Cut"" “ว๊าย ปล่อย! ปล่อย!” “....” ยูร์ดันมิ้นเข้าห้องน้ำเเล้วล็อกประตูก่อนที่จะจับมิ้นมานั่งตักเเล้วล็อกตัวไว้ ทำเอามิ้นที่ตกใจไม่กล้าเเม้เเต่มองหน้าเขา ได้เเต่ตัวสั่นไปหมด เพราะกลัวริลจะรู้เเล้วผิดหวังในตัวเธอ “ไม่รู้จักฉันงั้นเหรอ…” ยูร์ถามพร้อมจูบซอกคอมิ้นที่กำลังตัวสั่นอย่างได้ใจ ยิ้งเขาเห็นเธอกลัวยิ่งทำให้เขารุ้สึกใจเต้นพิลึก “...ขอโทษค่ะ ฉัน ฉันต้องไปเเล้ว” มิ้นพยายามดิ้นเเต่ด้วยตัวที่เล็กกว่าเลยทำให้ไม่สามารถสู้เเรงยูร์ได้ “..ฉันจำเธอได้ ทุก อย่าง” “คะ คุณ” “ทุก...ตำเเหน่ง” “คุณคิดจะทำอะไร
view more: F.a Club
ร้อน….เป็นเพราะเสียง สี ที่สาดส่อง ผู้คนมากมายที่เบียดเสียดกันนี่หรือเปล่านะ ที่ทำให้เรารู้สึกร้อนรุ่มไปหมด… “มิ้น...มิ้นครับ” เสียงโซ่....แฟนที่เพิ่งคบกับมิ้นได้เพียงหนึ่งเดือนพยายามเรียกสติสาวร่างบางที่กำลังรู้สึกเหมือนตัวกำลังล่องลอยไปในอากาศโดยไม่รู้สาเหตุ สติที่เหลืออยู่สั่งให้สาวเจ้ารีบพยายามเกาะติดตัวแฟนหนุ่มเพื่อความปลอดภัย แต่หารู้ไม่ว่าคนที่อยู่ข้างเธอตอนนี้นั่นแหละที่กำลังหวังจะทำมิดีไม่ร้ายกับเธอ “ซะ โซ่ มิ้น มิ้นเป็นอะไรไม่รู้ มัน มันร้อน…” “เป็นไข้หรือเปล่า” “มะไม่ใช่ มันเหมือนร้อนข้างใน” “ไหนดูสิ” โซ่ยืนหน้าเข้ามาใกล้ๆ หญิงสาวแล้วนาบริมฝีปากร้อนเข้าที่ซอกคอขาวเพื่อหวังกระตุ้นความรู้สึก มิ้นเผลอครางเสียงในลำคออกมานิดหน่อยอย่างไม่รู้ตัว ก่อนได้สติรีบผลักอกคนตรงหน้าออก แต่ตัวความที่โซ่แข็งแรงกว่าจึงรีบใช้โอกาสนี้เล้าโลมและดื่มด่ำกับซอกคอขาวอยู่นานแสนนาน หญิงสาวได้พยายามสั่งห้ามให้แฟนหนุ่มหยุดแต่มันกลับไม่ได้ผลเอาเสียเลย นั้นยิ่งทำให้เธอรู้สึกผิดหวังในตัวเขามากขึ้นไปอีกในสถานการณ์แบบนี้แทนที่เขาจะปกป้องเธอแต่กลับ….ฉวยโอกาส “พอ ...ฉัน” “รู้สึกแล้วงั้นสิ” “ฉันไม่ทำแบบนั้น ฉันจะกลับบ้าน” “ผมให้คุณกลับแน่….แต่ต้องผ่านคืนนี้” “มะ ไม่นะ ฉันไม่เต็มใจ” “...หึ มากับผมสิ” โซ่พยุงมิ้นที่กำลังรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวไปที่รถตามแผนที่วางไว้ มิ้นพยายามดิ้นเท่าไรก็ไม่เกิดผลกลับกันท่าทางดิ้นรนของหญิงสาวยิ่งทำให้โซ่รู้สึกตื่นเต้นเข้าไปอีก โซ่มีความคิดที่อยากจะเผด็จศึกมิ้นมานานแล้วแต่ด้วยความที่มิ้นไม่ใช่คนที่เข้าหาได้ง่ายนักโซ่จึงต้องค่อยสร้างความเชื่อใจด้วยการจีบเธอ.... ความจริงแล้วทั้งคู่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่ช่วงฝึกงานและมิ้นเป็นผู้หญิงที่เสน่ห์แรงมากคนหนึ่งจนคนโสดทั้งบริษัทรุมจีบ นั้นยิ่งเป็นเป้าหมายที่ท้าทายของคนเจ้าชู้อย่างโซ่ และแน่นอนเขาไม่ได้อยากรักเธอ แต่ถ้าให้พูดตามตรง…..