เรื่องราวของกลุ่มเพื่อนสนิทที่หลงรักผู้ชายคนเดียวกัน แล้วเกิดการหักหลังกันแอบคบกับ โดยมีฉากหลังเป็นโลกหลังเกิดเหตุการณ์ Covid-19 ระบาด เราเขียนเรื่องนี้ค้างไว้เมื่อครั้งโรคนี้ระบาด ตัดฉากและเหตุการณ์ในสถานที่จริงออกไป ปรับภาษาและย่อหน้าให้อ่านง่ายขึ้น Enjoy! อ่านให้สนุกจ้า
View Moreมลพิษในอากาศพุ่งทะยานสูงไปถึง 3,000 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ในยุคนี้เราอาจจะได้ยินคำว่าฝุ่นผง Pm 2.5 แต่เชื่อไหมว่าในขณะที่นิยายเรื่องนี้ดำเนินไปตัวเลขมันพุ่งไปถึง Pm 8.0 เข้าไปแล้ว ทั้ง ๆ ที่ปริมาณฝุ่นในอากาศที่มนุษย์อาศัยได้โดยไม่เป็นอันตรายคือ 50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตรเท่านั้น
.
ด้วยความสัตย์จริงโลกไม่ได้เกิดสงครามนิวเคลียร์ แต่พวกเรากำลังเผชิญอยู่กับเชื้อร้ายที่แผ้วถางทุกสรรพสิ่งอย่าง "โคโรน่าไวรัส" แล้วก็อาจจะเป็นเพราะจำยากล่ะมั้ง เหล่านักวิทยาศาสตร์ทั้งหลายจึงตั้งชื่อโรคอุบัติใหม่นี้ว่า "covid -19" ซึ่งเกิดจากการรวมคำสามคำ (c)orona , (vi)rus , (d)isease และ starting in 20(19) เข้าด้วยกัน!
.
ไวรัสร้ายกัดกินไปทุกพื้นที่มันแทรกซึมเข้าสู่ผู้คน , สัตว์เลี้ยง , ปศุสัตว์ , หรือแม้กระทั่งแหล่งน้ำ ปลาทะเลสัตว์น้ำจืดต่าง ๆ ล้วนถูกปนเปื้อนหมด การแพร่ระบาดอันหนักหน่วงเริ่มต้นขึ้นเมื่อปี 2019 จวบจนถึงปีปัจจุบัน แล้วโลกก็ถึงกาลปาวสานอย่างสมบูรณ์แบบ!
.
ทั่วทุกหัวระแหงกลายสภาพเป็นทะลทราย ตึกรามบานช่องถูกทิ้งร้างเต็มไปด้วยฝุ่นผงและเถ้ากระดูกของซากศพที่ตายแล้วไม่ได้ฌาปนกิจ พวกเขาถูกปล่อยให้เน่าตายอย่างน่าสงสาร การกักตัวอันแสนทรมานทำให้เลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องอยู่ในสภาวะอดอยากขาดของกิน เกิดการจราจลปล้นสะดมไปทั่วทุกหย่อมหญ้า เงินไม่มีค่าแบงค์พันเป็นปึกก็ไม่ต่างจากเศษกระดาษ เพราะเอาไปซื้ออะไรใครก็ไม่ยอมขาย
.
ซากกระดูกร่างหนึ่งหล่นลงมาจากแง่งระเบียงของคอนโดที่เคยหรู ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นชายหรือหญิง รู้แต่ว่าแห้งผากเหมือนขาดน้ำ อวัยวะภายในระเหยหายไปหมดไม่ต่างจากมัมมี่ วินาทีที่ตกกระทบพื้นจากความสูงระดับตึก 10 ชั้น ทำให้เศษชิ้นส่วนแตกกระจายเกลื่อน ผมเผ้าไม่เหลือสักเส้น แขนไปทางขาไปทางชวนให้จิตตก ก่อนที่จู่ ๆ จะมีฝูงหมาหิวโซราว 3 - 4 ตัว ปรี่เข้ามารุมแทะ
.
"บ๊อก! , บ๊อก! , บ๊อก!"
"งั่ม! , ง่ำ ๆ ๆ , ง่ำ ๆ ๆ , งั่ม!"
.
กระดูกกับหมาล้วนเป็นของคู่กันแต่ทำไมนะทำไมกัน คราวนี้เห็นทีจะไม่ใช่! เมื่อ covid-19 กินลึกเข้าไปถึงไขกระดูก มันยักย้ายถ่ายเทเชื้อจากร่างพาหะหนึ่งไปสู่อีกที่หนึ่ง โดยไม่สนว่าจะเป็นคนหรือเป็นหมา ฉะนั้นทันทีที่ฝูงหมาดังกล่าวถอยร่นออกมาหลังกินเสร็จ ร่างของพวกมันก็เริ่มหลอมละลาย
.
covid - 19 พัฒนาการได้เร็วมากใน ค.ศ.นี้ มันไม่ได้เล่นงานแค่ปอดทำให้หายใจลำบากอย่างเดียว แต่มันฆ่าทุกเซลล์ พลาสม่าในกระแสเลือดเหยื่อจะทำปฏิกิริยากับเอมไซม์ทำให้เลือดมีสภาพเป็นกรด
.
