ทุกอย่างของเธอเป็นปริศนา และเธอมาเพื่อทำให้เพลย์บอยอย่างเขาตกหลุมรัก ในค่ำคืนหนึ่งของผับชื่อดังอย่าง high bar การปรากฏตัวของสาวสวย ท่าทางอ่อนต่อโลก ดึงดูดความสนใจของเหล่านักล่าในผับแห่งนั้น โดยเฉพาะเขา ‘มู่เฟยหลง’ ผู้ชายที่เป็นเจ้าของสถานที่ เขาสนใจเธอมาก อยากครอบครองเธอเป็นคนแรก และเขาทำมันสำเร็จ แต่ … หญิงสาวที่เขาคิดว่าไร้ประสบการณ์ กลับเร่าร้อนสุดๆตอนอยู่บนร่างของเขา คืนแรกของเธอ คนแรกของเธอ เขาไม่รู้สึกเลยว่ามันจะเป็นอย่างนั้น และวันรุ่งขึ้น เธอไม่ยอมอยู่ข้างๆให้เขาคลายความสงสัย เธอหายไป พร้อมกับความสงสัยทั้งหมด และความสนใจที่เพิ่มมากขึ้นกว่าเดิม
ดูเพิ่มเติม@Hight bar
ผู้หญิงรูปร่างเล็กเดินผ่านการ์ดของผับชื่อดังเข้าไปด้านใน ผ้าชิ้นเล็กอย่างเกาะอกสีดำ ขับให้หน้าอกของคนใส่ดูใหญ่กว่าตัว ถุงน่องสีดำสนิทขับให้ท่อนขาเรียวสวยดูเซ็กซี่ขึ้น การมาถึงของเธอ ดึงดูดสายตาของผู้ชายเกือบทุกคน ที่ดื่มกินอยู่ในโซนวีไอพี แต่สิ่งที่ทำให้เธอดึงดูดผู้คนมากที่สุด กลับไม่ใช่การแต่งกายด้วยเสื้อผ้าน้อยชิ้น หรือรูปหน้าสวยหวาน แต่มันเป็นท่าทางอ่อนต่อโลกของเธอมากกว่า ที่ดึงดูดความสนใจของเหล่านักล่า ผู้ชายที่หิวกระหายเหยื่อสาวบริสุทธิ์ ง่ายต่อการล่อลวง
“มู่เฟยหลง” ชายหนุ่มผู้เป็นเจ้าของสถานที่แห่งนี้เองก็เช่นกัน เขาสนใจเธอตั้งแต่แรกเห็น ไม่อาจละสายตาไปที่ไหน หิวกระหายในการล่า จนเพื่อนสนิทที่นั่งดื่มอยู่ด้วยกัน เริ่มสังเกตเห็นความผิดปกติ
“มีอะไรหรือเปล่าอามู่?” ซีฮันยกมือขึ้นสะกิดไหล่เพื่อนที่นั่งอยู่บนโซฟาข้างๆกัน
“…”
“…?”
เมื่อเพื่อนสนิทไม่ยอมเปิดปากตอบคำถาม ซีฮันจึงมองตามดวงตาสีดำลึกลับคู่นั้นไป ดวงตาสีเทาอ่อนลุกวาว เผลอยกมือลูบริมฝีปากด้วยความเคยตัว
ห่างออกไปจากจุดที่เขากับเพื่อนนั่งอยู่ราวๆห้าเมตร ในส่วนของบาร์เหล้านั้น มีสาวเจ้าท่าทางไม่ต่างจากกระต่ายน้อยนั่งอยู่ แม้จะเห็นเพียงด้านข้าง เพราะเธอนั่งกระสับกระส่ายหันใบหน้าไปมา แต่ก็เห็นเค้าความสวยงามบนใบหน้านั้ชัดเจน แสงไฟจากแชนเดอเรียกระทบดวงตาคู่หวานจนมันแวววาว จมูกโด่งเชิ่ดรั้นขึ้นเล็กน้อย ยิ่งได้แสงไฟจากด้านบนสาดส่องลงมา ยิ่งขับให้สันจมูกดูโด่งคมมากยิ่งขึ้น ไหนจะริมฝีปากจิ้มลิ้มน่าบดริมฝีปากลงไปนั่นอีก
ว้าว !! เธอคนนั้นเป็นเหยื่อชั้นเลิศ สำหรับเหล่านักล่าที่อยู่บริเวณนี้เลยนี่นา
“คนนี้ฉันจอง!”