เขาหวังที่จะได้แค่ตัวเธอประดับความหล่อรวยของตัวเองเท่านั้น พอถึงลานจอดรถชายหนุ่มที่เห็นหญิงสาวดูร้อนรนอารมณ์ชายก็เกิดปะทุขึ้นมามากกว่าเดิม มือเรียวหนาลูบไล้ไปตามเรียวขาขาวอย่างหลงใหล ผู้หญิงคนนี้มีความพิเศษมากตรงที่….เธอไม่ได้แต่งตัวโชว์เนื้อหนังอะไรมากนักแต่กลับยิ่งทำให้รู้สึกอยากถอดพันธะทั้งหมดทิ้ง อยากที่จะเห็นรูปร่างขาวนี้ให้เต็มตา “เธอดูเซ็กซี่จริงๆ ยิ่งอยู่ในสภาพแบบนี้....ฉันแทบอยากจะปล้ำเธอสะตรงนี้” “….ปล่อยนะ ปะ ปล่อย” ร่างบางถูกผลักให้นอนราบไปกับเบาะหลัง ก่อนจะตามมาด้วยร่างสูงที่กำลังเดือดพลุ่งพล่านด้วยอารมณ์รัก เขาไม่รอช้ากดริมฝีปากลงจูบปากเธออย่างดูดดื่มอย่างกับคนอดอยากเรื่องอย่างว่า.... ความตื่นกลัวในใจหญิงสาวทำให้เธอกรีดร้องและออกแรงตีเข้าที่ตัวโซ่อย่างหนักเท่าที่จะทำได้ แต่ดูเหมือนเขาไม่ได้รู้สึกสะทกสะท้านเลยแม้แต่น้อย น้ำตาใสๆ เริ่มไหลมาเป็นสายความไว้ใจที่เคยให้ผู้ชายคนนี้พังทลายลงในพริบตา ความเจ็บปวดในจิตใจและความคับแค้นใจเข้ามาแทนที่ “....พระเจ้า ยิ่งเธอดิ้น ฉันยิ่งทนไม่ไหว” “ไม่ ๆ” “หยุด ดิ้นสักที หรือว่าชอบคนซาดิสห๊ะ?” “ขะ ขอ ระ ร้อง ฉันขอร้องนะ” มิ้นพยายามพนมมือไหว้ทั้งๆ ที่สติเริ่มเรือนหาย เรี่ยวแรงที่เคยมีก็เหมือนจะหดหายไปหมด เธอเริ่มคิดได้ว่าเธอคงจะโดนมอมยาแบบในหนังแน่นอน “ยิ่งดิ้นก็ยิ่งร้อนนะ....มาเรี่ยวแรง อยู่นิ่งๆ แล้วไปกับฉันดีๆ” “ปล่อย ปะ ปล่อย” “เห้ อย่าเล่นตัว!” เพี้ย! โซ่ที่เริ่มรำคาญผู้หญิงตรงหน้าเต็มที เลยจัดการฟาดมือหนาเข้าที่ใบหน้าขาวของเธออย่างแรง.... จนทำให้มิ้นรู้สึกมึนหัวเข้าไปมากกว่าเดิม แต่เธอก็ยังคงพยายามดิ้นร้นร้องขอความช่วยเหลืออย่างไม่ย่อท้อ และรวบรวมแรงที่มีอยู่ออกแรงพยายามถีบเข้าที่ยอดอกของชายตรงหน้าจนเขาเซล้มลงไปกับพื้น จังหวะนั้นมิ้นรีบแทรกตัววิ่งหนีออกมาอย่างรวดเร็วด้วยความมึนเมาทำให้อยู่ๆ ขาเธอก็อ่อนแรงทรุดตัวนั่งลงกับพื้นหน้ารถคันหนึ่งที่กำลังจะออกตัวพอดี ....ชายหนุ่มบนรถเกิดอาการหัวเสียอย่างที่สุดเพราะเมื่อครู่ถ้าเขาเหยียบเบรกไม่ทันเขาอาจจะชนเธอเข้าอย่างจัง เขาลงจากรถรีบเดินมาหาหญิงสาวตั้งใจจะต่อว่าให้สาสม เขาเกลียดนักผู้หญิงที่กินเหล้าเมาไม่ดูแลตัวเอง “เธอ….” เมื่อชายหนุ่มเห็นสภาพเสื้อผ้าหลุดลุ่ยของคนตรงหน้าบวกกับอาการสั่นแปลกๆ ด้วยความตื่นตระหนก หญิงสาวตรงหน้าจากภาพที่เห็นไม่เหมือนคนเมาและยิ่งเขามองสำรวจก็ยิ่งแน่ใจ ...เธอต้องโดนมอมยามาแน่นอน เขาก้มลงไปจับไหล่เนียนเบาๆ ด้วยความห่วงใยแต่นั่นยิ่งทำให้คนตรงหน้าตัวสั่นและเกิดความกลัวมากขึ้นไปอีก เธอพยายามจะคลานหนีเขาแต่ชายหนุ่มก็จับเข้าที่แขนเล็กไว้ได้เสียก่อนเพื่อดึงสติแล้วพูดปลอบหญิงสาวให้คนตรงหน้าใจเย็นลง “ไม่ต้องกลัว....ผมไม่ใช่คนที่วางยาคุณ” “....