“บ้าที่สุดเลย ฉันไม่คิดเลยว่าเขาจะกล้าทำแบบนี้กับฉัน” คัพเค้กระบายความในใจทั้งหมดที่มีให้ชายหนุ่มตรงกันข้ามฟัง
“นายลองคิดดูนะ ว่าพี่น้องที่ไหนเขาจูบกัน ถ้าลงโทษอย่างอื่นฉันพอเข้าใจ” เธอทิ้งตัวพิงโซฟา นึกเจ็บใจไม่หายที่ตัวเองต้องแสดงรสจูบที่ร้อนแรงกลับไป
“นายว่าพี่ฉันบ้ากามจนหน้ามืดตามัวรึเปล่า” ก่อนจะหันไปถามความคิดเห็นจากเพื่อนหนุ่ม
“...” แต่แล้วสิ่งที่ได้คือความเงียบ เพราะอีกฝ่ายไม่ได้ตั้งใจฟังตั้งแต่ต้น
“โจ้” คัพเค้กเอ่ยเรียกชื่อทันที
“...” เงียบ..ชายหนุ่มตรงข้ามเธอไม่ได้สนใจเสียงเรียกนั้น ทว่ากำลังใช้สายตาสื่อสารบางอย่างกับผู้หญิงโต๊ะอีกฝั่ง
กึก!
“โจโจ้!!” คัพเค้กกระแทกแก้วไวน์พร้อมโน้มหน้าไปตะโกนใส่หูเพื่อนหนุ่มเสียงดังลั่น
“เฮ้ย! อะไรวะ จะเสียงดังทำไมเนี่ย ฉันตกใจหมด” โจโจ้หันมาตะคอกทันที หน้าเหวอจนแทบหมดความหล่อ ยกมือขึ้นมาลูบแผงอกอย่างเรียกขวัญ
“เวอร์ชะมัด” เธอหย่อนตัวไปนั่งเหมือนเดิม ก่อนจะส่ายหน้าให้กับท่าทีโจโจ้ที่มีสถานะอื่นด้วยนอกจากความเป็นเพื่อน ก็เพราะความเสน่ห์แรงเป็นเหตุทำให้โจโจ้เลื่อนสถานะจากเพื่อนสนิทมาเป็นแฟนกำมะลอไปพรางๆ ระหว่างที่คัพเค้กกำลังหาแฟนตัวจริง เขาจะได้เลิกทำหน้าที่เป็นไม้กันหมาให้กับคัพเค้ก
“ไม่เวอร์เว้ย ลองมาเป็นฉันดู”
“ใครใช้ให้นายใจลอยล่ะ” คัพเค้กย่นจมูกอย่างต่อว่า
“เออๆ เถียงไปฉันก็ไม่ชนะ ตกลงทะเลาะไรกับพี่เคนวะ” โจโจ้ตัดบทละสายตาจากสาวๆในผับ หันมาสนใจแฟนสาวกำมะลอแทน
“สรุปไม่ได้ฟัง!?” ทำเอาคัพเค้กถึงกับกรอกตามองบนทันที
“เล่าใหม่สักรอบไม่เห็นเป็นไรเลย”
จนสุดท้ายคัพเค้กก็ยอมเล่าเรื่องทั้งหมดตั้งแต่ต้นใหม่อีกครั้ง ตั้งแต่คำดูถูกจนหน้าที่ใหม่ที่เคนตะเพิ่งได้รับจากปู่หมาดๆ และการลงโทษที่ผิดแปลกจากพี่น้องบ้านอื่น
“หะ!! พี่เคนจูบเธอ!?” ดวงตาคมถึงกับชะงักค้าง ถามย้ำเพื่อหวังว่าเขาจะหูฝาดไป
“อืม”
“พี่น้องบ้าไรวะ ฉันไม่เคยเห็นใครเขาทำกันอย่างนี้” โจโจ้ชักสีหน้าไม่พอใจ รู้สึกความผิดปกติที่อาจเป็นอันตรายต่อเพื่อนสาว
“ไม่ใช่พี่น้องแท้ๆน่ะสิ” คัพเค้กพึมพำคนเดียวเบาๆ
“เมื่อกี้ว่าอะไรนะ” เสียงดนตรีในผับพอสมควรจนโจโจ้ต้องขมวดคิ้วถามใหม่อีกครั้ง
“ไม่มีไร” เพราะเป็นคำสั่งของปู่ คัพเค้กจึงไม่ไว้ใจที่จะเล่าความลับของครอบครัวให้ใครฟังตอนนี้
“ฉันว่าเรื่องนี้ต้องบอกพี่คริส เผื่อจะช่วยไรได้” โจโจ้เสนอความคิดเห็น
“ไม่เอาอ่ะ พี่คริสกับพี่สะใภ้ฉันไปฮันนีมูน ฉันไม่อยากให้เขาหมดสนุกแล้วต้องมาเครียดเรื่องของฉัน” เธอพ่นลมหายใจอย่างท้อ หมดหนทางเพราะไม่สามารถขอความช่วยเหลือจากใครได้...นอกจากตนเป็นที่พึ่งของตนเท่านั้น ณ เวลานี้
“ย้ายมาอยู่คอนโดดิ ห่างเอาไว้จนกว่าพี่คริสจะกลับมา”
“เดี๋ยวฉันมา” จู่ๆ คัพเค้กก็ลุกขึ้นยืน เดินตรงไปยังอีกฝั่ง
“ไปไหนวะ ยังคุยกันไม่จบเลย” ก่อนที่โจโจ้จะเห็นเป้าหมายของเพื่อนสาวที่เพิ่งจะเอ่ยถึงเมื่อตะกี้ “ไม่คิดจะฟังเลย ยัยเค้กนะยัยเค้ก” ก็เพราะคนที่คัพเค้กกำลังเดินไปหานั้นก็คือเคนตะ...และไม่ใช่แค่เดินเข้าไปทักเพียงอย่างเดียว ทว่าคนตัวเล็กกลับใจกล้าหย่อนสะโพกนั่งลงบนตักชายหนุ่มทันที
พึ่บ!
