Share

บทที่ 530

Author: โม่เสียวชี่
ไม่นานนัก ท่านโหวหลินและฮูหยินหลินก็จากไป

เซียวเหอก็พาคนลากโลงศพออกไป

หลินเย่ว์หันกลับมามองคนของตน แล้วเอ่ยว่า "ตามหาต่อไป"

แม้ในความคิดของเขา ศพนั้นน่าจะเป็นเนี่ยนเนี่ยนมากที่สุด

แต่ในเมื่อยังมีโอกาสที่จะไม่ใช่ ก็ต้องตามหากันต่อ

เอ่ยจบกำลังจะจากไป กลับนึกไม่ถึงว่าจะถูกเซียวเหิงเรียกไว้

"หมอตำแยแซ่เฉานี่อย่างไร?" เสียงของเซียวเหิงแผ่วเบา คำพูดของฮูหยินหลินเมื่อครู่ ดึงดูดความสนใจของเขา

เขาเองก็รู้เรื่องที่จวนโหวรับหลินยวนกลับมาเมื่อหลายปีก่อน

หมอตำแยที่ทำคลอดให้ฮูหยินหลินสับเปลี่ยนเนี่ยนเนี่ยนกับหลินยวน

แล้วทำไมบัดนี้ถึงมีหมอตำแยแซ่เฉาโผล่มาอีกคน

หลินเย่ว์มองเซียวเหิงด้วยสายตาเย็นชา ไม่คิดจะตอบเขา และกำลังจะหันหลังเดินจากไป

แต่เดินออกไปได้แค่สองก้าว ความชั่วร้ายในใจก็ครอบงำเขา

เขาค่อยๆ หันกลับมามองเซียวเหิง มุมปากยิ้มเยาะ "เมื่อครึ่งเดือนก่อน ก็คือวันที่สองหลังจากเนี่ยนเนี่ยนตกแม่น้ำฉางหยาง หมอตำแยแซ่เฉามาที่จวนโหว นางบอกว่าเนี่ยนเนี่ยนต่างหากที่เป็นลูกสาวแท้ๆ ของจวนโหว"

ทันทีที่คำพูดจบลง หลินเย่ว์ก็มองเห็นดวงตาลึกล้ำของเซียวเหิงค่อยๆ เผยความตกใจออกมา

จากนั้น เขาก็พุ่งเข้
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (1)
goodnovel comment avatar
เบบี้
ไม่ต้องเถียงกัน คนนึงโง่เฟรี้ยๆ อีกคนก็โง่บัดซบ
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 531

    เซียวเหิงโดนต่อยหนึ่งหมัด เขาไม่ได้หลบ กลับชกสวนกลับไปอย่างรวดเร็วหนึ่งหมัด "ไม่ใช่ว่าเจ้าไม่ต้องการนางแล้วหรือ? วันนั้นตอนที่นางถูกพาตัวไปยังกรมซักล้าง เหตุใดเจ้าถึงได้ปกป้องแต่หลินยวน!"หลินเย่ว์รับหมัดไปหนึ่งหมัด ถอยหลังไปสองก้าว แล้วก็พุ่งเข้ามาอีกครั้ง "แล้วเจ้าเล่า! หากเจ้ารักนางจริง เหตุใดถึงไม่ปกป้องนาง? ในเมื่อเมื่อก่อนก็ไม่ได้รักนางถึงเพียงนั้น แล้วเหตุใดตอนนี้ถึงกลับมากักขังนางไว้อีก! เป็นเจ้าต่างหากที่ทำให้นางตาย!""เจ้าหุบปาก!" เซียวเหิงโกรธจนสุดขีด เข้าตะลุมบอนกับหลินเย่ว์ทั้งสองมิได้ชักดาบออกมา และไม่ใช้ท่วงท่าวรยุทธ์ด้วยเช่นกันก็ราวกับเด็กสามขวบคนหนึ่ง เจ้าต่อยหนึ่งหมัด ข้าต่อยหนึ่งหมัด ไม่มีใครเอาชนะใครได้เสียทีไม่รู้ว่าต่อสู้กันไปนานแค่ไหน ในที่สุดทั้งสองก็ล้มลงนอนอยู่บนพื้นบนใบหน้าต่างมีรอยฟกช้ำ บวมเป่ง หน้าดำหน้าเขียวดวงตาของหลินเย่ว์เหม่อมองฟ้าอย่างไร้จิตวิญญาณ แต่ในหัวกลับเต็มไปด้วยภาพของเนี่ยนเนี่ยนสิ่งที่เซียวเหิงด่าก็ถูกแล้ว เขาซึ่งเป็นพี่ใหญ่คนนี้ ทำไมถึงจดจำนางไม่ได้?เขาน่ะหรือ คู่ควรจะเป็นพี่ใหญ่ของนาง?ส่วนเซียวเหิงก็มองท้องฟ้าอย่างเหม่อลอย

