“ผมพอรู้”
หล่อนฝืนยิ้ม แต่น้ำตาอาบสองแก้ม
“แม่คุณคงติดหนี้พนัน เท่าไหร่ล่ะ ผมจะให้โบนัสล่วงหน้าคุณก่อน”
หล่อนส่ายหน้าไปมา ความเสียใจอัดแน่นอยู่เต็มอกจนยากจะแม้แต่จะเปล่งคำพูด
“แม่... ขายข้าวให้กับเจ้าของบ่อนที่แม้ไปติดหนี้ค่ะบอส”
“ว่าไงนะ?”
ภูมิแทบไม่อยากจะเชื่อกับสิ่งที่ได้ยินจากปากของขวัญข้าว
หล่อนช้อนตามองเขา ดวงหน้านวลอ่อนเยาว์อาบไปด้วยหยาดน้ำตา
“ข้าว... ต้องเอาตัวไปขัดดอกให้กับเจ้าของบ่อนค่ะบอส”
ชายหนุ่มกัดฟันกรอด ไฟในดวงตาลุกโชน มือใหญ่กำแน่น
“แม่คุณสิ้นคิดมากเลยนะ”
“ตั้งแต่พ่อตายไป แม่ก็เริ่มติดเหล้า และเข้าบ่อน จนตอนนี้ชีวิตของแม่ก็คือบ่อนค่ะ”
“แต่คุณไม่ได้ตกลงยินยอมใช่ไหมขวัญข้าว”
“ข้าวไม่ยินยอมหรอกค่ะ แต่แม่ขู่ว่าจะฆ่าตัวตาย ข้าวก็ไม่มีทางเลือก”
“นี่อย่าบอกนะว่าคุณตกลงจะไปนอนกับไอ้เจ้าของบ่อนนรกนั่น”
น้ำเสียงของภูมิเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อและเดือดดาล
ขวัญข้าวผงกศีรษะตอบรับแทนคำพูด
ภูมิโกรธจนหน้ามืด จนต้องฟาดกำปั้นลงกับโต๊ะทำงานของขวัญข้าว
หญิงสาวสะดุ้งตกใจ หน้าตาซีดเผือด แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมา นอกจากนั่งตัวสั่น
“พาผมไปพบแม่คุณเดี๋ยวนี้”
“อย่าเลยค่ะบอส แม่ไม่มีทางเปลี่ยนใจ”
หล่อนรู้จักนิสัยของแม่ดี
“เชื่อผมเถอะ ว่าผมสามารถทำให้แม่คุณเปลี่ยนใจได้ไม่ยาก”
แววตาของภูมิที่มองมาทำให้เกิดความหวังขึ้นในหัวใจของหล่อน
“ข้าวเกรงใจบอส...”
“เรื่องคอขาดบาดตายขนาดนี้ คุณยังจะมาเกรงใจผมอีกหรือ ลืมไปแล้วหรือไงว่าเราสองคนทำงานด้วยกัน เปรียบเสมือนเพื่อนกัน”
“แต่บอสก็ช่วยข้าวมาเยอะแล้ว”
“คุณอย่าพูดมาก ไปล้างหน้าล้างตาซะ ผมจะรออยู่ตรงนี้ เสร็จแล้วเราจะไปหาแม่ของคุณกัน”
“บอส...”
มือใหญ่ที่ยื่นมากุมมือของหล่อนช่างอบอุ่นเหลือเกิน
หัวใจสาวอุ่นซ่าน...
“ไว้ใจผมนะ เพราะผมคือคนที่หวังดีกับคุณอย่างจริงใจ”
น้ำตาของหล่อนไหลออกมาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้มันคือหยาดน้ำตาแห่งความตื้นตันใจ
“ขอบคุณบอสค่ะ”
หล่อนยกมือขึ้นไหว้เขา อยากจะบอกเขาเหลือเกินว่า ตอนนี้แม้แต่ลมหายใจของหล่อนก็ยอมสละเพื่อเขาได้ หากเขาต้องการ...
“ไปล้างหน้าเถอะ ดูสิ น้ำตาเปื้อนแก้มเป็นรอยด่างหมดแล้ว”
เขาอมยิ้มทั้งริมฝีปากและแววตา
“ค่ะบอส”
ภูมิกอดอกยืนมองร่างอรชรสมส่วนของขวัญข้าวที่เดินตรงไปยังห้องน้ำจนลับตา ก่อนจะกัดฟันกรอด เมื่อนึกถึงสิ่งที่ขวัญข้าวกำลังเผชิญหน้าอยู่
นี่หากเขาปากหนักไม่ถามหล่อน ขวัญข้าวก็คงจะต้องทุกข์ทรมานไปชั่วชีวิต
“มึงเจอกับกูแน่ไอ้บ่อนระยำ!”
