใหญ่ในช่วงเวลาสองวันระหว่างรอเดินทาง เขาแทบจะดูแลฮั่วหลินไม่ต่างอะไรกับการบูชาตุ๊กตากระเบื้องเคลือบที่แตกสลายง่าย“ฝ่าบาท หมอหลวงบอกแล้วว่าอาการบาดเจ็บนี้ของพระองค์ต้องพักผ่อนให้ฟื้นตัว ไม่อาจทำงานหนักเกินไปพ่ะย่ะค่ะ”หวังเต๋อกุ้ยโน้มน้าวด้วยความอดทน ในมือถือถ้วยยาที่เพิ่งต้มเสร็จ“นี่เป็นโอสถสำรับขจัดเลือดคั่งและกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต ทรงดื่มตอนยังร้อนเถิดพ่ะย่ะค่ะ”ฮั่วหลินรับถ้วยยามาด้วยสีหน้าเย็นชา ดื่มหมดในรวดเดียว โดยคิ้วไม่แม้แต่จะขมวด[ขม][ขมนัก][ยานี่ยากทนทานกว่าบาดแผลของเราซะอีก]มุมปากของเจียงหวนโค้งขึ้นเล็กน้อยแม้จะรีบใช้ผ้าเช็ดหน้าปิดบังมุมปาก แต่กลับมิอาจอำพรางรอยยิ้มในดวงตาได้ก่อนหน้านี้เป็นผู้ใดหัวเราะเยาะว่านางเหมือนเด็กสามขวบกัน?หึหึ ตอนนี้ต้องรับผลกรรมแห่งการกระทำของตนแล้วใช่ไหมแต่ยาในยุคนี้ก็ขมจริงๆ เกี่ยวกับเรื่องนี้เจียงหวนที่มีประสบการณ์ตรงเข้าใจเรื่องนี้เป็นอย่างดีต่างเป็นผู้ที่ประสบชะตากรรมเดียวกัน นางก็จะช่วยสักครั้งแล้วกัน“ท่านหัวหน้าขันทีหวัง” เจีย
Baca selengkapnya

บทที่ 100

ในอดีตหากมีผู้ใดกล้าแตะต้องฮ่องเต้สักครั้ง นั่นล้วนต้องหัวขาดกันทั้งนั้น!“หวังเต๋อกุ้ย” ฮั่วหลินพลันเอ่ยปากขึ้นมาอย่างกะทันหัน“บ่าวอยู่นี่พ่ะย่ะค่ะ”“เจ้าถอยออกไปเถอะ”“…พ่ะย่ะค่ะ”หวังเต๋อกุ้ยถอยออกไปอย่างเงียบๆ ก่อนจากไปยังปิดประตูให้อย่างใส่ใจด้วยภายในห้องเหลือพวกเขาเพียงสองคนแล้ว เจียงหวนพลันรู้สึกประหม่าอยู่บ้างกล้ามเนื้อใต้นิ้วอุ่นร้อนและแน่นตึง แม้ถูกกางกั้นด้วยเนื้อผ้าก็ยังสามารถสัมผัสได้ถึงความเครียดเกร็งนั่น[เหตุใดนางจึงช้าลงแล้วเล่า?][เหนื่อยแล้วหรือไม่นะ?]ฮั่วหลินเอียงศีรษะไปเล็กน้อย “ถ้าเหนื่อยแล้วก็พักสักครู่เถอะ”เจียงหวนส่ายหัว “ไม่เหนื่อยเพคะ”กล่าวจบ ก็เพิ่มแรงที่มืออีกเล็กน้อย“อื้ม…” ฮั่วหลินไม่ทันตั้งตัว เสียงครางต่ำเสียงหนึ่งหลุดรอดออกมาจากลำคอของเขา[แรงขนาดนี้กำลังพอเหมาะเลย][เหตุใดนางจึงนวดเก่งเช่นนี้เล่า?]เจียงหวนเม้มปากแอบหัวเราะ จงใจออกแรงกดลงจุดชีพจรบางแห่ง“จี๊ด” ฮั่วหลินพลันเหยียดหลังตรงขึ้นทันที“เจ็บหรือไม่เพคะ?” เจียงหวนรีบคลายมือออกอย่างรวดเร็วฮั่วหลินส่ายหัว “ไม่เจ็บ”[สาแก่ใจยิ่งนัก][เอาอีก!]มุมปากของเจียงหวนยกขึ้นบ
Baca selengkapnya
Sebelumnya
1
...
89101112
...
25
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status