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 532

    ในเวลาเดียวกัน ที่หมู่บ้านเหอวานห่างออกไปถึงสามร้อยลี้ เฉียวเนี่ยนยังคงเหม่อมองกำไลหยกที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ นั้นนางไม่ใช่คนที่ชอบคิดวกวนไปมา เมื่อเห็นกำไลหยกแตก นางย่อมรู้สึกเศร้าและเจ็บปวดแต่เมื่อนางลองคิดกลับกัน การที่นางลอยมาตั้งไกลจากเมืองหลวงถึงที่นี่แล้วยังรอดชีวิตมาได้ อาจเป็นเพราะกำไลหยกที่แม่ของจิ่งเหยียนให้มานั้นช่วยปัดเป่าเคราะห์ภัยก็เป็นได้ความคิดเช่นนี้ แม้จะทำให้นางยิ่งรู้สึกเสียใจ แต่ในใจก็พลันมีไออุ่นลอยแทรกขึ้นมานางมักจะรู้สึกว่า ในความลี้ลับเหนือธรรมชาติ จิ่งเหยียนได้ปกป้องนางไว้ครั้งแล้วครั้งเล่าฉู่จืออี้นั่งลงหน้ากองฟืนอีกครั้งหยิบขวานขึ้น วางฟืนให้มั่น เสียง 'ผั่บ' ดังขึ้น ฟืนก็แยกออกเป็นสองท่อนเรียบร้อยเขาเงยหน้าขึ้นโดยไม่รู้ตัว มองเข้าไปในเรือนหน้าต่างไม้เปิดแง้มอยู่ เห็นเลือนลางถึงมือของนางที่กำลังประคองกำไลหยกไว้ฉู่จืออี้รู้ว่าจิ่งเหยียนมีน้องสาวคนหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่เขากับจิ่งเหยียนถูกล้อมอยู่ในหุบเขา เขาเคยถามจิ่งเหยียนว่าในครอบครัวยังมีใครเหลืออยู่บ้างจิ่งเหยียนบอกว่า เขามีน้องสาวคนหนึ่ง ความปรารถนาสูงสุดของเขาตลอดชีวิต คืออยากให้น้

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 533

    ในขณะนั้นเอง ก็มีเสียงบางอย่างดังกรอบแกรบมาจากในเรือน"เพล้ง!"ฉู่จืออี้ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะวางขวานในมือลง ลุกเดินไปยังหน้าประตูร่างของเขานั้นสูงใหญ่เกินไปเพียงแค่ยืนตรงประตู ก็สามารถบดบังแสงจากด้านนอกไว้ได้เกือบหมด ทำให้บรรยากาศในห้องพลันมืดลงอย่างเห็นได้ชัดเฉียวเนี่ยนเงยหน้าขึ้นมองฉู่จืออี้ แววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด "ขออภัยเจ้าค่ะ ข้าต้องการจะดื่มน้ำ แต่จับไม่มั่น…"ถ้วยจึงร่วงตกแตกกระจายเศษถ้วยกระจายเต็มพื้นฉู่จืออี้มองไปยังเศษถ้วยข้างเท้าของนาง ก่อนจะยกเท้าก้าวเข้าไป ดึงแขนเสื้อที่ม้วนขึ้นขณะฟืนลง แล้วยื่นแขนขวาออกไปให้นาง "เจ้าไปนั่งก่อน ข้าจะเก็บเอง"ขาซ้ายของเฉียวเนี่ยนไม่สามารถแตะพื้นได้ ขณะนี้เท้าขวาของนางก็ล้อมรอบด้วยเศษถ้วย หากเผลอเหยียบเข้าไปล่ะก็คงแย่แน่เฉียวเนี่ยนจึงไม่เกรงใจนัก ยื่นมือขึ้นจับแขนเขาไว้เเขนนั้นแน่นแข็งราวกับเหล็กกล้าเฉียวเนี่ยนอดตกใจไม่ได้ ก็แค่พรานป่า เหตุใดร่างกายถึงได้กำยำยิ่งกว่าทหารในกองทัพเสียอีก?แต่บนใบหน้ากลับไม่เผยอารมณ์ใดออกมา นางกลับไปนั่งที่ข้างเตียง ก่อนจะเห็นเขาเดินไปที่ประตู หยิบไม้กวาดมากวาดเศษถ้วยทั้งหมดลงกระด้ง

