Share

บทที่ 10

Penulis: จิ่นหลี่ชีชี
“นายจริงจังเหรอ?”

ที่หลินโจวพูดก่อนหน้านี้ หลิวซือหมิงมักจะคิดว่าหลินโจวล้อเล่น

เนื่องด้วยว่า หลินโจวนั้นเคยเต็มใจทำทุกอย่างเพื่อหยุนรั่วซีทั้งโดดเรียนและทะเลาะต่อยตี

เมื่อคืนตัวเขาเองยังบอกว่าจะทำให้หยุนรั่วซีประหลาดใจเป็นอย่างมาก

รับรองว่าต่อไปนี้เธอจะขาดเขาไปไม่ได้เลย

แต่หลิวชื่อหมิงไม่คาดคิดว่าหลังจากหนึ่งวันหนึ่งคืนบวกกับการสาบานร้อยวัน คำสาบานจะกลายเป็นเรื่องไร้สาระไปในทันที

นี่คือที่เรียกว่าเพลย์บอยในตำนานเหรอ

นี่มันชั้นเซียนแล้ว!

“แน่นอน ว่าฉันจริงจัง”

ขณะที่พูด หลินโจวก็มองไปที่ฝูงชนอีกครั้ง

พบว่าร่างของสู่เนี่ยนชูลับสายตาไปแล้ว เขาก็ถอนหายใจ

“เฮ้อ เพราะนายเลยเชียว คลาดกับเพื่อนร่วมโต๊ะตัวน้อยไปจนได้”

หลิวชื่อหมิงมองหลิวโจวอย่างตกตะลึง เขาถึงกับถอยหลังไปหนึ่งก้าว พูดอุบอิบอย่างไม่อยากเชื่อ

“นาย นายอย่าแกล้งฉันให้ตกใจนะ ไม่ใช่ว่าโดนผีสิงแล้วนะ นาย…นายยังเป็นพี่โจวของฉันอยู่หรือเปล่านี่”

แม้ว่าจะเป็นรักแรกพบ แต่มันก็เกินจริงไปหรือเปล่า?

ทำไมเขาดูเหมือนคนโรคจิตอย่างนั้น?

หลินโจวยกมือขึ้นด้วยความโกรธ ตบไหล่หลิวซือหมิง และเริ่มออกแรง

"นายว่าอะไร?"

หลิวซือหมิงคร่ำครวญหลังจากถูกตี และต้องตกใจเมื่อรู้ว่าถ้าเขาไม่เปลี่ยนคำพูด แขนของเขากำลังจะหัก!

“ฉันบอกว่าสุดสัปดาห์นี้คุณอยากค้างคืนที่ร้านอินเตอร์เน็ตคาเฟ่ไหม พี่โจว เจ็บ เจ็บ!”

หลินโจวปล่อยไหล่ของหลิวซือหมิง

"ไม่ค้างคืน!"

“หืม? แต่เมื่อสัปดาห์ที่แล้วพี่บอกว่าจะพาฉันไปเล่นเกม...”

"เลิกแล้ว!"

“แล้วพี่ล่ะ พี่จะทำอะไร? พี่โจว ไม่มีพี่ผมไม่สามารถชนะได้!”

“แน่นอนว่าฉันจะเรียนหนังสืออย่างหนักกับเพื่อนร่วมชั้นตัวน้อยของฉัน!”

"..."

หลิวชื่อหมิงเหลือบมองหลินโจวด้วยสายตาดูถูก:

“พี่โจว ทำไมฉันถึงรู้สึกว่าคำว่า “เรียน” ออกมาจากปากพี่ มันดูปลอมๆ ยังไงไม่รู้ มันดูปลอมเหมือนกับตัวพี่ตอนนี้เลย!”

"..."

หลินโจวต้องระงับแรงกระตุ้นที่จะเตะหลิวซือหมิงออกไป จึงยกกางเกงขึ้น:

“ดวลสักตั้ง?”

“โอ้ ช่างเถอะ พี่โจว พี่จะตั้งใจเรียนจริงๆ เหรอ?”

การแข่งขันป่าเถื่อนแบบนี้ ใครจะไปร่วมด้วย

ไม่ใช่เพราะเขาชนะไม่ได้หรอก

"อืม!"

“แล้ว...ผมควรทำยังไงดี?”

หลินโจวกอดไหล่หลิวซือหมิงอีกครั้ง:

“ฉันได้ยินมาว่านายมีน้องชายสองสามคนในโรงเรียนมัธยมสองด้วย?”

