“ลุกขึ้น!”
แต่วิธีการนั้น เขาไม่เคยทำมันกับใครถ้าไม่ใช่คนรัก เฟยหลงสลัดความรู้สึกแปลกๆทิ้ง เอื้อมมือไปกระชากท่อนแขนเล็กฉุดรั้งให้ลูกขึ้น ลากเธอออกไปจากห้องก่อนที่ตัวเองจะทำแบบที่คิดจริงๆ เดินลิ่วไปขึ้นลิฟต์โดยที่คนตัวเล็ก ได้แต่ลากขาตามไปอย่างห้ามไม่ได้
ติ๊ง!
เมื่อเสียงเตือนดังขึ้น ประตูลิฟต์ก็เปิดกว้าง เฟยหลงยกมือปัดเส้นผมที่ปกระใบหน้าขึ้น มองคนที่ยืนเงียบอยู่ข้างๆ ไล่สายตามองคนตัวเล็กอย่างสำรวจ แม้เสียงร้องไห้จะเงียบไปแล้วตั้งแต่เขาลากเธอออกมา แต่น้ำตามันยังไม่หายไปจากใบหน้าสวยหวานนี้เลย เธอไปเอาน้ำตามาจากไหนเยอะแยะ
“นี่!”
“อ๊ะ! อึก!”
ดวงตาคลอน้ำช้อนขึ้นมอง ก้าวถอยหลังไปจนชิดผนังลิฟต์ ยกมือขึ้นป้องกันตามสัญชาตญาณ เธอไม่ควรกลัว บอกตัวเองแบบนั้นมาตลอด แต่พอเอาเข้าจริงๆ เธอกลับรู้สึกกลัวเขามาก
เธอถูกเพื่อนๆ เรียกว่าสาวมั่น ไม่มีอะไรที่สามารถสั่นคลอนคนแบบเธอได้ แต่อยู่กับเขา เธอกลายเป็นคนอ่อนแอ กลายเป็นเธอคนเดิมที่พ่ายแพ้ จนต้องหนีไปเลียแผลใจไกลถึงต่างแดน
“อยะ อย่าเข้ามานะ!”
เมื่อนึกถึงตัวเองหลังจากนั้น ใบหน้าสวยหวานก็เชิ่ดขึ้น น้ำตาเหมือนจะเหือดแห้งไป ดวงตาฉายความชิงชังออกมาจนคนที่กำลังก้มหน้าลงเพื่อทำบางอย่าง ผละออกห่างเพื่อมองแววตาคู่นั้นให้ชัด
“ …? ทำเหมือนฉันจะขืนใจเธอ?”
“แล้วเมื่อกี้มันไม่ใช่เหรอคะ?!”
“ก็ …”
เฟยหลงตอบไม่ได้ แม้ไม่ใช่แต่มันก็ใกล้เคียง ความโกรธทำให้เขาควบคุมตัวเองไม่ได้ ถ้าหากเธอไม่ส่งเสียงร้องไห้จนรู้สึกรำคาญ เขาอาจจะทำอย่างนั้นจริงๆ ช่วงชิงความสาวของเธอมา โดยที่เธออาจจะไม่เต็มใจ
บ้าเอ้ย! คนแบบเขาจำเป็นต้องทำแบบนั้นที่ไหน มีแต่ผู้หญิงอยากจะถวายตัวให้ มันต้องไม่ใช่แบบนั้นสิ
“มันจะเป็นแบบนั้นได้ยังไง”
“คุณ..คุณจะบอกว่า เมื่อกี้ ไม่ได้คิดจะทำอะไรฉัน?”
น้ำเสียงหวานเจือความโกรธชัดเจน ถ้าเขาตอบว่าไม่ใช่ เธออาจจะเก็บสีหน้าไว้ไม่ได้ ระเบิดความโกรธออกมา หรือไม่ก็อาจจะควบคุมร่างกายไม่ไหว ตรงเข้าไปกระชากเส้นผมนุ่มสลวยนั่นซะ
“ก็คิด แต่ … ฉันมั่นใจว่านั่นไม่ใช่การฝืนใจ!