ชะ ช่วยด้วย” O_O เมื่อหญิงสาวหันมาสบตาเขา เปรียบดั่งโลกทั้งใบหยุดหมุน ชายหนุ่มเหมือนกับถูกสะกดด้วยมนตราแห่งวังวน เธอสวยแบบไม่เติมแต่งมีเสน่ห์มากจนเขาไม่แปลกใจเลยว่าทำไมเธอถึงถูกผู้ชายทำเช่นนี้ ผมยาวดำที่ดูนุ่มสลวยใบหน้าที่เหมือนไม่ได้เติมแต่งใดๆ นอกจากการแต้มสีบนริมฝีปาก ดวงตากลมโตที่ถึงแม้ตอนนี้จะเต็มไปด้วยน้ำตาแต่ก็สัมผัสได้ว่าเธอเป็นคนสดใส และการแต่งตัวที่ไม่ได้จงใจเปิดเผยร่างกายแบบนี้เธอคงไม่ใช่ผู้หญิงที่มาสถานที่แบบนี้บ่อยๆ แน่ เอะ!...นั้นเลือด ระหว่างที่ใช้สายตาสำรวจใบหน้าหวานเขาก็สะดุดเข้ากับมุมปากอิ่มที่เหมือนมีน้ำสีแดงข้นซึมออกมา คิ้วเข้ารูปเริ่มขมวดเข้าหากันช้าๆ ....อย่าบอกนะว่าผู้ชายคนนั้นถึงขั้นตบเธอเลย ....เกินไปหน่อยแล้วนี่มันบ้าอะไรกัน “เฮ้ ....มิ้น มานี่เลยนะ” ยูร์หันไปมองตามต้นเสียงที่ใกล้เข้ามาอย่างขุ่นเคือง เสียงนี่คงเป็นเสียงของคนที่เขากำลังสงสัย....ชายหนุ่มอีกคนรูปร่างสูงหล่อมองแวบเดียวก็รู้ว่าคงจะเป็นลูกผู้ดีมีเงิน เขากำลังมองหญิงสาวตรงหน้ายูร์ด้วยสายตาโกรธจัด ยูร์หัวเราะในลำคอด้วยความโมโหก่อนที่จะมองหาคำตอบจากหญิงสาวที่ถูกเรียก “เธอชื่อมิ้น ....” “อะ อือ” “ผู้ชายคนนั้นเป็นอะไรกับเธอ” “เขา....ทำร้าย ฉัน” ปรือ…. แขนเล็กๆ ของมิ้นถูกโซ่ดึงเข้าหาตัวอย่างแรงจนร่างมิ้นกระแทกเข้าที่แผงอกกว้างของคนที่ออกแรง นั้นยิ่งทำให้ยูร์โกรธจนต้องพ่นลมหายใจทิ้ง เพื่อข่มอารมณ์....ถึงนี่จะไม่ใช่เรื่องของเขาแต่การที่ต้องทนเห็นผู้หญิงถูกทำร้ายแบบนี้มันชักจะทนไม่ไหวเสียแล้ว “ขอบคุณที่ช่วยหยุดแฟนผม เรางอนกันนิดหน่อย ขอตัวก่อน” “เดี๋ยว....” “....ครับ” “ส่งเธอมาให้ผม” “หะ! คุณจะบ้าเหรอ ทำไมผมต้องส่งแฟนผมให้คนอื่นด้วย” โซ่ หัวเราะออกมาเบาๆ ก่อนที่ยูร์จะเข้ามาดึงตัวมิ้นให้เข้ามาอยู่ในอ้อมกอดตัวเองอย่างท้าทาย ยิ่งทำให้คนที่อ้างว่าเป็นแฟนโกรธจนถึงขั้นกำหมัด เเต่ถึงอย่างนั้นตัวเขาก็ไม่ได้มีท่าทีกลัวแม้แต่น้อยกลับเอาแต่หัวเราะออกมาอย่างหนัก “แฟนเขาไม่มอมยากันหรอก แถมมึงยังตบเธออีกรีบไปสะถ้าไม่อยากโดนดี โอเค๊?” เขาพูดเตือนออกไปอย่างใจเย็น ปกติแล้วเขาเองก็ไม่ใช่คนดีอะไรและเรื่องแบบนี้เขาเองก็ไม่สามารถยอมรับได้ ปึก! ยูร์ถูกผลักเข้าที่ไหล่อย่างแรงจนเซ “มึงเป็นใครวะแน่เหรอ นี่มันของกู....มาแย่งแบบนี้อดอยากมากเหรอ หาเองสิเว้ย” ปึก! ชายหนุ่มถีบเข้าที่ยอดอกโซ่เต็มแรงจนโซ่ล้มลงกระแทกพื้นปูนหนา ก่อนจะถอนหายใจยาวๆ คล้ายอารมณ์ขุ่นเคืองแล้วประคองมิ้นให้หลบไปนั่งไกลจากตรงนี้ เขาเดินกลับมายืนเท้าเอวมองคนที่กำลังนั่งจุกอยู่บนพื้นอย่างเอาเรื่อง “รู้อะไรไหมเด็กน้อย ฉัน....