“ถูกแล้ว ผมอยู่ไหนก็มีพี่น้องทั้งนั้นแหละ ว่ากันตามหลักพวกนั้นเรียกผมว่าพี่ใหญ่ด้วยซ้ำไป!”

“งั้นก็ดี งั้นช่วยฉันทำอะไรสักอย่างสิ”

"เรื่องอะไร?"

“ช่วยฉันตรวจสอบสู่เนี่ยนชูหน่อย”

สู่เนี่ยนชูย้ายจากโรงเรียนมัธยมสองมา

แต่การสอบเข้ามหาวิทยาลัยใกล้จะมาถึงแล้ว ทำไมเธอถึงย้ายมาเรียนที่โรงเรียนมัธยมหนึ่ง?

หลินโจวรู้สึกว่ามันจำเป็นสำหรับเขาที่จะต้องทำความเข้าใจ

หลิวชื่อหมิงตกใจอีกครั้ง:

“แม้ว่าผมจะคุ้นเคยกับพวกเขา แต่ดูเหมือนว่ามันจะดูโรคจิตไปถ้าเกิดว่าจะสืบประวัติผู้หญิงคนหนึ่ง…”

“การ์ดสะสมแต้มหนึ่งใบ!”

หลินโจวยื่นข้อเสนอ

ดวงตาของหลิวชื่อหมิงสว่างวาบขึ้น เขาคิดครู่หนึ่งแล้วชูสองนิ้ว:

"สอง!"

“เอ่อ งั้นฉันจะไปหาคนอื่น...”

“โอ้ อย่า อย่า อย่า อย่า ผมจะไป ผมจะไป ไพ่แค่ใบเดียวก็ได้ รักษาคำพูดนะ!”

"ตกลง!"

……

“รั่วซี เธอมาทำอะไรที่นี่”

เมื่อหลี่เสียวหวั่นเดินออกจากห้องเรียน เธอเห็นหยุนรั่วซียืนอยู่ที่ประตูหลังของห้องสามใกล้กับประตูหน้าของห้องสอง

เธอขมวดคิ้วและมีความคิดแวบขึ้นมาในใจของเธอ:

“เธอไม่ใช่รอหลินโจวอยู่หรอกนะ?”

บริเวณนี้ ก่อนหน้ามีแขกประจำอยู่คนนึง

หลินโจว

ในระหว่างคาบเรียนสิบนาที เขาถ้าไม่ไปเข้าห้องน้ำ ก็ไม่มีเรื่องอื่น มักจะยืนอยู่ตรงนี้ ตั้งใจทะเลาะกับเพื่อนนักเรียนคนอื่น

แต่ความจริงแล้วขอเพียงหยุนรั่วซีออกมา เพื่อหาข้ออ้างก็จะไถลไปหาเรื่องคุยกับหยุนรั่วซี

แต่ทำไมหยุนรั่วซีถึงมายืนอยู่ที่นี่ในเวลานี้?

เธอเคยเกลียดการเดินผ่านประตูหลังมาก

เธอพูดเสมอว่าดวงตาของเด็กผู้ชายพวกนั้นแทบจะติดอยู่บนตัวเธอแล้ว และเธอก็ไม่ชอบมัน...
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • เกิดใหม่มาพิชิตใจยัยโต๊ะข้างๆ   บทที่ 140

