[หมอเทวดา + หญิงสาวยอดฝีมือ + ฟินจิกหมอน + ข้ามเวลามายังยุคนี้] จั๋วซือหราน เป็นปรมาจารย์ที่เชี่ยวชาญในด้านการแพทย์และศิลปะการต่อสู้ เมื่อคนเช่นเธอเดินทางข้ามเวลา เธอจะกลายเป็นผู้ที่ฝ่าฝืนลิขิตของสวรรค์ เธอมักมีการกระทำปรำจำ เช่น ด่อยชายและหญิงที่นอกใจ โจมตีพวกญาติ ๆ ที่ร้ายกาจ นางนั้นยังต้องการร่ำสุราอันร้อนแรงที่สุดและเสาะหาชายผู้ที่มีพละกำลังอันมหาศาล ชายหนุ่มได้ขมวดคิ้วและจูบนางอย่างแรง “ทำไม หากข้ามิได้เป็นผู้ที่แข็งแกร่งสุดในใต้หล้านี้ ข้าก็จะไม่สามารถแต่งงานกับเจ้านนั้นหรือ”
Voir plusถ้าถูกจับเข้าห้องขัง พวกเขาไม่ใช่ยังต้องคิดหาวิธีแหกคุกออกมาอีกถึงจะหลบเข้าไปใช้ชีวิตอย่างสงบในซื่อหนานได้รึไงกัน?จากนั้น พวกเขาก็ได้ยินจั๋วซือหรานหัวเราะขึ้นมา ไม่รู้เพราะอะไร ตอนที่พวกเขาได้ยินเสียงนี้ ในใจก็รู้สึกตึกตักขึ้นมาอย่างประหลาด...น่าจะเพราะ...เป็นลางสังหรณ์ที่ไม่ค่อยดีกระมัง?สรุปคือ หลังจากเสียงหัวเราะเบาๆ ของนาง พวกเขาก็ได้ยินจั๋วซือหรานเอ่ยขึ้นว่า "โอ้ พวกเขาน่ะ..."สายตานางหรี่ลง แววตาเจ้าเล่ห์ชั่วร้ายแล่นวาบในดวงตาพญาหงส์ของนาง"พวกเขาเป็นคนที่คิดจะมาปล้นขบวนรถข้าที่ด้านนอกเมืองลั่วหม่าน่ะ"พอคำนี้ออกไป เหล่าโจรต่อให้เดาได้ถึงความเป็นไปได้นี่ แต่ก็ยังรู้สึกตกตะลึงอยู่และเหล่าทหารเองก็ตกตะลึงด้วยเช่นกัน ร้อนรนขึ้นมาทันที"มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ? กำเริบเสิบสานเสียจริง!"ในดวงตาของหัวหน้าทหารมีความโกรธอยู่ตรงหน้าคนนี้คือว่าที่โหวหลวนหนานนะ ทั่วทั้งหลวนหนานล้วนเป็นพื้นที่ศักดินาของนาง ยิ่งไปกว่านั้นได้ยินว่านางไม่ใช่หญิงสาวที่อ่อนแออะไรเลยอีกด้วยชื่อเสียงของคนผู้นี้ลือไปทั่วเมืองหลวงแล้ว เป็นตัวตนที่ค่อนข้างร้ายกาจเลยทีเดียว...ในอนาคตจะต้องมีเรื่องที่ต้อ
จั๋วซือหรานส่งป้ายผ่านด่านให้กับทหารทหารประตูเมืองหยิบป้ายผ่านด่านของนาง ขึ้นมามองไปมองมาอย่างละเอียดจากนั้นก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้นอย่างไม่อยากเชื่อจั๋วซือหรานรู้สึกว่าปกติดี แม้ว่านางจะถูกอวยยศเป็นโหวแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นยังถูกแต่งตั้งพื้นที่ศักดินาเป็นหลวนหนานด้วยแต่การสื่อสารที่ยังไม่พัฒนานัก ทำเลที่ตั้งของเมืองลั่วหม่าเองก็ค่อนข้างห่างไกลอีกด้วยต่อให้แม่ทัพทีประจำการอยู่ในเมืองลั่วหม่าจะรู้ข่าวแล้ว แต่ก็อาจจะไม่ได้แจ้งลงมาขุนพลกับทหารด้านล่างยังไม่รู้ ก็ดูเป็นเรื่องปกติดังนั้นทหารจึงเห็นว่านางเป็นหญิงสาวคนหนึ่ง ที่หยิบเอา 'ป้ายตราปลอม' ที่มีตราประทับโหวออกมาหลอกลวงฉับพลัน สีหน้าก็ปั้นยากขึ้นมาทันทีหัวเราะเย็นชาขึ้นเสียงหนึ่ง "เจ้านี่บังอาจนักนะ! เจ้าคิดจะล้อเล่นกับเมืองลั่วหม่ารึ? ตาสีตาสาที่ไหนแค่ถือป้ายผ่านทางมั่วๆ มา ก็คิดว่าจะเนียนเข้าไปในเมืองลั่วหม่าได้รึไงกัน?"