แม้ว่าเถาจื่อจะใช้ยาห้ามเลือดที่ดีที่สุดของนางกับหลิงอวี๋แล้ว แต่ลูกธนูที่ปักอยู่ที่หลังของหลิงอวี๋ก็ยังคงมีเลือดไหลซึมออกมาอยู่เรื่อย ๆ
เซียวหลินเทียนรู้สึกว่าเส้นทางนี้ช่างยาวนานเหลือเกิน ช้าเสียจนมิถึงสักที
เลือดของหลิงอวี๋ไหลจากอาภรณ์ของนางเปื้อนไปถึงอาภรณ์ของเขา ผิวของเขาสัมผัสได้ถึงความเหนียวหนืดและความอุ่นร้อน
เลือดร้อนราวกับน้ำเดือด แผดเผาความโกรธเกรี้ยวที่มิรู้ที่มาในตัวเซียวหลินเทียนให้พลุ่งพล่านขึ้น
เขาพยายามซ่อนความกลัวของตัวเองอย่างสุดความสามารถ กอดหลิงอวี๋ไว้แน่น
‘เจ้าจะมิตาย…’
‘เจ้าจะต้องมิตาย!’
เขาตะโกนอยู่ในใจ
“ข้ายังติดหนี้เจ้าอีกมากมายและยังมิได้ชดใช้ เจ้าต้องให้โอกาสข้าได้ชดใช้เจ้า!”
“อาอวี๋ เหตุใดเจ้าถึงได้โง่เขลาเช่นนี้ เหตุใดต้องเอาตัวมาขวางลูกธนูแทนข้าด้วย!”
“แม้ตัวข้าเองจะบาดเจ็บเจียนตาย ข้าก็มิต้องการให้เจ้าตกอยู่ในอันตรายเลยสักนิด…”
“ท่านอ๋อง... ถึงแล้วเพคะ... หมอเลี่ยวมาแล้ว…”
มิรอให้เฉาอี้พูดจบ เซียวหลินเทียนก็อุ้มหลิงอวี๋พุ่งออกจากรถม้า รีบรุดเข้าไป
คนรับใช้ในตำหนักอ๋องอี้ต่างก็ตื่นตระหนกกันหมด หมิ่นกูได้รับข่าวล่วงหน้าแล้ว จึงรีบสั่งการอย่างเ