    คนทั้งคนตกตะลึง“พี่ พี่โจว?”หลิวซื่อหมิงตบไปที่บนไหล่ของเขา:“ทำบื้ออะไรอยู่?นี่คือน้ำที่พี่โจวซื้อให้นาย ดูนายสิ โง่แล้วยังทำเป็นอวดฉลาดซื้อมาแค่สี่ขวด ทำให้พี่โจวของฉันไม่ได้ดื่มน้ำเลย!”เซี่ยตงชิง:???เขาพบว่า ทุกอย่างในวันนี้ดูเหมือนว่าจะผิดปกติไปเล็กน้อย“แต่ แต่ว่า พวกนายไม่ได้บอกให้ฉันซื้อห้าขวด…”“นายนับหัวคนไม่เป็นเหรอ?ถ้าอย่างนั้นทำไมพี่โจวถึงไม่ให้นายไปห้าสิบบาท แต่ให้นายไปหนึ่งร้อยบาท?”“เป็นอย่างนี้เหรอ?”เซี่ยตงชิงกลืนน้ำลาย และมองหลินโจวอย่างงุนงงหลินโจว……เป็นอะไรไป?“เอาล่ะ อย่ามัวพูดมากอยู่เลย หลิวซื่อหมิงรีบมากวาดพื้นสิ!”“มาแล้ว!”หลิวซื่อหมิงรีบวิ่งไปแถวสุดท้าย หยิบไม้กวาดขึ้นมาและเริ่มกวาดเฉียนกั๋วกั่วก็กล่าวว่า:“ฉันก็จะช่วยด้วย ไม่ต้องเกรงใจ!”สวี่เนี่ยนชูไม่ได้พูดอะไร แต่เดินไปที่แถวสุดท้ายอย่างเงียบๆทั้งสามต่างก็ถือไม้กวาดกัยคนละด้ามเดิมทีหลิวซื่อหมิงตั้งใจจะกวาดแถวที่สอง แต่ถูกเฉียนกั๋วกั่วรั้งเอาไว้“หลิวซื่อหมิง พวกเราจะไปกวาดสองแถวข้างใน!”“ทำไมเหรอ?”หลิวซื่อหมิงรู้สึกไม่ยินยอมเล็กน้อยเฉียนกั๋วกั่วกลอกตาใส่ และชี้ไปทางหลินโจว ห

  • เกิดใหม่มาพิชิตใจยัยโต๊ะข้างๆ   บทที่ 139

    สามนาทีต่อมาเซี่ยตงชิงเช็ดปาก เคี้ยวข้าวคำสุดท้ายแบบลวกๆ และลุกขึ้นยืน:“ฉันกินเสร็จแล้ว”คนอื่นๆที่ยังกินได้ไม่ถึงครึ่ง :?หลินโจวเงยหน้าขึ้น: “ทำไมนายต้องกินเร็วขนาดนี้ด้วย?”“เดิม เดิมทีฉันเป็นคนกินข้าวเร็วอยู่แล้ว ฉันกลับห้องเรียนก่อนนะ”"เดี๋ยวก่อน"หลินโจวคว้าแขนเสื้อของเขาเอาไว้อีกครั้ง:“จู่ๆก็รู้สึกกระหายน้ำนิดหน่อย ในเมื่อกินข้าวเสร็จแล้ว ไปซื้อเครื่องดื่มมาให้ทุกคน คนละขวดก็แล้วกัน”ขณะที่พูด หลินโจวก็ควักเงินออกมาจากในกระเป๋า ท่ามกลางสายตาที่ประหลาดใจของเซี่ยตงชิง เขาก็เก็บเงินห้าสิบบาท เอาเงินแบงก์ร้อยออกมา แล้วยัดมันเข้าไปในมือของเซี่ยตงชิง"......"เซี่ยตงชิงมองดูการกระทำของหลินโจวด้วยความสับสน และพูดอย่างร้อนใจว่า:“ฉัน...รอให้พวกนายกินเสร็จก่อนแล้วค่อยไปซื้อเองดีไหม?”“ไม่ได้ จะสำลักตายแล้ว ขอร้องล่ะเพื่อนร่วมชั้นเซี่ย นายช่างเป็นคนดีจริงๆ”คำว่าคนดีทำให้เซี่ยตงชิงยินยอมเขารับเงินพร้อมอุ้มกล่องอาหารแล้ววิ่งไปที่ร้านสะดวกซื้อเล็กๆหลินโจวกล่าวอย่างขบขันว่า:“เอาล่ะ ทุกคนกินต่อเถอะ”คณะกรรมการแรงงานจางจิ่นหงตักข้าวกลับมาเผอิญเห็นภาพเหตุการณ์นี้เข้าเ

