เดนนิสพูดด้วยรอยยิ้ม“พรุ่งนี้งานเริ่มกี่โมง? ฉันอาจจะแวะไปและมันคงจะดีถ้ามีแอลกอฮอล์ให้ดื่ม!”เฟนด์พูดหลังจากที่เขาคิดเกี่ยวกับมัน“พิธีเปิดเริ่มตอนเที่ยง แต่ทุกคนน่าจะมาถึงเร็วกว่านั้น มาสักตอนประมาณสิบเอ็ดโมง!”เดนนิสจิบกาแฟที่อยู่ตรงหน้าเขา“อืมม ฉันจำได้ว่าราชาแห่งสงครามแม็กนัส ซัทเธอร์แลนด์น่าจะเป็นลูกศิษย์ของอีธาน!”เฟนด์พยักหน้า ทั้งสองคุยกันสักพักก่อนจะจากไปพวกเขาเพิ่งจะเดินออกมาจากร้านกาแฟ จู่ ๆ คุณทันย่าก็โทรมา“มีอะไรหรือเปล่าคุณทันย่า?”เฟนด์ถามทันทีหลังจากที่รับสาย“ตอนนี้คุณว่างไหม? นี่มันเพิ่งจะบ่ายเองอย่าบอกนะว่าคุณเลิกงานแล้ว? อีวอนน์กับฉันกำลังจะออกไปช้อปปิ้งแต่เราไม่อยากพาบอดี้การ์ดไปหลายคน! ดังนั้น...”น้ำเสียงของทันย่าบ่งบอกว่าเธอกำลังพยายามอธิบาย“ฮ่า ๆ ไม่มีปัญหา!”เฟนด์หัวเราะคิกคักไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เขาเป็นเพียงบอดี้การ์ดของตระกูลเดรค แต่ทันย่าก็ยังใช้น้ำเสียงสุภาพเรียบร้อยเพื่อคุยกับเขา มีความเป็นไปได้สูงว่าถ้าเขาบอกคนอื่นเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็คงจะไม่มีใครเชื่อไม่นานเฟนด์ก็มาถึงหน้าประตูบ้านของตระกูลเดรค“ขึ้นรถเลย ครั้งนี้ฉันจะขับ
ทันย่าที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี เฟนด์คิดอะไรอยู่? เขาเป็นเพียงแค่บอดี้การ์ดยังมาเดินข้าง ๆ พวกเธอแถมเขายังเดินอยู่ระหว่างพวกเธอด้วย ไม่แปลกที่ทุกคนจะเข้าใจผิดตอนนี้เธอสงสัยว่าจริง ๆ แล้วเฟนด์คงไม่ได้ตั้งใจจริงหรือเปล่าหลังจากที่อีวอนน์ตะโกนเสร็จ เธอก็ส่ายหัวและกลอกตาไปที่เฟนด์ “ทำไมนายถึงเดินอยู่ระหว่างพวกเราฮะ? นายควรเดินอยู่ข้างหลังเรา นายไม่รู้เหรอ?”เฟนด์แสยะยิ้มเยาะเย้ย “ผมแค่กลัวจะถูกกล่าวหาว่ามองก้นของคุณถ้าผมเดินข้างหลัง อีกอย่างกระโปรงของคุณสั้นไปหน่อยนะวันนี้ มันคงจะไม่ดีถ้าผมเดินตามหลัง!”ใบหน้าของอีวอนน์แดงขึ้นทันทีเธอโกรธมากจนกัดฟันแน่น เธอรู้สึกเหมือนมีแรงกระตุ้นบางอย่างที่อธิบายไม่ถูก อยากจะพุ่งเข้าไปบีบคอหมอนี่ให้ตายไปซะจริง ๆ“เกิดอะไรขึ้น? เธอเป็นคนบอกให้ฉันโทรหาเขาและพาเขามาซื้อของกับเราไม่ใช่เหรออีวอนน์? ตอนนี้เธอเสียใจแล้วเหรอ?”ทันย่าหัวเราะเยาะจากที่ยืนอยู่ข้าง ๆ “เธอกลัวอะไร? เธอไม่ต้องกลัวถ้าเธอไม่ได้ทำอะไรผิด”หลังจากที่เธอพูดจบทันย่าก็ควงแขนเฟนด์ “เราไม่ต้องกลัวที่จะถูกเข้าใจผิด” เธอพูด “ยังไงก็เถอะ ถ้าหากภรรยาของใครบางคนเห็นสิ
