แดเนียลอธิบายในขณะที่อาการตื่นกลัวของอีกฝ่ายเริ่มคลายลง อลินทิราเห็นแววตาคู่นั้นหม่นแสงเมื่อเขาพูดต่อไป
“เธอแอบจัดตั้งมูลนิธิในนาม ไพรซ์ คอร์ป เพื่อซออนเนต และถ่ายโอนเงินเป็นท่อน้ำเลี้ยงเพื่อองค์กรของตัวเอง พอเออร์วิ่งรายงานเรื่องนี้พร้อมทั้งยืนยันด้วยเอกสาร ผมก็เริ่มส่งคคนตามประกบจนเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ผมได้ข้อมูลว่าโมนิกานัดพบกับ อลัน ทีทอน เจ้าพ่อค้าอาวุธสงครามของยุโรป...ผมตามเธอไปพร้อมกับตำรวจและหน่วยสวาทติดอาวุธครบมือ”
“ตำรวจคงจับเธอได้แล้วใช่ไหมคะ แดเนียล?”
หญิงสาวถามอย่างกระตือรือร้น ความตื่นเต้นประดังอยู่ในอกแทบระเบิดด้วยอยากรู้วาระสุดท้ายของนายใหญ่แห่งไซออนเนต ทว่าแดเนียลกลับยิ้มขื่นและตอบว่า
“โมนิกาเป็นคนเก่ง เธอเป็นอัจฉริยะ แต่...” ชายหนุ่มหยุดคำพูดจนอีกฝ่ายต้องเอ่ยถาม
“เธอหนีไปได้ใช่ไหมคะ?”
ร่างสูงส่ายหน้าและสูดลมหายใจลึก “โมนิกา...ถูกเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจ...วิสามัญ”
“พระเจ้า!”
“เราจัดพิธีศพให้เธอและฝังเธอไว้ในสุสานของตระกูล เมื่อไม่มีนายใหญ่ ไซออนเนตก็ถึงจุดจบ”
“บางที...อาจจะไม่” อลินทิราขืนตัวออกจากแขนแกร่ง ดวงตาคู่สวยรื้นน้ำและแดงก่ำ
“อาจเป็นจุดจบของไซออนเนต แต่คุณคงไม่ลืมว่าฉันเคยทำงานให้องค์กรนั้นมาก่อน ฉันเป็นสายลับ ฉันแฮ็คข้อมูลตามคำสั่ง แดนคะ...ฉันคือหนึ่งในอาชญากรของไซออนเนตที่ยังมีชีวิตอยู่”
“คุณช่วยพวกเราไว้ต่างหาก...ออโซลย่า” รอยยิ้มจางระบายบนใบหน้าหล่อเหลา ร่างสูงใหญ่ดึงมือเรียวบางมากุมไว้และยกขึ้นแนบบนริมฝีปาก
“โชคดีที่ผมยังไม่ได้เสนอผลงานชิ้นนี้ให้กับทางคณะกรรมาธิการร่วมของสหภาพเคมีบริสุทธิ์และเคมีประยุกต์ระหว่างประเทศพิจารณาเพื่อรับรองการสังเคราะห์ธาตุใหม่ และโชคดีที่คุณเป็นคนเก็บข้อมูลนั่นไว้ถึงแม้ว่าจะเป็นการเอาไปโดยไม่ได้บอกให้ผมรู้ก็ตาม ลองคิดเล่น ๆ ว่าถ้าคุณส่งมอบชิปข้อมูลให้กับไซออนเนตแล้วจะเกิดอะไรขึ้น...ผมกำลังทำความตกลงกับทีมนักวิจัยเกี่ยวกับการทดลองครั้งนี้ถึงแม้เราจะค้นพบเกาะแห่งความเสถียร และเราอาจเห็นสิ่งที่อยู่สุดขอบฟ้านั่นก็คือธาตุหนักอย่างยิ่งที่อาจนำไปพัฒนาเป็นนวัตกรรมไม่ว่าจะเพื่อการสร้างสรรค์หรือการทำลาย แต่เราจะไม่สำรวจที่นั่นอีกต่อไป ผมอยากเปลี่ยนเป้าหมายใหม่และทุกคนก็เห็นพ้องกัน”