  • เกิดใหม่มาพิชิตใจยัยโต๊ะข้างๆ   บทที่ 138

    มาถึงโรงเรียนตอนหกโมงเช้าของวันรุ่งขึ้นอย่างตรงเวลาหลังจากอ่านหนังสือในตอนเช้าแล้ว หลินโจวก็หยิบกล่องข้าวออกมา และเตรียมจะไปทานข้าวกับเพื่อนร่วมโต๊ะตัวน้อย เฉียนกั๋วกั่ว และหลิวซื่อหมิงแต่กลับถูกจางจิ่นหงสมาชิกคณะกรรมการแรงงานห้ามเอาไว้:“หลินโจว วันนี้กลุ่มนายจะต้องปฏิบัติหน้าที่ นายอย่ามาเล่นลูกไม้นะ หลังจากที่ทานข้าวเสร็จแล้วให้ตั้งใจทำความสะอาดให้ดีๆ อ้อใช่แล้วหวังลี่หยวนที่อยู่ในกลุ่มของพวกนายย้ายไปอยู่กลุ่มอื่นแล้วนะ ส่วนสวี่เนี่ยนชูให้มาอยู่กลุ่มพวกนาย อีกสักพักนายบอกเธอว่าจะต้องทำอะไรบ้าง”ระบบการทำความสะอาดของห้องสองปกติแล้วจะมีกลุ่มละสี่คนคนในกลุ่มของหลินโจว ได้แก่หลิวซื่อหมิง เพื่อนร่วมโต๊ะของหลิวซื่อหมิงเซี่ยตงชิง หวังลี่หยวนและหลินโจวหลินโจวในอดีต พอถึงเวรปฏิบัติหน้าก็จะเลือกที่จะลืม ดีแต่พูดงานไม่ทำหลิวซื่อหมิงก็มักจะเลียนแบบเขาเช่นกันส่งผลให้ มีเพียงแต่หวังลี่หยวนและเซี่ยตงชิงเท่านั้นที่ทำงานในกลุ่มนี้ทั้งสองคนมักจะพร่ำบ่นอยู่เสมอ และขอร้องจางจิ่นหงย้ายตนไปกลุ่มอื่น จางจิ่นหงไม่มีทางเลือก จึงทำได้แค่มาเร่งเร้าเขาด้วยตนเองทุกครั้งถ้าเร่งเร้าไม่ได้จริงๆ ต

  • เกิดใหม่มาพิชิตใจยัยโต๊ะข้างๆ   บทที่ 137

    ฉินซู่หลานที่กำลังขึ้นไปชั้นบนมองไปที่ฉินอวี่เถียนด้วยความประหลาดใจ“เมื่อก่อนแม่ทำอะไรลูกก็จะกินอันนั้นไม่ใช่เหรอ?”“นั่นมันเมื่อก่อน แต่วันนี้ หนูอยากกินข้าว หนูหิวแล้ว”น้ำเสียงของฉินอวี่เถียนแฝงด้วยความออดอ้อนเล็กน้อย และอดไม่ได้ที่จะแตะท้องของตนเองหิวจริงๆแม้แต่เธอเองก็ยังไม่ทันได้สังเกตว่า ดูเหมือนว่าเธอจะทำตามที่หลินโจวพูด ทีละขั้นตอนเมื่อฉินซู่หลานได้ได้ยินดังนี้ก็รู้สึกเบิกบานใจลูกสาวรู้จักติดแม่แล้ว ดีจริงๆ!“ได้ได้ได้ หนูอยากกินอะไรแม่ก็จะทำอันนั้นให้ ลูกกลับไปพักผ่อนที่ห้องก่อน ทำเสร็จแล้วเดี๋ยวแม่เรียก”"ค่ะ"เปิดประตูห้องพอฉินอวี่เถียนเข้าไปในห้อง ก็เห็นกระต่ายมาร์ชเมลโลว์บนโซฟาเธออยากจะเอื้อมมือไปสัมผัสมันโดยไม่รู้ตัว แต่พอเอื้อมมือไปได้ครึ่งหนึ่ง ก็หยุดอย่างรวดเร็ว แล้วเดินเข้าไปในห้องฉินอวี่เถียนถอดเสื้อผ้าผู้ชายออก แล้วหยิบเสื้อกล้ามกีฬาขึ้นมา เพื่อใช้เป็นชุดนอนแต่หลังจากที่ครุ่นคิดดูแล้ว จับพลัดจับผลูไม่รู้ยังไง เธอก็มาที่หน้าตู้เสื้อผ้าเปิดประตูตู้เล็กๆที่ถูกล็อคไว้ และหยิบชุดนอนหมีของเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆชุดหนึ่งออกมาจากข้างในหลังจากทำท่าต่า

