“พี่ฟ้าจะให้หญ้าใส่ชุดนี้จริง ๆ หรอคะ”
“ใช่แล้ว ไหน ๆ ก็มาทั้งที น้องสาวพี่ก็ต้องสวย ๆ ซิ”
เมื่อกอหญ้าเห็นว่าไม่น่าจะขัดและห้ามสายตาแน่วแน่ของพราวฟ้าได้ เธอจึงเลยตามเลย สวมชุดที่ซื้อล่าสุดชุดนี้ จ่ายเงินแล้วเดินออกมาสวย ๆ จากร้านทันที ชุดกระโปรงสีฟ้าลุคคุณหนูใส ๆ กระโปรงฟู ๆ ให้ความรู้สึกเหมือนเจ้าหญิง เสื้อเกาะอกสีขาวถูกปิดทับด้วยเสื้อคลุมผืนบางสีฟ้าเข้ากันกับชุด รองเท้าสีฟ้าเข้าชุด พร้อมกับการแต่งหน้าทำผมอ่อน ๆ ยิ่งทำให้เธอดูสวยเป็นที่สะดุดตาของใครหลายคนที่เดินผ่าน
“พี่ฟ้า มันเยอะเกินไปแล้วหรือเปล่าคะ เรากลับกันดีกว่าไหม”
“กอหญ้า เราไม่ได้มาด้วยกันสองคนแบบนี้บ่อย ๆ นะเราต้องเที่ยวให้คุ้มสิ”
“งั้นเราไปต่อร้านไหนดีคะ อิอิ”
“ต้องแบบนี้ซิ ถึงจะเหมาะกับเป็นน้องสาวพี่ .. หิวหรือยัง”
“นิดหน่อยค่ะ พี่ฟ้าหิวหรือยังคะ เราไปหาอะไรทานกันไหม”
“ดีเหมือนกัน งั้นไปร้านนั้นดีกว่า ป่ะ!”
ทั้งคู่พากันเดินเข้ามาในร้านปิ้งย่างชื่อดัง เลือกที่นั่งและรอสั่งอาหาร เมื่อทั้งคู่สั่งอาหารจนเต็มโต๊ะ ก็ได้เวลาลิ้มรสชาติอันโอชะอย่างเอร็ดอร่อย เขาว่ากันว่าผู้หญิงกับความสุขในการกินมันคือของคู่กัน และมันก็ถูกต้องเช่นนั้นเพราะเมื่อทั้งคู่ได้ตักอาหารเข้าปาก เรื่องเจ็บปวดและเสียใจทั้งหลายก็ถูกลืมไปเสียสนิท
“กอหญ้า”
“คะพี่ฟ้า”
“พี่อยากดูหนัง เราไปดูหนังกันต่อดีมั้ย”
“จะสามทุ่มแล้ว น่าจะทันรอบสุดท้ายพอดี”
“โอเคเลย งั้นเดี๋ยวเราไปซื้อตั๋วกัน”
“ค่ะ งั้นเราไปกันเลยไหมคะ เดี๋ยวไม่ทัน”
เมื่อจัดการคิดค่าอาหารทั้งหมดแล้ว ทั้งคู่ก็พากับหอบหิ้วของพะรุงพะรังมาฝากไว้ที่จุดฝากของ และเมื่อจัดการทุกอย่างเรียบร้อยทั้งคู่ก็รีบวิ่งไปยังจุดขายตั๋วทันที
“แนวรักโรแมนติกคอมเมดี้รอบสุดท้ายมีฉายอยู่ไหมคะ”
“มีค่ะ กี่ที่คะ”
“สี่ที่ครับ”
“เฮียมาได้ไง”
“ก็ดึกแล้ว เฮียโทรหาก็ไม่รับ ทักหาก็ไม่ตอบ”
“ก็พราวบอกว่าจะมาเที่ยวกับกอหญ้าไง”
“ก็ .. ไอ้ราชันย์อยากดูหนัง เฮียแค่มาเป็นเพื่อน”
“แล้วรู้ได้ไงว่าพราวอยู่นี่”
“GPS”
พราวฟ้าที่ยืนหน้าย่นไม่สบอารมณ์ ยิ่งทำให้มังกรอารมณ์ดีอย่างบอกไม่ถูก มังกรหันไปพยักหน้าให้คนขายอีกครั้ง ทำการเลือกที่นั่งและซื้อน้ำกับป๊อปคอร์นมาอีกสองชุด เมื่อดูเวลาก็เห็นว่ายังมีเวลาว่างอีกกว่ายี่สิบนาที พราวฟ้ารีบเดินจ้ำอ้าวมาหากอหญ้าที่ยืนรออยู่ก่อนหน้าที่บัดนี้มีอีกคนยืนมองไม่ละสายตาอยู่ข้าง ๆ
“มองขนาดนั้นเขมือบน้องลงไปเลยไหมราชันย์”
“เขมือบได้หรอ”
“เราประชด!”