ผ่านอะไรมาเยอะ ทำแบบนี้ก็ไม่มีอะไรดี อย่าลอง” “อย่ามาขู่ว่ะ เอาผู้หญิงกูมา” “ตอนนี้เขาเป็นของกูวะ โทษที” ไม่รอช้าเขายกขาถีบเข้าที่อกของชายตรงหน้าอย่างจังจนคนโดนถีบหงายหลัง นึกว่าคนตรงหน้าจะแน่ที่ไหนได้แค่ถีบทีสองทีก็ไม่กล้าลุกขึ้นมาแล้วเสียนี่ เขามาที่นี่ไม่นานนักไม่ได้อยากจะมีเรื่องขึ้นโรงขึ้นศาลให้เสียเวลาครั้งนี้คงสั่งสอนแค่นี้คงพอ คนที่ต้องห่วงตอนนี้คือผู้หญิงที่ไร้เรียวแรงคนนั้น คิดได้แบบนั้นยูร์ก็เดินตรงไปหาหญิงสาวที่ตอนนี้แทบจะลืมตาไม่ขึ้นเสียแล้ว เขาใช้สองแขนช้อนตัวอุ้มหญิงสาวขึ้นรถอย่างทะนุถนอมแล้วขับออกไปทันที โดยไม่ฟังเสียงโวยวายของคนที่นอนจุกอยู่ใกล้ๆ ฉัน ฉันร้อน “เธอๆ เฮ้ยๆ ถอดทำไมยัยบ้า ฉันไม่ใช่หินนะฉันเป็นผู้ชายนะ” ยูร์เริ่มหัวเสียเมื่อมิ้นเอาแต่บ่นตลอดทางมาคอนโด ความจริงเขาไม่อยากจะพาเธอมาที่นี่หรอก แต่ถ้าจะเปิดโรงแรมให้เธออยู่คนเดียวก็อดเป็นห่วงไม่ได้ สุดท้ายเพื่อความสบายใจว่าเธอจะไม่ไปโดนทำร้ายที่ไหนชายหนุ่มจึงเลือกพาเธอมาที่ห้องของตัวเอง ยูร์อุ้มมิ้นเข้าไปในห้องนอนแล้วเปิดแอร์เย็นฉ่ำหวังว่าเธอจะรู้สึกคลายร้อนบ้าง ตัวเขาเองครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่เคยเห็นอาการของคนโดนมอมยาจึงทำอะไรไม่ถูก จะแตะเนื้อต้องตัวเธอก็กลัวจะหักห้ามความเป็นชายไม่ไหวจึงต้องจำใจทิ้งให้เธออยู่ในห้องนอนนั้นคนเดียว ส่วนตัวเองก็จัดการหอบหมอนออกมานอนคลุกตัวที่โซฟาด้วยความกังวล ในมือก็เปิดโทรศัพท์หาข้อมูลทางแก้ของอาการที่เธอเป็นอยู่ไปด้วย “นี่ฉันเป็นบ้าอะไรขึ้นมา เกิดจะเป็นคนดีอะไรตอนนี้ไอ้ยูร์ หาเรื่องใส่ตัวชัดๆ” ยูร์บ่นพึมพำกับตัวเอง พลางทิ้งโทรศัพท์ลงโซฟาเมื่อนึกขึ้นได้ว่าตัวเองแส่หาเรื่องเกินไปแล้ว โดยปกติเขาแทบจะไม่ยุ่งเรื่องของใครแต่ครั้งนี้เขาดันเผลอไปช่วยเธอมา ยิ่งทำให้เขารู้สึกหงุดหงิดใจไปหมด “ร้อน....” หืม…. อะไรของยัยนั้นอีกเนี่ย “จะไปไหนน่ะ เดี๋ยวๆ” ชายหนุ่มเด้งตัวลุกพรวดไปจับแขนหญิงสาวที่อยู่ๆ ก็เปิดประตูเดินออกมาจากห้องนอน ซึ่งตอนนี้เธอมีเพียงชุดชั้นในปกปิดนั้นทำให้เขาต้องรีบหันหน้าหนี ร้อน….ตัวเธอร้อนเป็นไฟอย่างกับคนเป็นไข้ ….นี่เธอไปโดนยาอะไรมากันนะ ยูร์คิดพร้อมวิ่งเข้าไปหยิบชุดคลุมอาบน้ำมาคลุมร่างบางไว้ก่อนจะไปหยิบผ้าเย็นหวังมาเช็ดหน้าให้เธอคล้ายร้อน “ห้องน้ำ อาบน้ำ ร้อน” มิ้นทิ้งผ้าคลุมอาบน้ำกลับมาอยู่ในสภาพร่างกายเหลือเพียงชุดชั้นเหมือนเดิม หญิงสาวพยายามเดินตรงไปที่ห้องน้ำอย่างลุกลี้ลุกลน ภายใต้สายตาของยูร์ที่กำลังข่มอารมณ์ไฟราคะในใจ เขาพยายามทำใจให้สงบถึงเขาจะเคยเลวมาขนาดไหนก็ไม่เลวพอที่จะทำอะไรผู้หญิงที่ไม่มีสติแบบนี้ แต่เขาก็อดยอมรับไม่ได้เลยว่าผู้หญิงตรงหน้าเขาตอนนี้สวยมีเสน่ห์อย่างที่เขาไม่เคยเจอ แถมหุ่นก็เซ็กซี่มากน่าดึงดูดผิวขาวๆ นั้นช่างน่าสัมผัส ซ่า!! “เอ๊ย ทำอะไรเนี่ย” เสียงเปิดน้ำเรียกสติให้ยูร์รีบวิ่งตามเข้าไปในห้องน้ำอย่างรวดเร็ว “ระ ร้อน” “รู้แล้วๆ เอางี้ ฟังฉัน แล้วนิ่งๆ ถ้าเธอไม่หยุดฉันเองก็ไม่มั่นใจว่าจะห้ามใจได้นะ” “ฉะ ฉันควบคุมมันไม่ได้….” ยูร์นิ่ง....