มู่เฟยหลงบอกเพื่อนเสียงเรียบ ท่าทางของเพื่อนสนิทที่คบหากันมายาวนานบอกได้ชัดเจน ซีฮันเองก็สนใจผู้หญิงคนนั้นเหมือนกันกับเขา แต่เขาเห็นเธอก่อนที่เพื่อนจะเห็น และสนใจเธอมาก จนไม่อยากให้เธอถูกผู้ชายคนไหนชิงตัดหน้าไปก่อน เพื่อนสนิทก็สละให้กันไม่ได้
เขาต้องได้ลิ้มรสชาติเธอเป็นคนแรก
“ก็ … สวยแหละ” ซีฮันพิจารณาหญิงสาวคนนั้นอีกครั้ง ก่อนจะส่ายหน้าเบาๆ เมื่อเธอห่างไกลจากสเปกตัวเอง ซึ่งเพื่อนไม่เคยรู้ เพราะส่วนใหญ่เขาก็ได้หมดขอแค่สวย “… แต่ผู้หญิงตัวเล็ก ไม่ใช่สเปกฉัน แล้วก็ … แกช้าไปหนึ่งก้าวว่ะเฟยหลง หึๆ”
ซีฮันหัวเราะในลำคอ เมื่อคำพูดของตัวเองเรียกสายตาไม่พอใจจากเพื่อนสนิท ดวงตาสีเทาอ่อนเบนไปทางสาวสวยท่าทางอ่อนต่อโลก หัวเราะในลำคออีกครั้ง เมื่อเห็นรูปลักษณ์ภายนอกของผู้ชายใจกล้า ที่กำลังเดินปรี่เข้าไปทำคะแนนกับสาวสวยคนนั้นก่อนเพื่อนของตัวเอง
รูปลักษณ์อ้วนท้วนไม่น่าขำเท่าไหร่ แต่สีหน้ากระลิ่มกระเหลี่ยเหมือนได้กินเหยื่อแล้วของหมอนั่นนะสิ ที่ทำให้ซีฮันปิดปากขำจนปอดแทบโยก
ให้ตาย! ไอ้นั่นมันไปเอาความมั่นใจมาจากไหนเยอะแยะขนาดนั้นวะ
“ฉันดูดีกว่าไอ้นั่นเยอะเลย”
มุมปากหยักสีแดงคล้ำของคนชอบดูดบุหรี่ เหยียดออกเป็นเส้นตรงหลังจากพูดจบ ยกมือพับแขนเสื้อเชิ้ตสีดำขึ้นลวกๆ เพื่อโชว์นาฬิกาแบรนด์ดังบนข้อมือ แกะกระดุมเสื้อออกจากรังดุมทั้งหมดสามเม็ด ตั้งใจอวดแผ่นอกแน่นหนันสีขาวเนียน ซึ่งเป็นผลลัพธ์จากการเสียเวลาเข้าฟิตเนสราคาแพงลิ่ว
เมื่อมั่นใจว่าตัวเองดูดีกว่าผู้ชายทุกคนที่อยู่ที่นี่ ชายเจ้าของสถานที่ก็ยืดตัวลุกขึ้นจากโซฟา ก้าวเดินช้าๆไปหาเป้าหมาย หญิงสาวที่กำลังตกเป็นเหยื่อให้เหล่านักล่าหมายหัว นั่งมองซ้ายขวาราวกับคนที่เพิ่งจะรู้สึกตัว ว่าตัวเองเดินหลงเข้ามาอยู่กลางวงนักล่า
“ให้ผมเป็นเจ้ามือคุณเถอะนะคนสวย”
“ขอโทษที่ขัดจังหวะนะ แต่ … เธอมากับฉัน”
เสียงนุ่มทุ้มแต่แฝงไปด้วยอำนาจ ส่งผลให้ผู้ชายที่กำลังคุยจ้อบางอย่างอยู่เพียงฝ่ายเดียว หยุดการสนทนาทั้งหมดลง มุมปากสีคล้ำของคนพูดเหยียดออกกว้างกว่าเดิม หลังจากประเมินคู่ต่อสู้เสร็จ ย่อตัวลงนั่งบนแผ่นหนังบุนวมของเก้าอี้ตัวยาว ยกมือขึ้นโอบบนไหล่ขาวเนียน ไม่เพียงแค่แสดงกิริยาเหมือนเป็นเจ้าของเธอ เขายังส่งสายตาดุดันไปไล่ ผู้ชายที่รู้สึกคุ้นหน้าเหมือนเคยเห็นผ่านสายตาในแวดวงธุรกิจอะไหล่รถยนต์
“เอ่อ! จริงเหรอครับ?”