หลักฐานคือการหอนแบบแหบแห้งที่ไม่ต่างจากการไอ กลุ่มเจ้าตูบผู้หิวโหยนอนเอาหัวพิงกันตะกุยตะกายแช่มช้า แล้วต่อมาขนของพวกมันก็เริ่มหลุดร่วง ผิวหนังปริแตกออกเป็นเยื่อบาง ๆ เปื่อยยุ่ยไหลลงมากองรวมกันบนพื้นอย่างน่าขนลุก มีเลือดกรดไหลซึมออกมาพร้อมกับฟองอันฟดฟู่ ช่างเป็นภาพที่น่าหดหู่แต่ก็ยังดีที่ไม่กี่อึดใจต่อมา สัตว์ทั้งหลายก็สูญสลายกลายเป็นไอละออง
.
"ฟู่~~~!"
.
เรื่องทำนองนี้เกิดขึ้นทุกตารางเมตรบนโลก ไม่ว่าจะในเมืองหลวงหรือชนบท มนุษย์โลกลดปริมาณลงอย่างรวดเร็วนับจากการระบาดเมื่อ 3 ปีก่อน ณ ปัจจุบันเราเหลือจำนวนประชากรโลกเพียง 1 ใน 3 หรือ 2 พันล้านคนจาก 7 พันล้านคนเมื่อปี 2019 แล้วก็ไม่มีแนวโน้มว่าจะหยุดลงเลย นับวันคนก็ยิ่งตาย สภาวะอดอยากเข่นฆ่าแย่งทรัพยากรมีปรากฏให้เห็นในทุกประเทศ ไม่ว่าจะชาติไหนหรือนับถือศาสนาอะไร
.
พระเจ้าไม่อาจช่วย อัลเลาะห์ก็ไม่แยแส ส่วนเจ้าชายสิทธัตถะจากอินเดียน่ะเหรอ ต้นโพธิ์ที่พระองค์นั่งตรัสรู้ตอนนี้ก็น่าจะถูก covid -19 กัดกร่อนลงไปยังรากลึกแล้ว โลกกำลังจะตายโดยไม่ต้องสืบ วิกฤตโลกร้อน Climate Change , ปรากฏการณ์เอลนินโญ่ , พายุหมุน , สึนามิ , สกิลการทำลายของภัยพิบัติเหล่านั้นช้าเป็นเต่าคลาน เมื่อเทียบกับความตะกละตะกลามของไวรัสร้ายนามว่าโควิด
.
.
ณ แอ่งน้ำอันแห้งขอดแห่งหนึ่ง สันนิษฐานจากสายตาคิดว่าน่าจะเป็นบ่อบำบัดน้ำเสียของโครงการบ้านจัดสรรสักที่ ทว่ากลับไม่มีใครสน ฝ่าเท้าที่ห่อหุ้มด้วยรองเท้าบูธหุ้มข้ออย่างดีย่างกายไต่ขอบตลิ่งลงไปสู่ก้นบ่อด้านล่าง เศษธุลีดินโบยบินเศษหินปลิวว่อนฟุ้งโขมง บ่งบอกว่าความเหือดแห้งกลางใจเมืองนั้นแสบทรวงขนาดไหน
.
หล่อนย่ำเท้าไปข้างหน้า 30 ก้าว กว่าจะค้นพบแหล่งที่มีความชื้นปรากฏ สักพักรองเท้าบูธก็เริ่มมีรอยบุ๋มและมีเศษดินโคลนเปื้อนติด นั่นทำให้เธอพอจะมีความหวัง
.
"ได้การณ์ล่ะ! ตรงนี้พอจะมีน้ำแฮะ!"
หญิงสาวพูดกับตัวเอง พลันซ่อนรอยยิ้มสวยเอาไว้ภายใต้หน้ากากกันฝุ่นรุ่นพิเศษ
.
จากนั้นจึงค่อย ๆ ย่อตัวลงช้อนฝ่ามือทั้งสองข้างแหวกผ่านมวลโคลนตม เพื่อตักเอาน้ำอันน้อยนิดขึ้นมาซดเสียงดัง โครกกกก!! ลงสู่ลำคอ
.
"อึก ๆ , อึก ๆ , อึก...ก...ก..ก , อึก ๆ"
.
"อ่าาาาาา~!"
.
ไม่ถึงกับชื่นใจแถมยังฝืดคอเป็นที่สุด อย่างที่รู้ว่ามันคือบ่อบำบัดน้ำเสียแล้วจะไปเอาความสะอาดสดใสเหมือนน้ำดื่มตราสิงห์ในขวดพลาสติกได้ยังไง เม็ดทรายนับล้านกลิ้งกลอกลงลำคอ แต่ก็ช่างมันเถอะ! ในเมื่อความกระหายกำลังจะฆ่าเธอกับเพื่อน ๆ ให้ตายอยู่รำไร เจออะไรก็ต้องกระดกเอาไว้ก่อน
.
หญิงสาวอยู่ในชุดผ้าคลุมสีเขียวขี้ม้า เธอมีผมตรงยาวประบ่าสีส้มอมแดงแถมยังเต็มไปด้วยคราบเขม่า เนื้อตัวสกปรกมอมแมมตามสไตล์ของผู้รอดชีวิตกลุ่มสุดท้ายซึ่งละม้ายคล้ายกับซอมบี้มากกว่าจะเป็นคน แต่ก็ไม่ใช่เพราะเธอยังมีจิตใจเมตตาเป็นกุศลอยู่ หลังจากซดน้ำล้างคอเสร็จ ก็เลยตัดสินใจลงมือทำแบบเดิมซ้ำอีกรอบ
.
ทว่าคราวนี้ต่างจากเดิมหน่อยเพราะน้ำในอุ้งมือที่ช้อนมาได้จู่ ๆ ก็ถูกเทเข้าไปในกระเป๋ากางเกงซะอย่างงั้น! เธอนั่งลงตักอีกสามสี่ทีจนกระเป๋ากางเกงตุงได้ที่ จึงได้ยืนขึ้นแล้วก็เอื้อมมืออีกข้างมาตบลงที่กระเป๋าเสียงดัง "เพลี๊ยะ!" ทำให้มีน้ำกระฉอกออกมาเล็กน้อย
.
สิ่งนี้คือนวัตกรรมล้ำโลก เป็นเทคโนโลยีที่ถูกผลิตขึ้นในปีปัจจุบันโดยบริษัทสัญชาติไทยยักษ์ใหญ่นามว่า "AP" ซึ่งมีเจ้าของเป็นเจ้าสัวคุมกิจการการค้าและสินค้าทางการเกษตรของทั้งภูมิภาค
.
การตบเมื่อครู่ทำให้ตัวเลขดิจิตอลแสดงขึ้นที่ตะเข็บกระเป๋ากางเกง ก่อนที่สาวเจ้าจะหลุบสายตาลงไปมองแล้วก็ใส่ตัวเลข 70 เข้าไป แล้วก็กดปุ่ม "Enter" ไม่ช้าไม่นานกระเป๋ากางเกงลายพรางที่มีน้ำ 3 อุ้งมือก็เริ่มสั่นไหว! กระบวนการแยกกรดเบสท์ออกจากอนุภาคไอออนเกิดขึ้นในกระเป๋า จนกระทั่งผ่านไปราวครึ่งนาทีเสียงสัญญาณเตือนดัง "ติ๊ด!" ก็ดังขึ้น
.
"อืม..เรียบร้อยแล้วสินะ!"
.
เธอพูดหลังจากยืนเหม่อลอยอยู่ท่ามกลางอ่างเก็บน้ำอันเวิ้งว้างและแห้งแล้ง ก่อนจะใช้มือเปล่า ๆ สอดเข้าไปในกระเป๋ากางเกง แล้วก็ได้ออกมาเป็นแคปซูลบรรจุน้ำจำนวน 70 เม็ดตามที่ได้คีย์ข้อมูลเอาไว้ จัดว่าเป็นอะไรที่พกง่ายกินตอนไหนก็ได้ แถมยังง่ายต่อการจำหน่ายจ่ายแจก
.
"โอเคเท่านี้ก็ย้อนกลับขึ้นไปหาทุกคนข้างบนได้แล้ว ต้องขอบคุณบริษัท AP กับเจ้าสัวคนรวยพวกนั้นล่ะนะ ที่ผลิตของเจ๋ง ๆ แบบนี้ออกมาในยามที่ชาติวิกฤต แต่จะดีกว่านี้มากถ้า AP ช่วยขจัดเชื้อ covid -19 ให้ออกจากประเทศเราไปเลย!"
.
จบประโยคปลายนิ้วสวยก็ได้กดปุ่มเล็ก ๆ บริเวณหลังหู แล้วทันใดนั้นเอง! ครอบแก้วขนาดพอเหมาะก็พับตัวขึ้นมาเหวี่ยงสะบัดงับปิดใบหน้า "แกร็ก!" เว้นแค่ลูกตาเอาไว้เหมือนใส่หน้ากาก พอกดปุ่มเดิมซ้ำอีกทีใบพัดสีแดงสะท้อนแสงแวววับที่อยู่ภายในก็เริ่มหมุน มันจะทำการฟอกอากาศทุกอณูที่เข้าไปให้เป็นอากาศบริสุทธิ์ที่ไม่มีพิษและปลอดเชื้อ ซึ่งหน้ากากแก้วตัวนี้ก็เป็นอีกหนึ่งนวัตกรรมที่ทางบริษัท AP คิดค้นขึ้นเพื่อช่วยคนในชาติเช่นกัน
.
"ฮืดดด....ฮาดดดด....ฮืดดดด.....ฮาดดดดด"
.
"ใกล้แล้วทุกคน.. ใกล้แล้ว.. ฉันจะเอาน้ำขึ้นไปให้เดี๋ยวนี้แหละ.. อดทนหน่อยนะ.. แฮ่ก ๆ แฮ่ก ๆ"
.
แพรว อิสรา คือชื่อของเธอ ด้วยบุคลิกและท่าทางในตอนนี้ผู้อ่านอาจจะคิดว่าเธอเป็น "อลิส" ในหนังเรื่อง Resident evil แต่ความจริงนั้นตรงกันข้าม! แพรวก็แค่นักศึกษาหญิงธรรมดาคนหนึ่งที่จับพลัดจับผลูมาอยู่ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก โลกหลังการระบาดของ covid- 19 เปลี่ยนโฉมหน้าไปโดยสิ้นเชิง มันทำให้คนรวยเปลี่ยนเป็นคนโลภ , คนจนกลายเป็นคนเห็นแก่ตัว , แล้วก็เปลี่ยนคนใจดีให้เป็นฆาตกร ไม่เว้นแม้แต่เธอ ที่เปลี่ยนสถานภาพจากนักศึกษากลายเป็นอะไรไปแล้วก็ไม่รู้?
.
"เฮือกกกกก! "
"ถึงแล้ว! แฮ่ก ๆ , ถึงสักที! แฮ่ก ๆ"
.
หน้ากากครอบแก้วเต็มไปด้วยฝ้าละออง ใบพัดฟอกอากาศทำงานหนักมากเพราะต้องแข่งกับการหายใจที่หอบรัว แพรวยิ้มอยู่ภายในโดยไม่ให้ใครเห็น การทำความดีคงไม่ต้องอวดเบ่งคือสิ่งที่เธอคิดหลังก้าวขึ้นมาบนขอบตลิ่งได้สำเร็จ นั่นเผยให้เห็นภาพเบื้องหน้าที่เป็นคาราวานรถออฟโร้ดจำนวน 4 คัน จอดเรียงกันอยู่ รอยกระสุน , เศษดินโคลน , กระจกกระจังหน้าที่แตกร้าว , บวกกับความสมบุสมบันสารพัด ล้วนบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าคนกลุ่มนี้ผ่านอะไรร่วมกันมาบ้าง
.
ผู้คนเริ่มทยอยออกมาจากหลังรถ พวกเขากระชับพานท้ายปืน กำมีดกำไม้กำด้ามกระทะทำทุกอย่างเพื่อเตรียมปะทะหากเกิดเหตุไม่คาดฝันขึ้น กะจากสายตาน่าจะมีกันราว 15 ชีวิตเห็นจะได้ ดูจากชุดที่แต่งก็บอกได้อีกเช่นกันว่ามีกันหลายอาชีพ ไล่มาตั้งแต่นักศึกษา , พยาบาล , คนขายล็อตเตอรี่ ไม่เว้นแม้กระทั่งเด็ก!
.
พวกเขาน่าจะหนีตายกันมาแล้วก็ถูกแพรวช่วยไว้ด้วยเหตุผลบางอย่าง ทำให้กลุ่มค่อย ๆ ขยายใหญ่ขึ้นเป็นคาราวานที่รักและคอยปกป้องซึ่งกันและกัน หลักฐานก็คือเสียงตะโกนของเด็กชายคนหนึ่งที่แว่วดังออกมาจากกลุ่ม
.
"พี่แพรวมาแล้วววววว!! , น้ำมาแล้ว!!"
หัวกลมผมชี้วิ่งพรวดออกมากระโดดกอดแพรวอย่างน่าเอ็นดู หนุ่มน้อยรายนี้น่าจะอายุราว 8 - 9 ขวบเท่านั้น เทียบกันแล้วก็น่าจะอยู่ราวป. 2 - ป. 3 แต่จะมีประโยชน์อะไรในเมื่อโรงเรียนทั้งหมดล้วนถูกสั่งปิดไปตั้งแต่เมื่อ 3 ปีก่อน
.
"หมับ!"
พวกเขาสวมกอดกัน ด้วยสภาพที่โคตรจะมอมแมมสกปรก
.
"อย่าวิ่งเร็วนักสิโบ๊ท! เอ้านี่! แบมือมาเอาน้ำไปกิน!"
แพรวส่งแคปซูลน้ำที่เพิ่งเก็บมาให้ 1 เม็ด หนูน้อยไม่รอช้าอ้าปากงับทันทีในเสี้ยวอึดใจ
.
"ง่ำ ๆ , อ่าาาาาา~ ชื่นใจจังครับพี่แพรว , พี่แพรวใจดีที่สุดเลย!"
.
"..........."
เธอไม่ตอบอะไรบุคลิกขี้อายกับรอยยิ้มสวย ๆ ล้วนถูกซ่อนไว้ใต้หน้ากากครอบแก้ว ก่อนจะกวักมือเรียกทุกคนออกมา วางอาวุธแล้วเอาน้ำไปกินแก้กระหายกัน พวกเขากินน้ำกันครั้งสุดท้ายก็เมื่อ 2 - 3 วันที่แล้ว
.
.
การรับแจกแคปซูลดำเนินผ่านไปด้วยดีตามวัตถุประสงค์ แต่ทว่าเมื่อถึงคิวคนสุดท้ายพี่พยาบาลวัยกลางคนที่ไม่ได้สวมชุดพยาบาลก็ได้ป้องปากบอกกับแพรวว่า คาราวานมีปัญหาบางอย่างที่เธอไม่สามารถแก้ไขสถานการณ์ได้ด้วยตัวคนเดียว
.
"ซุบซิบ ๆ , ซุบซิบ ๆ "
.
"ห๊ะ! เป็นไปได้ไงคะพี่! หนูอุตส่าห์กำชับกับพี่ไว้แล้วว่าอย่าให้เรื่องนี้เกิดขึ้น! พี่คือหมอที่เก่งที่สุดที่เรามีแล้วนะคะ!"
.
"ใจเย็นค่ะน้องแพรว อย่าเสียงดังไปเดี๋ยวคนอื่นได้ยิน เอาเป็นว่าน้องมาดูกับพี่ก่อน.."
.
"ค่ะ...เอางั้นก็ได้"
.
ปล่อยให้ชาวแก๊งค์คนอื่น ๆ ดื่มด่ำกับน้ำแคปซูลที่เก็บมาจากบ่อบำบัดไป ส่วนสองสาวผู้กุมความลับไว้ก็ได้เดินอ้อมกลุ่มรถออฟโร้ดมายังรถคันที่อยู่หลังสุด สีของมันดำขลับตัวถังเต็มไปด้วยร่องรอยเฉี่ยวชนและการบุบจากการโดนกระแทก กระบะหลังมีการเชื่อมโครงเหล็กทำเป็นลูกกรงเอาไว้ พลางใช้ผ้าใบสีดำคลุมทับอีกทีราวกับเป็นของสำคัญมากๆ ที่ต้องปกป้อง แต่สุดท้ายก็ต้องโดนแพรว อิสรา กระชากออกอยู่ดี
.
"พรึบบบบ!!!!"
.
สว่างจ้าแสบตาเป็นยองใยเมื่อภาพที่เห็นคือกลุ่มเด็ก ๆ อายุราว ๆ กับโบ๊ทนั่งเว้นระยะห่างกันประมาณ 1 ช่วงแขนตามทฤษฎี Social Distancing เป๊ะ! ๆ ดูจากสายตาน่าจะมีราว ๆ 10 กว่าคนแล้วก็มีทั้งเพศชายและเพศหญิง พวกเขาไม่ได้มีท่าทางตกใจอะไรแต่แค่แสบตาเล็กน้อย มิหนำซ้ำยังยิ้มให้พี่แพรวใจดีของพวกเขาด้วย
.
"แล้วไงคะพี่..แพรวก็เห็นว่าทุกคนปกติดี"
.
"ไม่ค่ะ!?"
พยาบาลตอบเสียงสั่น เธอเอื้อมมือไปข้างหลังเพื่อหยิบเอาปืนวัดอุณหภูมิออกมาถือไว้ ก่อนจะพูดต่อ
.
"หมายเลข 013 ออกมาที่หน้ากรงด้วย.."
.
เด็กหญิงผูกผมเปียตาบ่องแบ้วคนหนึ่งค่อย ๆ แหวกขอทางเพื่อนออกมา สีหน้าเธอเป็นกังวลผิดวิสัยมิหนำซ้ำยังตัวสั่นเป็นลูกนก ราวกับรู้ตัวว่าตนเองผิดปกติ
.
สอดคล้องกันกับคุณพยาบาลที่จัดแจงยิงปืนวัดอุณหภูมิเข้าที่หน้าผาก ตัวเลขสูงปรี๊ดขึ้นไปถึง 39.7 ทั้งที่อุณหภูมิปกติกของคนเราอยู่แค่ 37 องศาเท่านั้น สิ่งนี้บ่งบอกว่าแม่หนูหมายเลข 013 กำลังเป็นไข้ แล้วแพรวผู้เป็นหัวหน้าก็ต้องทำอะไรสักอย่าง
.
"นะ...หนูขอโทษพี่แพรว...หนู....ฮือ...ฮือ...ฮือ...."
ร่างจิ๋วร้องไห้เกาะลูกกรงอย่างน่าสงสาร แม้แต่พี่พยาบาลเองก็ต้องเดินเลี่ยงออกไปน้ำตาคลอเบ้า หลังจากสังเกตเห็นสิ่งที่แพรวกำลังจะทำ
.
เธอเอื้อมมือไปที่ด้านหลัง สอดฝ่ามือขวาล้ำเข้าไปใต้ชายเสื้อกล้ามสีเขียวขี้ม้า พลันควักเอาปืนพก 9 มม. กร็อก 18 Burst Fire ความจุกระสุน 33 นัด ขึ้นมาถือไว้ในมือ ก่อนจะหันปลายกระบอกปืนไปจ่อเข้าที่กึ่งกลางหน้าผากเด็ก!
.
"ปัง!!!!!!!"
หนึ่งนัดเข้าหน้าผาก
.
"ปัง!!! , ปัง!!! , ปัง!!!! , ปัง!!!!"
โหมด Burst Fire ทำให้ที่เหลือเป็นการยิงรัวกราดซ้ำจนหมดแม็ก! ศพเด็กกองอยู่ใต้ลูกกรง!
.
.
เสียงปืนดังกล่าวดังสนั่นหวั่นไหว! จนทำให้ทุกคนที่เคยกระโดดโลดเต้นเพราะได้น้ำกินหันมองเป็นตาเดียวกัน ไม่มีคนพูดอะไร สักพักถึงมีวัยรุ่นในกลุ่ม 3 - 4 คนเดินมาเก็บศพราวกับรู้หน้าที่ พวกเขาโยนร่างอันไร้วิญญาณลงไปในบ่อน้ำอันแห้งเหือดดด..
ความตึงเครียดทวีความรุนแรง เมื่อเสียงปืนดังขึ้นไม่ว่าจะเป็นจากแห่งหนตำบลไหนก็ย่อมเรียกร้องความสนใจได้เสมอ รถเก๋งคันงามจอดในองศาที่ผิดสังเกต คนในรถสาดกระสุนออกมาด้วยความบ้าระห่ำ หนำซ้ำยังมีผู้ติดเชื้อกลายพันธุ์เข้ามารุมสกรัมทำร้าย สถานการณ์เช่นนี้มีหรือกลุ่มแคลนผู้อยู่รอดที่แทรกซึมอยู่ตามจุดต่าง ๆ จะไม่เห็นโอกาส .ตามซอกตึกและมุมมืดในละแวก เหล่าประชาชนผู้มีชีวิตรอดต่างโหยหาต่อสิ่งนี้มาตลอด มองปราดเดียวพวกเขาก็รู้แล้วว่ายานยนต์ล้อฟรีคันดังกล่าวคือยนตรกรรมของพวก AP บริษัทเอกชนส้นตีนที่ทำให้ทุกอย่างเลวร้ายลงจนถึงขั้นวิกฤตอย่างที่เป็นอยู่ ด้วยอาวุธที่พวกชุดดำใช้ตอบโต้ออกมา ยุทโธปกรณ์ทรงคุณค่าเหล่านั้นจะช่วยแคลนต่าง ๆ ได้มาก ถ้าย้ายฟากมาอยู่ในการครอบครองของพวกเขา .รวมกับความเกลียดชังที่มีต่อเจ้าหน้าที่อยู่เก่าก่อน เห็นคนของ AP โดนถล่มหนัก กลุ่มชาวเมืองที่หลบซ่อนจึงมีแต่ความสะใจและออกมาผสมโรงรุมสกรัมช่วยกันให้พรึบ! กลายเป็นการปะทะกันระหว่างคนหลายฝ่ายที่ต่างก็มีจุดยืนเป็นของตัวเอง ซอมบี้ผู้ติดเชื้ออยากจะกินเนื้อมนุษย์ คนชุดดำอยากจะรีบไปช่วยคน ในขณะที่อีกฝั่งก็จ้องจะปล้นสะดมเอาของที่ต้องก
ว่ากันว่าไฟไหม้หรือแผ่นดินไหวไม่ควรใช้ลิฟท์ ทว่าปัจจุบันหญิงสาวเจ้าของบริษัทกลับเผชิญอยู่กับบางสิ่งที่เหนือกว่าภัยธรรมชาติหลายเท่า ลิฟท์โดยสารตัวนี้จึงเข้ามาซัพพอร์ตได้อย่างทันท่วงที มิวท์รีบกระทุ้งข้อศอกใส่ปุ่มกดด้านข้าง.ในจังหวะที่บานประตูเลื่อนปิดลงเธอดีใจเหลือล้น ที่ยังคงเห็นเปรมโดนซากเพดานทับถมอยู่บนพื้น ภาพร่างกายอันน่าขยะแขยงของเขาค่อย ๆ เลื่อนหายไปจากสายตา ลิฟท์ได้นำพาเธอลงมายังชั้นล่างแม้จะรู้อยู่แก่ใจว่าเปรมยังไม่ตาย แต่หนีมาได้หวุดหวิดขนาดนี้ก็นับว่าเก่งแล้วสำหรับการบู๊ครั้งแรก.“แกร๊ก.. ก.. ก.. ก ๆ , แกร๊ก.. ก.. ก.. ก ๆ”.