ตัวเขาเองก็ไม่ใช่คนดีแถมเคยเลวมากอีกต่างหากเกิดเรื่องแบบนี้ยิ่งทำให้ตัวเขารู้สึกสับสนไปกันใหญ่ว่าควรหยุดทุกอย่างแล้วขังหญิงสาวไว้ที่นี่คนเดียว หรือจะทำตามสัญชาตญาณของมนุษย์เพศชาย “ฉะ ฉันกลัว ช่วยฉันด้วย” “เธอกำลังทำให้ฉันทนไม่ไหว….” สายตาอ้อนวอนถูกส่งมาจากหญิงสาวที่อยู่ในสภาพเปียกปอนทำเอาใจชายหนุ่มที่อยู่ตัวคนเดียวมานานเต้นผิดจังหวะ มือหนาเผลอเอื้อมไปลูบเบาๆ ที่ใบหน้าเนียนขาว ไล่ลงมาที่ริมฝีปากอิ่ม ณ ช่วงเวลานั้นเหมือนทุกอย่างหยุดนิ่ง ....ใบหน้าคมเลื่อนเข้าไปใกล้ก่อนที่ริมฝีปากอุ่นค่อยๆ ดื่มด่ำซึ่งกันและกัน แขนเล็กถูกยกขึ้นมาเกี่ยวคอขาวให้แนบชิดกันเข้าไปอีก ร่างสูงจัดการอุ้มคนตรงหน้าตรงไปที่โซฟาโดยที่ริมฝีปากก็ยังคงทำงานอย่างเชี่ยวชาญเนิ่นนานสติของทั้งคู่เริ่มถูกความลุ่มหลงในร่างกายของคนตรงหน้าพร่าหายไป “ฉัน.…” มิ้นผลักอกคนตรงหน้าเบาๆ หญิงสาวกำลังรู้สึกสับสนร่างกายของเธอตอนนี้กับความนึกคิดมันกำลังสวนทางกันอย่างสิ้นเชิง “อยากให้ฉันหยุดไหม…” สายตาคมจ้องมองเข้าไปในดวงตาหวานเพื่อหาคำตอบ หญิงสาวใช้สติที่มีคิดให้ถี่ถ้วนถ้าวันนี้ทั้งสองคนเกินเลยกันไปพรุ่งนี้เราจะเป็นยังไง คนตรงหน้าอาจจะมีครอบครัวแล้วหรืออาจจะกำลังจะแต่งงาน เขาอาจจะซวยที่มาเจอเธอถึงต้องมาตกในสภาพแบบนี้ แต่ความรู้สึกของเธอนั้น….มันยากเกินที่จะทนไหว เธอรู้ว่าตอนนี้เธอกำลังต้องการอะไร และเหมือนความคิดผิดชอบชั่วดีก็แทบจะไม่เหลืออยู่แล้ว “ฉันไม่รู้ค่ะ” “แต่ฉันไม่อยากหยุด….” “แต่ อุ๊บ….” แขนทั้งสองข้างของหญิงสาวถูกตรึงไว้เหนือหัวด้วยมือเรียวหนาเพียงข้างเดียว ริมฝีปากร้อนกำลังโลมเลียไปทั่วใบหูขาวจนเธอรู้สึกสั่นสะท้านไปด้วยความตื่นเต้น มืออีกข้างจัดการเลื่อนสัมผัสไปกับเนื้ออุ่นๆ ของเนินอกนุ่มเขาทั้งนวดคลึงเร้าอารมณ์จนทำให้หญิงสาวเผลอส่งเสียงครางออกมาอย่างไม่ตั้งใจ “อะ อืม~” ไม่นานพันธะของทั้งสองก็ถูกปลดออกอย่างรวดเร็วเผยกลิ่นกายหญิงสาววัยแรกรุ่นมันช่างหอมหวนจนชายหนุ่มอดที่จะส่งปลายจมูกโด่งเข้าไปสูดดมใกล้ๆ ไม่ไหว นานเท่าไหร่แล้วนะที่เขาไม่ได้ดมตัวผู้หญิงใกล้ๆ แบบนี้ มันช่างน่าหลงใหลยิ่งนัก อืออ ….เสียงสั่นครางเบาๆ ดังขึ้นข้างใบหูชายหนุ่มเมื่อมือเรียวแทรกกลางเข้าไปสำรวจช่องทางสวรรค์ น้ำอุ่นๆ เริ่มไหลออกมาเป็นสัญญาณว่าบ่งบอกเธอพร้อมสำหรับบทเพลงรักครั้งนี้แล้ว ชายหนุ่มยังคงพรมจูบลงมาตามล่องขาวเพื่อดื่มด่ำก่อนจะโลมเลียยอดดอกบัวตูมด้วยความอดอยากเป็นการเอาใจ “อ่า...