พวกเขาใช้เวลานานกว่าสองชั่วโมงในการทานมื้อค่ำเฉลิมฉลองการแต่งงาน เมื่อพวกเขาทานอาหารเสร็จและลู ชินจินชำระเงินแล้ว เขาได้บอกให้เธออยู่ชมวิวตอนกลางคืนของเมืองก่อน ทัง โรลชูวไม่ปฏิเสธแม้ว่าจะเป็นการแต่งงานเพื่อผลประโยชน์ แต่เธอก็ต้องยอมรับว่ามันเป็นช่วงเวลาที่ดีสำหรับเธอ ที่สำคัญดูเหมือนว่าเขาจะทำให้เธอผ่อนคลายและลืมปัญหาทุกอย่างเมื่ออยู่กับเขา เธอประหลาดใจมากที่เขามีอิทธิพลกับเธอมากถึงเพียงนี้ เธอเพิ่งจะรู้จักเขาได้ไม่ถึงวันด้วยซ้ำแต่กับมีเหตุผลบางอย่างที่ทำให้เธอรู้สึกสบายใจเมื่ออยู่ใกล้ ๆ เขา ทิวทัศน์ยามค่ำคืนจากเนินเขางดงามมาก เธอสัมผัสได้ถึงสายลมอ่อน ๆ และมองเห็นดวงดาวและดวงจันทร์ ทัง โรลชูวและลู ชินจินเดินไปที่หอดูดาวและดูดาวก่อนที่พวกเขาจะขึ้นไปบนเนินเขาเพื่อไปยังอีกจุดชมวิวหนึ่ง เมื่ออุณหภูมิลดลงในช่วงเวลาสี่ทุ่ม ลู ชินจินจึงชวนเธอกลับ พวกเขาเดินลงจากภูเขาไป จากนั้นลู ชินจินได้พาทัง โรลชูวไปส่งที่บ้านทัง โรลชูวลงจากรถและบอกลาลู ชินจิน “ขอบคุณสำหรับมื้อค่ำที่แสนพิเศษคืนนี้ กลับบ้านดี ๆ นะคะ”ลู ชินจินวางแขนลงบนกระจกแล้วจ้องมองไปที่เธออย่างตั้งใจก่อนจะพูดเบา ๆ ว
ทัง โรลชูวย้ายออกจากบ้านในเช้าของอีกวันหลังจากที่ทะเลาะกับทัง ซองลู ชินจินให้มู่ หลิงมารับทัง โรลชูว เธออดไม่ได้ที่จะหันกลับไปมองบ้านของเธอที่เคยอยู่ด้วยความรู้สึกอันหนักอึ้ง ที่นี่เคยเป็นบ้านของเธอมานานกว่ายี่สิบปี เธอรู้สึกไม่ชินเท่าไหร่ที่จะต้องย้ายออกไป อย่างไรก็ตาม เธอไม่ได้หมกมุ่นกับความรู้สึกนั้นนานเท่าไหร่ เพราะเธอไม่เหลือเยื่อใยให้กับบ้านหลังนั้นแล้ว คฤหาสน์ของลู ชินจินอยู่ในพื้นที่ที่เรียกว่ามังกรหลวงวิว ตั้งอยู่ทางตอนใต้ที่รุ่งเรืองของเมือง อย่างไรก็ตาม มันอยู่ในย่านที่ค่อนข้างจะเงียบสงบห่างจากความวุ่นวายภายในเมือง ภายในชุมชนมีรั้วรอบขอบชิดอย่างสวยงามพร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกแบบสุดหรูและมีการรักษาความลับเป็นชั้นหนึ่ง ไม่ใช่ทุกคนที่มีเงินจะสามารถซื้อคฤหาสน์นี้ได้ ผู้อาศัยส่วนใหญ่จะร่ำรวยและเป็นคนใหญ่คนโตลู ชินจินรออยู่ที่นั่นเมื่อมู่ หลิงพาทัง โรลชูวมาส่งที่คฤหาสน์ของเขา เขาสวมสูทสีน้ำเงินเข้ม ตัดเย็บด้วยความประณีตและดูเรียบง่ายและเนคไทที่สวยงามโดยรวมแล้วทำให้เขาดูสง่างามและสูงส่ง ตาสีเข้มของเขา ทั้งยาวและดูลึกความเย็นชาของเขาทำให้ไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเขาคิดอะไรอย
เธอพูดอย่างตะกุกตะกักด้วยเสียงอันเบา ไม่น่าเชื่อว่าคำพูดเหล่านั้นจะออกจากปากของเธอแต่ลู ชินจินก็ได้ยินทุกคำที่เธอพูดในเวลานั้น สายตาของเขาดูเปลี่ยนไปก่อนจะถามเธอว่า “คุณแน่ใจแล้วใช่ไหม?”“ค่ะ” เธอพยักหน้าเมื่อเธอกล่าวเช่นนั้นแก้มของเธอเปลี่ยนเป็นสีแดงสด ความสวยงามบนใบหน้าของเธอนั้น แม้แต่ดาราก็ไม่สามารถเทียบเคียงได้ ในเวลานี้ เธอดูงดงามและมีเสน่ห์มากหัวใจของเขาเต้นแรงในขณะที่ริมฝีปากของเขาโค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม จากนั้นเขาก็พูดว่า “ถ้าอย่างนั้น ผมควรจะต้องเคารพการตัดสินใจของคุณสินะ”เขาปล่อยทุกอย่างให้เป็นไปตามความรู้สึก เขาวางแก้วไวน์ลงและโอบแขนไปรอบ ๆ เอวของเธอแล้วดึงเธอเข้ามาอยู่ในอ้อมแขนของเขา จากนั้น เขาก็ค่อย ๆ ก้มศีรษะและจูบลงบนริมฝีปากของเธอเบา ๆ ‘ตู้ม!’ทัง โรลชูวรู้สึกราวกับว่ามีบางอย่างระเบิดขึ้นภายในใจของเธอ วินาทีต่อมา เธอจึงปล่อยจิตใจของเธอให้ว่างเปล่า จูบเบา ๆ ของเขาสามารถลิ้มรสไวน์จากริมฝีปากของเขาได้ เขาทำให้เธอตกอยู่ในภวังค์ ด้วยจูบของเขา มีเสียงพึมพำขึ้นมาในหัวและเธอก็มองไปที่ผู้ชายคนนั้นด้วยความงุนงง เธอไม่สามารถบรรยายความรู้สึกแปลก ๆ นั้นออกมาเป็นคำพูดได
หลังจากรับประทานอาหารเช้าแล้ว ทัง โรลชูวก็ไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมตัวไปทำงาน และลู ชินจินก็จะไปที่บริษัทของเขาเช่นกัน ดังนั้น เขาจึงอาสาไปส่งเธอ หลังจากที่พวกเขามาถึงบริษัทไทม์เอนเตอร์เทรนเมนต์ ลู ชินจินก็หยุดทัง โรลชูวเอาไว้และพูดขึ้นอย่างเคร่งขรึมว่า “ผมไม่คิดว่าครอบครัวของคุณจะปล่อยคุณไปง่าย ๆ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นภายในสองวันนี้โทรหาผมได้ตลอด”“อืม ขอบคุณนะคะชินจิน”“ตอนแรกผมอยากได้คำขอบคุณเป็นอย่างอื่นมากกว่าคำพูด แต่พอได้ยินคุณพูดชื่อผมได้น่ารักแบบนี้ งั้นผมจะเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นครั้งหน้าก็แล้วกัน” ใบหน้าของลู ชินจินมีรอยยิ้มเมื่อเขากล่าวเช่นนั้นทัง โรลชูวหน้าแดงระเรื่อ เธอรีบบอกลาเขาก่อนที่เธอจะวิ่งหนีออกไปโดยไม่หันกลับมามองเขาอีก หลังจากที่เธอมาถึงบริษัท เธอก็ไปนั่งประจำที่ของเธอและเตรียมตัวที่จะตอบคำถามทุกอย่างของวันนี้ อย่างไรก็ตาม เธอยังไม่ทันได้เริ่มคิดอะไร ซอง อันยีก็เข้ามาลากเธอออกไปเสียก่อน ซอง อันยีพาเธอไปที่ห้องน้ำ เธอล็อคประตูแล้วถามทันทีว่า “แกบอกว่าแกจะย้ายออกไปเมื่อวานนี้ เกิดอะไรขึ้น? กู โรลโรลไล่แกออกจากบ้านงั้นเหรอ?”“เปล่า ฉันย้ายออกมาเอง” ทัง โรลชูวส่