“ทำไมแต่งตัวแบบนี้ มีแต่คนมองไม่เห็นหรอ”
“คือ ..”
“กระโปรงก็สั้น เสื้อก็บาง จะเอาไปโชว์ใคร”
“อย่าไปดุน้องสิราชันย์ ชุดนี้พราวเป็นคนเลือกเอง กอหญ้าสวยขนาดนี้ จะให้แต่งเป็นป้าเฉิ่ม ๆ มันไม่ได้ไหม”
“แต่งเฉิ่ม ๆ ก็พอแล้ว จะแต่งสวยไปทำไม”
“ก็เผื่อน้องจะไปสะดุดสายตาคนอื่น ที่เขาเห็นค่าของน้องมากกว่าแม่บ้านไงราชันย์”
“พราวฟ้า! ถึงเธอจะเป็นเมียไอ้มังกร ฉันก็ตีหัวเธอได้นะ พูดอะไรให้เข้าหูหน่อย”
“แล้วฉันพูดไม่เข้าหูยังไง ถ้าไม่เข้าหูแล้วนายจะได้ยินหรอ จริงไหม?”
“พราว!”
“พอแล้ว ๆ ทั้งคู่เลย มาเถียงอะไรกันเป็นเด็กเลย คนอื่นมองหมดแล้ว ..ราชันย์ นี่ตั๋วของนายกับกอหญ้า ส่วนนี้น้ำเอาไปด้วย กูขี้เกียจถือ”
ราชันย์รับตั๋ว น้ำและป๊อปคอร์นมาถือไว้นิ่ง ๆ ก่อนจะหยิกแขนเสื้อคลุมผืนบางของกอหญ้าให้เดินตามมานั่งที่เก้าอี้ที่ว่างอยู่ข้าง ๆ กอหญ้าเองก็ไม่ได้ตอบหรือขัดขืนอะไรให้เกิดเรื่องราวใหญ่โต เธอเดินตามแรงดึงที่เสื้อมานั่งลงเงียบ ๆ แต่รับรู้ได้เลยว่าสายตาของราชันย์ยังคงจ้องแผ่รังสีอำมหิตยืนอยู่ข้าง ๆ ไม่ไปไหน มันยิ่งสร้างความอึดอัดให้กับเธอขึ้นไปอีก
“เฮียจะพาราชันย์มาทำไม กว่าพราวจะทำให้น้องอารมณ์ดีได้ต้องใช้เวลามากเลยนะ”
“เฮียไม่ได้พามา .. มันเป็นคนพาเฮียมา”
“มาทำไมก็ไม่รู้ กอหญ้าอึดอัดเฮียเห็นไหม พราวจะไปคุยกับน้อง”
“อย่าไปเลย ไอ้ราชันย์มันเป็นห่วงกอหญ้า ถึงพาเฮียมา”
“หึ เป็นห่วงงั้นหรอ ใครจะไปเชื่อ”
“พราวโกรธราชันย์ แต่มาลงกับเฮีย เฮียน้อยใจแล้วนะ”
“ก็..ก็พราวโมโหนี่นา”
“งั้นตอนนี้เรามาคุยกันดี ๆ เนาะ เดี๋ยวกลับไป เฮียจัดชุดขอโทษให้ชุดใหญ่เลย”
“เฮีย!”