ชายเจ้าของธุรกิจอะไหร่รถยนต์ มองหน้าชายหนุ่มที่ดูภูมิฐานกว่าตัวเอง ด้วยสีหน้าที่บ่งบอกชัดเจน ว่าไม่เชื่อในสิ่งที่เขาคนนี้พูดออกมาเลยแม้แต่น้อย
มันก็เชื่อยากอยู่นะ เพราะเขาเห็นเธอตั้งแต่เดินอยู่หน้าบาร์ และเป็นฝ่ายเดินตามเธอมาจนถึงที่นี่ เห็นชัดว่าเธอมาคนเดียว ส่วนคนที่อ้างว่ามากับเธอ เห็นนั่งอยู่กับเพื่อนๆ ในบริเวณที่ห่างจากจุดนี้ไปหลายเมตร ซึ่งเดาว่าเขาน่าจะอยู่ที่นี่นานพอสมควรแล้ว
“อ๊ะ! ทางนี้ๆ! ขอโทษนะคะ ช่วยหลีกทางให้เพื่อนฉันหน่อยได้ไหม ทั้งคู่เลยค่ะ”
ดวงตาคู่หวานฉายความไม่พอใจออกมาจางๆ พยายามขืนร่างกายหนีจนท่อนแขนใหญ่ที่วางพาดอยู่บนไหล่ขาวเนียน ร่วงหล่นกลับไปอยู่ข้างๆร่างกายกำยำของคนขี้ตู่ เอ่ยปากไล่คนหน้าด้านกับคนหน้ามึนที่ยืนทำหน้างงๆอยู่ เพื่อขอทางให้เพื่อนสาวรูปลักษณ์โดดเด่นเดินผ่านเข้ามานั่ง
“ขอโทษที่ฉันมาช้านะ มีปัญหาอะไรหรือเปล่า?”
“อื้อ! ไม่มีหรอก นี่! ช่วยหลบออกไปหน่อยได้ไหมค่ะ ที่นั่งตรงนี้เป็นของเพื่อนฉัน”
ใบหน้าสวยหวานแต่งแต้มเครื่องสำอางบางเบา ดูโดดเด่นและอ่อนหวานสุดๆ หันไปขอร้องคนข้างๆอีกครั้งด้วยท่าทางซื่อๆ การกระทำนั้นทำให้คนมองใจอ่อน สิ่งที่เธอทำอยู่ มันดูออดอ้อนซะจนหัวใจของเพลย์บอยหนุ่มกระตุกไปครู่หนึ่ง
ช่างเป็นเหยื่อตัวน้อย ที่ควรค่าแก่การล่าจริงๆ
“เสียดายนะ ฉันนึกว่าเรารู้จักกันซะอีก”
มู่เฟยหลงหยักยิ้มเจ้าเล่ห์ ยอมลุกขึ้นจากเก้าอี้ตัวยาว ก้าวไปยืนอยู่ข้างๆเพื่อนสาวคนสวยของเธอ ค้อมร่างสูงใหญ่ลงนิดๆ เพื่อเชิญให้เธอคนนั้นนั่งลงบนเก้าอี้ว่าง ที่ตัวเองเสียสละให้ด้วยความรู้สึกเสียดาย
แต่ความรู้สึกเสียหน้ากลับมีมากกว่า ไม่เคยถูกใครเมินเลยสักครั้ง ผู้หญิงสองคนนี้เป็นครั้งแรก ที่ผู้ชายอย่างมู่เฟยหลงคนนี้ถูกเมินอย่างชัดเจน
“อย่ามายุ่งกับเธอ!”