  • เกิดใหม่มาพิชิตใจยัยโต๊ะข้างๆ   บทที่ 136

    “แล้วทำไมไม่บอกตั้งแต่ทีแรก? ครั้งหน้าถ้ากลับมาดึกให้โทรบอกแม่รู้ไหม หนูกลับบ้านดึกขนาดนี้ แม่เป็นห่วงแทบแย่”น้ำเสียงของฉินซู่หลานอ่อนโยนขึ้น บางครั้งก็ปนกับเสียงสะอื้นไห้เธอยกมือขึ้น แล้วลูบหัวของฉินอวี่เถียนเบา ๆท่าทางที่ใกล้ชิดนี้ ทำให้ฉินอวี่เถียนแสบจมูกเธอพยายามที่จะเติบโตขึ้น พยายามที่แข็งแกร่งขึ้น และใช้วิธีการของตนเองปกป้องแม่อยู่ตลอดเวลาจู่ๆตอนนี้ก็รู้สึกว่า แม่ดูเหมือนว่ากำลังปกป้องตนเองมากกว่า?เธอลูบจมูก:“หนูรู้แล้วค่ะแม่ ครั้งหน้าหนูจะกลับมาให้เร็วกว่านี้”"อืม ดีมาก"หลังจากคุยกับฉินอวี่เถียนแล้ว ฉินซู่หลานก็มองไปที่หลินโจว“เสี่ยวโจว ขอบใจหลานมากนะที่ส่งเสี่ยวเถียนกลับมา คืนนี้หลานพักอยู่ที่นี่ไหม? ป้าจะทำอาหารมื้อดึกให้”“ไม่ต้องครับคุณป้า เห็นท่าทางของป้าแล้วผมก็รู้เลยว่า เฒ่าหลินก็จะต้องรอผมอยู่ที่ประตูบ้านแน่นอน ถ้าผมไม่กลับไป กลัวโดนทุบตีเหมือนกันครับ”ฉินซู่หลานครุ่นคิดดูแล้วมันก็ใช่ลูกคือแก้วตาดวงใจของพ่อแม่ตลอดไป ไม่ว่าพวกเขาจะอายุเท่าไหร่ก็ตาม“เอาล่ะ หลานอยากกินอะไรบอกป้ามาได้เลย ป้าทำเสร็จแล้วจะให้เสี่ยวเถียนเอาไปให้”“งั้นก็ ทำลูกชิ้นทอด

  • เกิดใหม่มาพิชิตใจยัยโต๊ะข้างๆ   บทที่ 135

    “ฉันรู้จักเธอแน่นอน แต่เธอกลายเป็นเทพแห่งการเรียนรู้ได้อย่างไร?”"อันดับที่หนึ่งของทั้งเมืองยังไม่ใช่เทพแห่งการเรียนรู้อีกเหรอ? เธอเป็นแค่ผู้หญิงคนหนึ่ง ในสายวิทยาศาสตร์ ได้อันดับที่หนึ่งของทั้งเมือง เอาชนะผู้ชายได้ตั้งมากมาย ยอดเยี่ยมมากเลย ตอนนี้เธอเป็นไอดอลของฉัน! และจะเป็นแบบอย่างในการเรียนของฉันด้วย!"พอฉินอวี่เถียนพูดถึงสวี่เนี่ยนชู ก็รู้สึกภูมิใจเป็นอย่างมากหลินโจวกลืนน้ำลายอย่างเงียบๆ พูดอย่างขบขันว่า:“เถียนเถียน เธอยังไม่รู้จักสวี่เนี่ยนชูใช่ไหม?”ไม่เช่นนั้นเมื่อวานนี้ สวี่เนี่ยนชูคงจะยืนข้างตนเองแล้วแถมยังถูกเธอเข้าใจผิดคิดว่าเป็นแฟนของตนอีก ทำไมสาวน้อยคนนี้ถึงไม่ปฎิกิริยาอะไรเลยสักนิด“ใช่แล้ว ฉันไม่รู้จัก ทำไมเหรอ! คงจะมีโอกาสได้รู้จักเองแหละ”“ถ้าไม่เป็นอย่างนัั้นแล้วจะยังไง? ฉันจะแนะนำเธอให้รู้จักเอาไหม? ฉันค่อนข้างจะคุ้นเคยกับเธอดี”“พอเหอะ เทพแห่งการเรียนรู้ของฉันจะมารู้จักมักจี่กับนักเรียนเรียนแย่อย่างนายได้อย่างไร? เธอไม่ได้ตาบอกซะหน่อย! นายไม่ต้องใช้เธอมาเพื่อมาตีสนิทกับฉันหรอก”"......"“อีกอย่าง ตอนนี้ผลการเรียนของฉันยังไม่ดีพอ ไม่คู่ควรที่จะยืนอยู่ก

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status