"น้ำอุ่นแกละอยากไปกับพวกนี้เปล่า" ฉันหันไปถามยัยน้ำอุ่น เพราะดูท่าแล้วคงไม่พ้นเรื่องไปนั่งส่องหนุ่มๆ ต่างคณะเป็นแน่นอน
"ไปดิ ไม่ไปแล้วแกจะอยู่ไหน วันนี้งานกีฬา ห้องสมุดเข้าไม่เปิดให้แกเข้าหรอกนะยัยเจ ไปกับพวกฉันเถอะ ไอ้ทอยเพื่อนฉันที่อยู่วิศวะบอกว่าปีนี่หนุ่มๆในคณะมันเข้าคัดแต่ตัวเด็ดลงเลยนะโว้ย ฉันจะไปเชียร์คนดังฉันหนะแก" ยัยน้ำอุ่นไม่พูดพร้อมกับทำสีหน้าเพ้อฝันขึ้นมา ทำเอาเจนิสถึงกับส่ายหน้าให้กับเพื่อนที่นับวันแต่ละคนอาการบ้าผู้ชายยิ่งหนักเข้าสมองกันทุกวัน
หลังจากที่ทานข้าวเสร็จในที่สุดฉันก็ปฏิเสธเพื่อนสนิททั้งสามสาวไม่ได้ ที่ตอนนี้พวกเรามานั่งอยู่บนแสตนขอบสนามเพื่อมาดูการแข่งขันฟุตบอลรอบชิงชนะเลิศของคณะวิศวะและคณะโลจิสติก ซึ่งถ้าพูดถึงเรื่องการแข่งขันกีฬาทั้งมหาลัยก็จะมีสองคณะนี่แหละที่จะเป็นคู่แข่งขันกันประจำ เพราะผู้ชายจะเยอะสุด
ร่างสูงอันคุ้นหน้าวิ่งหย่อๆ วอมร่างกายในสนาม พร้อมกับมีแฟนสาวรุ่นพี่นั้นโบกมือเชียร์ที่ขอบสนาม ส่งกำลังใจให้กันถึงที่
"เจ นั้นมันไอ้เลย์ พวกฉันขอโทษนะ ไม่คิดว่าไอ้เลย์มันจะลงแข่งด้วย ถ้ารู้เช่นนี้พวกฉันก็คงไม่พาแกมา" ฉันมองไปในสนามและแสตนเชียร์ของฝั่งโลจิสติก สายตาก็สะดุดเข้ากับกลุ่มพวกพี่แป้งพี่นิสาที่นั่งติดขอบสนามและยังมีป้ายไฟโบกให้กับเลย์ ฉันถึงกับจุกและพูดไม่ออก
"ไม่เป็นไรแก ช่างเถอะ" ฉันเอ่ยกับเพื่อน แต่กับรู้สึกถึงขอบตารู้สึกร้อนพราวๆ ขึ้นมาเพียงไม่กี่นาที มันเอ่อล้นที่ไหลออกมาราวกับไม่รู้ตัว
"ไม่เป็นไรนะเจ แกอย่ามองพวกเขา" ยัยแซมมี่เอ่ยพร้อมกับตบลงที่บ่าไหล่ของฉัน ปากบอกว่าไม่เป็นอะไร แต่ในใจลึกๆ กับตรงกันข้ามที่มันทั้งจุกทั้งเจ็บและหน่วงภายในใจไปหมด
!! กรี๊ด อร้าย...!! จากนั้นไม่นานนัก ก็มีเสียงกรี๊ดร้องของสาวๆ ที่มาเต็มกันทั่วทั้งสนาม
ฉันจึงละใบหน้าขึ้นมาก็พบว่า ตอนนี้ไม่ใช่แค่สาวๆ คนอื่นๆ รวมถึงเพื่อนสนิทของฉันทั้งสามคนก็ตกอยู่ในอาการกรี๊ดกร๊าดกันแทบคลั่ง ฉันเสมองไปยังสนามที่ตอนนี้นักกีฬาทั้งสองทีมนั้นได้วิ่งลงสนามกันครบและยืนประจำตำแหน่ง
ตากลมเปิดกว้างออกมาด้วยความตกใจ กับผู้ชายเสื้อกีฬาสีขาวเบอร์แปดสิบแปดที่ยืนเด่นอยู่ในสนาม เขาดูหล่อดูดีและที่สำคัญเขาดูเด่นเท่ห์มักมาก ให้ตายเถอะนี้ฉันไม่ได้จำผิดคนใช่ไหม ผู้ชายคนที่กำลังเดาะลูกบอลในสนาม คือคนเดียวกับคนที่ฉันมีอะไรด้วยในคืนวันนั้นเขายืนอยู่ในสนามตรงหน้าฉันตอนนี้ด้วย และที่สำคัญเขายืนเผชิญหน้ากับเลย์ด้วย
