หนังออนไลน์พากย์ไทยเต็มเรื่อง

ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ
ท่านอ๋องอ่านใจกับชายาแพทย์ทะลุมิติ
พออ่านใจได้ ท่านอ๋องก็จู่โจมชายาแพทย์ทุกวัน ฉินเหย่สุดยอดผู้เชี่ยวชาญทั้งการแพทย์และพิษวิทยาแห่งศตวรรษที่ยี่สิบเอ็ด ทะลุมิติไปเป็นพระชายาเฉินที่ทั้งอัปลักษณ์และไม่เป็นที่โปรดปราน ความปรารถนาเดียวชั่วชีวิตของนางก็คือ หย่าขาด! ชายารองประจบสอพลอ นางคอยยื้อแย่งความโปรดปรานในทุกทาง แต่ในใจ 'ฉันสะอิดสะเอียนนายแทบตายแล้ว หย่ากับฉันไวๆ เถอะ!' อ๋องเฉินป่วย ต่อหน้านางรักษาเขา แต่ในใจ 'ฉันจะวางยาพิษให้ท่อนล่างนายหมดสภาพไปเลย!' อ๋องเฉินถูกใส่ร้าย ต่อหน้านางร้อนใจ แต่ในใจ 'ฮ่องเต้กรุณามีราชโองการตัดหัวตาบ้านี่ทีเถอะ!' ทางอ๋องเฉินที่ได้ยินความใจของนางทั้งหมดต้องเดือดดาลคลุ้มคลั่ง ทั้งผลักทั้งดันนางเข้าผ้าห่ม กัดฟันพูด “ชายาที่รัก ควรเข้านอนได้แล้ว!” ครึ่งปีต่อมา นางมองท้องป่องกลมๆ ของตน ร่ำไห้อย่างหมดคำพูดว่า “ขอสวรรค์เปิดตา ให้ตาบ้านี่หมดแรงตายทีเถอะ!”
9.9
1270 บท
เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ
เกิดใหม่ทั้งที ขอหนีจากผู้ชายเฮงซวยคนนี้เถอะ
[เกิดใหม่ + รักต้องห้าม + อายุห่างกัน + ตามง้อเมียอย่างหนัก] หลังจากผ่านคืนอันเร่าร้อนกับอาเล็กในนาม หลินจืออี้ต้องทนทุกข์ทรมานนานถึงแปดปี ในขณะที่เธอกอดโถเถ้ากระดูกของลูกสาวเพื่อฆ่าตัวตาย กงเฉินกลับกำลังจัดงานเลี้ยงวันเกิดที่ยิ่งใหญ่ให้กับลูกชายของรักแรก เมื่อลืมตาขึ้นอีกครั้ง เธอที่กลับมาเกิดใหม่อีกครั้ง ตัดสินใจแน่วแน่จะให้กงเฉินชดใช้ในสิ่งที่ทำลงไป! ชาติก่อน เธอเพียรพยายามอธิบาย แต่กงเฉินกลับหาว่าเธอจงใจวางยา ชาตินี้ เธอจึงขีดเส้นเว้นระยะห่างกับเขาอย่างชัดเจนต่อหน้าผู้คนซะเลย! ชาติก่อน รักแรกขโมยผลงานของเธอ กงเฉินกลับบอกว่าเป็นเพราะเธอขี้อิจฉา ชาตินี้ เธอก็เลยเหยียบรักแรกของเขาขึ้นไปรับรางวัลบนเวที! ชาติก่อน เธอถูกใส่ร้าย กงเฉินกลับลำเอียงปกป้องรักแรก ชาตินี้ เธอจึงเอาคืนด้วยตบหน้ารักแรก! กงเฉินมักจะคิดว่าหลินจืออี้จะรักเขาอย่างสุดซึ้งตลอดไป รอจนหลินจืออี้ใจเด็ดจากไปจริงๆ เขาถึงได้ตระหนกอย่างถึงที่สุด กงเฉินผู้หยิ่งผยองดึงเธอด้วยดวงตาแดงก่ำ "จืออี้ อย่าทิ้งฉันไป พาฉันไปด้วยได้ไหม?"