กอหญ้าคลานขึ้นมาบนเตียงที่มีราชันย์นอนหน้ามุ่ยคอหักดั่งปลาทูแม่กลอง ก่อนจะมุดเข้าไปในผ้านวมผืนหนา มือเล็กลูบไล้ขาแกร่งของราชันย์อย่างเบามือ รับรู้ได้ว่าราชันย์เองก็เกร็งขาเป็นระยะ แต่ยังทำท่าทีไม่สนใจเมียเหมือนเดิมมือเล็กของกอหญ้าเลื่อนไปปลดเข็มขัดของเขาออก ปลดกระดุมกางเกงช้า ๆ รูดซิปออกก่อนจะดึงกางเกงของผู้ชายใต้ร่างของเธอออกอย่างง่ายดาย เหลือเพียงกางเกงในสีขาวแบรนด์ดังที่บัดนี้ปิดเจ้าโลกไว้ไม่มิดด้วยซ้ำ ราชันย์น้อยที่หัวเห็ดขนาดใหญ่โผล่พ้นออกมาจากขอบกางเกงใน ผงกหัวราวกับกำลังเชิญชวนให้เธอมาทำมิดีมิร้าย แต่เจ้าตัวกลับยังทำหน้ามุ่ยไม่สนใจ เพียงแค่ปลายนิ้วชี้ของเธอกระตุกทั้งกางเกงนอกกางเกงในของราชันย์ก็ถูกถอดออกโยนไปกองที่พื้นโดยที่ได้รับการช่วยเหลืออย่างไม่ขัดแม้แต่น้อยของเขามือเล็กของเธอกำเข้ากับเจ้าโลกที่ขยายเต็มที่ หัวเห็ดบานยั่วเย้าเหล่าแมลงมีน้ำหวานผุดออกมาจากปลายหัวเห็ดให้นิ้วชี้ของกอหญ้าได้ไล้วน สร้างความเสียวซ่านกระตุกถี่ กอหญ้าใช้ลิ้นอุ่น ๆ ไล้เลียไปที่หัวเห็ดบานจนทั่วยิ่งเธอวนรอบหัวมากเท่าไหร่ น้ำหวานที่ไหลเยิ้มก็ยิ่งผลิตออกมามากเท่านั้น ไล้เลียรอบหัวจนพอใจลิ้นของเธอก็ค่อย
“ค่ะเฮีย หญ้าได้ยินแล้ว เฮียดีใจเสียงดังไปแล้วค่ะ”“คุณแม่ฝากครรภ์เลยไหมคะ”“ฝากเลยค่ะ”“ได้เลยค่ะ”คนที่ดูจะตื่นเต้นสุดเหมือนจะเป็นผู้ชายข้าง ๆ มากกว่าเธอเสียอีก กอหญ้าที่เห็นราชันย์ดีใจมากก็ทำให้เธอยิ้มออกมาอย่างดีใจ เธอเองก็ไม่เคยคิดมาก่อน ว่าเด็กผู้หญิงที่ครอบครัวล้มละลาย จะได้มีครอบครัวที่มีความสุขขนาดนี้ ผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเธอเคยคิดแต่จะรีบให้หมดเวลาสัญญา ผู้ชายที่ครั้งหนึ่งเธอตกหลุมรักเขาโดยที่รู้อยู่เต็มอกว่าเขาไม่แม้แต่จะชายตามอง ผู้ชายที่เธอไม่คิดว่าวันหนึ่งจะมายืนเคียงข้างเธอเป็นครอบครัวของเธอจริง ๆ“เฮีย”“ว่าไงจ๊ะเมียจ๋า”“หญ้ารักเฮียนะ”“เฮียก็รักหญ้า รักมาก ๆ รักที่สุดเลย”“แต่หญ้าเหม็นหน้าเฮียมากนะ”“…”“หญ้าว่าจนกว่าจะคลอด อยากให้เฮียอยู่ห่าง ๆ หญ้าหน่อยจะได้ไหมคะ”“แต่เฮียอะ..อยากอยู่กับหญ้าตลอดเวลาเลยจริง ๆ นะ”“อะแห่ม! เดี๋ยวเรื่องนั้นยังไงค่อยกลับไปตกลงกันเนอะ แต่ตอนนี้เรามาทำประวัติฝากครรภ์กันก่อนดีกว่าน๊า”ถึงแม้คุณหมอจะพูดแบบนั้น แต่แก้มหมอกลับยิ้มไม่หุบเมื่อเห็นความมุ้งมิ้งของสองสามีภรรยานี้ ยิ่งทำให้หมอยิ้มแก้มแทบปริ กอหญ้าเองก็ลืมตัวว่ายังอยู่ที่โรงพยาบาล ทำ