ฮา” “อ่าาาา” ชายหนุ่มส่งเสียงเสียวเมื่อแท่งรักเข้าไปถึงใจกลางถ้ำรัก แน่น...มันบ่งบอกได้ว่าเธอคนนี้อาจจะยังไม่เคยเสียบริสุทธิ์หรือไม่ก็คงห่างมานาน “อืมม อ่าา” “ขอเร็วขึ้นไหวไหม” “อืมมม” หลังจากได้รับคำตอบรับจากร่างเล็ก ชายหนุ่มไม่รอช้าเร่งจังหวะให้ร้อนแรงมากกว่าเดิมหลายเท่าจนหญิงสาวส่งเสียงครางออกมาไม่สิ้นสุด ความเสียวทำให้เธอเผลอจิกเล็บลงบนหลังกว้างเพื่อระบายอารมณ์ใคร่ ค่ำคืนยาวนานของคนแปลกหน้าสองคนร่วมกันสร้างความสุขอย่างที่สุดให้กันและกันส่วนวันพรุ่งนี้จะเป็นยังไง ก็ให้มันเป็นเรื่องของวันพรุ่งนี้"มิ้นไม่ต้องห่วงนะ เรารักษาตัวก่อนเชื่อพี่"พี่ริลบอกขณะที่ฉันกำลังถูกพาออกจากห้องผ่าตัดเนื่องจากกระสุนปืนตัดผ่านเนื้อเยื่อจนได้รับความเสียหาย แต่โชคดีที่ไม่ได้ร้ายแรงถึงขั้นน่าเป็นห่วง ถึงพี่ริลจะพูดออกมาแบบนั้นฉันก็ยังทำได้แค่ร้องไห้ออกมามันทั้งตกใจกับภาพและเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทั้งเป็นห่วงความรู้สึกของคุณยูร์....ฉันไม่เคยคิดเลยว่าคนที่พร้อมไปด้วยทุกสิ่งทุกอย่างทั้งลูกน้องและเงินทองแบบเขาจะต้องก้าวผ่านความเจ็บปวดพวกนั้น เขาผ่านมันมาได้ยังไงนะ...."คุณยูร์เป็นยังไงบ้างพี่""เฟร์สบอกว่ากำลังพาเขามาหามิ้นที่นี่ ไม่ต้องห่วงนะทุกอย่างจะโอเค""พี่ริล....""ว่าไง?""เรื่องที่คุณยูร์พูดมันจริงเหรอคะ....""เรื่องของพ่อเขา....มันเป็นเรื่องจริงพ่อของเขาทำร้ายคนไว้มากมายรวมถึงแม่ของยูร์ด้วย วันที่พ่อเขาตายก็เป็นวันเดียวกับที่เขารู้เรื่องเลวๆ ของพ่อตัวเอง ถ้าพี่เป็นเขามันก็คงลำบากจริงๆ ที่จะตัดสินใจ เพราะยังไงสะพ่อของเขาก็เข้าออกคุกเป็นเรื่องปกติอยู่แล้วที่เขาเลือกแบบนั้นคงคิดแล้วว่าพ่อตัวเองคงไม่มีวันกลับตัวได้ หลังจากวันนั้นเขาก็ปฏิญาณตนว่าจะไม่ทำแบบที่พ่อเขาทำและจะไม่ทำร้ายใครถ้าไม่จำเป็น""ค
"ยามะ...."เจพึมพำออกมาด้วยสีหน้าหวาดกลัวก่อนที่เขาจะดึงตัวฉันให้ไปหลบด้านหลัง ท่าทีนั้นทำให้ฉันรับรู้ได้เลยว่าผู้ชายคนนี้เป็นบุคคลอันตรายสำหรับเรา "พี่แกนี่ เหมือนจะฉลาดแต่ก็ยังโง่! การที่มันพลาดปล่อยฉันหนีได้ก็เท่ากับว่ามันพร้อมตายเท่านั้นแหละ""คุณยูร์ไม่มีท่าพลาด""โอ! แม่สาวนี้ใครกัน? สอดเรื่องของผู้ใหญ่หรือว่าเมียไอ้ยูร์?"ยามะเดินตรงเข้ามาหาฉันพร้อมยกปืนขึ้นจ่อหัวเจให้หยุดอยู่กับที่ เจมีสีหน้าหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัดไม่ต่างไปจากฉัน ให้ตายเถอะ!"อย่ายุ่งกับผู้หญิง""คุ้นๆ เหมือนฉันเคยเห็นอยู่กับไอ้บ้านั้น เมียไอ้ยูร์สินะ""ใช่...."ปัง! "มิ้น!"กรี๊ด! ปวด....ปัง!