9.5
465 บท
ขย่มรักคุณหมอ (คุณหมอขาขายสเปิร์มให้ฉันที) NC-20
ขย่มรักคุณหมอ (คุณหมอขาขายสเปิร์มให้ฉันที) NC-20
“ตรง ๆ เลยนะคะ ฉันอยากได้สเปิร์มของคุณหมอ” “อะไรนะครับ!!” “ฉันมาขอซื้อสเปิร์มคุณหมอค่ะ คุณหมอจะขายราคาเท่าไหร่คะ”
10
52 บท
ขย้ำรักมาเฟีย
ขย้ำรักมาเฟีย
"ของที่เป็นของฉัน ใครหน้าไหนกล้าแตะ...มันตาย! เธอเองก็เหมือนกัน ถ้าระริกระรี้ลับหลังฉัน ระวังจะได้ตายคาเตียง!"
คะแนนไม่เพียงพอ
200 บท
ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท
ลิขิตฟ้าหมอชายากับรัชทายาท
แพทย์นิติเวชหญิงเยี่ยนเว่ยฉือที่กำลังตั้งครรภ์ลูกน้อยแสนล้ำค่าบังเอิญได้เดินทางข้ามเวลา มือซ้ายของนางถือมีดเพื่อเป็นกระบอกเสียงให้ผู้วายชนม์ มือขวาถือเข็มเพื่อรักษาคนที่ยังมีลมหายใจ ไม่ว่าเรื่องของคนเป็นหรือคนตายนางพร้อมลุยได้หมด! เยี่ยนเว่ยฉือ : ด้วยความสามารถของข้า จะมีชีวิตที่รุ่งโรจน์ในยุคโบราณไม่ได้เลยหรือ? ผู้ชายหรือ? ผู้ชายคืออะไร? พวกผู้ชายมีแต่จะส่งผลต่อความเร็วที่ข้าชักมีดก็เท่านั้น อ้อ ยกเว้นผู้ชายรูปงาม! ซ่างกวนซี องค์รัชทายาทแห่งราชวงศ์ต้าซางผู้หล่อเหลาเป็นอันดับหนึ่งในใต้หล้าถูกใส่ร้ายป้ายสี  เขามีทักษะศิลปะการต่อสู้ที่โดดเด่นยากจะหาใครเปรียบ ทั้งยังน่ากลัวและโหดเหี้ยมจนไร้คู่ต่อสู้ในสนามประลอง ตัวตน ตำแหน่ง ความมั่งคั่งและเกียรติยศศักดิ์ศรี ทุกสิ่งล้วนสลายหายไปจนเหลือเพียงความว่างเปล่าเนื่องจากต้องคดีที่ไม่ได้รับความเป็นธรรม ซ่างกวนซี : เจ้าต้องช่วยข้า เยี่ยนเว่ยฉือ : ขอเหตุผลหน่อยสิ ซ่างกวนซี : หากเจ้าอยากช่วยชีวิตคน ข้าก็จะเป็นคนป่วย! หากเจ้าอยากฆ่าคน ข้าก็จะมอบชีวิตให้! หากเจ้าอยากจะรักใคร ข้าก็ว่างอยู่! เยี่ยนเว่ยฉือ : กล้าพูดกับข้าเช่นนี้เชียว ช่างอาจหาญเสียจริง!
9.9
430 บท
HOT FRIEND เพื่อนกันมันส์(ดีย์)เกิน
HOT FRIEND เพื่อนกันมันส์(ดีย์)เกิน
“รู้สึกตอนไหนคือจบ” ความสัมพันธ์แบบเพื่อนสนิทที่เอากันแบบลับ ๆ แบบที่ ‘ห้ามใครรู้’
10
131 บท

