ลูซี่ แคทซ์ กำลังแต่งหน้าโดยสไตลิสต์ทันใดนั้น ทีมงานคนหนึ่งก็เดินเข้ามา“พี่ลูซี่ ขอโทษ อืม...ผู้ช่วยของคุณบอกว่าเธอปวดท้องกระทันหัน เลยขอเวลาพัก ในช่วงสองสามวันนี้ เราจะจัดการผู้ช่วยชั่วคราวให้คุณได้ไหม?”ลูซี่ตกตะลึงเธอไม่รู้ว่าจะตอบสนองอย่างไรในตอนแรกคาริน่าป่วย?เธอถามว่า “ฉันไม่รู้ได้อย่างไรว่าเธอปวดท้อง? ตอนนี้เธออยู่ไหน?"พนักงานตอบอย่างไม่สบายใจว่า “เธออยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว สถานการณ์มันฉุกละหุก เราจึงไม่สามารถบอกให้พี่ทราบก่อนหน้านี้ได้ เธอขอให้ฉันส่งข้อความถึงพี่ เธอบอกว่าตารางงานของพี่สองวันนี้แน่นมาก ดังนั้นพี่ควรหาผู้ช่วยชั่วคราวเพื่อช่วยพี่ พี่คิดอย่างไร?"ลูซี่เข้าใจและพยักหน้า“ได้สิ”เธอไม่ได้สนใจเรื่องนี้แต่รู้สึกงุนงงที่จู่ ๆ คาริน่าก็ป่วยเมื่อวานเธอไม่สบายเหรอ?เมื่อเธอนึกถึงสิ่งนี้ เธอก็โทรหาคาริน่าการโทรของเธอได้รับคำตอบเกือบจะในทันที และเธอก็ได้ยินเสียงที่แผ่วเบา“สวัสดี พี่ลูซี่ ฉันขอโทษ ฉันไม่รู้ว่าทำไมจู่ ๆ ฉันก็ปวดท้องมาก ฉันเกรงว่าวันนี้ฉันจะทำงานไม่ได้”ลูซี่ได้ยินดังนั้นก็ปลอบเธอ “ไม่ต้องห่วง แน่นอน เธอไม่ควรทำงาน! เธออยู่ที่โรงพยาบาลแล้ว
“อะไร...คุณหมายความว่ายังไง?”ลูซี่ แคทซ์รู้ว่าผู้ช่วยเขียนอะไรบนฝ่ามือของเธอมันคือ "ผมรักคุณ"ผมรักคุณนี่คืออะไร?ลูซี่ตกใจมากเพราะคิดว่าผู้ช่วยเป็นเพียงทีมงานธรรมดาพวกเขาเป็นเพียงคนแปลกหน้าที่สำคัญที่สุด เธอเป็นผู้หญิงที่แต่งงานแล้วแม้ว่าจะเป็นการแต่งงานแบบลับ ๆ แต่เมื่อเธอให้สัญญากับโจเอล ฟอสเตอร์ เธอจึงไม่สามารถทำลับหลังเขา และนอกใจเขากับชายอื่นได้เมื่อลูซี่คิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอก็เริ่มจริงจังเธอเคร่งขรึมและเข้มงวดเมื่อเธอพูดว่า “อย่าล้อเล่นแบบนี้ ฉันเป็นเจ้านายชั่วคราวของคุณ และคุณเป็นผู้ช่วยชั่วคราวของฉัน คุณจำเป็นต้องรู้ที่อยู่ของคุณและอย่าล้ำเล้นเกินไป เข้าใจไหม?”ลูซี่คิดว่าคำพูดของเธอจะทำให้คนอารมณ์ร้อน แต่เขากลับหัวเราะหนักขึ้นเธอโกรธเคือง“คุณเป็นคนแบบได้ยังไง? ถ้าคุณยังทำแบบนี้ต่อไป ฉันจะขอให้พวกเขาไล่คุณออก”ลูซี่หันกลับมาและเตรียมจะไปหาพวกทีมงาน ขณะที่เธอพูดแบบนี้ในขณะนั้นเอง เธอได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเรียกชื่อของเธอ“ลู”ลูซี่ตกใจและหันกลับมามองเขาอย่างไม่เชื่อชายที่อยู่ข้างหน้าเธอมองไปรอบ ๆ อย่างระมัดระวัง และหลังจากที่เขายืนยันว่าไม่มีใครอ