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 534

    ในเมืองหลวง ภายในพระราชวังเซียวเหอเข้าวังครั้งนี้ตามพระราชโองการท้องพระโรงอันกว้างใหญ่ ขุนนางฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊ต่างยืนเรียงรายอยู่สองฟาก ซ้ำเซียวเหอเองแม้จะมาในคราบชาวบ้านธรรมดา ทว่ากลับก้าวเดินอย่างมั่นคง ไม่รีบร้อน ไม่ช้าเกินไปเพียงไม่นาน เซียวเหอก็เดินไปถึงกลางท้องพระโรง พลางสะบัดชายเสื้อเบา ๆ คุกเข่าลงข้างหนึ่ง “ข้าน้อยเซียวเหอ ขอถวายบังคมฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”ขณะนั้นเอง ข้างกายเขายังมีอีกผู้หนึ่งที่คุกเข่าอยู่เช่นกันซุนเซี่ยนเมื่อเห็นเซียวเหอ เหงื่อเม็ดโตบนหน้าผากของซุนเซี่ยนก็ไหลลงมาอย่างไม่อาจควบคุมได้ ความโกรธแค้นลุกลามอยู่ในอก แต่ต่อหน้าฮ่องเต้ แม้แต่จะชำเลืองมองเซียวเหอสักนิดก็ยังไม่กล้าแล้วเสียงของฮ่องเต้ก็ดังขึ้น "ซุนเซี่ยนไร้ความสามารถ ปลดออกจากตำแหน่งขุนนางทันที ถอดเบี้ยหวัดทั้งหมด! นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ตำแหน่งผู้บัญชาการกองทหารรักษาพระองค์ ให้เซียวเหอรับหน้าที่แทน!"เมื่อได้ยินดังนั้น เซียวเหอก็โค้งตัวทำความเคารพช้า ๆ "ข้าน้อยน้อมรับพระราชโองการพ่ะย่ะค่ะ"ซุนเซี่ยนย่อมไม่เต็มใจแต่เมื่อวานนี้ที่ท้องพระโรง ราชครูชิวเป็นหัวเรือใหญ่ ร่วมกับบรรดาขุนนางอีกนับสิบคน

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 535

    มองแผ่นหลังของเซียวเหิงลับตาไป เซียวเหอก็จึงหรี่ตาลงด้วยแววตาลึกล้ำ ก่อนจะหันกายมุ่งหน้าสู่ห้องทรงอักษรภายในห้องทรงอักษร นอกจากเซียวเหอแล้ว ยังมีท่านโหวหลินอยู่ด้วยเรื่องราวผ่านพ้นมานานเพียงนี้แล้ว แต่ท่านโหวหลินกลับดูชราลงไปถนัดตา เดิมทีเพียงขมับขาวซีดเล็กน้อย บัดนี้กลับกลายเป็นศีรษะขาวโพลนทั้งหัวฮ่องเต้ทอดพระเนตรเห็นท่านโหวหลินเป็นเช่นนั้น ก็รู้สึกสะท้อนพระทัยอยู่ไม่น้อย จึงตรัสขึ้นอย่างอดมิได้ว่า "พูดมาเถอะ เรื่องทั้งหมดเป็นอย่างไรกันแน่?"ท่านโหวหลินไม่กล่าวสิ่งใดเซียวเหอจึงก้าวขึ้นข้างหน้า คารวะหนึ่งครั้งแล้วกล่าวขึ้นว่า "ขอพระราชทานกราบทูล ฝ่าบาท สามปีก่อน ท่านโหวหลินตาถั่ว มองคนผิด เอาสตรีที่แอบอ้างว่าเป็นบุตรสาวสายตรงแห่งจวนโหว หรือก็คือหลินยวนนั้น มารับไว้เป็นลูกสาว ส่วนบุตรสาวแท้ ๆ กลับถูกนับว่าเป็นบุตรสาวบุญธรรม เท่ากับเป็นการลวงเบื้องบน ก่อให้บุตรสาวที่แท้แห่งจวนโหวต้องทนทุกข์ทรมานถึงสามปี บัดนี้ยังไม่ทราบชะตากรรมเป็นตาย ขอฝ่าบาททรงโปรดสอบสวนให้ถึงที่สุดด้วยเถิด"คำว่าลวงเบื้องบนเปรียบดั่งศิลาก้อนใหญ่กระแทกลงมา ท่านโหวหลินทรุดตัวคุกเข่าลงในทันทีแต่กลับหาได้กล่าว

