Search
Library
Home / โรแมนติก / So Hot หลอมไฟร้ายละลายหัวใจ / EP : 5

EP : 5

Author: Phat_sara
2025-06-23 15:15:52

"...ขอจับมือเธอได้ไหมแค่แป๊บเดียว ตอนนี้ฉัน...ยืนคนเดียวไม่ไหวจริง ๆ"

ฉันได้แต่ยืนให้เขาบีบมือเอาไว้ เขาก็ไม่มีน้ำตาสักหยดมีแค่ตาแดงก่ำกับร่างกายที่กำลังสั่นสะท้าน

"อยากไปนั่งพักไหมคะ"

"ไม่...ไม่เป็นไร ขอยืนอยู่กับแม่ตรงนี้ดีกว่า" เขาเลือกที่จะไม่ไปไหน ฉันเข้าใจดีถึงมันจะบีบหัวใจแค่ไหนที่ต้องรู้ว่าร่างกายของคนที่เรารักกำลังถูกแผดเผาอยู่ตรงหน้า แต่ถ้าเลือกได้ก็ยังอยากจะอยู่ไม่ไกลจากตรงนี้ อยากอยู่ใกล้ ๆ คนที่เรารักให้นานที่สุดเท่าที่จะทำได้มากกว่า

"คุณข้าวคะ" เรายืนอยู่ตรงนี้มาเกือบจะยี่สิบนาทีแล้ว คนอื่นลงไปกันหมดมีแค่ฉันกับเขาเท่านั้น จนกระทั่งพี่ขวัญใจต้องเดินมากระซิบเรียกฉันเลยหันไปส่ายหน้าเบา ๆ แล้วส่งสัญญาณบอกให้พี่ขวัญใจลงไปก่อน

"เธอว่าท่านจะร้อนไหม" คำถามคงดูเหมือนเด็กอนุบาลแต่ก็ต้องทำความเข้าใจว่าถ้าเป็นร่างกายคนที่เรารัก เราจะรู้สึกสงสารที่ต้องโดนเผาเพราะฉันเองก็กำลังรู้สึกไม่ต่างจากเขา

"ท่านไม่ต้องเจ็บปวดแล้วล่ะค่ะ คุณแม็คก็เหมือนกันหายเศร้าเร็ว ๆ นะคะ คุณป้าคงห่วงถ้าเห็นคุณแม็คเศร้าแบบนี้" ฉันพยายามยิ้มปลอบ ถึงจะรู้ว่าต่อให้ปลอบยังไงเขาก็ไม่ได้รู้สึกดีกับคำพูดของฉันสักนิดเดียว

"ท่านป่วยนานแค่ไหน"

"ก็...โรคประจำตัวน่ะค่ะ แต่ท่านอายุมากแล้วก็เลยทรุดเร็ว" คุณป้ามีโรคประจำตัวรักษามานานแล้วเหมือนจะไม่เป็นอะไรมากแต่บทจะทรุดท่านก็ทรุดหนักแล้วก็จากไปเลย ทรุดไม่นานแต่ดูท่านทรมานมากเหมือนกัน แต่อย่าบอกเขามากกว่านี้เลยค่ะแค่นี้ก็เสียใจมากแล้ว

"อื้ม เธอลงไปก่อนได้เลย"

"ไม่เป็นไรค่ะ ข้าวก็อยากยืนส่งคุณป้าให้นานที่สุดเหมือนกัน" หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้คุยอะไรกันต่อ แค่ยืนมองไปที่ประตูสี่เหลี่ยมนั้นเงียบ ๆ ส่วนมือก็ยังโดนเขาบีบเอาไว้ไม่ปล่อย

-สองวันต่อมา-

"คุณข้าวคะวันนี้เปิดพินัยกรรมนะคะ"

"ค่ะพี่ขวัญใจ"

"แล้วจะไปตอนนี้เลยเหรอคะ"

"ก็ตั้งใจจะไปวันนี้นี่คะ ถึงวันนี้เปิดพินัยกรรมก็ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับข้าวอยู่แล้ว" ฉันกำลังจะย้ายออกค่ะ เก็บข้าวของเรียบร้อยแล้ว ถึงอยู่บ้านหลังนี้มาเกือบจะทั้งชีวิตแต่ข้าวของที่ฉันเอาไปจริง ๆ ก็มีแค่เอกสารสำคัญที่เกี่ยวกับตัวเองแล้วก็เสื้อผ้าของใช้ที่จำเป็นแค่นั้นแหละ กระเป๋าแค่สามสี่ใบ