หญิงสาวใบหน้าสวยคม รูปร่างสูงโปร่ง และมีสัดส่วนลงตัว เขย่งปลายเท้าขึ้นไปเล็กน้อย เพื่อเอ่ยคำเตือนผู้ชายที่ดูอันตรายกับผู้หญิงมากที่สุด ไม่ให้เข้ามาใกล้หญิงสาวท่าทางตื่นกลัว เตือนเสร็จก็ใช้ไหล่กระแทกไหล่หนาเบาๆ เพื่อดันให้เขาออกห่างจากทางเดิน ย่อนสะโพกนั่งลงข้างเพื่อนสาว ทั้งยังโอบแขนเรียวยาว พาดไปบนลาดไหล่เปลือยเปล่า เพื่อปิดกั้นทุกสายตาของพวกนักล่าที่กำลังมองอยู่
เฟยหลงจำต้องล่าถอย ความเสียหน้าทำให้เกิดความรู้สึกท้าทาย อยากจะเอาชนะ แม้จะกลับไปนั่งรวมกลุ่มอยู่กับเพื่อนแล้ว สายตาของเขาก็ยังหยุดนิ่งอยู่ในจุดเดิม
ผู้หญิงทั้งสองคน น่าสนใจทั้งคู่เลย แต่เฟยหลงกลับเทความสนใจไปที่ผู้หญิงคนแรกมากกว่า เพราะเธอดูอ่อนต่อโลกและไร้ประสบการณ์ น่าจะเป็นเป้าหมายที่ล่าได้ง่ายกว่าผู้หญิงอีกคนที่ดูกร้านโลกกว่า เมื่อเลือกเป้าหมายได้แล้ว เขาก็คิดหาวิธีหลอกล่ออยู่ในใจ จนไม่สนใจเพื่อนที่ดื่มอยู่ด้วยกันอีกเลย
ฟูหลินใช้มือข้างที่ถนัดพยุงร่างของเพื่อนสนิทไว้ อีกมือใช้มันล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋าแบรนด์ดัง เพื่อโทรขอความช่วยเหลือจากคนในบ้านคนอื่น ซึ่งพี่ซีเหวินว่าที่สามีของเธอ ให้เบอร์ติดต่อไว้แล้ว เพื่อเรียกใช้ในตอนที่จำเป็น“สวัสดีค่ะคุณแม่บ้าน รบกวนมาช่วยฉันพาตัวลี่หมิงขึ้นไปนอนบนเตียงหน่อยได้ไหมคะ?”ฟูหลินใช้น้ำเสียงที่บ่งบอกได้ถึงความเกรงใจ ถึงเธอจะเข้ามาเป็นสะใภ้ใหญ่ของตระกูลถิง แต่ไม่มีความคิดจะยกตนเหนือคนอื่น ปฏิบัติกับทุกคนตามหน้าที่ และยึดหลักความเท่าเทียมในฐานะมนุษย์ไว้ผ่านไปเพียงแค่ห้านาที ประตูไม่เนื้อดีก็ถูกผลักเข้ามา คนที่ผลักประตูบานนั้นคือพี่เลี้ยงคนสนิทของลี่หมิง ท่าทางบอบบางของผู้เป็นนาย ทำเอาน้ำตาเม็ดโตร่วงหล่นลงพื้น“ช่วยหน่อยนะคะ”ฟูหลินเข้าใจ เพราะเธอเองก็สงสารเพื่อนสนิทไม่ต่างกัน ทั้งสองคนช่วยกันพยุงร่างคนหลับไปนอนบนเตียง หลังจากนั้นพี่เลี้ยงก็ขออาสาเป็นคนดูแลต่อ หาผ้าชุบน้ำหมาดๆมาเช็ดตัวให้ หาชุดอื่นมาให้ใส่ จากนั้นก็ปล่อยให้นอนพักผ่อนอยู่ตามลำพังลี่หมิงนอนฝันร้ายทั้งคืน ในฝันของเธอมีคนพยายามแย่งเด็กคนหนึ่งไปจากเธอ เด็กคนนั้นเป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้ม ในวินาทีแรกที่ได