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 536

    หลังจากท่านโหวหลินแสดงความขอบคุณเสร็จแล้วก็ออกไปภายในห้องทรงอักษรจึงเหลือเพียงเซียวเหอกับฮ่องเต้เมื่อเห็นสีหน้าหม่นหมองของเซียวเหอ ฮ่องเต้ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ "เป็นอะไรไปหรือ? ไม่พอใจรึ? หรือเจ้าคิดจะกวาดล้างจวนโหวจนหมดสิ้นกันเล่า?"เซียวเหอรีบประสานมือคำนับ กล่าวเสียงเบา "กระหม่อมมิกล้าพ่ะย่ะค่ะ"ฝ่าบาทถอนพระทัยเบา ๆ "ตระกูลหลินก็เป็นขุนนางที่บุกเบิกแผ่นดินนี้ หากว่าข้าสามารถไม่ใยดีทุกสิ่งและกวาดล้างตระกูลหลินได้ ป่านนี้ตระกูลหลินก็คงไม่หลงเหลืออยู่แล้ว"หลังความวุ่นวายของกษัตริย์ทั้งห้า ตระกูลหลินก็ควรจะสิ้นชื่อไปแล้วเซียวเหอไม่ได้ตอบอะไร ฝ่าบาทเหลือบตามองเขาอีกครั้ง พลางยิ้มบาง ๆ "ยิ่งไปกว่านั้น นั่นก็คือบ้านเกิดของเนี่ยนเนี่ยน หากเจ้าอยากทำเพื่อเนี่ยนเนี่ยนจริง ๆ เจ้าก็ควรจะเก็บตระกูลหลินไว้"จะให้เฉียวเนี่ยน ไม่สิ หลินเนี่ยนต้องมีความแค้นลึกฝังใจกับบ้านเกิดของตนเองกระนั้นหรือ?สีหน้าเซียวเหอเรียบเฉย แต่ก็พยักหน้าเล็กน้อย "ฝ่าบาทตรัสถูกแล้ว"แต่ในใจเขากลับคิดว่า หากเนี่ยนเนี่ยนยังอยู่ นางจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร?นางคงไม่สนใจหรอกนางยังอยากจะตัดขาดกับจวนโหวเสียด้วยซ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 1

    แคว้นจิ้ง ยี่สิบแปดเดือนสิบสองมันเป็นวันที่อากาศกำลังหนาวเย็นพอดีเฉียวเนี่ยนซักเสื้อผ้าชุดสุดท้ายในตอนเช้าเสร็จ ยังไม่ทันเช็ดมือที่หนาวจนชาให้แห้งก็ได้ยินนางกำนัลอาวุโสจากกรมซักล้างตะโกนเรียกนางว่า “เฉียวเนี่ยน เร็วเข้า จวนโหวมีคนมารับเจ้าแล้ว!”นางยืนอึ้งอยู่ที่เดิมจวนโหว ช่างเป็นคําที่ทั้งคุ้นเคยและไม่คุ้นเคยยิ่งนักนางเคยเป็นคุณหนูผู้สูงศักดิ์ของจวนโหวมาสิบห้าปี แต่เมื่อสามปีก่อนกลับได้รับแจ้งว่าตนเองเป็นตัวปลอมเป็นนางกำนัลอาวุโสที่ทําคลอดในตอนนั้นที่เห็นแก่ตัว นำลูกของตัวเองกับคุณหนูของจวนโหวแลกเปลี่ยนกัน และก่อนตายก็ค้นพบมโนธรรมและบอกความจริงออกมาเฉียวเนี่ยนจําได้แม่นว่าวันนั้นที่ท่านโหวสองสามีภรรยาได้รู้จักกับหลินยวนลุกสาวแท้ๆ นั้นตื่นเต้นแค่ไหน พวกเขากอดกันทั้งร้องไห้ทั้งหัวเราะ ส่วนนางยืนมองอยู่ข้างๆ อย่างทําอะไรไม่ถูก ไม่เข้าใจว่าพ่อแม่ที่ตัวเองเรียกมาสิบห้าปี ทําไมจู่ๆ ถึงไม่ใช่พ่อแม่ของตัวเองแล้วอาจเป็นเพราะมองเห็นความผิดหวังของนางได้ ท่านโหวหลินจึงสัญญากับนางว่า นางยังคงเป็นคุณหนูของจวนโหว และยังให้หลินยวนเรียกนางว่าพี่สาว แม้แต่ฮูหยินหลินก็ยังบอกว่า พวกเขาย

