ครึ่งชั่วยามต่อมา หลังจากที่ทั้งสามกินข้าวกันเสร็จแล้ว อู๋หยางกับเจียงอี้หยาง จำต้องพาหญิงชรากลับขึ้นไปบนห้องพัก และไม่ลืมที่จะต้องพานางแวะไปห้องคนป่วยก่อน เพื่อดูให้แน่ใจว่าทุกคนยังปลอดภัยดีอยู่
คนจากหนาน ต่างพากันจับจ้องไปที่หญิงชรา ที่เดินเข้ามาด้วยใบหน้าเรียบเฉย ท่าทางแม้จะไม่ขัดต่อสภาพร่างกาย ทว่ากลิ่นอายที่แผ่ออกมา ล้วนบอกได้ชัดเจน ว่านางไม่ใช่คนไร้ฝีมือแต่อย่างใด
“เอ่อ...พวกเขาเป็นคนรู้จักของม่อเหลียวขอรับท่านป้า พวกเขาโดนพิษจนร่างกาย ดะ...เดี๋ยว...”
อู๋หยางยังพูดไม่ทันจบ หญิงชราก็ไปถึงตัวคนบนเตียงเสียแล้ว ก่อนที่นางจะคว้าข้อมือคนเจ็บมาจับชีพจร ดีนะที่คนจากหนานยังไร้เรี่ยวแรงอยู่ หาไม่แล้วคงมีการปะทะกันเกิดขึ้นอย่างแน่นอน เพราะอยู่ๆ ก็พุ่งเข้าไปแบบนั้น
ฮั่วเจ๋อหลับตานิ่ง ในตอนที่กำลังตรวจชีพจรของคนบนเตียง ตู้ฮั่นที่ยังไร้เรี่ยวแรง จึงทำได้เพียงนิ่งเงียบ เพราะเขาก็มิอาจขัดขืนใดๆ ได้อยู่แล้วในเวลานี้
“พิษกระจอกแค่นี้ เจ้ายังไม่มีปัญญารักษา ให้หายในเวลาๆ อีกหรือ...”
หญิงชราพูดขึ้น โดยไม่หันกลับไปมองคนข้างหลัง แต่นางกลับล้วงเอาห่อผ้าเล็กๆ ออกมากาง ซึ่งสิ่งที่เรียงรายอยู่ในนั้น คือเ