“ทำไมล่ะคะแดน...คุณไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นผู้ค้นพบและพัฒนาการค้นคว้าใหม่ ๆ ของโลกหรือคะ คุณเป็นด็อกเตอร์นะคะและคุณก็มีศักยภาพในการทำสิ่งที่คนอื่นทำไม่ได้”
“ถ้าผมไม่สูญเสียโมนิกา ผมก็คงไม่รู้ว่าสิ่งที่ตัวเองค้นพบมันอันตรายแค่ไหน”
“เธอรักคุณนะคะ แดน”
“ผมก็รักเธอเช่นกัน แต่มันเป็นความผูกพันที่แน่นแฟ้นมาแต่เล็ก เธอคือผู้โดดเดี่ยวและผมก็พร้อมปกป้องเสมอ ผมไม่อยากเกลียดน้องสาวของผมและคิดอยู่เสมอว่าโมนิกาสำคัญกับครอบครัว ไพรซ์ แม้แต่วันที่เธอถูกหน่วยสวาทวิสามัญจนตายในอ้อมแขนของผม”
“ฉันเชื่อคุณค่ะแดน...ฉันเชื่อว่าคุณรักเธอมาก เพราะฉันได้พิสูจน์สิ่งนี้ด้วยตัวของฉันเองแล้ว ...จากการตั้งค่าระบบความปลอดภัยของคุณซึ่งรหัสลับที่ฉันถอดออกมาได้จากประตูนิรภัยบานสุดท้าย นั่นคือ M-O-N-I-C-A”
แดเนียลพูดอะไรแทบไม่ออกเหมือนความตีบตันจากส่วนลึกแล่นขึ้นมาจุกที่ลำคอ เห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มเศร้าสะเทือนใจกับเรื่องนี้มาก เขาไม่ได้ทับถมหรือสมน้ำหน้าต่อการจากไปของญาติผู้น้อง ตรงข้ามกลับยังรำลึกถึงแม้การกระทำของเธอจะเลวร้ายแค่ไหนก็ตาม หญิงสาวถอนหายใจเบา ๆ ท่ามกลางความเงียบ
“แดนคะ...บางครั้งการกระทำของคนเราล้วนเกิดมาจากอำนาจของแรงจูงใจ ในเมื่อโมนิกาเป็นอัจฉริยะ เธอก็อาจลุ่มหลงอยู่ในความคิดและสติปัญญาของตัวเอง”
“โมนิกาพยายามควบคุมทุกอย่าง แม้แต่การกีดกันไม่ให้ผู้หญิงคนไหนเข้าใกล้ผม จำได้มั้ยที่ผมบอกคุณว่าผมเคยคบกับผู้หญิงมาหลายคน แต่สุดท้ายก็มักลงเอยด้วยความไม่จริงจัง จริง ๆ แล้วผมอยากมีสัมพันธภาพที่ดีและอยากมีครอบครัวมานานแล้ว แต่เธอก็ทำลายมัน เธอกีดกันผู้หญิงทุกคนที่เข้าใกล้ผม”
“แม้แต่ฉันด้วยซีนะคะ”
“พระเจ้าอาจทำให้ผมมาพบกับคุณเป็นคนสุดท้าย นี่เป็นสัมพันธภาพที่ยิ่งใหญ่มากเพราะเป็นสิ่งที่ผมอยากจะเรียกมันว่า ความรัก อย่างแท้จริง และนี่คือสิ่งยืนยัน”
“แดเนียล!” นัยน์ตาสีน้ำตาลแกมเขียวเป็นประกายเมื่อแดเนียลทำให้เธอประหลาดใจอย่างที่สุดด้วยการยกมือเรียวบางขึ้นและบรรจงสวมแหวนเพชรสีขาววาววามที่นิ้วนางข้างซ้ายให้หญิงสาว
“ผมรักคุณ...ไม่ว่าคุณจะเป็นออโซลย่า อลินทิรา หรือซอนญ่า ก็ตาม...ที่รักของผม”
ร่างสูงใหญ่ดึงหญิงสาวเข้ามากอดและจูบบนหน้าผากมน ปลายจมูกรั้นจรดแก้มเนียนด้วยความรู้สึกมากมายที่ต่างถ่ายเทถึงกันและกัน