ทฤษฎีแฟนฟิคเกี่ยวกับปิรามิดในซีรีส์ดังมักพูดถึงอะไร?

3 คำตอบ2025-10-11 15:17:53

ชอบคิดเล่นๆ ว่าปิรามิดในนิทานหรือซีรีส์ยิ่งใหญ่คือเครื่องหมายของชั้นความลับมากกว่าการออกแบบอาคารเพียงอย่างเดียว

ฉันมักจะมองปิรามิดเป็นสัญลักษณ์ของลำดับชั้นที่ซ่อนเร้น—ใครอยู่ฐาน ใครอยู่ยอด และใครที่ดึงเชือกอยู่ใต้พื้นดิน ทฤษฎีแฟนฟิคที่ผมชอบเห็นมักจะพูดถึงความหมายสองชั้น: ด้านเทคนิค/พลวัตของพลัง และด้านจิตวิทยาของตัวละคร ตัวอย่างเช่น ในบางแฟนฟิคที่เอาแรงบันดาลใจจาก 'Stargate' มาขยาย บทวิเคราะห์มักตั้งคำถามว่าปิรามิดไม่ใช่แค่ประตูมิติ แต่เป็นสัญลักษณ์ของอำนาจโบราณที่ยังคอยชี้นำการเมืองระหว่างดาว ส่วนแฟนฟิคแนวแฟนตาซีที่ได้แรงบันดาลใจจาก 'Assassin's Creed' มักโฟกัสที่ปิรามิดเป็นจุดรวมของความทรงจำและมรดก ถูกใช้เป็นที่ซ่อนของความจริงที่สามารถพลิกสถานะของคนในสังคมได้

เมื่อเขียนเอง ฉันชอบให้ปิรามิดทำงานสองบทบาทพร้อมกัน—เป็นกับดักและเป็นแผนที่ ให้ทั้งความลึกลับและแรงผลักดัน เรื่องราวที่น่าจดจำมักผูกปิรามิดเข้ากับเรื่องส่วนตัวของตัวละคร เช่น บาดแผลในอดีตหรือคำสาบจากบรรพบุรุษ แล้วค่อยๆ เผยทีละชั้นจนผู้อ่านรู้สึกเหมือนปีนขึ้นไปพร้อมกับตัวละคร นั่นแหละคือความสนุกของแฟนฟิคที่เกี่ยวกับปิรามิด: มันทำให้โลกกว้างขึ้นและความสัมพันธ์ของตัวละครมีมิติขึ้นโดยไม่ต้องเปลี่ยนเนื้อเรื่องหลักไปมากนัก

นักเขียนหรือทีมงานคนไหนร่วมงานกับ เหม เวชกร บ้าง?

3 คำตอบ2025-10-04 16:45:20

ย้อนไปในห้วงเวลาที่หนังสือพิมพ์และนิตยสารพิมพ์เรื่องสั้นเป็นของหายาก แค่เห็นปกที่มีภาพวาดของ เหม เวชกร ก็เหมือนได้ยินเสียงเปิดหน้ากระดาษแล้วหัวใจเต้น ฉันเคยติดตามผลงานภาพประกอบของเขาในหนังสือชุดเล็กๆ ที่รวมเรื่องผีและนิทานพื้นบ้านหลายเล่ม—งานประเภทนี้เกิดจากความร่วมมือระหว่างเขากับบรรณาธิการ ผู้เขียนนวนิยายสั้น และโรงพิมพ์ท้องถิ่นมากกว่าจะเป็นโปรเจ็กต์เดี่ยว

บรรณาธิการมักเป็นคนติดต่อให้นักเขียนส่งเรื่องสั้นเข้ามา แล้วจึงมอบหมายให้ เหม เวชกร วาดภาพปกและภาพประกอบภายใน ฉันเห็นเครดิตในหนังสือเก่าบ่อยๆ ว่าเป็นการทำงานร่วมกันกับทีมเรียงพิมพ์และช่างพิมพ์ซึ่งเป็นสิ่งที่มักถูกมองข้าม แต่สำคัญมาก เช่นเดียวกับนักเขียนนิยายสั้นที่เขาวาดให้—บางคนอาจไม่มีชื่อเสียงล้นฟ้าในวันนี้แต่เป็นคนเขียนเรื่องสยองขวัญที่ขายดีในยุคนั้น

