โลกของ 'นิยาย
รักยม' ดึงฉันเข้าไปด้วยกลิ่นอายชวนหลงใหลของความรักที่ท้าทายกฎของความตายและโครงสร้างของ
โลกหลังความตายในความเข้าใจของฉัน พล็อตหลักเล่าถึงหญิงสาวชื่อมินตราที่ประสบอุบัติเหตุจนหลุดเข้าไปยังโลกของยมราช ที่ซึ่งจิตวิญญาณถูกจัดเก็บและประเมินชะตา ก่อนที่เธอจะถูกตัดสิน มินตรากลับได้พบกับยมชายคนหนึ่ง—ยมินทร์—ผู้ทำหน้าที่ดูแลบัญชีกรรมและเส้นทางการ
เกิดใหม่ของวิญญาณ เรื่องราวไม่ใช่แค่ความรักข้ามโลก แต่มันคือการต่อรองระหว่างหน้าที่กับความปรารถนา ทั้งสองเริ่มจากการแลกเปลี่ยนคำพูดเล็กๆ น้อยๆ กลายเป็นความใกล้ชิดที่ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงโครงสร้างของสำนักยม ท่ามกลางความงดงามของพิธีกรรม โศกนาฏกรรมในอดีต และการเมืองภายในโลกหลังความตาย
ตัวละครหลักที่โดดเด่นมีมินตรา—คนนิสัยอบอุ่นแต่ซ่อนบาดแผลจากชีวิตเก่า เธออยากกลับไปแก้ไขความสัมพันธ์กับ
น้องสาว 'ปอ' และรับผิดชอบต่อความรู้สึกที่ค้างคา ยมินทร์เป็นยมราชที่อ่อนโยนแต่ยึดมั่นในกฎ เขามีความเป็นมนุษย์มากกว่าที่ใครคาดคิด ทำให้การตัดสินใจของเขาซับซ้อน ผู้ช่วยของยม เช่นชายแก่ชื่อ 'ลุงทอง' ที่พาเธอผ่านพิธีกรรมและให้มุมมองตลกร้ายต่อหน้าที่ ทั้งหมดนี้ถูกเติมความเข้มข้นด้วยตัวละครรองอย่างธารา—อดีตคนรักที่ยังจับจ้องชะตากรรมของมินตรา และเจ้าหน้าที่ฝ่ายบันทึกกรรมที่แย้งบทบาทของยมินทร์
สิ่งที่ทำให้ฉันหลงรักงานชิ้นนี้คือการผสมผสานระหว่างความเศร้า ความอ่อนโยน และการตั้งคำถามเชิงปรัชญาเกี่ยวกับการให้อภัยและการเลือกชีวิต ฉากที่เขียนถึงพิธีส่งวิญญาณหรือการโต้ตอบของยมกับมนุษย์ชวนให้นึกถึงงานภาพยนตร์ที่ใช้สัญลักษณ์หนักๆ อย่าง 'Spirited Away' แต่ 'นิยายรักยม' มีวิธีเล่าเป็นของตัวเอง—เรียบง่าย บาดลึก และไม่หวานจนเลี่ยน สรุปแล้ว ถาชื่นชอบเรื่องราวที่ผสมระหว่างแฟนตาซีกับดราม่าคนสัมพันธ์ เรื่องนี้น่าจะทำให้หัวใจสั่นได้อย่างแท้จริง