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 2

    เฉียวเนี่ยนชะงักงัน หัวใจที่คิดว่าไม่รู้สึกอะไรอีกแล้วยังคงเต้นผิดจังหวะเพราะเสียงที่คุ้นเคยนั้นนางค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองชายหนุ่มในรถม้าเป็นแม่ทัพหนุ่มที่ถูกแต่งตั้งผู้นั้น อดีตคู่หมั้นของนาง เซียวเหิงนางแทบจะคุกเข่าลงทันที “บ่าวคารวะแม่ทัพเซียวเจ้าค่ะ”คิ้วของเซียวเหิงขมวดเข้าหากันเล็กน้อย สายตากวาดมองข้อเท้าของนางแวบหนึ่ง เอ่ยถามเสียงเรียบว่า “แม่นางหลินจะกลับจวนหรือ?”เฉียวเนี่ยนหลุบตามองเข่าทั้งสองข้างของตัวเอง แล้วพยักหน้า “เจ้าค่ะ”สิ้นเสียงก็เงียบไปพักหนึ่งเซียวเหิงรอให้นางพูดต่อเพราะเมื่อก่อน ต่อหน้าเขานางมักมีเรื่องพูดไม่จบตลอดเขาไม่ชอบคนพูดมาก แต่เห็นแก่มิตรภาพของทั้งสองตระกูลจึงไม่ตําหนินางมากเกินไป แต่ก็ไม่เคยปิดบังความเบื่อหน่ายของตัวเองบางครั้งถูกรบกวนจนรําคาญจริงๆ ก็จะหยิบขนมกล่องหนึ่งออกมาอุดปากนาง ทุกครั้งที่ถึงเวลานั้น นางมักจะดีใจเหมือนเด็กๆ แต่ปากที่หนวกหูนั้นอย่างมากก็อุดได้แค่ครึ่งก้านธูปเท่านั้นนึกไม่ถึงว่าไม่ได้เจอกันสามปี นางตอบแค่คําสั้นๆ คําเดียวเซียวเหิงลงจากรถม้า ไม่ได้เข้าไปประคองนาง เพียงกล่าวอย่างเย็นชาว่า “ข้าเข้าวังไปรายงานพอดี แม่นา

Latest chapter

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 536

    หลังจากท่านโหวหลินแสดงความขอบคุณเสร็จแล้วก็ออกไปภายในห้องทรงอักษรจึงเหลือเพียงเซียวเหอกับฮ่องเต้เมื่อเห็นสีหน้าหม่นหมองของเซียวเหอ ฮ่องเต้ก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะ "เป็นอะไรไปหรือ? ไม่พอใจรึ? หรือเจ้าคิดจะกวาดล้างจวนโหวจนหมดสิ้นกันเล่า?"เซียวเหอรีบประสานมือคำนับ กล่าวเสียงเบา "กระหม่อมมิกล้าพ่ะย่ะค่ะ"ฝ่าบาทถอนพระทัยเบา ๆ "ตระกูลหลินก็เป็นขุนนางที่บุกเบิกแผ่นดินนี้ หากว่าข้าสามารถไม่ใยดีทุกสิ่งและกวาดล้างตระกูลหลินได้ ป่านนี้ตระกูลหลินก็คงไม่หลงเหลืออยู่แล้ว"หลังความวุ่นวายของกษัตริย์ทั้งห้า ตระกูลหลินก็ควรจะสิ้นชื่อไปแล้วเซียวเหอไม่ได้ตอบอะไร ฝ่าบาทเหลือบตามองเขาอีกครั้ง พลางยิ้มบาง ๆ "ยิ่งไปกว่านั้น นั่นก็คือบ้านเกิดของเนี่ยนเนี่ยน หากเจ้าอยากทำเพื่อเนี่ยนเนี่ยนจริง ๆ เจ้าก็ควรจะเก็บตระกูลหลินไว้"จะให้เฉียวเนี่ยน ไม่สิ หลินเนี่ยนต้องมีความแค้นลึกฝังใจกับบ้านเกิดของตนเองกระนั้นหรือ?สีหน้าเซียวเหอเรียบเฉย แต่ก็พยักหน้าเล็กน้อย "ฝ่าบาทตรัสถูกแล้ว"แต่ในใจเขากลับคิดว่า หากเนี่ยนเนี่ยนยังอยู่ นางจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร?นางคงไม่สนใจหรอกนางยังอยากจะตัดขาดกับจวนโหวเสียด้วยซ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 535

