ขณะเดียวกัน แบร์กตันยืนอยู่หน้าชายฝั่ง
เขาโยนหินก้อนหนึ่งลงทะเล ไม่กี่วินาทีต่อมา ฟองน้ำจำนวนมากผุดขึ้น
และสายลมเย็นผิดธรรมชาติก็พัดมา เขาหัวเราะแผ่วเบา
“ข้าไม่ต้องการทองคำอีกแล้ว”
“ข้าอยากเป็น...สิ่งที่ไม่มีวันตาย ใต้ท้องทะเล…”
คืนแรม...ลมเย็นจนทะลุผิวกระดูก
บนฝั่ง ม่านหมอกบาง ๆ คลุมผืนทรายราวผ้าขาวคลุมศพ
อีธานสะดุ้งตื่น
เสียงอะไรบางอย่างดังจากริมหาด
แอ่ด...
เสียงโซ่ครูดพื้นหิน
เสียงหายใจลึกเหมือนจากปอดของสัตว์ที่ไม่เคยหายใจบนบก
เขาคว้าดาบทันที
“นีร่า?”
ไม่มีเสียงตอบ
เขาวิ่งออกมานอกถ้ำ
และภาพตรงหน้าทำให้หัวใจเขาชะงัก
กลางหมอกหนา
มีเงาร่าง 3–4 ตน สูงโปร่ง ผิวซีดเหมือนเปลือกหอย
พวกมันเดินช้า ๆ บนทราย
เสียงก้าวแต่ละก้าวลากเหมือนขาไม่มีพละกำลัง
แต่ในดวงตา — ไม่มีแววชีวิตใด ๆ
พวกมัน...ไม่ใช่เงือกธรรมดา เงือกพวกนี้มีรอยเย็บตามข้อมือเหมือนถูกฝังและเย็บปิด
ปากกว้างกว่าปกติ และเต็มไปด้วยฟันแหลมที่ไม่ควรอยู่ในร่างเงือก
อีธานก้าวถอยหลังอย่างเงียบเชียบ แล้วทันใดนั้น — พวกมันหันขวับมาทางเขา
“เราต้องหนี!” เขาตะโกนวิ่งกลับเข้าถ้ำ
ไอล่า กับมาริเบลลุกขึ้นคว้าอาวุธ
“เกิดอะไรขึ้น?”
“พวกมัน...ขึ้นมาจากน้ำแล้ว!”
“ใคร?”
นีร่าเดินออกมาช้า ๆ จากความมืด
ร่างเธอสั่น
เสียงในหัวเธอกำลังกระหน่ำซ้ำคำเดิม
"เลือดที่เจ้าไม่ควรมี...คือคำเชิญที่พวกข้ารอ"
ริมทะเล
พวกมันหยุดยืนเรียงกันที่ชายฝั่ง
เหมือนไม่กล้าก้าวเข้าฝั่ง
แต่แล้ว...เสียงฝีเท้าดังขึ้นจากอีกฟาก
ชายร่างสูงใหญ่ สวมเสื้อคลุมหนังเดินออกจากแนวต้นไม้
กัปตันแบร์กตัน
เขายิ้มให้พวกมัน
“ข้ารู้จักพวกเจ้า…เจ้าทะเลที่เก่าแก่…เจ้าอสูรในคราบเกล็ด”
หนึ่งในเงือกก้าวออกมา
มันไม่มีเสียงพูด
แต่คลื่นบางอย่างเคลื่อนจากตัวมัน มาถึงตัวแบร์กตัน
เขทรุดลงทันที
เลือดไหลออกจากจมูก แต่เขาหัวเราะ
“เจ็บดี…แบบนี้แหละที่เรียกว่า…ของจริง”
เขาคุกเข่าลงต่อหน้าพวกมัน
“ข้าจะให้เลือดข้า…เพื่อพลังของเจ้า จงให้ข้าเป็นหนึ่งในพวกเจ้า”
กลับมาที่ฝั่งพวกของนีร่า
เสียงลมเริ่มเปลี่ยน คลื่นกระทบฝั่งไม่เป็นจังหวะ
ทุกคนรู้ว่าอะไรบางอย่างกำลัง “มา” นีร่าหันไปบอกทุกคน
“พวกมัน...กำลังมองหาข้า” มาริเบลจับมือเธอ
“เจ้าจะหนีไหม?” นีร่าส่ายหน้า
“ข้าไม่หนีแล้ว” ธอค่อย ๆ เดินลงไปในน้ำ เธอหยุดตรงระดับคลื่นซัดหน้าแข้งแล้วพูดเสียงเรียบ
“พวกเจ้าขึ้นมาจากทะเล...ก็จงฟังเสียงของข้าด้วย”
เสียงสะท้อนก้องไปในน้ำ
ราวกับว่าเงือกที่ขึ้นฝั่งทุกตน “ได้ยิน”
กลางฝั่งทะเล...