วินาทีต่อจากนั้น โจเอล ฟอสเตอร์ก็พูดอย่างเฉยเมยว่า “ไม่เป็นไร ผมมีญาติอยู่ที่นี่ คืนนี้ผมก็เลยจะไปนอนที่บ้านญาติครับ”ทีมงานได้ยินดังนั้นก็หยุดเดิน“โอ้ บ้านพวกเขาไกลจากที่นี่มากไหม? คุณต้องมาทำงานตรงเวลาเข้าใจไหม?”โจเอลตอบอย่างไร้ความรู้สึกว่า “ผมทำได้แน่นอนครับ”เมื่อคน ๆนั้นได้ยินแบบนั้น ก็ไม่ได้ถามอะไรเพิ่มเติม เขาแค่เพียงพยักหน้า“ก็ได้ งั้นดูแลด้วยเองด้วยนะ”จากนั้นทีมงานก็ได้เข้าห้องไปลูซี่ แคทซ์ที่กำลังจะเปิดประตูอยู่นั้น ได้ยินบทสนทนาของพวกเขาหลังจากที่เธอได้เปิดประตู เธอก็มองย้อนกลับไป ก็เห็นชายคนนั้นมือขวายืนล้วงกระเป๋ากางเกงของเขา เขามองมาที่เธอและยิ้มอย่างเย็นชาลูซี่ จ้องเขม็งไปที่เขาเธอไม่ให้โอกาสให้เขาได้พูดอะไร ก่อนที่เธอจะเข้าไปในห้องลูซี่ปิดประตูและล็อกประตูอย่างรวดเร็วเมื่อล็อกประตูเสร็จแล้วก็ปรบมืออย่างภาคภูมิใจ‘ฮ่า! ใครขอให้คุณมาที่นี่และมาทำให้ฉันตกใจกัน มาดูกันว่าคืนนี้คุณจะเป็นยังไง’เธอโยนกระเป๋าสตางค์ของเธอไปด้านข้าง ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำเพื่อไปอาบน้ำอีกฝั่งนึงของประตู โจเอลไม่คาดคิดว่าเธอจะล็อกประตูในตอนแรกเขาได้เตรียมคีย์การ์ดไว้ข้า
โจเอล ฟอสเตอร์เห็นว่าลูซี่ แคทซ์ กำลังช่วยเขาอยู่ ก็ไม่ได้ห้ามอะไรเขานั่งข้าง ๆ ปล่อยให้เธอจัดของ ในขณะที่เขาอ่านข่าวท้องถิ่นโจเอลเข้ามาเป็นผู้ช่วยของเธอ แต่เธอก็ไม่คิดว่าผู้ช่วยของเธอกำลังพักผ่อน ในตอนที่เธอกำลังทำงานลูซี่มองเขาก่อนจะถอนหายใจอย่างช่วยไม่ได้“เออใช่ เมื่อคืนฉันลืมถามคุณ คาริน่าเป็นยังไบ้าง? ถ้าคุณอยู่ที่นี่ คุณไปส่งเธอที่ไหน?”ในตอนนั้น ประตูถูกปิดอยู่ ไม่มีคนแปลกหน้าอยู่ด้วย ดังนั้นลูซี่จึงถามเขาเพราะมันปลอดภัยโจเอลได้ยินแบบนั้นก็หัวเราะ“ผมก็ต้องไปส่งเธอที่บ้านสิ อยู่ที่นี่เธอจะทำอะไรได้ล่ะ”ลูซี่รู้สึกหายใจติดขัดและไม่ได้พูดอะไรอีกมันเป็นสิ่งที่ดีที่เขาไปส่งคาริน่ากลับบ้านอย่างน้อยที่สุดก็ลดโอกาสให้คนอื่นได้เห็นลูซี่รู้สึกโล่งใจหลังจากได้ยินเรื่องนี้หลังจากที่พวกเขาได้จัดของเสร็จแล้ว ทีมงานคนหนึ่งก็โทรมาที่ห้อง บอกพวกเขาว่ารถพร้อมแล้วรออยู่ที่ชั้นล่างลูซี่ตามพวกเขาออกไปวันนี้มีการถ่ายทำทั้งหมดสามที่ด้วยกันพวกมันเป็นจุดถ่ายรูปที่มีชื่อเสียงถึงแม้ว่าสินค้าที่เธอจะต้องแสดงนั้นเป็นเครื่องประดับ แต่เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น พวกเขาจึงเลือกการ