    มองแผ่นหลังของเซียวเหิงลับตาไป เซียวเหอก็จึงหรี่ตาลงด้วยแววตาลึกล้ำ ก่อนจะหันกายมุ่งหน้าสู่ห้องทรงอักษรภายในห้องทรงอักษร นอกจากเซียวเหอแล้ว ยังมีท่านโหวหลินอยู่ด้วยเรื่องราวผ่านพ้นมานานเพียงนี้แล้ว แต่ท่านโหวหลินกลับดูชราลงไปถนัดตา เดิมทีเพียงขมับขาวซีดเล็กน้อย บัดนี้กลับกลายเป็นศีรษะขาวโพลนทั้งหัวฮ่องเต้ทอดพระเนตรเห็นท่านโหวหลินเป็นเช่นนั้น ก็รู้สึกสะท้อนพระทัยอยู่ไม่น้อย จึงตรัสขึ้นอย่างอดมิได้ว่า "พูดมาเถอะ เรื่องทั้งหมดเป็นอย่างไรกันแน่?"ท่านโหวหลินไม่กล่าวสิ่งใดเซียวเหอจึงก้าวขึ้นข้างหน้า คารวะหนึ่งครั้งแล้วกล่าวขึ้นว่า "ขอพระราชทานกราบทูล ฝ่าบาท สามปีก่อน ท่านโหวหลินตาถั่ว มองคนผิด เอาสตรีที่แอบอ้างว่าเป็นบุตรสาวสายตรงแห่งจวนโหว หรือก็คือหลินยวนนั้น มารับไว้เป็นลูกสาว ส่วนบุตรสาวแท้ ๆ กลับถูกนับว่าเป็นบุตรสาวบุญธรรม เท่ากับเป็นการลวงเบื้องบน ก่อให้บุตรสาวที่แท้แห่งจวนโหวต้องทนทุกข์ทรมานถึงสามปี บัดนี้ยังไม่ทราบชะตากรรมเป็นตาย ขอฝ่าบาททรงโปรดสอบสวนให้ถึงที่สุดด้วยเถิด"คำว่าลวงเบื้องบนเปรียบดั่งศิลาก้อนใหญ่กระแทกลงมา ท่านโหวหลินทรุดตัวคุกเข่าลงในทันทีแต่กลับหาได้กล่าว

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 534

    ในเมืองหลวง ภายในพระราชวังเซียวเหอเข้าวังครั้งนี้ตามพระราชโองการท้องพระโรงอันกว้างใหญ่ ขุนนางฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊ต่างยืนเรียงรายอยู่สองฟาก ซ้ำเซียวเหอเองแม้จะมาในคราบชาวบ้านธรรมดา ทว่ากลับก้าวเดินอย่างมั่นคง ไม่รีบร้อน ไม่ช้าเกินไปเพียงไม่นาน เซียวเหอก็เดินไปถึงกลางท้องพระโรง พลางสะบัดชายเสื้อเบา ๆ คุกเข่าลงข้างหนึ่ง “ข้าน้อยเซียวเหอ ขอถวายบังคมฝ่าบาทพ่ะย่ะค่ะ”ขณะนั้นเอง ข้างกายเขายังมีอีกผู้หนึ่งที่คุกเข่าอยู่เช่นกันซุนเซี่ยนเมื่อเห็นเซียวเหอ เหงื่อเม็ดโตบนหน้าผากของซุนเซี่ยนก็ไหลลงมาอย่างไม่อาจควบคุมได้ ความโกรธแค้นลุกลามอยู่ในอก แต่ต่อหน้าฮ่องเต้ แม้แต่จะชำเลืองมองเซียวเหอสักนิดก็ยังไม่กล้าแล้วเสียงของฮ่องเต้ก็ดังขึ้น "ซุนเซี่ยนไร้ความสามารถ ปลดออกจากตำแหน่งขุนนางทันที ถอดเบี้ยหวัดทั้งหมด! นับแต่วันนี้เป็นต้นไป ตำแหน่งผู้บัญชาการกองทหารรักษาพระองค์ ให้เซียวเหอรับหน้าที่แทน!"เมื่อได้ยินดังนั้น เซียวเหอก็โค้งตัวทำความเคารพช้า ๆ "ข้าน้อยน้อมรับพระราชโองการพ่ะย่ะค่ะ"ซุนเซี่ยนย่อมไม่เต็มใจแต่เมื่อวานนี้ที่ท้องพระโรง ราชครูชิวเป็นหัวเรือใหญ่ ร่วมกับบรรดาขุนนางอีกนับสิบคน