สองนิ้วรัวใส่แอพแช็ทในสมาร์ทโฟนแบบเร็วจี๋ ด้วยความที่ตึกสำนักงานใหญ่เป็นอาคารสูงที่ติดอันดับท็อปของประเทศ จึงเป็นธรรมดาที่ในลิฟท์ย่อมเป็นจุดอับสัญญาณ มิวท์ไม่สามารถใช้โทรศัพท์ในนี้ได้ เช่นกันกับสถานการณ์ที่ต้องรีบ สาวเจ้าจึงจัดแจงถ่ายทอดคำสั่งผ่านไปยังผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง ด้วยข้อความแช็ทในโทรศัพท์.เธอแจ้งให้หน่วยติดอาวุธทุกหน่วย รวมไปถึงหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ทุกชุดให้หยุดภารกิจที่ทำลงไปก่อน จากนั้นจึงแจ้งข้อมูลความจริงเกี่ยวกับสถานการณ์ทั้งหมดให้ทุ
“พ่อคะแม่คะ..มิวท์คงต้องทำแล้วสินะ มิวท์ขอโทษนะถ้าสิ่งที่ทำจะนำความล่มสลายมาสู่บริษัท”“แต่มิวท์ทนดูต่อไปไม่ได้แล้วค่ะ ทุกอย่างมันบานปลายเกินจะควบคุม เงินที่เรามีนั้นไม่มีค่าอะไรเลยถ้าผู้คนต้องมากลายเป็นสัตว์ร้ายกันไปหมด เราต้องช่วยเหลือพวกเขาสิคะถึงจะถูก!”“มิวท์พอแล้ว! มิวท์จะไม่ขายอะไรอีกแล้ว! แต่มิวท์จะช่วยผู้คนแทน ได้มากได้น้อยก็ยังดีกว่าไม่ทำอะไร”.เป็นอีกครั้งที่ประธานสาวเลือกที่จะเมินใส่เปรม แม้ผนังกระจกกั้นจะเริ่มร้าวและสั่นกระเพื่อมแรงขึ้นเรื่อย ๆ แต่ไฟในตัวกับเจตจำนงค์อันร้อนแรงก็นำพามิวท์ให้มายืนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้าแทน บนหลังตู้มีภาพของพ่อกับแม่ที่เป็นประธานบริษัทคนเก่าตั้งอยู่ เธอจดจ้องมันอยู่ชั่วครู่ก่อนจะพรั่งพรูถ้อยคำในข้างต้นออกมา.หมดปัญหาเพราะไม่มีใครจะต้านทานเธอได้ เปรมกลายร่างไปแล้วส่วนพ่อแม่ก็เสียชีวิตลงแล้วจากเชื้อโควิด มิวท์ก็เลยกลายเป็นผู้มีอำนาจเต็ม ตัวตนที่แท้จริงของเธอก็เลยได้ฉายแสง ว่าที่จริงแล้วเจ้าหล่อนก็ไม่ได้เป็นคนชั่วช้าสามานย์อะไร ทุกอย่างที่ทำไปล้วนเกิดขึ้นจากอารมณ์ชั่ววูบ มิวท์นิสัยดีจะตายไม่งั้นแพรวคงไม่รับเธอไว้เป็นเพื่อนหรอก.“เอี๊ยดดด!”.เปิ
“กึก! , กึก! , กึก! , กึก!”แอดวานซ์ขึ้นไปอีกขั้นเมื่อโควิดสายพันธุ์ New Hell ได้บังคับร่างของเปรมให้หยุดเลียผนัง แล้วหันมาเล่นงานที่กลอนประตูแทน .มันบังคับร่างของเขาให้กระชากลูกบิดออก จะได้ออกไปสังวาชกับมิวท์ที่ด้านนอกต่อได้อย่างสาสมใจ แต่เดชะบุญที่กลอนนั้นแน่นมาก มือเปล่าของเปรมก็เลยสู้ไม่ไหวมีอันต้องถอยกรูกลับออกมานั่งลงบนเตียงตามเดิม พลันเป่าปากพรูแล้วก็จ้องเขม็งไปที่ใบหน้าของมิวท์ที่ยังคงเต็มไปด้วยหยาดน้ำตา.ช่างเป็นภาพที่น่าสังเวชใจยิ่งนัก ลุคหล่อเนียบสไตล์หมอเนิร์ด ๆ หายไปหมดสิ้น จนมิวท์เองยังถึงกับต้องโพล่งคำออกมา.“โถ่.. พี่เปรมมันเกิดอะไรขึ้นกับพี่กันแน่ มิวท์ไม่มีหมอที่จะมารักษาพี่ได้แล้วนะ”“พี่ต้องสู้กับมันสิ! อย่าให้มันควบคุมพี่ได้! สู้สิคะพี่ตั้งสติหน่อย!”มิวท์ให้กำลังใจ สอดรับกับจังหวะแห่งโชคชะตา ที่ยังคงพัดพาความระยำซั่มแม่มาใส่อย่างต่อเนื่อง.“กริ๊งงง~~!”โทรศัพท์จากอีกสายดังขึ้นแทบจะทันทีหลังเคลียร์เรื่องอีเมลล์จากชาติมหาอำนาจเสร็จ ความสั่นของมันดั่งกำลังตอกย้ำถึงความอัปมงคลที่จะเกิดขึ้น.“คราวนี้อะไรอีกล่ะ.. ยังจะมีเรื่องอะไรที่บัดซบกว่านี้อีกเหรอ!?”โกรธกร