“คัพเค้ก!!” เคนตะตกใจไม่น้อยที่จู่ๆคนที่เข้ามานั่งในตักคือน้องสาวตัวดี และเลือกจังหวะเข้ามาในเวลาที่เขากำลังหลอกล่อเหยื่อรายใหม่พอดิบพอดี
“ขา~ คิดถึงเค้กใช่ไหมคะ ถึงได้ทำหน้าอย่างงี้” มือบางเลื่อนขึ้นไปคล้องคอ ส่วนอีกข้างก็ลูบไล้วนรอบปลายคาง
“คุณเคน! ยัยนี่เป็นใคร ไหนว่าคุณโสดไงคะ” หญิงสาวอีกคนโวยวายขึ้นมาทันที
“เอ่อ...คือ”
ไม่ทันที่เคนตะได้อธิบายก็โดนมือบางเลืื่อนมาปิดปากเอาไว้
“เขาบอกเธอโสดเหรอ ถ้าโสดจริง เขาก็คงไม่หน้าเหวอตกใจที่เห็นฉันอยู่ตรงนี้หรอกนะ”
“ยัยเค้ก..อุ้ป!”
“ไม่เอาค่ะที่รัก เค้กมาง้อแล้วนี่ไง หายโกรธแล้วกลับกับเค้กนะ” คัพเค้กเอ่ยคำหวานแล้วใช้ปลายคางถูไถ่กับไหล่หนาอย่างออดอ้อน
“อ๊าย~ มีเมียอยู่แล้วยังจะหน้าด้านมาจีบฉันอีก ไอ้เลว!” เธอลุกขึ้นยืนพร้อมต่อว่าเสียงดังลั่น ก่อนจะกระทบเท้าแล้วเดินออกจากจุดนั้นทันที
ฟึ่บ!
“หึ สนุกจัง” คัพเค้กลุกขึ้นออกจากตักแล้วยืนกอดอก ยิ้มมุมปากที่ได้เอาคืน
“เธอแกล้งฉันเหรอวะ” เคนตะเงยหน้าถามออกไป
“เปล่า~” ก่อนที่คัพเค้กจะะลากเสียงยากแล้วหมุนตัวกลับที่โต๊ะตัวเอง
หมับ!
“จะไปไหน อยู่แสดงบทเมียฉันต่อดิ” เคนตะกระชากแขนแล้วโน้มไปกระซิบเสียงกระเส่า
“หยาบคาย!!”
“หยาบเหรอ เธอเป็นคนเริ่มก่อน”
“ใครกันแน่ที่เริ่มก่อน เลิกยุ่งกับเค้ก ไม่อย่างนั้นชีวิตไม่สงบสุขแน่” คัพเค้กสะบัดมือออกจากการเกาะกุม แล้วหมุนตัวอีกครั้ง ทว่าจู่ๆก็หันกลับมาใหม่เพื่อเอ่ยบางอย่าง “ถ้าพี่กล้าทำเลวใส่ฉันอีกครั้ง...เรื่องนี้ถึงหูพี่คริส” นิ้วเรียวชี้หน้าพร้อมทั้งเน้นเสียงทุกประโยคชัดเจน ก่อนจะเดินกลับโต๊ะไปจริงๆ
“ขู่เก่งเหมือนพี่คริสไม่มีผิด” เคนตะจ้องคนตัวเล็กไม่วางตา กัดฟันแล้วเอ่ยออกมาคนเดียว “คิดว่าฉันกลัวคำขู่เด็กอย่างเธอเหรอวะ” เรียวขายาวสาวตามหลังคนตัวเล็กทันที พร้อมรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ที่ยากจะคาดเดา