การร่วมงานในแวดวงนี้ไม่ได้จำกัดแค่ภาพกับตัวอักษรเท่านั้น ยังรวมถึงการร่วมมือกับนักวางหน้า ประชาสัมพันธ์ และคนจัดจำหน่ายด้วย เพราะภาพปกของ เหม มักเป็นจุดขายหลัก ฉันชอบคิดว่าเขาเป็นศูนย์กลางของเครือข่ายสร้างสรรค์เล็กๆ ที่ช่วยให้เรื่องเล็กๆ บนกระดาษลุกขึ้นมามีชีวิต — และแม้วันนี้ชื่อของนักเขียนบางคนจะเลือนราง แต่ผลงานภาพของเขายังคงทำหน้าที่เชื่อมโยงอดีตและปัจจุบันไว้อย่างแน่นแฟ้น

ซุน วู กับทฤษฎีสงครามสมัยใหม่ต่างกันอย่างไรบ้าง?

4 คำตอบ2025-10-07 01:36:29

บ่อยครั้งที่ฉันเห็นคนเอา 'ศิลปะการสงคราม' ของซุน วูมาเปรียบกับแนวคิดสงครามสมัยใหม่แบบตรงๆ แล้วเกิดความสงสัยว่าทั้งสองต่างกันแค่ภาษาเท่านั้นจริงไหม ฉันมองว่าพื้นฐานของซุน วู คือการเน้นยุทธศาสตร์เชิงจิตวิทยา การใช้การหลอกล่อ และการชิงความได้เปรียบโดยไม่จำเป็นต้องต่อสู้ให้สิ้นเปลือง เขาพูดถึงการชนะโดยไม่ต้องรบ การรู้สถานการณ์และใช้ความยืดหยุ่นเป็นหลัก ซึ่งยังให้ข้อคิดที่คมกริบสำหรับผู้บัญชาการในทุกยุค

แต่เมื่อมองจากกรอบสงครามสมัยใหม่ ความเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีและโครงสร้างการเมืองทำให้ทฤษฎีต้องขยายออกไปมาก ระบบข่าวกรองแบบเรียลไทม์ อาวุธความแม่นยำสูง การปฏิบัติการร่วมแบบเต็มรูปแบบ (land-sea-air-cyber-space) และกฎระเบียบระหว่างประเทศสร้างบริบทใหม่ที่ซุน วูไม่ได้คาดคิดไว้ การปฏิบัติการเชิงเศรษฐกิจ การคว่ำบาตร และการรณรงค์ข้อมูลสารสนเทศมีบทบาทสำคัญจนกลายเป็นสนามรบด้านอื่น ๆ นอกเหนือจากสนามรบดั้งเดิม

สรุปง่าย ๆ คือหลักการของซุน วูยังมีคุณค่าในความเป็นสากล เช่น การประเมินอำนาจ ความสำคัญของข่าวกรอง และการใช้เล่ห์กล แต่สงครามสมัยใหม่มีเครื่องมือและระดับผลกระทบที่ซับซ้อนกว่า ต้องคำนึงถึงมิติเทคโนโลยี กฎหมายระหว่างประเทศ และผลกระทบทางสังคมที่ยาวนานขึ้น นั่นทำให้แนวคิดทั้งสองทั้งตัดกันและเติมเต็มกันได้ในกรอบที่แตกต่างกัน

คำถามยอดนิยม
สำรวจและอ่านนวนิยายดีๆ ได้ฟรี
เข้าถึงนวนิยายดีๆ จำนวนมากได้ฟรีบนแอป GoodNovel ดาวน์โหลดหนังสือที่คุณชอบและอ่านได้ทุกที่ทุกเวลา
อ่านหนังสือฟรีบนแอป
สแกนรหัสเพื่ออ่านบนแอป
DMCA.com Protection Status