มุมมองของผมคือ ภาค 3 ของ 'Sword Art Online' หรือที่แฟนๆ รู้จักกันในชื่อ 'Alicization' ให้ความสำคัญกับตัวละครหลายตัว แต่โฟกัสหลักนั้นไม่ใช่แค่คนเดียวเหมือนภาคแรก — มันกระจายความสนใจไปรอบตัวละครสำคัญสามคนที่ทำหน้าที่ต่างกันอย่างชัดเจน: Kirito, Eugeo และ
alice ซึ่งแต่ละคนเป็นจุดศูนย์กลางของธีมที่แตกต่างกันในเรื่องเดียวกัน
ส่วนตัวผมมองว่า Eugeo ถูกยกให้มีบทบาทเป็นแก่นอารมณ์ของภาคนี้มากกว่าที่เคยเห็นในซีรีส์ก่อนหน้า ความเติบโตจากเด็กหนุ่มธรรมดาไปสู่การเป็นคนที่ต้องแบกรับชะตากรรม พาให้ผู้ชมได้เห็นกระบวนการเรียนรู้ การเสียสละ และความสัมพันธ์ที่แท้จริงกับ Kirito เรื่องราวของเขาใช้เวลาเล่าอย่างละเอียด ทำให้เหตุผลที่เขาทำสิ่งต่างๆ มีน้ำหนักและทำให้ฉากสำคัญ ๆ อิมแพ็คกว่าที่คาดไว้ การย้ำเรื่องความทรงจำ ความผูกพัน และคำสาบานของสองเพื่อนนี้ทำให้ฉากสำคัญ ๆ ในภาคนี้เจ็บปวดและงดงามในเวลาเดียวกัน
อีกประเด็นที่ชัดเจนคือบทบาทของ Alice ซึ่งถูกนำเสนอทั้งในฐานะอดีตเพื่อนและในฐานะ Integrity Knight — สถานะที่ทำให้เธอกลายเป็นตัวแทนของความขัดแย้งระหว่างหน้าที่และความเป็นมนุษย์ การที่เรื่องหยุดนิ่งเพื่อสำรวจตัวตนของ Alice ทำให้เราเห็นมิติของเธอมากกว่าแค่ตัวละครต่อสู้ในแนวแฟนตาซี เพราะประเด็นเกี่ยวกับความจำ ความถูกต้องของระบบ และการตัดสินใจที่มาจากหัวใจ ถูกถ่ายทอดผ่านการเปลี่ยนแปลงของเธออย่างชัดเจน บทของ Alice จึงกลายเป็นแกนกลางอีกแกนหนึ่งที่ชักชวนให้ผู้ชมตั้งคำถามกับนิยามของคำว่า 'ชีวิต' และสิทธิ์ของสิ่งมีชีวิตออนไลน์
Kirito ยังคงเป็นจุดศูนย์กลางเชิงพล็อต แม้หลายตอนจะหมุนไปรอบเพื่อนใหม่และโลกใต้ดิน แต่เรื่องราวหลายเส้นก็เกี่ยวข้องกับการพยายามช่วยเหลือหรือกลับสู่สภาพเดิมของเขา ช่วงครึ่งหลังของภาคนี้ที่เป็น 'War of Underworld' ก็ขยับโฟกัสกลับมาที่การร่วมมือของตัวละครชุดใหญ่ ทั้ง Asuna, Sinon และกลุ่มนักสู้ในโลกจริงที่เข้ามามีบทบาทมากขึ้น ทำให้ภาคสามกลายเป็นการผสมผสานระหว่างเรื่องราวเชิงปัจเจกและสงครามระดับมหภาค
ท้ายที่สุด นี่เป็นภาคที่ประสบความสำเร็จในการขยายจักรวาลด้วยประเด็นเชิงปรัชญาและความสัมพันธ์ระหว่างตัวละคร ผมชอบที่มันไม่ยึดติดกับ Kirito เพียงคนเดียว แต่กล้าจะเดินเรื่องให้ Eugeo และ Alice ได้เป็นศูนย์กลางทางอารมณ์ เหมือนอ่านนิยายที่มีหลายจุดโฟกัส แต่ทุกจุดเชื่อมโยงกันด้วยธีมเดียวกัน — มันทำให้เรื่องมีมิติและสะเทือนใจมากกว่าที่คิด