“โรลชูกับฉันต้องติดตามประธานในตอนบ่ายนี้ มีคนอื่น ๆ ตั้งเยอะแยะที่ว่างในเวลานั้นทำไมคุณไม่เลือกพวกเขาแทนละ?” เธอโกรธขึ้นมาทันทีและตาของซอง อันยีก็กระพริบด้วยความโกรธ “ฉันได้มอบหมายให้พวกเขาทำอย่างอื่นแล้ว ข่าวของพวกเธอเป็นที่สนับสนุนและครอบคลุมทุกอย่าง ฉันแค่ต้องการพวกคุณไม่คนใดก็คนหนึ่ง การหมั้นหมายของลูกชายของจีกรุ๊ปกับกู โรลโรลเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากในตอนนี้ และนี่จะเป็นข่าวที่ดึงดูดผู้ชมเข้ามาได้มาก เราต้องคว้าโอกาสนี้เอาไว้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น” ลู เส้าหลินกอดอกพร้อมกล่าว “ให้ฉันไปแทน!” ซอง อันยีเสนอตัว“ซอง อันยี หมายความว่ายังไง? เธอมีปัญหากับการตัดสินใจของฉันงั้นเหรอ?” ลู เส้าหลิน พูดอย่างดุเดือดใส่ซอง อันยีซอง อันยีไม่สู้ดีนักและเหมือนเธอกำลังจะระเบิดออกมา ทันใดนั้น ทัง โรลชูวคนที่นั่งเงียบ ๆ อยู่สักพักพูดขึ้นมาว่า “โอเค ฉันจะไป!”“โรลชูว!” ซอง อันยีจ้องไปที่เธออย่างไม่เชื่อสายตาก่อนที่จะพูดออกมา “แกบ้าไปแล้วเหรอ?”“ไม่เป็นไรอันยี แค่ไปสัมภาษณ์เองใช่ไหม? ฉันทำได้” ทัง โรลชูวพูดพร้อมยิ้ม แต่แววตาของเธอดูเย็นชาเล็กน้อยเมื่อมองไปที่ลู เส้าหลิน เธอรู้ว่าลู เส้าหลินเป็น
มีคนสังเกตเห็นทัง โรลชูวตั้งแต่งานเริ่มและเขาก็มองเธอมาสักพักแล้วในระยะที่เธอสังเกตุไม่เห็นเขาเป็นผู้ชายที่ค่อนข้างหล่อเหลา เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาวและทักซิโด้สีดำ รูปร่างสูง หล่อและขาของเขาก็ดูเรียวยาวมากความสง่างามของเขาดูชัดเจนยิ่งขึ้นภายใต้แสงไฟสว่างจ้าที่สาดไปบนใบหน้าของเขา ดวงตาของเขามืดมิดราวกับเวลายามค่ำคืน เขามีเสน่ห์ที่น่าดึงดูดและลึกลับแขกที่มาร่วมงานรวมถึงคนชั้นสูงเหล่านั้นต่างก็พากันแตกตื่น เมื่อผู้ชายคนนี้ปรากฏตัว“ท่านประธานครับ คุณผู้หญิงอยู่ตรงนั้น เราควรจะเข้าไปหาเธอเลยไหมครับ?” มู่ หลิงพูดด้วยความเคารพ“ไม่ต้อง รอที่นี่ก่อน เราจะเข้าไปหาเธอก็ต่อเมื่อมีความจำเป็นเท่านั้น”แม้ว่าลู ชินจินจะมีเสน่ห์มาก แต่เขาก็ไม่ชอบเปิดเผยข้อมูลส่วนตัวสักเท่าไหร่ เขาตั้งใจเลือกมุมนี้ของห้องโถงเพื่อหลีกเลี่ยงความสนใจจากคนอื่น“เราควรจะสังเกตการณ์ดูก่อนสินะ” มู่ หลิงพยักหน้าและรีบปิดปากลงทันที กู โรลโรลและจี ยินเฟงยืนอยู่บนเวทีเพื่อกล่าวขอบคุณ “เราขอแสดงความขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่านและสื่อมวลชนที่มาร่วมงานหมั้นของพวกเรา…”แสงสว่างแวววับพุ่งออกมาจากกล้องหลาย ๆ ตัวขณะที่นักข่า