อีวอนน์พยักหน้า เป็นความจริงที่ตระกูลเดรคเป็นตระกูลที่ทรงอิทธิพลที่สุดในอาณาเขตกลาง แม้แต่สี่ตระกูลที่ทรงอิทธิพลของที่นี่ก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของตระกูลเดรคและยังไม่กล้ารุกรานพวกเขาเลย เธอจะต้องกลัวอะไร?เว้นเสียแต่ว่าเขาจะมาจากตระกูลที่มีอำนาจมากที่สุดในเมืองโลนยังไงเสียเมืองโลนก็ใหญ่กว่าอาณาเขตกลางสองสามเท่า แน่นอนว่าพวกเขามีอำนาจมากกว่า ชนชั้นสูงที่นั่นและแข็งแกร่งกว่าชนชั้นสูงของอาณาเขตกลาง ที่นั่นพวกเขามีพลังที่น่ากลัว มีเพียงความแข็งแกร่งระดับนี้เท่านั้นที่สามารถทำให้ตระกูลเดรคหวาดกลัวได้“จุ๊...จุ๊ อย่ามาโกหกต่อหน้าฉัน คุณสามารถจ้างบอดี้การ์ดได้แค่เพียงคนเดียว เฮ้ คิดว่าคุณจะทำให้ฉันกลัวได้เหรอ?”ฟลินน์หัวเราะคิกคัก “ตระกูลของฉันเป็นตระกูลชนชั้นสองจากเมืองโลน” เขาพูด “คุณคิดว่าไง? เริ่มกลัวแล้วใช่ไหม?”“ไม่น่าเชื่อ ชนชั้นสองเหรอ? ฉันกลัวมาก!”ทันย่าแกล้งทำเป็นกลัวเมื่อได้ยินอย่างนั้น“โอ้พระเจ้า ชนชั้นสอง พวกเราตายแน่พวกเราตายแน่เลย!”อีวอนน์ก็เล่นไปกับเธอด้วย“ฮ่า! ดีจริงที่คุณกลัว!”ฟลินน์คิดว่าพวกเขากลัวจริง ๆ จากนั้นก็ระเบิดหัวเราะ “ในเมื่อพวกคุณกลัวมาก จงมาเป็นผู้ห
เฟนด์ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดีเมื่อได้ยินแบบนั้น “จากที่ฉันเห็น แกก็หน้าตาดีและดูโดดเด่นมากกว่าคนอื่นนะ” เขาพูด “ทำไมแกไม่ลองมาช่วยฉันขัดรองเท้าดูล่ะ?”“ไอ้เวรเอ๊ย!“จับมัน!”ฟลินน์คำรามด้วยความโกรธขณะที่เขาโบกมือสั่ง เขาเป็นที่รู้จักและน่ายกย่องในหมู่ผู้คน แต่ชายคนนี้กลับปฏิเสธที่จะรับข้อเสนอของเขา มันเป็นสิ่งที่เขาคาดไม่ถึง“บอดี้การ์ดเหล่านี้ดูเหมือนจะมีฝีมือดีกว่าที่ฉันเจอเมื่อครั้งก่อน แต่คนพวกนี้ก็ยังเป็นแค่สวะในสายตาของฉันอยู่ดี!”ริมฝีปากของเฟนด์ปรากฏรอยยิ้มน่าขนลุก เขาเริ่มเคลื่อนไหวโดยก้าวไปข้างหน้าสองก้าวและกำหมัดแน่นปั๊ก! ปั๊ก! ปั๊ก!บอดี้การ์ดที่วิ่งเข้าไปก่อนคนอื่นถูกต่อยที่ใบหน้า ก่อนที่เขาจะได้โต้ตอบพวกเขาก็กระเด็นไปข้างหลังและกระอักเลือดจากฟันหน้าที่หัก“อ๊าก!”ชายคนหนึ่งที่น่าจะอายุสามสิบกว่า ๆ แต่เขากลับมีหมัดที่รวดเร็วและเทคนิคของเขานั้นยอดเยี่ยมมากเฟนด์สังเกตเขา ทักษะการต่อสู้ของชายคนนี้น่าจะดีกว่าผู้ช่วยผู้บัญชาการหลายคนในกองทัพนิดหน่อยอย่างไรก็ตามในสายตาของเฟนด์เขาก็ไม่ได้เป็นภัยคุกคามอะไรกับเขาเลย เขากำหมัดและชกไปข้างหน้าหมัดของเขาปะทะกับชายอ