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 533

    ในขณะนั้นเอง ก็มีเสียงบางอย่างดังกรอบแกรบมาจากในเรือน"เพล้ง!"ฉู่จืออี้ชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะวางขวานในมือลง ลุกเดินไปยังหน้าประตูร่างของเขานั้นสูงใหญ่เกินไปเพียงแค่ยืนตรงประตู ก็สามารถบดบังแสงจากด้านนอกไว้ได้เกือบหมด ทำให้บรรยากาศในห้องพลันมืดลงอย่างเห็นได้ชัดเฉียวเนี่ยนเงยหน้าขึ้นมองฉู่จืออี้ แววตาเต็มไปด้วยความรู้สึกผิด "ขออภัยเจ้าค่ะ ข้าต้องการจะดื่มน้ำ แต่จับไม่มั่น…"ถ้วยจึงร่วงตกแตกกระจายเศษถ้วยกระจายเต็มพื้นฉู่จืออี้มองไปยังเศษถ้วยข้างเท้าของนาง ก่อนจะยกเท้าก้าวเข้าไป ดึงแขนเสื้อที่ม้วนขึ้นขณะฟืนลง แล้วยื่นแขนขวาออกไปให้นาง "เจ้าไปนั่งก่อน ข้าจะเก็บเอง"ขาซ้ายของเฉียวเนี่ยนไม่สามารถแตะพื้นได้ ขณะนี้เท้าขวาของนางก็ล้อมรอบด้วยเศษถ้วย หากเผลอเหยียบเข้าไปล่ะก็คงแย่แน่เฉียวเนี่ยนจึงไม่เกรงใจนัก ยื่นมือขึ้นจับแขนเขาไว้เเขนนั้นแน่นแข็งราวกับเหล็กกล้าเฉียวเนี่ยนอดตกใจไม่ได้ ก็แค่พรานป่า เหตุใดร่างกายถึงได้กำยำยิ่งกว่าทหารในกองทัพเสียอีก?แต่บนใบหน้ากลับไม่เผยอารมณ์ใดออกมา นางกลับไปนั่งที่ข้างเตียง ก่อนจะเห็นเขาเดินไปที่ประตู หยิบไม้กวาดมากวาดเศษถ้วยทั้งหมดลงกระด้ง

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 532

    ในเวลาเดียวกัน ที่หมู่บ้านเหอวานห่างออกไปถึงสามร้อยลี้ เฉียวเนี่ยนยังคงเหม่อมองกำไลหยกที่แตกเป็นเสี่ยง ๆ นั้นนางไม่ใช่คนที่ชอบคิดวกวนไปมา เมื่อเห็นกำไลหยกแตก นางย่อมรู้สึกเศร้าและเจ็บปวดแต่เมื่อนางลองคิดกลับกัน การที่นางลอยมาตั้งไกลจากเมืองหลวงถึงที่นี่แล้วยังรอดชีวิตมาได้ อาจเป็นเพราะกำไลหยกที่แม่ของจิ่งเหยียนให้มานั้นช่วยปัดเป่าเคราะห์ภัยก็เป็นได้ความคิดเช่นนี้ แม้จะทำให้นางยิ่งรู้สึกเสียใจ แต่ในใจก็พลันมีไออุ่นลอยแทรกขึ้นมานางมักจะรู้สึกว่า ในความลี้ลับเหนือธรรมชาติ จิ่งเหยียนได้ปกป้องนางไว้ครั้งแล้วครั้งเล่าฉู่จืออี้นั่งลงหน้ากองฟืนอีกครั้งหยิบขวานขึ้น วางฟืนให้มั่น เสียง 'ผั่บ' ดังขึ้น ฟืนก็แยกออกเป็นสองท่อนเรียบร้อยเขาเงยหน้าขึ้นโดยไม่รู้ตัว มองเข้าไปในเรือนหน้าต่างไม้เปิดแง้มอยู่ เห็นเลือนลางถึงมือของนางที่กำลังประคองกำไลหยกไว้ฉู่จืออี้รู้ว่าจิ่งเหยียนมีน้องสาวคนหนึ่งเมื่อหลายปีก่อน ตอนที่เขากับจิ่งเหยียนถูกล้อมอยู่ในหุบเขา เขาเคยถามจิ่งเหยียนว่าในครอบครัวยังมีใครเหลืออยู่บ้างจิ่งเหยียนบอกว่า เขามีน้องสาวคนหนึ่ง ความปรารถนาสูงสุดของเขาตลอดชีวิต คืออยากให้น้

