นักศึกษาควรอ้างอิงงานของ จิตร ภูมิศักดิ์ อย่างไร?

สรุปรายการสั้นๆ ที่ฉันมักเช็คลิสต์ก่อนส่งงาน: แรกสุดตรวจให้แน่ใจว่าใช้รูปแบบการอ้างอิงเดียวกันทั้งบทความ, ถัดมาใส่ชื่อผู้แต่ง ปี ชื่อเรื่องในเครื่องหมายคำพูดเดี่ยว และข้อมูลสำนักพิมพ์รวมเลขหน้าเมื่อจำเป็น.

ถ้าอ้างจากบทความในหนังสือรวมหรือวารสาร ให้ระบุชื่อบทความ ชื่อหนังสือหรือวารสาร ปี พิมพ์ และหน้าอย่างครบถ้วน. อีกข้อที่ไม่ควรลืมคือการระบุผู้แปลหรือบรรณาธิการเมื่อย่อหน้าไม่ได้มาจากงานต้นฉบับโดยตรง. ฉันมักใส่หมายเหตุสั้นๆ เมื่อต้นฉบับเป็นเอกสารหายากหรือมาจากคลังเอกสาร เพื่อให้ผู้อ่านทราบแหล่งที่มาชัดเจนและสามารถตามต้นฉบับได้หากต้องการ

เวลาเขียนงานวิชาการที่อ้างถึงผลงานของนักคิดรุ่นเก่า ผมมักเริ่มจากการตั้งรูปแบบการอ้างอิงให้ชัดเจนตั้งแต่แรกเสมอ แล้วค่อยปรับรายละเอียดตามข้อกำหนดของอาจารย์หรือวารสารที่ส่งเข้าไป

สิ่งที่ฉันทำเป็นขั้นตอนคือระบุชื่อผู้แต่งให้ครบ (นาม-สกุล), ปีพิมพ์ (หรือปีพ.ศ.), ชื่อเรื่องของงานที่ใส่ในเครื่องหมายคำพูดเดี่ยว เช่น 'ชื่อเรื่อง', ชื่อบรรณาธิการหรือผู้แปลถ้ามี, ฉบับที่พิมพ์, สำนักพิมพ์ และเลขหน้าเมื่ออ้างถึงตอนหรือบทเฉพาะ ยกตัวอย่างรูปแบบบรรณานุกรมแบบทั่วไปจะเป็น: จิตร ภูมิศักดิ์. (ปี). 'ชื่อเรื่อง'. สำนักพิมพ์, หน้า. สำหรับการอ้างในเนื้อความ ใช้รูปแบบย่ออย่าง (จิตร ภูมิศักดิ์, ปี: หน้า) เพื่อให้ผู้อ่านตามได้ง่าย

เมื่อเจอฉบับพิมพ์ซ้ำหรือฉบับรวมงานที่ตีพิมพ์ใหม่ ควรระบุทั้งปีของฉบับที่คุณใช้อ้างและปีฉบับดั้งเดิมถ้าทราบ ส่วนงานแปลให้ระบุผู้แปลในวงเล็บตามชื่อเรื่อง วิธีนี้ช่วยเคารพต้นฉบับและทำให้ผู้อ่านตรวจย้อนกลับได้สะดวก สิ้นสุดด้วยความรู้สึกว่าการอ้างอิงที่ชัดเจนไม่เพียงแต่เป็นมารยาทเชิงวิชาการ แต่ยังเป็นการสร้างเส้นทางให้คนรุ่นหลังตามงานของนักคิดเหล่านั้นต่อได้สะดวกด้วย

วิธีง่ายๆ ที่ฉันใช้คือทำให้การอ้างอิงใช้งานได้จริง เมื่อจะอ้าง 'ผลงานของจิตร ภูมิศักดิ์' ในบทความหรือรายงาน ให้แยกระหว่างการอ้างในเนื้อหาและบรรณานุกรม ถ้าจะอ้างสั้นๆ ในบรรทัด ให้เขียนแบบนี้: (จิตร ภูมิศักดิ์, ปี: หน้า). ในบรรณานุกรมให้ขยายรายละเอียดเป็น: จิตร ภูมิศักดิ์. (ปี). 'ชื่อเรื่อง'. สำนักพิมพ์. หน้า.

ในกรณีที่อ้างจากบทความในวารสาร ให้ใส่ชื่อบทความ, ชื่อวารสาร, ปีที่, ฉบับ, และหน้า เช่น: จิตร ภูมิศักดิ์. (ปี). 'ชื่บบทความ'. ชื่อวารสาร, ปี(ฉบับ): หน้า. ฉันมักเก็บข้อมูลเหล่านี้ไว้ในไฟล์บรรณานุกรมหรือโปรแกรมอ้างอิง เพื่อไม่ให้สับสนเวลาส่งงาน อีกเรื่องที่ไม่ควรละเลยคือใส่หมายเหตุว่าต้นฉบับมาจากฉบับพิมพ์หรือต้นฉบับดิจิทัล เพราะบางครั้งหน้าเลขหรือการจัดย่อหน้าจะแตกต่างกัน ข้อสุดท้ายคืออย่าลืมใส่ชื่อผู้แปลถ้าใช้ฉบับแปล เพราะงานแปลมีความหมายเชิงตีความที่แตกต่างได้

การอ้างอิงงานของบุคคลที่มีบทบาททางการเมืองและประวัติศาสตร์อย่างจิตร ภูมิศักดิ์ ต้องคำนึงถึงบริบทและแหล่งที่มาด้วย ความละเอียดในการระบุฉบับที่ใช้งานสำคัญมากสำหรับผม เพราะบางข้อความอาจมาจากบทความในหนังสือพิมพ์ บทบรรณาธิการ หรืองานที่ตีพิมพ์ซ้ำหลังการตายของผู้เขียน

เมื่อต้องอ้างจากเอกสารต้นฉบับหรือจดหมาย โครงร่างที่ฉันใช้จะแตกต่างออกไปเล็กน้อย เช่น ระบุที่เก็บ (หอจดหมายเหตุ/คลังเอกสาร), หมายเลขแฟ้ม, วันที่เอกสาร และคำอธิบายสั้นๆ เพื่อให้ผู้อ่านรู้ว่าข้อมูลมาจากแหล่งต้นฉบับจริง ตัวอย่างการอ้างจดหมายอาจเป็น: จิตร ภูมิศักดิ์, จดหมายถึง X, วันที่ (วัน/เดือน/ปี), คลังเอกสาร Y, หมายเลขแฟ้ม Z. นอกจากนี้ การอ้างจากงานที่มีผู้รวบรวมหรือบรรณาธิการ ต้องระบุชื่อบรรณาธิการและหน้าเฉพาะที่อ้าง ฉันเห็นว่าการทำแบบนี้ช่วยให้ข้อโต้แย้งมีน้ำหนักขึ้นและผู้อ่านตรวจสอบย้อนกลับได้ง่าย