ถึงอย่างนั้น โจเอล ฟอสเตอร์ก็ยังอยู่ที่นี่กับลูซี่ แคทซ์ เธอกลัวว่า ถ้าพวกเขามีเวลาอยู่กับทีมงานมากขึ้น พวกทีมงานก็จะสังเกตเห็นอะไรบางอย่างของพวกเขาอย่างไรก็ตาม เธอไม่สามารถปฏิเสธคำเชิญชวนที่จะไปทานอาหารเย็นได้ เพราะพวกเขามีความกระตือรือล้นอย่างมากยิ่งไปกว่านั้น ในวันพรุ่งนี้พวกเขาถ่ายทำแค่ครึ่งวันเท่านั้น หลังจากถ่ายภาพเสร็จ ก็จะเป็นการจบการทำงานนี้ของพวกเขาทุกคนต้องการที่จะผ่อนคลายและอยากที่จะพักผ่อนลูซี่ไม่ต้องการที่จะทำลายความสุข ดังนั้นเธอจึงตอบตกลง เพื่อไปกินทานอาหารเย็นกับทีมงานอย่างมีความสุขในตอนนั้นเองในที่สุดลูซี่ก็สามารถผ่อนคายและมีเวลาให้กับตัวเองเวลาประมาณ 5 โมงเย็นหรือ 6 โมงเย็นที่พระอาทิตย์กำลังลับขอบฟ้ามีแสงสีทองส่องลงมาที่พื้นเพราะเขาอยู่ที่ปราสาทยุโรปเก่าที่ภาพยนตร์เคยมาถ่ายทำในเวลานั้นลูซี่มองออกไปเห็นพระอาทิตย์ตกดินสีแดงอมส้มที่เจิดจ้า เธอรู้สึกมีความสุขและผ่อนคลาย เธอรู้สึกได้ถึงความสุขอันบริสุทธิ์ที่เธอไม่สามารถอธิบายได้ดังนั้นเธอจึงรู้สึกอบอุ่น เมื่อเอามือลูบทันใดนั้นเธอไม่ได้สังเกตว่าโจเอลกำลังเดินเข้ามาหาเธอเขายืนอยู่ข้างหน้าเธอ เพื่อดูพระ
โจเอล ฟอสเตอร์หันไปมองลูซี่ แคทซ์ และพ่นลมหายใจ“โอ้ คุณยังสังเกตเห็นผมอยู่! ผมคิดว่าคุณมีตาเพื่อมองคนอื่นและลืมผมไปแล้ว!”ลูซี่กำลังถอดผ้าพันคอและหยุดชั่วคราว เธอมองเขาอย่างว่างเปล่าเธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไรสักสองสามวินาทีและต่อมาก็รู้ว่าเขาหึงลูซี่ไม่รู้ว่าจะหัวเราะหรือร้องไห้ดี“มาหึงอะไรตอนนี้?”โจเอลขมวดคิ้วและไม่พูดอะไรหลังจากที่ลูซี่ถอดผ้าพันคอของเธอแล้ว เธอก็เดินเข้ามา นั่งคุกเข่าวางมือของเธอ แล้วมองดูใบหน้าของเขาใกล้ ๆเธอเห็นว่าใบหน้าของเขาดูหม่นหมองจึงยิ้มและพูดว่า “ฉันแค่ทานอาหารกับทีมงานและดื่มมากกว่าปกติเล็กน้อย คุณคิดได้ไงที่ว่าฉันไม่สนใจคุณ”โจเอลหยุดเขารู้ในใจของเขา เขาไม่มีเหตุผลอย่างไรก็ตาม เขาไม่อยากปล่อยเธอไป เหมือนหมีดุร้ายที่ต้องการปกป้องอาณาจักรของมันโจเอลไม่ชอบเห็นเธอยิ้มอย่างสดใสให้คนอื่นเขาเกลียดที่จะเห็นเธอดื่มต่อหน้าผู้ชายคนอื่นหลังจากที่เขาคิดเกี่ยวกับมัน เขาก็พูดว่า “ก็ได้ ผมหึง ผมแค่ไม่ชอบที่ผู้ชายพวกนั้นจ้องมองคุณ ลู คุณน่าจะเข้าใจที่ผมหมายถึง ตอนนี้ผมเผชิญหน้ากับพวกเขาไม่ได้เพราะว่าผมห่วงใยคุณ และข้อตกลงที่เราทำกับแม่ ผมสัญญาไม่ได้ว่า