ริมฝีปากหยักลึกเหยียดยิ้ม สีหน้ามั่นใจของเขา ทำคนมองเหยียดยิ้มหยันเช่นกัน คนหลงตัวเองทำให้เธอรู้สึกเกลียด มือเล็กเผลอยกขึ้นสูง ดันใบหน้าหล่อเหลาออกห่างอย่างรวดเร็ว
“ค่ะ! คุณมู่!”
ลี่หมิงขยับไปยืนอยู่ห่างๆ ยกมือขึ้นกอดอก รอให้ลิฟต์โดยสารเดินทางไปถึงชั้นล่างเงียบๆ ทำไมเวลาแบบนี้ มันถึงได้เนินนานนักนะ ตอนที่ถูกเขาลากขึ้นมาบนนี้ ทำไมมันถึงรวดเร็วนัก
“เธอชื่ออะไรนะ?”
เฟยหลงถามขึ้นทำลายความเงียบ มองตัวเลขที่ใกล้จะถึงชั้นที่ต้องการเล็กน้อย เวลาผ่านไปเร็วจัง หรือเขาควรจะทำอาคารแห่งนี้ใหม่ เพิ่มจำนวนชั้นขึ้นไปอีก ให้มันสูงขึ้นกว่าตอนนี้ เขาจะได้มีเวลาสำรวจผู้หญิงตัวเล็กนี่นานๆ
“….”
“ถ้าไม่ตอบ ฉันจะไม่ไปส่ง จะลากเธอกลับขึ้นไป โยนขึ้นบนเตียงแล้วกระหน่ำแทงจนเธอลุกไปไหนไม่ได้”
คนตัวโตขยับไปพูดขู่ใกล้ๆ ใบหูเล็ก คนถูกขู่หันไปมอง กร่นด่าเขาอยู่ในใจ ฉายเพียงความเขินอายออกมาทางสีหน้า
“ฟู … ฟูหลิน ค่ะ”
“ฟูหลิน … อืม ฉันมั่นใจว่าอีกไม่นาน เธอจะเป็นฝ่ายเดินขึ้นมาบนเตียงของฉันเอง”
พูดจบก็คว้าข้อมือเล็กออกเดิน คนด้านหลังด่าเบาๆแบบไม่ออกเสียงเขาเป็นคนมั่นใจในตัวเองสูง แต่ดันใช้มันกับเรื่องแบบนี้ น่าสงสารผู้หญิงที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเขา และที่น่าสงสารที่สุด มันคือตัวเธอที่ครั้งหนึ่ง เคยวูบไหวไปกับคำพูดแบบนั้นของเขา
ชั่วโมงต่อมา
รถยนต์คันหรูจอดลงหน้าอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่ง ซึ่งลี่หมิงเป็นคนบอกเจ้าของรถเอง หลังจากที่รู้ว่าเขาจะพาไปส่งที่บ้าน อพาร์ตเมนต์แห่งนี้เป็นเพียงหนึ่งในแผนการ เธอบอกเขาไปส่งๆ ไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่จริงๆ
“เธอจะไม่ขอบคุณฉันหน่อยเหรอ ฟูหลิน”
“อ่า … ขอบคุณค่ะ”
คนที่กำลังจะเปิดประตูรถหันกลับไปกล่าวคำขอบคุณ ยังไม่คุ้นชินกับชื่อจอมปลอมที่ตัวเองบอกเขาไป ใบหน้าสวยหวานฉายความกังวล มันเป็นแบบนี้ตั้งแต่นั่งอยู่บนรถของเขา แผนการของเธอรวนไปหมด เพราะการพบเจอครั้งนี้
“เป็นอะไร? เดินลงไปไม่ไหวเหรอ?”
“ไหว! ไหวคะ ฉันไปเองได้ ขอบคุณอีกครั้งค่ะคุณมู่”
คนตัวเล็กตอบอย่างลนลาน ไม่ต้องการให้เขาลงไปส่ง เพราะกลัวเขารู้ว่าเธอไม่ได้อาศัยอยู่ที่นี่จริงๆ เมื่อร่างสูงไม่ขยับตัวตามอย่างที่กลัว ลี่หมิงก็รีบเปิดประตูรถยนต์แบบสปอร์ตออก ยังไม่ทันได้ปิดประตู คนด้านในก็ส่งคำขู่ให้รู้สึกกลัว
“รีบเข้าไปข้างในล่ะ ก่อนที่ฉันจะเปลี่ยนใจพาเธอกลับไปด้วย”
ปึ่ง!