ทันทีที่ฉันบอกสถานะตัวเองออกไปลูกกระสุนเหล็กก็ถูกยิงเข้าที่ต้นขาของฉันทันทีความเจ็บปวดมากมายนี่ทำให้ฉันต้องทรุดตัวล้มลง เจพยายามจะวิ่งตรงเข้ามาช่วยกลับถูกยามะยิงเข้าที่ขาอีกคนจนทรุดตัวล้มลงข้างๆ ความปวดที่แสนทรมานนี่ทำให้ฉันไม่มีแม้แต่แรงจะพูดอะไรออกไปทำได้แค่เพียงมองยามะด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความแค้น"มะ มิ้น""เจ อย่าขยับมากสิ"ฉันพยายามหันไปบอกเจที่กำลังลากขาที่บาดเจ็บมาหาฉัน ตอนนี้ยิ่งเห็นเลือดที่ไหลออกมาจนเต็มขา
: ยูร์ ปวดหัวชะมัด.... ไม่น่ากินเยอะขนาดนั้นเลยวันนี้ทำให้ผมต้องลางานเพื่อพักฟื้นร่างกายสักหน่อย พอลืมตาขึ้นมาก็พบว่าตัวเองกับเจนอนสลบไสลกันอยู่ที่พื้นอย่างน่าอนาถ พอมองสำรวจไปรอบห้องก็กลับไม่เห็นร่างเล็กของเมียสาวแต่ผมจำได้นะว่าเมื่อคืนมิ้นไปตามผมกับเจถึงร้านแถมกระชากหัวผมอีกคงจะโกรธมากแน่ๆ แต่นี่พระอาทิตย์ก็จะตกอยู่แล้วทำไมยังไม่ยอมกลับห้องอีกตืด! ไม่รับสาย....นี่กล้าตัดสายเลยเหรอ โกรธขนาดนั้นเลยงั้นเหรอเนี่ย....ก็แค่กลับบ้านช้าไปไม่กี่ชั่วโมงเองผมลองกดโทรศัพท์โทรออกไปหามิ้นอีกครั้งก็ยังพบว่าเธอตัดสายผมอีกแล้ว ชักจะเป็นห่วงขึ้นมาแล้วสิ"นายครับ นายครับ""ว่าไง"ผมหันไปถามลูกน้องที่วิ่งเข้ามาหน้าตื่นด้วยน้ำเสียงขุ่น"ยามะ ยามะหนีไปได้ครับ""หึ....": มิ้นณ สนามยิงปืนฉันมองสำรวจไปทั่วสนามบินกว้างที่เงียบเฉียบ....นี่มันน่ากลัวสุดไปเลย พี่ริลพาฉันเดินเข้าไปอีกด้านในจะมีเป็นล็อกของใครของมันและเป็นลานกว้างยาวที่มีเป้ากระดาษอยู่ไกลๆ ฉันหันไปมองพี่ริลที่หยิบปืนออกมาจากกระเป๋าพกของตัวเองและเริ่มเช็คมันอย่างเป็นงาน ....ท่าทางที่พี่ริลสำรวจปืนนี่มันช่างจริงจังจนน่ากลัวถึงว่าทำไมคนเจ้าชู
ฉันนั่งเฝ้าสองร่างที่ยังคงนอนสลบไสลอยู่บนพื้น เมื่อคืนกว่าจะยอมกลับกันมาได้ก็ต้องใช้เด็กตั้งหลายคนแบกมาแล้วนี่ก็จะตะวันตกดินอีกรอบแล้วเจกับคุณยูร์ยังไม่มีทีท่าจะตื่นเลย"ให้ตาย โมโหชะมัด!""คุณมิ้นครับ""ว่าไง! อุ้ย ขอโทษค่ะ"ฉันที่กำลังโมโหเผลอตะโกนใส่คนที่เข้ามาเรียก พอนึกได้ก็รีบยกมือไหว้ใหญ่เพราะเขาแก่กว่าฉันอยู่หลายปี"ไม่เป็นไรครับ มีคนมารออยู่ด้านล่างครับ""ใครคะ?""เขาแจ้งว่าชื่อริล""....ขอบคุณมากค่ะ ยังไงฝากดูสองคนนี้ด้วยนะคะ""ครับ"ฉันยิ้มให้ก่อนจะรีบลงมายังห้องรับรองชั้นหนึ่งของโรงแรม ถ้าให้ฉันเดาพี่ริลคงรู้เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดแล้วตอนนี้คงกำลังโกรธฉันไปมากกว่าเดิมอีก นี่ตั้งแต่วันนั้นที่คุยกันพี่ริลก็ไม่เคยรับโทรศัพท์ฉันเลย.... "พี่ริล"เมื่อเห็นพี่สาวฉันก็ตรงเข้าไปกระโดดกอดอย่างไม่อาย พี่ริลยอมมาคุยกับฉันแล้ว "นั่งคุยกันดีๆ ก่อน โตแล้วนะ""หนูคิดถึงพี่ พี่ไม่รับโทรศัพท์มิ้นเลย"พี่ริลดึงฉันให้ไปนั่งลงข้างๆ ก่อนจะยื่นโทรศัพท์ที่ปรากฏเป็นภาพข่าวก่อนหน้านี้"นี่มันอะไรมิ้น""มันเป็นการโปรโมตของคุณยูร์เขาน่ะค่ะ ไม่มีอะไร""พี่รู้ว่ามันไม่ใช่แค่นี้ ยูร์โดนขู่ใช่ไหม?""เ