"แต่คุณข้าวเป็นลูกสะใภ้ อย่าดื้อสิคะ อยู่ฟังก่อน"

"อยู่ฟังเดี๋ยวคุณแม็คก็หาเรื่องว่าข้าวอยากได้สมบัติหรอกค่ะ รีบไปแต่เช้านี่แหละ"​ หลังจากที่เผาศพคุณป้าเสร็จแล้วเมื่อวานก็ต้องเก็บกระดูกกับทำบุญฉันเลยยังไม่ได้ไป แต่วันนี้ไม่มีอะไรแล้วล่ะ ถึงเวลาสมควรแก่การไปสักทีก่อนที่พายุที่สงบได้วันกว่า ๆ จะถล่มอีกรอบ

"เฮ้อ!"

"ถอนหายใจทำไมคะ ข้าวทำอะไรผิดเหรอ" ฉันถามยิ้ม ๆ เพราะรู้ดีว่าที่ทำก็ไม่ได้ถูกเท่าไหร่ แต่ไม่เป็นไรยังไงไปก็ดีกว่าอยู่

"คุณข้าวเหมือนจะเป็นน้ำนะคะ แต่ที่จริงไม่ใช่เลยเป็นน้ำมันต่างหาก ทำไมไม่เอาน้ำเย็นเข้าสู้คะ"

"พี่ขวัญใจขา ข้าวเป็นน้ำมานานแล้วค่ะ ทุกวันนี้ก็ยังเป็นน้ำ แต่ระดับนั้นน่ะไม่ใช่ไฟธรรมดาแล้วนะคะ พายุเพลิงต่างหาก เอาน้ำที่มีอยู่น้อยนิดไปดับไม่ได้หรอก"

"แต่ช่วงนี้คุณแม็คก็ไม่ได้โมโหใส่คุณข้าวแล้วนี่คะ" พี่ขวัญใจก็พูดมาได้ แค่ไม่อาละวาดใส่ฉันเมื่อวานวันเดียวเอง

"แค่ยังไม่มีประเด็นมากกว่าค่ะ แต่ถ้าอยู่ฟังพินัยกรรมวันนี้มีประเด็นแน่นอน"

"พี่ไม่คุยกับคุณข้าวแล้ว" พี่ขวัญใจมองค้อนใส่ฉัน

"ฮ่า ๆๆ อย่างอนสิคะ แล้วเดี๋ยวข้าวจะหาเวลามาเยี่ยมบ่อย ๆ นะคะ"

"ค่ะ ๆ ต้องมาบ่อย ๆ นะคะ อยู่ด้วยกันมาตั้งกี่ปีบทจะไปก็ไปดื้อ ๆ คนอะไรสวยแต่ใจแข็งที่สุดเลย"

"ก็มันถึงเวลาแล้วนี่คะพี่ขวัญใจ ข้าวว่ายกกระเป๋าไปเลยดีกว่าค่ะ เดี๋ยวพี่เชนจะมาแล้ว อ้อข้าวขอไปลาป้าสุก่อนรบกวนพี่ขวัญใจด้วยนะคะเดี๋ยวข้าวตามพลอยใสมาช่วยยก" ฉันตัดบทเพราะเดี๋ยวมันจะสายไปมากกว่านี้ เกรงใจพี่เชนต้องมาช่วยขนของแต่ออกไปตอนเช้านี่แหละดีที่สุด จะได้เลี่ยงการปะทะ

"ค่ะ" พอพี่ขวัญใจพยักหน้ารับฉันก็เดินออกมาจากห้องทันที ห้องนอนที่ฉันนอนคนเดียวมาแปดปี ความรู้สึกผูกพันธ์มันก็มีอยู่มาก แต่ของที่ไม่ใช่ของเราสักวันเราก็ต้องปล่อยมันไป

"ตื่นแล้วเหรอ" ซวย เปิดประตูออกมาก็เจอคนที่ไม่อยากเจอ ถึงจะถามธรรมดาหน้านิ่ง ๆ ก็เถอะ

"ค่ะ"

"อืม ไปทานข้าวสิฉันกำลังจะไปพอดี" เขาพยักหน้ารับแล้วก็เดินผ่านหน้าฉันไปเลย ชวนฉันไปกินข้าวเช้าเหรอ?