กอหญ้าไม่ได้พูดเล่น แต่เธอรู้สึกว่าราชันย์นั้นมีกลิ่นตัวที่ผิดจากปกติ เป็นกลิ่นที่เตะจมูกแบบแปลกกว่าที่ผ่านมา ทั้งที่ก่อนหน้านี้ก็ยังคงใช้แชมพูกลิ่นเดิม ครีมอาบน้ำกลิ่นเดิม และน้ำหอมก็ยังคงกลิ่นเดิม แต่สองสามวันมานี้เวลาเจอราชันย์กลับมีกลิ่นที่แปลกไป แต่เธอไม่กล้าพอที่จะบอกกับเขา กลัวว่าผู้เป็นสามีของตนจะน้อยใจแต่พอยิ่งเห็นเขา อาการเหม็นกลิ่นตัวเขาก็ยิ่งจุกในอกมากขึ้นจนบางครั้ง ก็อยากที่จะเดินหนีเขาให้พ้น ๆ ต่างกันกับราชันย์ที่มีความต้องการที่อยากจะคลอเคลียนัวเนียกับผู้เป็นภรรยาตลอดเวลา อยากอยู่ใกล้อยากเห็นหน้าตลอดเวลา อยากจะไปไหนมาไหนทำอะไรด้วย เขารู้สึกว่ากลิ่นกายของกอหญ้าหอมเป็นพิเศษ และเป็นสิ่งเดียวที่เขาไม่รู้สึกคลื่นไส้เวลาพบเจอและเพียงแค่เขาออดอ้อนเมียได้ไม่นานนัก ความมวนท้องก็กลับมาอีกครั้งพร้อมกับความรู้สึกเหมือนมีอะไรมาจุกที่คอ ยังไม่ทันที่จะได้เดินออกจากหน้าห้องน้ำ ราชันย์ก็หันหลังตรงดิ่งเจ้าไปกอดคอชักโครกสุดที่รักเช่นเดิม กอหญ้าเองถึงแม้จะเห็นความทรมานของราชันย์ก็เถอะ แต่พอเธอจะก้าวขาเข้าไปลูบหลังก็ต้องชะงัก เพราะเมื่อเห็นหน้าราชันย์เธอเองกลับรู้สึกคลื่นไส้มาเสียอย่างนั้น
พิเศษ ตอนที่ 3...“หม่ำ หม่ำ”เสียงเจื้อยแจ้วของเด็กน้อยวัยหนึ่งขวบเศษ ที่กำลังนั่งเก้าอี้รอกินข้าวอย่างใจจดใจจ่อ โดยที่เก้าอี้ข้างกันนั้นยังมีเด็กชายพี่น้องฝาแฝดที่ทำหน้านิ่งมองหน้าอลิซที มองหน้าผู้เป็นพ่อที และเด็กน้อยก็รอเพียงไม่นานผู้เป็นแม่อย่างกอหญ้าก็เดินมาพร้อมกับอาหารสีสันสดใสน่ารับประทานนำมาวางไว้ที่เก้าอี้ ส่งผลให้เด็กน้อยอารมณ์ดีอย่างอลิซปรบมือดีใจยกใหญ่“หม่ำ หม่ำ”“โอเค ข้าวมาแล้วลูกสาวป๊าจะได้กินข้าวแล้ว”“อาร์เดนหิวข้าวมั้ยลูก”“…”ไม่มีเสียงตอบรับจากลูกชายของเธอมีเพียงตาตาที่ดุราวกับเสือร้ายที่จดจ้องมองไปที่จานข้าวอย่างไม่ละสายตา ดูท่าทางแล้วเขาจะได้ลูกชายที่ค่อนข้างเงียบมากมาคนหนึ่งแน่นอน กอหญ้าไม่ลีลาให้ลูกต้องรอนาน เธอส่งสัญญาณให้ราชันย์เริ่มป้อนข้าวลูกได้ ถึงแม้อาร์เดนจะมีท่าทีไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่ แต่พอเธอป้อนข้าวให้ก็ไม่มีท่าทีว่าจะไม่ทาน ผ่านไปเพียงไม่นานข้าวผัดสีสันสดใสก็หมดเกลี้ยงจานทั้งคู่ สร้างความพึงพอใจให้กับผู้เป็นแม่เป็นอย่างมาก“หม่ำ”และยังคงเป็นเช่นนี้ อาร์เดนจะส่งเสียงร้องขอก็ต่อเมื่อเห็นจานผลไม้เท่านั้น ครั้งนี้ก็เช่นกัน ลูกชายของเขาแลดูจะชอบผลไม