!! ตึก !! ฉันถึงกับใจสั่นหัวใจเต้นแรงขึ้นมากะทันหัน ฉันจำหน้าเขาได้แม่นไม่ผิดแน่นอน เขาเรียนที่นี่ด้วยงั้นเหรอ เขาคือใคร ตอนนี้ในหัวของฉันเกิดคำถามขึ้นมามากมาย
"อร้าย...แก พี่ริว พี่ริก พี่เรียวตะ พี่อรัณ อร้าย ฉันรักเขาแก สู้ๆ นะคะ ไฟท์ติ่งค่ะ" จากนั้นเสียงของยัยเฟย์ก็กรี๊ดดังขึ้นมา ไม่ใช่แค่ยัยเฟย์ยัยแซมมี่ ยัยน้ำอุ่นก็กรี๊ดไปด้วยรวมถึงสาวๆ ทั้งสนามก็กรี๊ดเป็นเสียงเดียวกัน เล่นเอาซะอีกฝั่งตรงข้ามถึงกับดูแผ่วไปเลย
"แก ยัยเจ แกดูพี่ริวของฉันสิ อ้าก... วันนี้พี่เขาดูหล่อเท่ห์มากแก โอ้ย...หัวใจฉันจะวาย พี่ริว พี่ริกของฉัน" ยัยเฟย์เอ่ยพร้อมกับใช้มือมาตบที่ตัวฉันราวกับเขินพวกเขา แต่ฉันไม่รู้หรอกนะว่านางกำลังเอ่ยถึงใคร
"แกยัยเฟย์ป้ายไฟแกเตรียมมาไหม ยกออกมาสิแก คนดังแก๊งค์วิศวะจะได้เห็นพวกเรา" ยัยแซมมี่เอ่ยกับยัยเฟย์มา
"เอามาดิฉันนะเตรียมพร้อมแต่แกถือนะอิแซมยังเขินพวกพี่เขาวะ" ยัยเฟย์หันมาเอ่ยกับยัยแซมมี่ เหมือนพวกนางรู้กันสองคน จากนั้นไม่นานยัยแซมมี่ก็ถือป้ายไฟขึ้นมาเชียร์ ฉันจึงได้หันไปถามพวกเพื่อนฉัน
"นี้พวกแกเชียร์ใครเหรอ พวกเขาคือใคร" ทำไมพวกเพื่อนฉันถึงขั้นมีป้ายไฟราวกับพวกคนดัง
"ใช่สิ ชีวิตนี้แกไม่เคยสนใจใครเลย...นอกจากไอ้เลย์คนเดียว ผู้ใน มอ.B ไม่มีใครสู้ไอ้เลย์ของแกได้เลยนิ" ที่ยัยแซมมี่เอ่ยกับฉันมาแบบนี้ เพราะฉันไม่สนใจใครจริงๆ ไม่แปลกหรอกที่ฉันไม่รู้จักพวกเขา
"ก็คนดังคณะวิศวะ รุ่นพี่ปีสี่หนุ่มสุดฮอตของพวกฉันนะสิ อร้าย...นั้นไง พี่เขาวิ่งมาโน้นแล้ว เบอร์ 9 หนะพี่เรียวตะ ทายาทเจ้าของ มอ.B ส่วนเบอร์ 23 พี่อรัณ คนนี่ก็หล่อผัวอีกคนของฉัน ส่วนเบอร์ 58 พี่ริกกี้ พ่อหนุ่มเพลย์บอยหล่อรวยไม่ธรรมดา ที่สำคัญแฝดพี่น้องกับผัวมโนพี่ริวสุดหล่อของฉันเบอร์ 88 ตำแหน่งกองหน้า" ยัยแซมมี่เอ่ยพร้อมกับยกยิ้มออกมาด้วยความตื้นเต้น
"พี่ริว คนนี้นะที่พวกแกเอ่ยถึงบ่อยๆ" เจนิสเอ่ยมาด้วยสีหน้าอันตกใจ
"พี่เขาหล่อมากเลยละสิ สู้ๆนะคะพี่ริว" จาก นั้นยัยแซมมี่ก็ตะโกนข้ามหัวฉันให้กับร่างสูงที่วิ่งมาข้างสนาม ฉันเผลอสบตาเข้ากับเขาอย่างไม่ทันตั้งตัว