: มิ้นฉันเดินกระวนกระวายทั่วห้องตั้งแต่ช่วงบ่ายที่คุณยูร์ออกไปจัดการเรื่องคุณแฟรงค์ จนตอนนี้ปาเข้าไปเที่ยงคืนแล้วคุณยูร์ยังไม่โผล่หัวกลับมาเลยทั้งๆ ที่ลูกน้องก็บอกฉันว่าเคลียร์จบแล้ว.... หรืออันที่จริงพวกนั้นจะโกหกฉันเพราะกลัวฉันเสียใจ ไม่นะคุณยูร์คงไม่เป็นอะไรหรอกเพราะเขาเก่งนี่เขาเก่งมากแล้วทำไมตอนนี้ยังไงกลับมาอีกละ"ฉันต้องไปถามให้รู้เรื่อง"ฉันเปิดประตูออกมาแล้วเดินตรงเข้าไปกระชากคอเสื้อชายชุดดำที่ยื่นเฝ้าหน้าประตูอยู่ให้ก้มลงมาสบตาฉัน ตอนนี้แม้แต่ปืนที่เหน็บอยู่ฉันก็ไม่กลัวแล้วฉันจะต้องรู้ให้ได้ว่าคุณยูร์หายไปไหน"คุณมิ้นครับ ทำอะไรครับ!""คูณยูร์อยู่ไหน!""กำลังไปจัดการเรื่องพี่แฟรงค์ไงครับ""จัดการอะไรนานขนาดนี้ไปตามเจ้านายกลับมาเลยนะ! มันกี่โมงแล้วเนี่ยไม่รู้เวลาล่ำเวลาเลย หรือจริงๆ แล้วเจ้านายพวกนายบาดเจ็บแล้วไม่ยอมบอกฉัน พูดความจริงมาเลยนะ""คุณมิ้นครับ อย่าทำแบบนี้ ย๊ากกก!"ด้วยความโกรธทำให้ฉันดึงเนกไทคนตรงหน้าให้ต่ำลงเรื่อยๆ จนคนตัวสูงร้องโวยวาย ตอนนี้ชายชุดดำหลายคนเข้ามามุ่งเราไว้แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาห้ามฉัน ทุกคนเอาแต่ส่งเสียงร้องห้ามกันระงมแต่ฉันก็ยังคงดึงมันให้แน่นขึ
: เจ หลังจากพวกเราจัดการส่งพี่แฟรงค์เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลในเครือของพี่ยูร์เสร็จ เขาก็พาผมมาบาร์ลับแห่งหนึ่งใกล้กับคอนโดโดยให้เหตุผลว่าอยากคุยเรื่องสำคัญ....ระหว่างทางเข้ามามันทั้งเงียบและเปลี่ยวจนผมแอบคิดว่าพี่อาจจะยังสงสัยในตัวผมจนต้องพามาซ้อมหรือเปล่าแต่พอมาถึงหน้าร้านกลับว่ามันเป็นบาร์เหล้าจริงๆ ....ฮูววว... ใจหายหมดผมแอบมองพี่ชายที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ข้างกันอย่างกล้าๆ กลัวๆ ตอนนี้เขามีท่าทีนิ่งเงียบและเคร่งขรึมจนผมไม่กล้าพูดอะไรออกมาแม้แต่คำเดียว เขายังคงกระดกเหล้าเข้าปากเรื่อยๆ อย่างเงียบเชียบราวกับว่าไม่มีผมอยู่ตรงนี้ผมมองเขาเป็นเหมือนที่พึ่งพาเดียวในตอนนี้ผมไม่อยากจะทำให้เขาหงุดหงิดใจจึงได้แต่นั่งดื่มไปเงียบๆ เช่นกัน"เล่ามา....""ครับ?""เล่าเรื่องของนายมา....ทำไมถึงมาที่นี่"ผมก้มหน้านิ่งแล้วยกเหล้าตรงหน้าขึ้นกระดกจนหมดแก้ว ถึงมันจะขมแต่มันคงช่วยให้ผมมีความกล้า นี่ถือว่าเป็นโอกาสที่พี่จะได้รู้จักผมมากขึ้น"ผมเกิดมาเพราะความผิดพลาด....ผมไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านั้น แต่เมื่อผมเกิดมาพ่อก็พยายามจะฆ่าผมจนแม่กับผมไปซ่อนตัวไว้หลายปี แต่ในที่สุดเขาก็หาผมเจอจนได้เขาทำข้อ
Mga Comments