“ผมก็หวังให้เป็นแบบนั้นครับ”“อือ จะไปดูคนที่ไปกับลีหน่อยไหม เธออยู่ห้อง 304”“ครับ? ลีไม่ได้ไปคนเดียว?”“ไม่นะ มีผู้หญิงคนหนึ่งถูกพามาพร้อมกัน”“?”“ชื่อถิงถิง หลินถิงถิง”“หลินถิงถิง? เลขาของฉันนี่คะ?”“อ่า งั้นไปดูเธอกัน ลีผ่าตัดเสร็จค่อยมาดูเขา”เฟยหลงสรุป คนทั้งสองก้มหน้าลงเพื่อกล่าวคำลากับพ่อของลี จากนั้นก็เดินไปตามทางเดิน มีพยาบาลที่อยู่แถวนั้นรับอาสาพาไปที่ห้อง ลี่หมิงพยายามไม่โทษตัวเอง แต่ยิ่งพบว่ามีคนบาดเจ็บเพราะมีสาเหตุเป็นเธอ ความคิดยิ่งดำดิ่งลงลึก“คุณหลินถิงถิงอยู่ในห้องค่ะ คุณหมอให้เยี่ยมได้แค่สิบนาทีนะคะ”พยาบาลพูดจบก็เดินจากไป เฟยหลงเปิดประตูห้องออก เดินนำเข้าไปก่อน ลี่หมิงเดินตามเข้าไปบ้าง ก้าวขาแทบไม่ออกเมื่อเห็นเลขาที่เคยอารมณ์ดี นอนอยู่บนเตียง มีสายน้ำเกลือเสียบอยู่ที่แขนซ้ายของเธอ ขาถูกพันด้วยผ้าสันนิษฐานว่าด้านในนั้นน่าจะเป็นเฝือก“เอ่อ สวัสดีค่ะ/สวัสดีครับ”ชายวัยกลางคนสวมชุดกราวหันกลับไปมอง ยกมุมปากขึ้นยิ้มแต่แววตากลับไม่ได้ยิ้มตาม เพียงไม่นานก็หันกลับไปแบบเดิม จ้องมองลูกสาวแสนรักเงียบๆ นึกเสียใจที่รักเธอมากเกินไป ยอมตามใจเธอทุกอย่าง ปล่อยให้เธอไปใช้ชีวิตในแบบ
“คุณลี คุณลี! ระวัง!”ปัง!เอี๊ยด!รถยนต์เสียหลักเพราะคนควบคุมพวงมาลัยโดนกระสุนจากรถยนต์คันข้างๆ เจาะเข้าบริเวณซี่โครงด้านขวา เหยียบเบรกเท่าที่ร่างกายจะสามารถทำได้ แต่ถึงอย่างนั้นรถที่ขับมาด้วยความเร็วสูงก็ยังพุ่งไปด้านหน้า ลีพยายามบังคับพวงมาลัยไว้ ก่อนสติสุดท้ายจะหมดลงเขาปกป้องเธอได้หรือเปล่า นั่นคือสิ่งที่อยู่กับเขาในความทรงจำสุดท้ายเมื่อรถยนต์สีขาวปะทะเข้ากับเสาไฟในสภาพด้านหน้าพังยับ รถยนต์คันสีดำก็ขับเคลื่อนออกไปจากบริเวณนั้น งานที่ได้รับมอบหมายสำเร็จลุล่วง ไม่ต้องลงไปตรวจสอบก็ได้ เพราะคำสั่งที่ได้รับจากผู้เป็นนาย จะเป็นหรือตายก็ได้เงินเท่ากันถิงถิงหลั่งน้ำตามองเลือดที่หยดตามใบหน้าหล่อเหลา เขาตั้งใจให้รถชนทางฝั่งที่เขานั่ง พยายามรักษาคำพูดว่าจะปกป้องเธอ โดยใช้ตัวเองเข้าแลก