“ยังเลย”“ทำไมเธอดูตื่นเต้นขนาดนี้”“ทำอย่างกับนายไม่ตื่นเต้น”“ก็ไม่ตื่นเต้นเท่าไหร่นะ”เพียงไม่นานประตูห้องคลอดก็ถูกเปิดออกโดยมีกลุ่มคุณหมอเดินออกมาสามสี่คน ทั้งคู่รีบวิ่งเข้าไปหาคุณหมอทันที“คุณหมอคะ คนไข้ที่เพิ่งเข้าไปเป็นยังไงบ้างคะ คลอดหรือยังคะ”“คุณแม่ยังไม่คลอดนะคะ ปากมดลูกยังไม่เปิด”“เธอเป็นยังไงบ้างคะ”“ตอนนี้ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงแล้วค่ะ แต่เบื้องต้นอายุครรภ์ยังไม่ถึงกำหนด คลอดออกมาเด็ก ๆ อาจจะต้องเข้าตู้อบก่อนนะคะ”“ขอบคุณมากค่ะ”เวลาผ่านไปเกือบสามชั่วโมงก็ไม่มีท่าทีว่าเธอจะคลอด ทั้งธันวาและเว่ยเอินเองก็สลับกันลุกนั่ง วนอยู่หน้าห้องคลอด และไม่มีท่าทีจะคลอดง่าย ๆ ยิ่งทำให้เว่ยอินและธันวารู้สึกกังวลเพิ่มขึ้น“ไอ้ธัน”“มาสักที”“กอหญ้าเป็นไงบ้าง นานแล้วนะยังไม่คลอดอีกหรอ”“ยังเลย”“คุณเป็นใครคะ”“อ่อ..คนนี้เว่ยเอินที่เคยเล่าให้ฟัง..ส่วนนี่ราชันย์”“สวัสดีครับ”ยังไม่ทันที่ทั้งคู่จะได้ทำความรู้จักกัน ก็มีกลุ่มคุณหมอสามสี่คนรีบวิ่งมาที่หน้าห้องคลอด ทำให้ราชันย์เองก็ตกใจไปด้วยเขาคว้าข้อมือของหมอผู้ชายคนหนึ่งเอาไว้“เกิดอะไรขึ้นครับ”“คุณแม่มีภาวะครรภ์เป็นพิษครับ หมอขอตัวก่อนนะคร
เขาอุ้มกอหญ้าและเดินช้าๆ ให้เข้าไปนั่งรอในรถ ทางด้านเว่ยเอินเองเธอก็รีบวิ่งมาหอบหิ้วข้าวของอย่างพะรุงพะรังเข้าไปยัดไว้ในรถเช่นเดียวกัน ก่อนที่เธอกระโดดขึ้นรถด้วยความเร็วแสง เคาะเบาะรถเบา ๆ ให้ธันวานั้นขับรถออกไปอย่างรวดเร็วปลายทางคือโรงพยาบาล ถึงแม้โรงพยาบาลจะอยู่ไม่ไกลมากนักแต่ช่วงเวลานี้ รถบนท้องถนนย่อมมีมากกว่าปกติเพราะเป็นช่วงเวลาทำงานพอดีนั่นจึงทำให้รถของเขาที่กำลังจะมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลนั้นเกิดการล่าช้าอย่างช่วยไม่ได้ ธันวาที่พยายามเหยียบคันเร่งรถอย่างเต็มที่เพื่อให้ไปถึงโรงพยาบาลอย่างเร็วที่สุด ก็ต้องฟันฝ่ากับอุปสรรคบนท้องถนน คนข้างๆ เขาเองก็ต้องฝ่าอุปสรรคความเจ็บปวดที่รู้สึกได้เลยว่ามดลูกกำลังบีบตัวลง และเวลาต่อมาก็ยิ่งทำให้เธอตกใจเข้าไปอีก เมื่อเธอรู้สึกว่าเบาะที่เธอนั่งนั้นตอนนี้เปียกชุ่มไปด้วยน้ำที่เธอเองก็ไม่รู้ว่ามาจากไหน จะบอกว่าเธอฉี่แตกก็ไม่น่าจะใช่ เธอไม่รู้สึกเลยว่ามันไหลออกมาตอนไหน เมื่อรู้ตัวอีกทีมันก็เปียกชุ่มไปหมดแล้ว"น้ำเปียกเบาะหมดแล้ว""ห๊ะ! เดี๋ยวนะอย่าเพิ่งคลอดนะ บนรถอันตราย""คุณธันวาขับเร็วกว่านี้ได้ไหม เห็นไหมพี่หญ้าหน้าซีดหมดแล้ว""ฉันก็กำลังรีบอยู่"ใ