จั๋วซือหรานครุ่นคิดสาเหตุปัญหาอยู่ครู่หนึ่ง ก็รู้สึกว่าน่าจะเพราะเนื้อหาในป้ายผ่านทางไม่ตรงกับข่าวที่พวกเขารู้มากระมังจะทำอะไรได้ล่ะ ป้ายผ่านทางสมัยนี้ก็ไม่มีเครื่องหมายป้องกันการปลอมแปลงอย่างพวกตราเลเซอ
พอได้ยินคำของจั๋วซือหราน เฟิงเหยียนก็ขมวดคิ้วจากนั้นก็ถามปันอวิ๋นขึ้นคำหนึ่ง "เป็นแบบนี้หรือ?""แปลกใหม่ดีใช่ไหมล่ะ?" ปันอวิ๋นเหมือนยิ้มเหมือนไม่ยิ้มเอ่ยขึ้นเฟิงเหยียนแม้จะค่อนข้างไม่พอใจกับเรื่องนี้ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรแค่รอการตัดสินใจของจั๋วซือหรานเขารู้สึกว่า ไม่ว่านางจะตัดสินใจยังไง เขาก็จะไม่มีความเห็นทั้งนั้นเนื่องจากนางนั้นเฉลียวฉลาดมาแต่ไหนแต่ไร ความคิดของนางมักจะมั่นคงและมีเหตุผลแต่จั๋วซือหรานก็หัวเราะถามขึ้นมาว่า "ท่านอ๋องน้อยมีความคิดอะไรไหม?"ท่านอ๋องน้อยคิดในใจว่าข้าจะมีความคิดอะไรได้ ข้าอยู่กับไก่แล้วก็ต้องตามใจไก่ไปสิ...เขาชะงักไปครู่แล้วเอ่ยขึ้นว่า "ฟังเจ้านั่นล่ะ"ปันอวิ๋นหัวเราะอยู่ข้างๆ น่าจะเพราะชอบและพอใจที่ได้เห็นท่าทางเชื่อฟังและทำตามของเฟิงเหยียนแบบนี้หลังจากจั๋วซือหรานได้ยินคำนี้ ก็ยกมุมปากขึ้นยิ้ม "ถ้างั้น...พวกเราก็คิดหาวิธีเนียนเข้าไปในเมืองซื่อหนานก่อนค่อยว่ากันแล้วกัน?"สำหรับเรื่องนี้ เฟิงเหยียนกับปันอวิ๋นไม่มีความเห็นใดอย่าว่าแต่เนียนเข้าไปในเมืองซื่อหนานเลย ต่อให้จะเนียนเข้าไปในสภาผู้อาวุโส ถ้าพวกเขาคิดหาวิธี ก็น่าจะพอทำได้อยู่ปันอ
จั๋วซือหรานเองก็ไม่มีอะไรต้องไต่สวนพวกเขาอีกแล้ว จึงเอียงหน้าไปทางแมงมุมของนางโจรพวกนั้นก็ขนลุกชูชันขึ้นทันที!เพราะครั้งที่แล้วตอนนางเอียงหน้าไปทางแมงมุมแมงมุมตัวนั้นก็เฉือนเนื้อของคนคนนั้นออกมา!อารมณ์หวาดกลัวของพวกเขา ก็เริ่มแผ่ซ่านขึ้นมาในใจอีกครั้งแต่คิดไม่ถึงว่า แมงมุมยักษ์ตัวนั้นจะไม่ได้กรีดเนื้อหนังพวกเขาเพียงแค่ขยับตัวนิดหน่อย ก็พ่นใยออกมาอีกสองสามก้อนทำให้พวกเขาอยู่ในสภาพถูกห่อเหมือนดักแด้อีกครั้ง ขยับตัวไม่ได้ ปากก็พูดไม่ได้...เหลือแค่จมูกที่ยังหายใจกับดวงตาที่ยังมองวัตถุเห็นคนที่ถูกกรีดจนกรีดร้องไม่หยุดก่อนหน้าคนนั้น ตอนนี้เองก็เงียบเสียงไปแล้วด้วยตอนแรกเขายังอัดอั้นหน้าดำหน้าแดงอยู่ แต่เขาก็ค่อยๆ สงบลงมาแล้วเพราะหลังจากที่ใยแมงมุมของแมงมุมตัวนี้พันเข้ามา...บาดแผลก็เหมือนจะไม่ค่อยเจ็บแล้ว...?จั๋วซือหรานขี้เกียจจะสนใจพวกเขาเดินตามปันอวิ๋นขึ้นมาด้านหน้าปันอวิ๋นยังจุ๊ปาก เอียงตามองโจรพวกนั้น เบ้ปากเอ่ยขึ้นว่า "เจ้านี่ก็เมตตาเกินไป"ใยของแมงมุมหน้าผีมีฤทธิ์ทำให้ชาอยู่สินะ ยังไม่ทันได้สั่งสอนพวกเขาจนหนำใจเลยนี่? ดันหยุดความเจ็บปวดให้พวกเขาเสียแล้ว?แล