แววตาของภูมิเต็มไปด้วยกองไฟ กรามแกร่งขบแน่นจนเนื้อข้างแก้มกระตุก ในอกเต็มไปด้วยความเดือดดาล
กล้าแตะของๆ เขา หึ เจอตีนแน่มึง!
ผู้ชายที่กำลังขะมักเขม้นอยู่กับการขับรถคือเจ้านายของหล่อน
ภูมิ...
เขาเป็นผู้ชายตัวสูงใหญ่เกือบร้อยเก้าสิบเซ็นติเมตร หน้าตาหล่อเหลา ดวงตาคมกริบมองมาทีแทบละลาย จมูกโด่งเป็นสันสวยงาม ปากหยักสวยสีแดงสุขภาพดี ผิวพรรณขาวสะอาด
โปรไฟล์ของเขาแสนวิเศษ เพราะทั้งหล่อ ทั้งรวย เงินมีใช้ทั้งชาติก็ไม่พร่อง ดังนั้นจึงไม่แปลกที่สาวน้อยใหญ่ต่างวิ่งเข้าใส่ภูมิ แต่แปลกมากที่ชายหนุ่มไม่สนใจคบหากับผู้หญิงคนไหนเป็นตัวเป็นตนสักที มีแค่คู่นอนแต่ไม่มีคู่รัก
หล่อนเคยหลุดปากถามเขาออกไป แต่ภูมิตอบกลับมาว่า
‘ผมมีคนที่รักอยู่แล้ว’
เขาตอบมาแบบนี้ และหล่อนก็ไม่กล้าพอที่จะถามว่าคนที่ภูมิรักคือใคร
หญิงสาวยิ้มเศร้าหมอง ละสายตาจากเสี้ยวหน้าหล่อคมสันของภูมิมองออกไปนอกกระจกรถแทน
“เลี้ยวซ้ายหรือขวาครับ”
คำถามของเขาดังขึ้น ทำให้หล่อนต้องรีบหันมามอง และละล่ำละลักตอบ
“เอ่อ... ซ้ายค่ะ แล้วก็ตรงเข้าไปสุดซอย”
เขาตอบรับด้วยการผงกศีรษะ จากนั้นก็คร่ำเคร่งกับการบังคับรถคันงามให้แล่นเข้าไปภายในซอยที่ถนนค่อนข้างแคบ
“บอสคะ... คือข้าวว่า...”
“คุณเปลี่ยนใจไม่ได้แล้วล่ะ เพราะผมกำลังจะถึงบ้านของคุณ”
เขาพูดดักคอขึ้นอย่างรู้ทันว่าหล่อนจะพูดอะไรออกไป
“คุณแค่นั่งเฉยๆ ผมรู้ดีว่าจะจัดการกับแม่คุณยังไง”
“วิธีที่จะใช้จัดการกับแม่ได้ก็แค่มีเหล้า และก็เงินเท่านั้นแหละค่ะ”
หล่อนพึมพำออกมาด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อย โดยไม่ทันได้สังเกตว่าคนข้างตัวอมยิ้ม
“นี่ใช่ไหมบ้านคุณ”
เขาถามขึ้นเมื่อรถคันงามแล่นมาจอดตรงหน้าบ้านเช่าชั้นเดียวหลังกะทัดรัด
“ใช่ค่ะบอส”
ภูมิดับเครื่องยนต์ ปลดเข็มขัดนิรภัย และหันมามองหล่อน
“ไม่ต้องกลัวนะ ผมอยู่ข้างๆ คุณเสมอ”
หล่อนสบตากับเขา แววตาของภูมิทำไมอบอุ่นเหลือเกิน
หล่อนเผลอยิ้มออกมาทั้งๆ ที่ในอกยังเต็มไปด้วยความทุกข์ใจ
“ขอบคุณมากค่ะบอส”
เขายังคงยิ้มให้ และก็โน้มตัวเข้ามาหา ดวงตาสบประสานกัน หัวใจของหล่อนเต้นแรงเหลือเกิน
“บอส...”
หล่อนครางชื่อเขาออกมา และเขาก็หลิ่วตาให้ ก่อนจะยื่นมือมาช่วยปลดเข็มขัดนิรภัยให้ และขยับตัวห่างออกไป
หล่อนเป่าลมออกจากปาก สองพวงแก้มยังคงแดงจัดไม่คลาย