แม่แคทซ์จะได้ชื่อว่าเป็นภรรยาของฆาตกรตลอดไปลูซี่ แคทซก็จะเป็นลูกสาวของฆาตกรด้วยเห็นได้ชัดว่าพ่อของเธอไม่เคยได้ทำหน้าที่ของเขาต่อพวกเธอเลยชายคนนั้นกับตัวของเธอเอง ความสัมพันธ์ทางสายเลือดแทบจะไม่มีเลยแม้แต่นิดเดียวลูซี่ไม่อยากให้กากเดนของชายคนนี้มาแปดเปื้อนเธอหรือแม่ของเธอไม่ใช่ว่าเธอเป็นคนที่ไร้หัวใจ แต่เมื่อเธอนึกถึงสิ่งที่เซซิลที่สี่ได้ทำกับตัวเธอเอง หรือว่าแม่ของเธอในตลอดหลายปีที่ผ่านมา เธอรู้สึกว่ามันน่ารังเกียจเกินไปที่จะตายไปพร้อมกับชื่อของเขา ดังนั้นเธอจึงต้องแก้ไขปัญหานี้สุขภาพของแม่แคทซ์ดีขึ้นอย่างมาก หลังจากที่แม่ได้เข้ารับการผ่าตัดหลังจากการผ่าตัดก็อยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์อย่างเอาใจใส่ แผลก็เลยหายเร็วเมื่อลูซี่พูดกับแม่ของเธอทางโทรศัพท์เมื่อเช้านี้ เธอยังได้ยินเสียงของความอ่อนเยาว์เล็กน้อยจากเสียงวัยกลางคนจากแม่แม้แต่หมอก็บอกว่าตอนนี้แม่สบายดีขึ้นตราบใดที่เธอไม่โดนก่อกวนจนมากเกินไป ไม่ต้องทำงานหนักเกินไป และกลับไปตรวจร่างกายเป็นประจำ เธอก็จะไม่เป็นไรนี่เป็นข่าวดีสำหรับลูซี่อย่างแน่นอนตลอดหลายปีที่ผ่านมา เธอกับแม่ต้องพึ่งพาอาศัยกัน แม่ของเธอเกือบใช้ท
สิ่งที่ ลูซี่ แคทซ์ไม่รู้ก็คือบ้านหลังนี้ถูกซื้อในชื่อของเธอแล้วตอนนี้เธอแค่ยังไม่รู้เรื่องนี้โจเอล ฟอสเตอร์ได้ทำเรื่องทั้งหมดนี้โดยที่ยังไม่ได้บอกเธอซึ่งรวมถึงการคัดเลือกคนที่มาดูแลสำหรับแม่แคทซ์ เขาเคยเห็นพวกเขาทีละคน ตรวจสอบภูมิหลังของพวกเขา และเต็มใจจ้างพวกเขาก็ต่อเมื่อเขามั่นใจในตัวพวกเขาอาจกล่าวได้ว่าเขากังวลเกี่ยวกับเรื่องของแม่แคทซ์ มากกว่าตัวเขาเองนี่เป็นสาเหตุที่ทำให้ลูซี่ย้ายมาอยู่กับเขาอย่างง่ายดายเป็นเพราะเขาพยายามช่วยเหลือเธออย่างแท้จริงและจริงใจเขาอยากให้เธอมีชีวิตที่ดีจริง ๆขณะที่เธอคิดถึงเรื่องนี้ เธออดไม่ได้ที่จะหันไปหาเขาและมองชายผู้นั้นอย่างซาบซึ้งในตอนนั้นโจเอลไม่พูดอะไร เขาแค่ปล่อยให้ลูซี่พาแม่แคทซ์ไปเดินดูรอบ ๆ วิลล่าแทนแม่แคทซ์ชมวิลล่าซ้ำแล้วซ้ำเล่า ระหว่างที่เดินทัวร์"สวยมาก วิลล่านี้ใหญ่และสะดวกสบายมาก"คำชมมาพร้อมกับเสียงบ่นเบา ๆ กับลูซี่ว่าราคาแพงเกินไป“บ้านหลังนี้คงจะแพงน่าดู! ลู ในตอนนี้ถึงแม้ว่าลูกจะหาเงินได้มาก แต่ลูกก็ไม่ควรใช้มันอย่างฟุ่มเฟือยแบบนี้ได้ เราเป็นคนธรรมดา ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องใช้ความฟุ่มเฟือยทั้งหมดนี้ อันที่จริง