ซือเจ๋อเยว่รู้สึกอย่างแท้จริงจากก้นบึ้งหัวใจ ว่าฮ่องเต้เจาหมิงเป็นบุรุษที่ไม่รักษาสัจจะ!
เมื่อวันนั้นพระองค์ยังเอ่ยไว้ว่าจะให้นางเข้าเฝ้าวังให้น้อยลง เพราะไม่ต้องการพบเห็นหน้านาง แต่เวลานี้กลับส่งคนมาเรียกให้นางเข้าเฝ้าอีก นี่พระองค์ประสงค์จะก่อเรื่องอันใดกัน?
ซือเจ๋อเยว่จึงให้เยียนเหนียนเหนียนอุ้มนางออกไปพบขันทีจากวัง แล้วกล่าวตอบไปอย่างเรียบเฉยว่าวันนั้นระหว่างทางข้ากลับจากวัง เผลอพลัดตกจนขาข้าได้รับบาดเจ็บ บัดนี้ไม่อาจเดินได้
ขันทีเห็นนางในสภาพนี้ก็ไม่กล้ากล่าวสิ่งใดมาก ได้แต่รีบกลับไปรายงานสถานการณ์เช่นที่เป็น
ครั้งนี้ผู้ที่ส่งคนมาเชิญซือเจ๋อเยว่คืออวิ๋นไท่เฟย เมื่อทราบว่าขันทีนำตัวซือเจ๋อเยว่มาไม่ได้ นางก็โมโหจนด่าทอเสียยกใหญ่ พร้อมขว้างปาสิ่งของจนแตกกระจาย
อวิ๋นไท่เฟยไม่ได้คิดว่าซือเจ๋อเยว่จะขาพลิกจริง นางมั่นใจว่านางหาเรื่องปฏิเสธไม่ยอมเข้าเฝ้า เพื่อจงใจทำให้นางและองค์หญิงสามต้องขายหน้า
ใช่แล้ว ครั้งนั้นแม้เจ้าอาวาสแห่งวัดเป้ากั๋วถูกเชิญเข้าวังมา กลับไม่อาจคลายคาถาลัทธิเต๋าที่พันธนาการองค์หญิงสามได้
บัดนี้เมื่อใดที่องค์หญิงสามกล่าววาจา ก็ยังคงเปล่งเสียงเป็น "กะต๊าก