ในความทรงจำที่โตมากับการ์ตูนชุดนี้ ผมมองว่าเวอร์ชันภาพยนตร์ที่ได้รับคำวิจารณ์ดีที่สุดจากมวลชนและนักวิจารณ์ร่วมสมัยคงต้องยกให้ '
stand by me Doraemon' (2014) แม้ชื่อนั้นจะไม่ได้มีคำว่า 'โนบิตะ' นำหน้า แต่ใจกลางเรื่องยังคงเป็นมิตรภาพระหว่างโนบิตะกับโดราเอมอนซึ่งทำให้หนังเข้าถึงคนทุกวัยได้อย่างลึกซึ้ง
การเล่าเรื่องในรูปแบบ 3D CGI ทำให้ความทรงจำเดิมๆ ถูกยกขึ้นมาใหม่ด้วยเท็กซ์เจอร์และจังหวะภาพที่อบอุ่นมากขึ้น ผมรู้สึกว่าฉากที่สะกดใจคนดูคือช่วงที่หนังเปิดพื้นที่ให้ตัวละครเงียบและปล่อยให้ความเศร้าแทรกซึม—โนบิตะในหลายฉากมีมิติทางอารมณ์มากกว่าภาพยนตร์ชุดดั้งเดิม และนั่นเป็นเหตุผลใหญ่ที่นักวิจารณ์ชื่นชมการผสมผสานระหว่างความเรียบง่ายของต้นฉบับกับการนำเสนอที่ร่วมสมัย
สุดท้ายผมคิดว่าสมรรถนะด้านเพลงประกอบ การกำกับฉากอารมณ์ และการให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ระหว่างตัวละครเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้หนังเรื่องนี้โดดเด่น มันไม่เพียงแค่เรียกน้ำตาแฟนรุ่นเก่า แต่ยังทำให้คนรุ่นใหม่เข้าใจว่าทำไมโนบิตะถึงมีความหมายมากกว่าตัวละครการ์ตูนทั่วไป