#KWOGANG END

#MAX TALK

"พลอยใส"

"คะคุณแม็ค"

"ไปตามคุณข้าวมาทานข้าว บอกให้มาเร็ว ๆ ฉันรอนานแล้ว" ตอนออกจากห้องผมก็เรียกแล้วนะจะอิดออดเล่นตัวทำไมก็ไม่รู้ นี่ผมก็นั่งรอมาจะยี่สิบนาทีแล้ว

"คะ? ให้ไปตามคุณข้าวมาทานข้าวกับคุณแม็คเหรอคะ" แค่ให้ไปเรียกจะต้องทำหน้าตกใจอะไรขนาดนั้นวะ

"อืม เร็ว ๆ"

"เอ่อคือ วันนี้คุณข้าวคงจะไม่รับอาหารเช้าแล้วมั้งคะคุณแม็ค"

"ทำไม กินแล้วเหรอถ้ากินแล้วก็ไปเรียกมานั่งเป็นเพื่อนฉัน นั่งคนเดียวกินไม่ลง" โต๊ะอาหารยาวขนาดยี่สิบกว่าคนนั่ง แล้วต้องนั่งหัวโต๊ะกินข้าวคนเดียวมันทำให้ผมรู้สึกแย่เป็นบ้าเลย

"ยังค่ะ"

"ยังก็ไปเรียกมาสักที จะให้สั่งอีกกี่รอบ!" แค่บอกให้ไปเรียกมัวอ้ำอึ้งอยู่ได้ จากที่ผมไม่หงุดหงิดก็เลยมีอารมณ์ขึ้นมา

"คือ คุณข้าวกำลังขนของอยู่ค่ะ คุณเชนมารับแล้ว ขนเสร็จน่าจะออกไปเลยค่ะคุณแม็ค" ขนของเหรอ?

"ขนของอะไร แล้วเกี่ยวอะไรกับไอ้เชน"

"ก็คุณข้าวจะย้ายออกไปอยู่..." พลอยใสตอบช้า ๆ คงเพราะกลัวผม แต่ผมไม่สนใจฟังให้จบหรอก แค่นี้ก็จับใจความได้แล้ว

ผมเดินออกจากห้องอาหารมาที่ห้องโถงก็เจอผู้หญิงคนนั้นกับไอ้เชนเพื่อนข้างบ้านแล้วก็แม่บ้านช่วยกันยกของ ๆ เธอขึ้นรถไอ้เชน

"อ้าวไอ้แม็คตื่นเช้าเลยนะมึง" หึ! ยังมีหน้ามาทักทายเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ผลัวะ!

"ว้าย! คุณเชน! / พี่เชน!"

ผลัก!

"นี่คุณทำบ้าอะไรมาต่อยพี่เชนทำไม!" ข้าวแกงเดินมาผลักอกผมที่กำลังจะซ้ำมันอีกรอบแล้วก็ตะคอกถามผมเสียงดัง กล้าถามแบบนี้ผมก็เลยยิ่งโมโห

"ต่อยทำไมเหรอ! ไม่ทำร้ายเธอด้วยก็บุญหัวแล้วข้าวแกง!" ผมจับข้อมือเธอขึ้นมาบีบเต็มแรงแล้วก็กระชากออกมาให้ไกลจากไอ้เชนที่โดนต่อยจนล้ม

"ทำบ้าอะไรของคุณ!"

"ฉันต้องถามเธอมากกว่าไหมว่าทำบ้าอะไร! เผาแม่ฉันเสร็จก็ออกลายเลยเหรอ! มันอดใจไม่ได้เหรอวะถึงต้องรีบหอบผ้าหอบผ่อนไปอยู่กับชู้!"

"ถ้างั้นก็ไปหย่าเลยสิคะ" ผมโคตรเกลียดที่เธอเชิดหน้าท้าทายผมตอนนี้เลย

"หึ! รอเวลานี้มานานรึยังข้าวแกง เวลาที่เธอจะได้สมบัติอย่างที่เธอต้องการ"

"อะไรของคุณ?"