ลี่หมิงก้าวเดินออกห่างจากรถด้วยความรวดเร็ว สาวเท้าเข้าไปใกล้อาคารขนาดใหญ่ ไม่หันกลับไปมองแต่ก็รู้ได้ว่ารถยนต์ที่มาส่งเคลื่อนตัวออกไปแล้ว ดวงตาหวานฉายความโกรธออกมา
“ตั้งสติหน่อยสิลี่หมิง ลืมไปแล้วเหรอว่าเขาทำอะไรเธอไว้!”
มือเล็กยกขึ้นตบหน้าตัวเองเบาๆ เพื่อเตือนสติ เธอเผลอหวั่นไหวกับเสน่ห์ของเขาไปชั่วขณะ เผลอใจเต้นโครมครามตอนที่ถูกเขาสัมผัส หลงลืมความเจ็บปวดของตัวเองที่มันเกิดขึ้นเพราะเขา เธอกลับมาเพื่อทำให้เขาเจ็บปวด ไม่ได้กลับมาเพื่อหลงรักเขาอีกครั้งนะ
จมอยู่กับอดีตสักพัก ลี่หมิงก็ดึงตัวเองออกมา ล้วงหาโทรศัพท์ในกระเป๋ากางเกงยีนส์ โทรไปบอกให้คนที่บ้านขับรถมารับ ยืนรออยู่เพียงไม่นาน รถคันหรูของที่บ้านก็ขับเข้ามาจอดเทียบอยู่ริมถนน ร่างบอบบางก้าวเดินไปขึ้นรถ เมื่อรถเคลื่อนออกไปก็หลับตาปิดกั้นความคิด ฤทธิ์แอลกอฮอล์ดึงสติไปอย่างรวดเร็ว ใช้เวลาเพียงไม่นานก็หลับสนิท
วันรุ่งขึ้น
บ้านหลังใหญ่กลางย่านเศรษฐกิจ และกินอาณาเขตกว้างขวางสมฐานะ เกิดความวุ่นวายตั้งแต่เช้ามืด เพราะจะมีแขกมาร่วมทานมื้อกลางวันด้วย และวุ่นวายมากขึ้น เมื่อคุณหนูเล็กยังไม่โผล่หน้าออกมาให้ใครเห็นเลย
“ลี่หมิงอยู่ไหน?”
ใบหน้าสวยงามไร้ริ้วรอยแห่งวัยเครียดขรึม เหล่าหญิงรับใช้หน้าซีดเผือด มีเพียงพี่เลี้ยงคนสนิทที่สีหน้าคงเดิม คุณหนูเล็กก่อเรื่องอีกแล้ว ทั้งๆที่เธอแจ้งแล้วว่าจะมีแขกมา ทำไมยังทำแบบนี้กับเธอได้ หาเรื่องให้เธอถูกคุณนายไล่ออกอีกแล้ว
“คุณหนูบอกว่าปวดหัวค่ะ”
“ปวดหัว? เมื่อวานยังดีๆอยู่เลย”
“เพิ่งจะเป็นตอนเช้ามืดค่ะ”
“ไม่ใช่ว่าเมา?”
“ไม่ใช่แน่นอนค่ะ”
“อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ เมื่อคืนคุณเฉินขับรถออกไปรับลี่หมิงใช่ไหม?”
“อ่า”
“ไปบอกให้เธอเตรียมตัวซะ ถึงจะไม่ชอบแค่ไหน ก็ต้องฝืนใจลงมาต้อนรับ”
ใบหน้าสวยงามไม่แสดงสิ่งที่อยู่ภายในใจให้ใครรู้เลย เมื่อพี่เลี้ยงของลูกสาวก้าวออกไปทำหน้าที่ ลมหายใจก็ถูกพรูออกมาช้าๆ
ไม่ชอบใจแค่ไหนก็ต้องฝืนใจต้อนรับ เพราะท่านเองก็เป็นแบบนั้นเหมือนกัน