เขาบ้ามาก บ้าที่สุด ทั้งที่บอกว่าเธอเป็นผู้หญิงในแบบที่ชอบแท้ๆ แต่ก็ทำร้ายจิตใจเธอด้วยการทำแบบนี้“อย่าตายนะ! ได้โปรด”ถิงถิงได้ยืนเสียงตัวเอง และเสียงไซเรนที่น่าจะเป็นของรถตำรวจ หรือไม่ก็คงเป็นรถพยาบาล แต่เธอไม่ได้ยินเสียงเขา มองไม่เห็นดวงตาที่เคยเย็นชานั่นด้วย ตาเขาสวยนะ เธอชอบมัน ชอบที่สุด“ฮึก! ฮือ! ฉันช
“ผมไปโรงพยาบาล xxx นะ”ลีเอ่ยชื่อโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดออกไป กำลังจะถอยออกไปเพื่อปิดประตู เสื้อก็ถูกดึงไว้ จนมันแถบจะหลุดออกมาจากในกางเกง คนทำเม้มริมฝีปากแน่น ไม่กล้าบอกเหตุผลที่ไม่อยากไปโรงพยาบาลแห่งนั้น“ไปส่งฉันที่บ้านก็พอ”“แต่ขาคุณ”“ช่างขาฉันเถอะค่ะ ข้อเท้ามันแพลงเฉยๆ ไปหาหมอก็ได้แค่ยามากินอยู่ดี”คนที่คลุกคลีอยู่กับโรงพยาบาลมาทั้งชีวิต และมีความรู้ด้านนี้มากพอสมควร พูดเสียงห้วนกับคนตัวโต พิงหลังเข้ากับเบาะรถ เอื้อมไปดึงกระเป๋าจากมือคนที่ยังยืนนิ่ง ล้วงหาโทรศัพท์ออกมาอย่างไม่สนใจ แจ้งกับเจ้านายอีกคนว่าเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น เธอจึงหยิบของที่เขาต้องการไปให้ไม่ได้ โชคดีที่เจ้านายเธอใจดี ไม่เพียงแค่เข้าใจสถานการณ์ เขายังสั่งให้เธอหยุดงานจนกว่าขาจะหายเจ็บ“บ้านคุณอยู่ที่ไหน?”“ถนน XX ย่านศูนย์การค้า M”รถยนต์สีขาวเคลื่อนออกไปจากลานจอดรถ เมื่อคนขับรู้จุดหมายปลายทางที่จะไป ใบหน้าคมคายโดดเด่นด้วยดวงตาสีน้ำทะเลลึก แอบมองคนข้างๆทุกครั้งที่สบโอกาส แปลกใจที่คนสวยขนาดนี้ยังไม่มีคนรัก ที่แปลกใจมากกว่านั้น คือการที่เธอมาสารภาพรักกับตัวเองถ้าตัดเรื่องฐานะกับหน้าตาออกไป เขาคิดว่าตัวเองไม่มีอะไร
“ไปคนเดียวได้ใช่ไหม?”เฟยหลงถามรุ่นน้องมากฝีมือด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล มั่นใจว่าลีเอาตัวรอดได้ เพราะเขาเป็นถึงทายาทของบริษัทรักษาความปลอดภัยอันดับหนึ่งของประเทศ แต่ในสถานการณ์แบบนี้ที่ไม่รู้ว่าตระกูลโจวจะมาไม้ไหน เอาการ์ดไปเพิ่มอีกสักคนน่าจะปลอดภัยกว่า“ผมเคลื่อนไหวคนเดียวสะดวกกว่า” ลีตอบ เข้าใจความกังวลของเจ้านาย