กุ้ยเฟยยิ้มหวานมองฮองเฮาที่เดินเข้ามาอย่างรู้งาน ดวงตาของนางไม่ต่างจากฮองเฮาที่มองจ้องกันไปมาอย่างแข็งกร้าว
“พี่สาว วันนี้ท่านลำบากเดินมาหาข้าถึงตำหนักได้เลยรึ” กุ้ยเฟยลุกขึ้นทำความเคารพก่อนจะยกที่นั่งประธานให้ฮองเฮาไปนั่งแทนตน
“หึหึ เปิ่นกงเห็นว่ามีเรื่องน่าสนุกที่ตำหนักของเจ้า จึงได้เดินมาร่วมชมด้วย อ๊ะ...ฮูหยินหลี่เจ้ามาทำอันใดที่นี่” กุ้ยเฟยกลอกตาอย่างเบื่อหน่าย การแสดงของฮองเฮาช่างน่าขันนัก
“กุ้ยเฟยต้องการให้หม่อมฉันทำฉลองพระองค์ถวายสักสองสามชุด มิใช่ว่าหม่อมฉันจะไม่เต็มใจทำให้ เพียงแต่จำต้องเดินทางกลับไปซานตงก่อนเพคะ” หว่านหนิงได้ทีนางก็เอ่ยฟ้องเรื่องราวออกมาจนหมด
“หึหึ ฮูหยินหลี่เจ้ามิต้องกังวลใจ น้องสาวข้านางรอได้ จริงหรือไม่” ฮองเฮาหันไปถามกุ้ยเฟย
“จริงเพคะ” นางกัดฟันพูดออกมา ผู้ใดจะกล้าบอกว่าไม่จริงเล่า ยิ่งตอนนี้ฮองเฮาและบุตรของพระองค์กำลังได้รับความโปรดปรานอย่างหาที่สุดมิได้
หากกุ้ยเฟยหาเรื่องฮองเฮาในยามนี้ไม่เท่ากับว่าโง่เขลาเกินไปหรอกรึ
“เห็นหรือไม่ น้องสาวข้าช่างรู้ความนัก เจ้ากลับไปเตรียมตัวเถิด ไว้เดินทางเข้าเมืองหลวงเมื่อใด ค่อยเข้ามาพบกุ้ยเฟยก็ยังมิสาย”
หว่านหนิงทำค