“มาสู้กับฉันสิ! เป็นไง?”เฟนด์โบกมืออีกครั้ง “ฉันจะไว้ชีวิตนายถ้านายโจมตีฉันได้สักหมัดหนึ่ง!”เลือดในกายของฟลินน์พุ่งสูงขึ้น เขาเป็นชายหนุ่มที่ถูกเอาอกเอาใจและคาบช้อนทองมาตั้งแต่เกิด เขาจะรู้วิธีการต่อสู้ได้ยังไง? ถ้าเขาโดนโจมตีทีหนึ่ง แม้ว่าเขาจะไม่ได้ตายในทันทีแต่เขาอาจจะพิการได้“ร-เราทำอย่างอื่นดีไหม? ฉันผิดไปแล้ว!”สีหน้าของฟลินน์บิดเบี้ยวด้วยความสิ้นหวัง เขามองไปที่ห้างสรรพสินค้าตรงหน้าเขาอย่างรวดเร็ว “จริงสิ พวกคุณกำลังจะไปช้อปปิ้งกันใช่ไหมสาว ๆ?” เขาพูด “เอาอย่างนี้ไหม? ฉันจะจ่ายทุกอย่างที่คุณซื้อในวันนี้เอง เลือกอะไรก็ได้ตามที่คุณต้องการในห้างนี้ได้เลย ดีไหม?”“โอ้โห นายจะจ่ายเหรอ? ทำไมจะไม่ได้ล่ะ? พวกคุณคิดว่ายังไง?”เฟนด์ยิ้มและมองไปที่ทันย่าและอีวอนน์ยังไงซะเขาก็เป็นถึงนายน้อยของครอบครัวชนชั้นสอง เฟนด์ไม่อยากที่จะเจอกับปัญหาที่เกินความจำเป็น เพราะเขาไม่อยากสร้างปัญหาให้ตัวเองลำบากมีความเป็นไปได้ที่นายใหญ่ของตระกูลเบนจะมาหาเรื่องเขาอีก ถ้าในวันนี้เขาเอาชนะนายน้อยเบนนี่ได้ ไม่ใช่ว่าเฟนด์จัดการกับนายน้อยเบนไม่ได้ แต่เขาไม่ชอบสร้างปัญหาที่ไม่จำเป็น เขาแค่อยากมีชีวิตที
ตระกูลเบนมีนักสู้ที่มีทักษะอยู่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสองคนนั้นที่แข็งแกร่งกว่านักสู้ที่แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลคลาร์กอย่างแดนนิดหน่อย แต่ฟลินน์ไม่ได้พาพวกเขามาด้วยเพราะเขาไม่คิดว่าจะถูกรังแกแบบนี้ในอาณาเขตกลาง ถึงอย่างนั้นเขาก็ยังเชื่อว่าลูกพี่ลูกน้องของเขา จะพาคนมามากพอที่จะกำจัดบอดี้การ์ดนั่นให้สิ้นซากได้ พวกเขาเดินซื้อของกันมาประมาณครึ่งชั่วโมงแล้ว ทันย่าและอีวอนน์ได้ของที่มีมูลค่ารวมประมาณ 20 ล้านเหรียญ มันทำให้หัวใจของฟลินน์เจ็บปวดอย่างควบคุมไม่ได้ เขาไม่คิดว่าผู้หญิงสองคนจะใช้เงินมากขนาดนี้ในการช้อปปิ้ง จนเขาถือของจำนวนมากนั้นแทบจะไม่หมด ใครจะไปรู้ว่าพวกเขาจะซื้อของหรูหราอย่างนาฬิกา ต่างหู น้ำหอม และของกระจุกกระจิกอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่เป็นไรหรอกที่พวกมันมีราคาแพงถ้าพวกมันเล็กและง่ายที่จะถือด้วย เมื่อพวกเขาซื้อของกันเสร็จ สีหน้าของเขาก็ซีดจนแทบจะเหมือนคนตาย “ว้าว รู้สึกดีจังที่ได้ใช้เงิน!” ทันย่าเหยียดแขนขึ้นเหนือศีรษะ รูปร่างของเธอเกือบทำให้ฟลินน์เลือดกำเดาไหล “จริงด้วย? นานมากแล้วที่ฉันไม่ได้ซื้อของมากมายขนาดนี้ รู้สึกดีจัง!” อีวอนน์จึงยืดแขนของเธอด้วย รูปร่างของ