แต่เคลื่อนไหวคนเดียวสะดวกและรวดเร็วกว่าจริงๆ“ระวังตัวด้วยนะคะคุณลี”“ครับ”ลียืนรอจนกระทั่งรถยนต์คันใหญ่เคลื่อนออกไปจากลานจอดรถ มองจุดหมายปลายทางในโทรศัพท์ที่เจ้านายส่งมาให้ ก้าวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่ทันได้ระวังมุมทางด้านซ้าย เพราะมัวแต่ดูมุมด้านขวา คนที่เดินพ้นมาจากมุมนั้นจึงชนร่างเขาสุดแรงพลั่ก! ตุบ!“อ๊ะ! ขอโทษค่ะ”เลขาสาวเอ่ยปากขอโทษบอดี้การ์ดหนุ่มหล่อของเจ้านาย ทั้งที่ตัวเองล้มพับอยู่บนพื้น และรู้สึกปวดข้อเท้าหนึบๆ ส่วนคนที่เธอชนและเอ่ยขอโทษ ดูเหมือนจะไม่เป็นอะไรเลย ร่างกำยำยังยืนได้อย่างมั่นคง“คุณตามผมมาทำไม?” นั่นคือสิ่งที่ลีสงสัย และมันเป็นสาเหตุที่เขาไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเธอ“คะ? ตามคุณ?”“รถคุณจอดอยู่ชั้นล่าง ไม่มีทางที่คุณจะอยู่ตรงนี้เพราะรถคุณจอดที่นี่”“นี่คุ
ชั่วโมงต่อมาเมื่อมื้ออาหารจบลง ลี่หมิงก็ปลีกตัวไปทำงานของตัวเอง ปล่อยให้พ่อกับพี่ชาย ปรึกษาหารือกับคนรัก เกี่ยวกับวิธีรับมือการเล่นงานจากคนของตระกูลโจว ซึ่งการหารือเต็มไปด้วยความตึงเครียด ตลอดการพูดคุยมีแต่เรื่องให้ปวดหัว และความรุนแรงของแต่ละเหตุการณ์ กว่าจะหาแผนรับมือกับทางนั้นได้ ก็ถึงเวลาเลิกงานของบริษัทพอดี“วันนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน”เพราะคนที่นั่งอยู่อีกฟากมีท่าทีกระวนกระวายมาตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงก่อน ซีหยวนจึงหยุดการหารือไว้เพียงแค่นั้น อีกอย่างแผนการที่มู่เฟยหลงเสนอมาก็ไร้ช่องโหว่ น่าจะรับมือกับการระรานของคนจากตระกูลโจวได้อย่างถาวร“ผมไปหาลี่หมิงนะครับ”เพียงไม่นานก็ไร้เงาของคนพูด ผู้นำของตระกูลถิงยกยิ้ม มองหน้าลูกชายเพื่อหาแนวร่วม เมื่อเห็นความพอใจบนใบหน้าลูกชาย รอยยิ้มก็ฉายออกกว้างกว่าเดิม“เหลือด่านสุดท้ายสินะ”“ถ้าแม่ได้เห็นสีหน้าเขาเมื่อกี้ ท่านให้ผ่านแน่นอนครับ”“นั่นสิ เพิ่งจะเคยเห็นเจ้าชายเพลย์บอยทำสีหน้าแบบนั้น”สำหรับถิงซีหยวน มู่เฟยหลงไม่ต่างจากเจ้าชาย เพราะเขาเกิดในตระกูลที่มั่งคั่ง ติดอันดับต้นๆของประเทศ ซ้ำยังเป็นหลานคนเดียวที่เป็นผู้ชาย ตำแหน่งผู้นำรุ่นต่อไปของต
ความคิดเห็น