พวกมันหยุดเคลื่อนไหว หนึ่งในเงือกหันมองแบร์กตัน
มันชี้ลงทะเล แล้วชี้ไปที่หัวใจของเขา จากนั้น...ก็หายลงน้ำไป
แบร์กตันหายใจแรง หัวใจเขาเต้นรัว ปากพึมพำ
“เลือดของข้า...มันยอมรับแล้ว”
แต่เขาไม่รู้เลย...ว่าเงือกพวกนั้น ไม่เคยเลือกใคร
มันแค่ใช้คนเป็นทางผ่าน — ก่อนจะกลืนทุกอย่างกลับคืนไป
อีธานยืนอยู่หน้าถ้ำ กุมดาบแน่น
สายตาคอยจับจ้องความมืดที่ปกคลุมเกาะ
“พวกมันกำลังมา” ไอล่าพูดเสียงแผ่ว
“และข้าได้กลิ่นเลือด...เลือดที่ไม่ใช่ของพวกเรา”
เสียงฝีเท้าราวกับน้ำหนักเท้าค่อย ๆ เคลื่อนเข้ามาใกล้
แต่ละก้าวมีเสียงกระซิบคล้ายคำสาป
“เจ้าคือของเรา…เลือดของเจ้าคือกุญแจ…”
นีร่าที่ผิวหนังเริ่มมีเกล็ดวาววับ รู้สึกได้ถึงแรงดึงภายในเลือด
“ข้าต้องควบคุมมันให้ได้...ข้าต้องไม่เป็นเหมือนพวกนั้น”
จากความมืด มันปรากฏ
เงือกร่างใหญ่ สูงกว่าคนสองเท่า
ผิวเปลือกหอยแตกกระจายเป็นแผ่นเกล็ดแข็งกระด้าง
ดวงตาว่างเปล่าและเปล่งแสงสีแดงจาง ๆ
“เงือกกินคน” ตัวจริง
มันเหยียบลงบนพื้นทราย ส่งเสียงคำรามต่ำ
เสียงเหมือนคลื่นทะเลถล่มซ้ำ ๆ
“อย่าปล่อยให้มันจับนีร่าได้!” อีธานตะโกน
“ถ้าพวกมันได้เลือดของเธอ…ข้าไม่รู้ว่าเธอจะกลายเป็นอะไร!”
กัปตันแบร์กตันปรากฏตัวบนยอดผา
ดวงตาของเขาแดงเรือง เหมือนถูกไฟใต้ทะเลเผาไหม้
“ข้าไม่ใช่ของพวกมัน” เขาตะโกน “ข้าจะเป็นผู้ครองทะเล และเป็นอมตะ!”
เสียงลมพัดแรง คลื่นซัดสูง
การไล่ล่าเริ่มต้นแล้ว
สายลมทะเลพัดแรง คลื่นซัดเข้าฝั่งอย่างไม่หยุดยั้ง
เสียงร้องคำรามและปืนดาบกระทบดังสะท้อนในอากาศ
กลุ่มลูกเรืออีธานกำลังต่อสู้กับเงือกกินคนกลุ่มหนึ่งที่ขึ้นจากทะเลมาโจมตี
เงือกเหล่านั้นมีร่างสูงใหญ่ แรงมหาศาล และดวงตาเปล่งประกายแดงก่ำ
“อย่าให้พวกมันจับตัวนีร่าได้!” อีธานตะโกนออกคำสั่ง
ไอล่าและมาริเบลกำลังใช้หอกและดาบฟาดฟันกับเงือกที่ดาหน้ามาอย่างไม่หยุดยั้ง
นีร่าที่ผิวเริ่มเปลี่ยนแปลง เฝ้าดูสงครามนี้ด้วยความรู้สึกผสมปนเป
ความกลัว ความโกรธ และความหวังผสมกันในใจ
บนยอดผา
กัปตันแบร์กตันยืนเฝ้ามองสนามรบ ดวงตาแดงเรืองเหมือนเปลวไฟแห่งนรก
“สงครามนี้...จะเป็นการกำเนิดของข้าและเผ่าพันธุ์ใหม่”
เขายกมือขึ้น กวาดลมทะเลให้ปั่นป่วน
คลื่นขนาดใหญ่ซัดเข้าหาฝั่ง ราวกับธรรมชาติกำลังลุกเป็นไฟ
ใจกลางความวุ่นวาย
นีร่าเริ่มสัมผัสพลังเลือดในตัวที่รุนแรงขึ้น
เกล็ดเงินกระจายทั่วแขนและลำตัว
เสียงกระซิบจากอดีตของเงือกกินคนดังก้องในใจ
“เลือดของเจ้าคือกุญแจแห่งสมดุล…เลือกระหว่างชีวิตและความตาย”
นีร่ายืนหยัด
“ข้าจะไม่ให้พวกเจ้าควบคุมข้า ข้าจะเลือกทางของข้าเอง!
นีร่าก้าวออกไปยังท่ามกลางสนามรบ เธอเผชิญหน้ากับกัปตันแบร์กตัน
“เจ้าต้องการให้ทะเลนี้กลายเป็นสุสานหรือ?” เธอถามด้วยเสียงแข็งกร้าว
“ข้าต้องการคืนชีพให้กับพวกเรา” แบร์กตันตอบ “และเจ้าจะเป็นราชินีของมัน”
การต่อสู้ระหว่างเลือดและจิตใจระหว่างทั้งสองเริ่มขึ้น