"หึ ๆ ก็สินสมรสไง ที่เมื่อก่อนไม่ยอมหย่าเพราะสินสมรสมันน้อยใช่ไหม พอแม่ฉันตายมรดกทุกอย่างตกเป็นของฉันแล้วก็เลยพร้อมหย่าทันที ทำไม? จะเอาสมบัติฉันไปเสวยสุขกับใคร!" ผู้หญิงคนนี้แม่ง ต่อให้พยายามมองให้ดียังไงสุดท้ายเธอก็เผยธาตุแท้ออกมาทุกครั้ง!

"อย่ามาดูถูกกันนะคุณแม็ค สมบัติของคุณฉันไม่เคยต้องการ!"

"เหรอ ไม่ต้องการจริงเหรอข้าวแกง" ผมแค่นยิ้มเยาะใส่เธอ พูดมาแล้วใครจะเชื่อ ผู้ร้ายที่ไหนจะยอมรับสารภาพถ้าไม่จำนนต่อหลักฐานจริง ๆ

"คนอย่างคุณก็คิดได้แต่อะไรที่มันแย่ ๆ นั่นล่ะค่ะ"

"ผู้หญิงอย่างเธอมันก็คิดดีไม่ได้เหมือนกัน"

"พอแล้วไอ้แม็ค มึงดูถูกข้าวแกงเกินไปแล้ว" ไอ้เชนเดินมายืนข้างข้าวแกงแล้วก็จับมือผมเหมือนต้องการให้ผมปล่อยมือเธอ

"เรื่องของครอบครัวกูมึงอย่าเสือก!" ถ้าไม่เห็นว่ารู้จักกันมาตั้งแต่เด็กไอ้หน้าสำอางนี่โดนตีนผมไปแล้ว ไม่มีทางโดนแค่หมัดเดียวหรอก

"ปล่อยข้าวแกงซะไอ้แม็ค มึงอย่าทำร้ายผู้หญิง"

"หึ! ไปสุภาพบุรุษที่อื่นไป ส่วนเธอมานี่!" ผมลากข้าวแกงไปทางบันไดท่ามกลางเสียงร้องตกใจของแม่บ้าน

"ไอ้แม็คมึงจะพาข้าวแกงไปไหน!"

"นี่มันบ้านกู! คนในบ้านกู! คนนอกอย่างมึงมีสิทธิ์อะไรมาถามวะ! ขวัญใจถ้ามีคนนอกคนไหนเดินเข้ามาเกินห้องโถงแจ้งตำรวจข้อหาบุกรุกซะ!" ผมสั่งแม่บ้านเสียงดังลั่นบ้านแล้วก็กระชากผู้หญิงแพศยาขึ้นบันไดทันที

"นี่! ปล่อยนะคะคุณแม็ค!"

"หุบปาก! ถ้าไม่อยากโดนดีก็เดินตามฉันมา!" ได้ผลเพราะเธอยอมเงียบ ไม่ต้องอยากรู้หรอกว่าโดนดีคืออะไร เอาเป็นว่าผู้หญิงคนนี้ไม่อยากโดนแน่นอน หรืออยากโดนแต่แค่ต้องไม่ใช่ผมที่ทำ

ตุบ!

ปัง!

"อยู่ในนี้แล้วห้ามไปไหน" ผมเหวี่ยงเธอไปที่เตียงใหญ่ในห้องนอนของผมเอง

"คุณบังคับฉันไม่ได้นะคะ"

"บังคับไม่ได้ก็ลองดูสิ ลองขัดคำสั่งสิข้าวแกง เธอก็รู้ถ้าฉันสุดมันจะเป็นยังไง!"

"คุณทำแบบนี้กับฉันไม่ได้" เธอพูดเสียงนิ่ง คงพยายามข่มเสียงไม่ให้ตะคอกตอบโต้ผม

"เหรอ? ฉันทำได้หรือไม่ได้อยากพิสูจน์เลยไหมล่ะ ยิ่งอารมณ์แบบนี้จะเอาเลยก็ได้นะข้าวแกง เธอรู้ดีกว่าใคร...ว่ามันเจ็บแค่ไหน"

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP