ในห้องนอนของ คาซานดรา เดมิทริอุส บุตรสาวคนโตแห่งตระกูลเดมิทริอุส ตระกูลเก่าแก่ของมาซิโดเนีย แม้จะมีพื้นที่กว้างใหญ่ไม่ต่างจากห้องนอนของทายาทมหาเศรษฐีโดยทั่วไป แต่ในขณะนี้กลับแน่นขนัดไปด้วยบรรดาญาติพี่น้องและมิตรสหายซึ่งเป็นสตรีหลากวัยจำนวนสามสิบกว่าคนมาช่วยกันดูแลเรื่องการแต่งตัวให้กับเธอในเช้าของวันแห่งความสุข
หญิงสาวนั่งอยู่บนเตียงในชุดผ้าลูกไม้สีขาวดูหรูหรา แม้ว่ากระโปรงที่ซ้อนกันอยู่หลายชั้นจะหนาเทอะทะและรุ่มร่าม บวกกับลูกปัดมุกซึ่งร้อยระโยงระยางอยู่บนเนื้อผ้าจะดูไม่ทันสมัยนัก แต่ด้วยใบหน้าที่งดงามหมดจดรวมถึงส่วนสัดที่สูงสง่ากว่าหญิงสาวชาวกรีกส่วนใหญ่ก็ทำให้เธอดูสวยสมบูรณ์แบบในชุดแต่งงานเก่าที่สืบทอดต่อมาจากมารดาผู้ล่วงลับ
“เอาล่ะ ทีนี้หลานของป้าก็จะเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในวันนี้แล้วนะจ๊ะ”
หญิงสูงวัยที่ยืนอยู่ข้างๆ บรรจงหยิบมงกุฎดอกการ์ดีเนียอันเป็นสัญลักษณ์แห่งความบริสุทธิ์และความเบิกบานมาสวมให้บนศีรษะของเธอพลางก้มลงจุมพิตข้างแก้มเบาๆ
“ขอบคุณค่ะ ป้าคลอรีส” คาซานดรายิ้มละมุน
“แต่งตัวกันเสร็จหมดหรือยังล่ะแม่พวกสาวๆ เรายังต้องรีบส่งตัวเจ้าสาวไปที่โบสถ์อีกนะจ๊ะ” คลอรีสผู้มีศักดิ์เป็นป้าของเจ้าสาวหันไปถามบรรดาหญิงสาวน้อยใหญ่ที่กำลังวุ่นวายกับเสื้อผ้าและทรงผมของตัวเอง มืออวบอูมทั้งสองข้างก็ตบเป็นสัญญาณเร่งเร้า สร้างความโกลาหลยิ่งขึ้นจนเธอต้องส่ายหน้าและร้องกำกับ “ดาเมีย เอเลนอร์ พากลุ่มเพื่อนเจ้าสาวไปขึ้นรถได้แล้ว... อิเล็กตรา เลิกยุ่งกับกองขยะแล้วปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกสาวใช้ คนอื่นๆ ก็ทยอยกันลงไปเร็วๆ เข้า ถ้าขืนชักช้า ฉันจะสั่งคนรถให้ทิ้งเอาไว้ที่นี่แหละ”
สิ้นคำสั่งของผู้มีอาวุโสที่สุดในห้อง ขบวนเพื่อนเจ้าสาวในชุดผ้าเนื้อบางเบาสีฟ้าสดใสก็พากันหัวเราะต่อกระซิกออกจากประตูห้องนอนไปเป็นกลุ่มแรก ตามด้วยกลุ่มญาติที่สูงวัยกว่าซึ่งเกาะกลุ่มกัน เดินบ่นพึมพำทั้งที่ยังช่วยกันสวมใส่สร้อยคอและตุ้มหู ต่างคนต่างก็พยายามสอบถามถึงความโดดเด่นบนร่างกายราวกับไม่ต้องการที่จะน้อยหน้ากัน
“คุณพี่สวยจริงๆ นะคะ” หนึ่งในเพื่อนเจ้าสาวที่ไม่ยอมตามกลุ่มออกไปพูดจาประจบ เธอเป็นบุตรีของตระกูลเฮเลนิคัสซึ่งสนิทสนมกับครอบครัวของหญิงสาว ทั้งยังเป็นที่รักใคร่ของคลอรีส จึงถือสิทธิพิเศษมากกว่าใคร
“ขอบใจจ้ะ อีวานเจลีน” เธอยิ้มตอบ
คาซานดราค่อยๆ ลุกขึ้นจากเตียง ประคองแขนผู้เป็นป้า โอบกระโปรงชุดแต่งงานอันแสนระเกะระกะ โดยมีคุณหนูแห่งตระกูลเฮเลนิคัสช่วยยกชายกระโปรงเดินตาม ทุกคนพากันทยอยออกมายืนรอที่โถงด้านหน้าห้องนอนด้วยความสับสนวุ่นวาย ทว่าบนใบหน้าที่อ่อนหวานงดงามของเจ้าสาวนั้นเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข
…
ที่ชั้นล่าง บรรดาญาติหนุ่มๆ ในตระกูลเดมิทริอุสอีกนับสิบคนต่างแต่งกายในชุดสูทงามสง่า ยืนเรียงรายรอการปรากฏตัวของเจ้าสาวอยู่ที่บริเวณหน้าบันได ทันทีที่เห็นหญิงสาวก้าวเท้าลงมา เสียงโห่ร้องยินดีก็ดังกระหึ่มไปทั่วทั้งคฤหาสน์กว้าง