เคยได้ยินว่ามีเชื้อจากอังกฤษบ้าง เชื้อจากอินเดียบ้าง หรือบางทีก็เป็นเชื้อจากแอฟริกา ทว่าแต่ละสายพันธุ์ก็ล้วนแต่มีวัคซีนที่ผลิตออกมารักษาให้หายขาดได้ทั้งสิ้น สวนทางกับเชื้อสายพันธุ์ New Hell ที่เปรมเป็นตัวพาหะ ฤทธานุภาพแม่งคนละเรื่อง! แล้ววัน ๆ เปรมก็ต้องทำงานร่วมกับคนเป็นจำนวนมาก ออกพ่นก๊าซแต่ละครั้งก็มักจะมีประชาชนทยอยออกมารับบริการไม่ต่ำกว่าร้อย จากที่ว่าจะหายทุกคน ก็เลยกลายเป็นกลุ่มเสี่ยงสูงไปโดยปริยาย.ลึกลงไปจากตึกสำนักงานใหญ่ชั้นสูงสุด มิวท์มองไม่เห็นหรอกว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างที่ข้างล่างนั่น แต่เธอสังหรณ์ใจไม่ดีเลย เสียงคำรามเกรี้ยวกราดของเปรม ชวนให้เธอจินตนาการไปถึงผู้คนที่ทยอยกลายร่างจนสภาพเป็นเหมือนเขา โควิดกำลังจะกลืนกินร่างต้น มันไม่ใช่เชื้อกระจอกที่ใครต่อใครจะปรามาสได้ และบางทีพวกมันก็คงจะรอโอกาสนี้อยู่นานแล้ว ที่จะได้ออกมาเจิดจรัสในฐานะของผู้สั่งการ แทนที่จะเป็นแค่ปรสิตติดสอยห้อยตามร่างต้นอย่างที่เคยเป็นมาก่อน .เชื้อมันเอาจริง ไม่งั้นมิวท์ไม่ลุกลี้ลุกลนขนาดนี้หรอก.“โถ่เอ๊ย!”“ถ้าเป็นงั้นจริง.. เราแย่แน่!"“กรอดดดด.. ด.. ด.. ด”คิดไปพลางขบกรามไปด้วย มิวท์ขยุ้มชายเสื้อคล
“หายใจดิพี่.. ลองหายใจดู!”เสียงโบ๊ทตะคอกอัดหน้า เขาสะบัดมือพึบพับโบกอากาศอัดใส่หน้าตัวเองให้แพรวดู.สาวหัวหน้าแคลนถูกช่วยเป็นรายสุดท้าย ร่างบางของเธอถูกวางลงบนพื้นอย่างละมุนละม่อน โดยโดรนอารักขาที่ใช้งานได้ในหลายรูปแบบ ตลิ่งดินกลายเป็นที่แลนด์ดิ้งที่ปลอดภัย เจนิสกับเพื่อน ๆ ปลดหน้ากากครอบแก้วออกหมดแล้วเมื่อก่อนหน้านี้ โบ็ทเองก็เช่นกัน จะมีก็แต่แพรวที่ยังคงใส่หน้ากากกันแก๊สเวอร์ชั่นเก่าแก่ที่ได้มาจากบ้านของพีอยู่.“หายใจได้แล้วพี่แพรว! ที่นี่มีอากาศบริสุทธิ์ สุดยอดไปเลยพี่ ๆ ต้องลองดูด้วยตัวเองนะ”โบ๊ทย้ำเจตนารมณ์เดิม เขาผละตัวออกจากแพรวพลันชูแขนกระโดดโลดเต้น วิ่งไปรวมกลุ่มกับพวกเจนิสราวกับเด็ก ๆ ที่เห่อของเล่นใหม่ ทิ้งแพรวให้อยู่กับโดรนเพียงลำพัง ในสภาพที่มอมแมมเต็มขั้นเนื้อตัวเต็มไปด้วยดินโคลน.ลมโชยโบยแก้มกลิ่นธรรมชาติพัดแสงแรกแย้ม ชโลมผิวหนังเบิกดวงตาพราวสดใส ความเขียวขจีของทุ่งหญ้าช่อผกาโบกไสวปลิวสลวย นานแค่ไหนแล้วที่แพรวไม่ได้เห็นของแบบนี้เลยในมหานคร บ้านเรือนไทยทรงวินเทจตั้งเรียงรายอยู่บนริมท่า ชวนให้นึกถึงขุนช้างขุนแผนกับเหล่านางสีดาในวรรณคดี .“กึก!”สุดท้ายก็ต้องลอง หน้
Comments