จั๋วซือหรานอันที่จริงไม่รู้นางก็แค่อนุมานตามทิศทางมาเท่านั้นจากนั้นก็แค่พูดออกมาส่งๆ กระทั่งพูดได้ว่าแค่พูดลองเชิงเท่านั้นด้วยซ้ำใครจะรู้ว่าคนพวกนี้จะจับไต๋ได้ง่ายขนาดนี้ สีหน้าท่าทางแจ่มแจ้งอย่างกับเขียนด้วยหมึกดำบนกระดาษขาวเลยจั๋วซือหรานเลิกคิ้ว "ดูท่าข้าจะพูดถูกสินะ?"สีหน้าพวกโจร ถึงกับดูละอายใจและคับแค้นขึ้นมาจั๋วซือหรานก็พยักหน้าอย่างเข้าใจ ราวกับว่า...ไม่ต้องการให้พวกเขาตอบคำถามนี้ แต่ก็ได้คำตอบมาแล้วจากนั้น กลุ่มโจรก็ได้ยินเสียงของนางดังขึ้นอีก ยังคงเฉยเมยสงบราบเรียบถามขึ้นว่า "ใบรับรองความภักดีให้กับใครล่ะ?"น่าจะเพราะความคับแค้นใจของเหล่าโจรก่อนหน้านี้...รวมถึงสีหน้าที่ถูกทำให้ตกใจเหล่านั้น ความอ่อนปวกเปียกพวกนั้นตอนนี้กลับมีแรงฮึดขึ้นมาอีกครั้ง!ดังนั้นพวกเขาจึงไม่พูดอะไร ไม่ตอบคำถามนี้ของจั๋วซือหรานพวกเขาคิดในใจ ในเมื่อเจ้าเก่งขนาดนี้ เจ้าก็เดาเอาเองสิ เมื่อกี้ไม่ใช่เดาเก่งนักรึไง? ตอนนี้ก็เดาต่อไปสิ จะมาถามพวกข้าทำไมกัน?พวกเขาไม่พูดอะไรเลยเหลียนเจินที่อยู่ข้างๆ ก็ขมวดคิ้ว ไม่พอใจอย่างมากต่อท่าทีของพวกเขาที่มีให้คุณหนูมือของเขาทาบอยู่บนด้ามดาบแล้ว
นางกระทั่งยกมุมปากขึ้นบางๆ "ข้าเชื่อว่า พวกเจ้าคงจะไม่ทำเรื่องโง่ๆ แล้วกระมัง?"จั๋วซือหรานเข้าใจเช่นนี้มาตลอด สิ่งที่ทำให้คนหวาดกลัวได้มากที่สุด 'เสียงโหยหวนของเพื่อน' นี่ล่ะที่ติดอันดับต้นๆและก็เป็นไปตามคาด ภายใต้สถาพที่มีเสียงโหยหวนของโจรคนนั้นโจรคนอื่นก็ดูว่าง่ายลงมาพอสมควรพอได้ยินคำพูดจั๋วซือหราน ก็รีบร้อนพยักหน้าหงึกหงักเหมือนคอแทบจะหลุดลงมาเลยทีเดียวดังนั้นจั๋วซือหรานจึงถามคำถามเมื่อครู่นี้ขึ้นอีกครั้ง "พวกเจ้ามาจากไหนกัน...""ซื่อหนาน! พวกเรามาจากเมืองซื่อหนาน!" โจรคนหนึ่งกระทั่งไม่รอให้จั๋วซือหรานพูดจบ ก็รีบร้อนพูดออกมาทันทีจั๋วซือหรานพยักหน้า "คนของเมืองซื่อหนานนั้นวุ่นวายมาก ข้าเองก็เคยได้ยินมา เพียงแต่ว่า..."นางหรี่ตาลง "คนของซื่อหนาน ต้องมาปล้นกันถึงแถวเมืองลั่วหม่าเลยหรือ? ดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเลย เมืองลั่วหม่าเป็นเมืองสำคัญนะ..."ควาหมายคือ การรักษาความปลอดภัยกับการป้องกันน่าจะค่อยข้างดีกว่ามาออกปล้นแถวนี้ ไม่กลัวจะถูกกองทหารของเมืองลั่วหม่าจัดการเอาหรือ?แต่โจรเหล่านี้ถูกนางทำเอากลัวไปหมดแล้ว ชั่วขณะหนึ่งยังฟังความหมายของนางไม่ออก รู้สึกแค่ว่านางไม่ค่อ
Commentaires