ชายหนุ่มเจ้าของร่างสูงใหญ่และโครงหน้าที่หล่อเหลาละม้ายกันกับเจ้าสาวรีบแทรกตัวออกมาจากกลุ่มญาติมิตร ดวงตาคมเข้มของเขาจับจ้องใบหน้าเธออย่างไม่อาจที่จะละสายตา ในมือมีช่อดอกคัทลียาสีขาวที่เตรียมเอาไว้มอบให้แก่ผู้เป็นพี่
แม้ อเล็กซานเดอร์ เดมิทริอุส จะเป็นชายหนุ่มหัวโบราณที่ฝังใจกับค่านิยมการรักษาสายเลือดของชาวกรีกและไม่เคยคิดสนับสนุนการแต่งงานของพี่สาวเพียงคนเดียวกับ โจนาธาน เทรเกอร์ มหาเศรษฐีหนุ่มชาวอเมริกัน ผู้ซึ่งเป็นเพื่อนและเป็นหุ้นส่วนธุรกิจของเขาเอง
แต่ด้วยความรัก... ต้องการที่จะเห็นเธอมีความสุข... ในฐานะของผู้นำครอบครัวคนปัจจุบัน เขาจึงต้องฝืนใจยอมทำตามความต้องการของเธอในวันนี้
…
นับตั้งแต่บิดามารดาของทั้งสองล่วงลับไปด้วยอุบัติเหตุทางเครื่องบิน คาซานดราก็เป็นบุคคลเดียวที่ชายหนุ่มพร้อมจะปกป้องดูแลเธอด้วยชีวิต และหากมีสิ่งใดที่ทำให้หญิงสาวมีความสุข เขาก็ควรเต็มใจยอมรับและมีความสุขไปกับเธอไม่ใช่หรือ
ซึ่งในวันนี้... สีหน้าของผู้เป็นพี่ก็กำลังบ่งบอกว่าเขาตัดสินใจถูกต้องแล้ว...
ท่ามกลางเสียงชื่นชมยินดีของกลุ่มญาติพี่น้อง สัญญาณเรียกเข้าของโทรศัพท์มือถือเครื่องหนึ่งก็หยุดเสียงเซ็งแซ่ทั้งหมดในห้องโถงชั้นล่างของคฤหาสน์เดมิทริอุส สายตาทุกคู่พลันเพ่งมองไปยังต้นเสียงบนบันไดโดยพร้อมเพรียงกัน
“ป้าบอกให้ฝากโทรศัพท์เอาไว้กับดาเมียไม่ใช่หรือไง” คลอรีสซึ่งก้าวตามลงมาห่างๆ ส่งเสียงดุ
“ไม่เป็นไรหรอกค่ะป้า โจนาธานโทรมาน่ะค่ะ” เจ้าสาวผู้งดงามหันไปยิ้มตอบหลังจากมองเห็นหมายเลขบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ เธอเปิดมันและยกขึ้นแนบศีรษะอย่างยินดี “ว่ายังไงคะ อดใจรอเจอเจ้าสาวไม่ได้เหรอคะถึงได้รีบโทรมาซะก่อน”
เสียงทักทายของคาซานดราเป็นสัญญาณให้ทุกสรรพสิ่งในห้องหยุดชะงักโดยอัตโนมัติ ใบหน้าที่กำลังร่าเริงยินดีต่างหันไปมองและเงี่ยหูฟังการสนทนาของหญิงสาวและว่าที่เจ้าบ่าวโดยไม่ตั้งใจ
ท่ามกลางบรรยากาศเงียบสงัดราวกับลางร้าย รอยยิ้มละมุนของคาซานดราก็ค่อยๆ เลือนหายไปทีละน้อย ใบหน้าขาวนวลที่เคยมีเลือดฝาดดูซีดเผือดลงไปในชั่ววินาที แต่ก็ยังไม่มีใครสังเกตเห็นความผิดปกตินั้น เว้นแต่สายตาของคนที่กำลังย่างเท้าออกไปหาเธอ
ก่อนที่ใครๆ จะทันรู้สึกตัว โทรศัพท์ในมือหญิงสาวก็ร่วงลงกระทบกับขั้นบันไดจนแตกกระจาย ในเวลาเดียวกันร่างบอบบางก็ทรุดฮวบลงไปพร้อมกับเสียงกรีดร้องของผู้เป็นป้า
“คาซานดรา!!” อเล็กซานเดอร์ตะโกนสุดเสียง
ชายหนุ่มโผขึ้นไปเพื่อจะรองรับพี่สาวของเขาเอาไว้ แต่ระยะห่างระหว่างคนทั้งคู่ก็มีมากจนเกินไป กว่าที่มือของเขาจะคว้าร่างหญิงสาวเอาไว้ได้ ร่างในชุดสีขาวบริสุทธิ์ก็กลิ้งลงมากระแทกตามขั้นบันไดไม่รู้กี่ขั้น
มงกุฎดอกการ์ดีเนียสีขาวที่กระเด็นตกลงบนพื้นถูกเหยียบย่ำจนแหลกกระจายด้วยความโกลาหล ภาพอเล็กซานเดอร์โอบอุ้มร่างไร้สติของเจ้าสาววิ่งออกไปที่รถทั้งน้ำตา มีเหล่าเพื่อนเจ้าสาวและญาติอีกหลายคนวิ่งกรีดร้องร่ำไห้ตามไปเป็นพรวนสร้างความตกตะลึงและสะเทือนใจให้กับคนที่เหลืออยู่...
ไม่มีใครคาดคิด... ไม่มีใครคาดเดาว่าเหตุร้ายในครั้งนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร... มีแต่เสียงถ้อยคำสวดภาวนาขอให้หญิงสาวผู้เป็นที่รักของทุกคนปลอดภัยเพียงเท่านั้น...