เวลาที่ต้องไปงานโรงเรียนของลูกในญี่ปุ่น สไตล์ที่เห็นบ่อยสุดคือความเรียบง่าย แต่จัดเต็มเรื่องความเรียบร้อยและความคิดถึงมารยาทมากกว่าการโชว์แฟชั่นจ๋า ฉันมักสังเกตว่าคุณ
แม่ญี่ปุ่นเลือกเสื้อผ้าที่ไม่หวือหวา โทนสีสุภาพ เช่น เบจ ครีม เทา น้ำเงินเข้ม หรือดำ เพื่อไม่ให้ดึงความสนใจจากพิธีหรือเด็กๆ ดีไซน์มักเน้นคัตติ้งเรียบร้อย เอวไม่รัดแน่น กระโปรงไม่สั้นจนเกินไป และเสื้อไม่เว้าลึกเกินความเหมาะสม ทำให้ภาพรวมดูสงบและให้ความเป็นผู้ใหญ่ที่อ่อนโยน การแต่งหน้ามักเบาๆ ธรรมชาติ ทรงผมรวบหรือปล่อยแบบเรียบร้อย เล็บสั้นและทาสีแนวอ่อนๆ เท่านั้น
ในงานพิธีสำคัญอย่างพิธีเข้าศึกษาหรือพิธีรับปริญญา คุณแม่ญี่ปุ่นมักเลือกชุดสูทสีเข้ม หรือเดรสทรงคลาสสิกกับสูทเบลเซอร์ บางคนเลือกใส่กิโมโนในกรณีพิเศษซึ่งให้ความรู้สึกเป็นทางการและงดงาม แต่ไม่ได้เป็นเรื่องที่พบเห็นทุกคน รองเท้าจะเป็นส้นเตี้ยหรือรองเท้าสุภาพที่เดินไหวตลอดพิธี ส่วนงานกีฬาหรือวันกิจกรรมนอกโรงเรียน สไตล์จะผ่อนคลายขึ้น เสื้อโปโลหรือเสื้อสวมกับกางเกงยีนส์หรือสแลคล์ที่กระฉับกระเฉง รองเท้ากีฬาและหมวกกันแดดเป็นของจำเป็น เพราะต้องวิ่งตามลูกหรือช่วยในกิจกรรม บางโรงเรียนยังมีคำแนะนำสีเสื้อหรือเครื่องหมายเพื่อความเป็นระเบียบ คุณแม่ที่เข้าร่วมกิจกรรมบ่อยจะเตรียมรองเท้าสำรองและผ้าขนหนูเล็กๆ เสมอ
พอถึงฤดูกาลต่างๆ การแต่งตัวก็ปรับตามสภาพอากาศ ในหน้าร้อนผู้หญิงญี่ปุ่นจะเลือกผ้าลินินหรือผ้าคอตตอนเนื้อบางระบายอากาศได้ดี และมักหลีกเลี่ยงโทนสีเข้มมากเกินไปเพื่อไม่ให้ร้อนจัด ในฤดูฝน ร่มคุณภาพดีรองเท้ากันลื่นหรือรองเท้าบูทสั้นมีความสำคัญ ส่วนหน้าหนาวจะเลเยอร์ด้วยโค้ทเรียบๆ ที่ถอดออกง่ายเพราะต้องเข้าไปในห้องเรียนและโถงอาจอุ่นอยู่แล้ว สิ่งเล็กๆ อย่างกระเป๋าทรงขนาดกลางที่ใส่ของจำเป็นได้ครบและสามารถคาดไหล่ได้สะดวก เป็นไอเท็มที่ถูกใช้บ่อย เพราะต้องอุ้มของทั้งของเด็กและเอกสารของโรงเรียน
ท้ายสุด เรื่องสำคัญที่ฉันยึดเป็นหลักคือความเป็นมารยาทและความสะดวกสบายมากกว่าการตามแฟชั่นฮอตชั่วคราว การแต่งตัวให้เรียบร้อย ใส่รองเท้าที่เดินไหว และเลือกสีและลายที่ไม่เด่นเกินไป จะทำให้รู้สึกมั่นใจและพร้อมสำหรับทั้งพิธีการและกิจกรรมสนามหลังบ้าน ทั้งยังสะท้อนถึงการให้เกียรติคนรอบข้างด้วย ซึ่งสำหรับฉันแล้วนั่นคือหัวใจของการแต่งตัวไปงานโรงเรียนที่ทำให้วันนั้นราบรื่นและน่าจดจำ