“อะแฮ่ม ไม่ใช่ว่าฉันจะขาดเงินหรอกนะ แต่มันรู้สึกลำบากใจเหลือเกินที่จะพาสาวสวยอย่างพวกคุณไปช้อปปิ้งด้วย เพราะพวกคุณเป็นที่น่าสนใจมาก งั้นเราไปซื้อของกันอีกสักครึ่งชั่วโมงก็ได้!”แม้ว่าเขาจะปวดใจเพราะเรื่องเงินที่ต้องเสียไป แต่สีหน้าของของฟลินน์ก็แสดงออกอย่างไม่แยแส เขาแค่อยากถ่วงเวลาพวกเขาไปอีกสักพัก ใครจะรู้ว่าในอนาคตเขาจะได้เจอกับพวกเธออีกหรือเปล่า ถ้าพวกเธอกลับไปล่ะ? เขากำลังรอจนกว่าลูกพี่ลูกน้องของเขาจะมาและฆ่าหมอนั่นซะ แล้วเขาจะได้เล่นกับพวกสาว ๆ เพื่อที่จะได้ปลดปล่อยความแค้นออกมา “ไม่เป็นไร ฉันไม่อยากซื้อของแล้ว กลับกันเถอะ!" อย่างไรก็ตามทันย่าและอีวอนน์ไม่ชอบเอาเปรียบคนอื่น พวกเธอทำสิ่งนั้นไปเพียงเพื่อสอนบทเรียนให้แก่ชายคนนั้น เพราะยังไงเสียพวกเธอก็ไม่ได้ขาดแคลนเงิน หลังจากที่พวกเธอพูดจบ ทั้งสามก็เดินไปที่ชั้นหนึ่งและออกจากห้างไป หลังจากที่ฟลินน์เดินไปที่ทางเข้า เคนและคนอื่น ๆ ก็ยังไม่มาถึง เขาวิตกกังวลจนแน่นหน้าอก บอดี้การ์ดของเขาทั้งหมดที่อยู่บนพื้น มันบอกได้อย่างชัดเจนว่าพวกเขาเคยทะเลาะวิวาทมาก่อนและตอนนี้พวกเขาก็ดูสิ้นหวังอย่างมาก เขาไม่ได้ตะโกนไล่ให้พวกมันออ
“ให้ปล่อยไปงั้นเหรอ? ฉันปล่อยเรื่องนี้ไปไม่ได้หรอกเคน!” “นายสัญญาแล้วนะว่าจะช่วยฉัน นายรู้ไหม? ฉันจะให้ผู้หญิงคนหนึ่งกับนาย!” สีหน้าของฟลินน์แสดงออกอย่างป่าเถื่อนในขณะที่เขาพูดพร้อมกับยิ้ม “นายน้อยเบนอย่าพูดอะไรอีกเลย นายอยากตายงั้นเหรอ?” สีหน้าของแดนช่างมืดมนจนดูเหมือนกับเมฆพายุฝนกำลังปกคลุมอยู่ เขาส่งสายตาเยาะเย้ยใส่ฟลินน์ “อะไรนะ? ฉันอยากตาย? ฮ่า ๆ นายหมายถึงอะไร ไม่มีทาง นายเอาชนะหมอนี่ไม่ได้งั้นเหรอ!” ฟลินน์ยังคงไม่รู้ถึงสถานการณ์ เขาพูดพร้อมกับหัวเราะไปด้วย “พวกเขากำลังบอกให้แกหุบปาก ไม่ได้ยินงั้นเหรอ?” เฟนด์ไม่อยากโต้เถียงเรื่องไร้สาระกับหมอนี่ เขาเตะเท้าลงบนพื้นและพุ่งไปข้างหน้า วินาทีถัดมาเขาก็ยืนอยู่ตรงหน้าฟลินน์เสียแล้ว เขาหันหลังให้กับชายอีกคน ปั๊ก! ฟลินน์กระเด็นถอยหลังและล้มลงกับพื้นอย่างแรง! เลือดทะลักออกมาจากปากและฟันหักไปหลายซี่ “ก-แกกล้าต่อยฉันเหรอ?” ฟลินน์โกรธมากจนหน้าซีดไปหมด “คุณทันย่าผมขอโทษด้วยจริง ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่ลูกพี่ลูกน้องของผมมาที่อาณาเขตกลาง เขาเลยหลงทางนิดหน่อยผมหวังว่าคุณจะเมตตาเขา” สีหน้าของเคนมืดลงเขาปาดเหงื่อเย็นออกจากหน