ชุดของกู โรลโรล ดูสวยจนน่าทึ่งแต่มันเหมือนกับชุดสีดำที่เธอเคยใส่มาก่อน แต่นั้นไม่ใช่สิ่งที่ทุกคนสนใจ ทุกคนต่างสนใจสร้อยคอบนไหปลาร้าของเธอเป็นอัญมณีสีน้ำเงินเข้มล้อมรอบด้วยเพชรขนาดเล็กจำนวนนับไม่ถ้วน การออกแบบมีเอกลักษณ์มากและงานฝีมือที่พิถีพิถัน ทำให้เห็นได้ชัดว่าสร้อยคอเส้นนี้มีราคาแพงมากไม่มีใครคุ้นเคยกับสร้อยคอนี้ไปมากกว่าทัง โรลชูว สร้อยคอเส้นนี้เคยเป็นของแม่ของเธอ คนที่ได้ทำสร้อยเส้นนี้ขึ้นมาเป็นพิเศษเพื่อเป็นสินสอดของเธอในอนาคตเธอไม่อยากจะเชื่อเลยว่ากู โรลโรลจะกล้าใส่สร้อยเส้นนี้!ความโกรธครอบงำทำให้เธอสูญเสียการควบคุมตัวเองไปโดยสิ้นเชิง เธอเดินผ่านฝูงชนด้วยความโกรธและเดินไปยัง กู โรลโรล เธอมองไปที่ กู โรลโรลอย่างโกรธเกรี้ยวก่อนที่เธอจะพูดอย่างเย็นชา “ใครให้สิทธิ์เธอแตะสร้อยคอนี่? คืนมาให้ฉันเดี๋ยวนี้! มันเป็นของแม่ของฉัน!”“แม่ของเธอไม่อยู่แล้วตอนนี้ แม่ของฉันเป็นคุณนายใหญ่ที่แท้จริงของครอบครัวทัง สร้อยเส้นนี้เคยจะเป็นของเธอมาก่อนโดยชอบธรรม แต่ตอนนี้มันเป็นสินสอดของฉันแล้ว!” กู โรลโรลพูดด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา เห็นได้ชัดว่าเธอไม่มีเจตนาที่จะคืนสร้อยคอใบหน้าของทัง โรลช
“ท่านประธาน?” มู่ หลิงพูดขณะที่เขามองไปที่ ทัง โรลชูว ที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชน เขาเหงื่อแตกและยังรู้สึกหนาวสั่นถึงกระดูกสันหลังท่าทีของลู ชินจินนั้นน่ากลัว ใบหน้าของเขามืดมิดเหมือนมีพายุ และดวงตาที่เย็นชาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธเขาพยายามที่จะซ่อนมันใว้“ส่งชายคนนั้นขึ้นไป พร้อมกับนักข่าวจากสำนักข่าวอย่างน้อยสิบที่! ฉันไม่ต้องการเห็นอะไรในแง่ลบเกี่ยวกับภรรยาของฉันในข่าวพรุ่งนี้” เขากล่าวอย่างเคร่งขรึม “ครับ ท่าน!” มู่ หลิงพูดและจากไปอย่างรีบร้อนลู ชินจินยืนอยู่ในจุดที่เขาเห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง อย่างไรก็ตาม ดวงตาของเขาเปล่งประกายด้วยความอ่อนโยนขณะที่เขามองไปที่ร่างที่สวยงามที่ยืนอยู่ท่ามกลางฝูงชนเขาจะไม่ยอมให้ใครมาทำอะไรภรรยาเขาได้!ผู้คนที่อยู่ในห้องบอลรูมต่างก็พูดไปทางเดียวกัน และพวกเขาก็ดูหมิ่นและเหยียดหยามทัง โรลชูวทัง โรลชูวยืนด้วยความเกร็ง ได้แต่อดทนกับความเจ็บปวดกู โรลโรลถูก จี ยินเฟงปกป้องใว้ได้ทัน เธอจ้องมองไปที่ทัง โรลชูว และดวงตาของเธอก็แสดงถึงผู้ชนะเป็นเวลาสั้น ๆ ก่อนที่เธอจะแสร้งทำเป็นว่าเป็นพี่สาวที่แสนดีขณะที่เธอพูด “โรลชูว ฉันไม่โทษเธอหรอกนะ แต่ฉันปล่อยให้เธอค