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 531

    เซียวเหิงโดนต่อยหนึ่งหมัด เขาไม่ได้หลบ กลับชกสวนกลับไปอย่างรวดเร็วหนึ่งหมัด "ไม่ใช่ว่าเจ้าไม่ต้องการนางแล้วหรือ? วันนั้นตอนที่นางถูกพาตัวไปยังกรมซักล้าง เหตุใดเจ้าถึงได้ปกป้องแต่หลินยวน!"หลินเย่ว์รับหมัดไปหนึ่งหมัด ถอยหลังไปสองก้าว แล้วก็พุ่งเข้ามาอีกครั้ง "แล้วเจ้าเล่า! หากเจ้ารักนางจริง เหตุใดถึงไม่ปกป้องนาง? ในเมื่อเมื่อก่อนก็ไม่ได้รักนางถึงเพียงนั้น แล้วเหตุใดตอนนี้ถึงกลับมากักขังนางไว้อีก! เป็นเจ้าต่างหากที่ทำให้นางตาย!""เจ้าหุบปาก!" เซียวเหิงโกรธจนสุดขีด เข้าตะลุมบอนกับหลินเย่ว์ทั้งสองมิได้ชักดาบออกมา และไม่ใช้ท่วงท่าวรยุทธ์ด้วยเช่นกันก็ราวกับเด็กสามขวบคนหนึ่ง เจ้าต่อยหนึ่งหมัด ข้าต่อยหนึ่งหมัด ไม่มีใครเอาชนะใครได้เสียทีไม่รู้ว่าต่อสู้กันไปนานแค่ไหน ในที่สุดทั้งสองก็ล้มลงนอนอยู่บนพื้นบนใบหน้าต่างมีรอยฟกช้ำ บวมเป่ง หน้าดำหน้าเขียวดวงตาของหลินเย่ว์เหม่อมองฟ้าอย่างไร้จิตวิญญาณ แต่ในหัวกลับเต็มไปด้วยภาพของเนี่ยนเนี่ยนสิ่งที่เซียวเหิงด่าก็ถูกแล้ว เขาซึ่งเป็นพี่ใหญ่คนนี้ ทำไมถึงจดจำนางไม่ได้?เขาน่ะหรือ คู่ควรจะเป็นพี่ใหญ่ของนาง?ส่วนเซียวเหิงก็มองท้องฟ้าอย่างเหม่อลอย

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 530

    ไม่นานนัก ท่านโหวหลินและฮูหยินหลินก็จากไปเซียวเหอก็พาคนลากโลงศพออกไปหลินเย่ว์หันกลับมามองคนของตน แล้วเอ่ยว่า "ตามหาต่อไป"แม้ในความคิดของเขา ศพนั้นน่าจะเป็นเนี่ยนเนี่ยนมากที่สุดแต่ในเมื่อยังมีโอกาสที่จะไม่ใช่ ก็ต้องตามหากันต่อเอ่ยจบกำลังจะจากไป กลับนึกไม่ถึงว่าจะถูกเซียวเหิงเรียกไว้"หมอตำแยแซ่เฉานี่อย่างไร?" เสียงของเซียวเหิงแผ่วเบา คำพูดของฮูหยินหลินเมื่อครู่ ดึงดูดความสนใจของเขาเขาเองก็รู้เรื่องที่จวนโหวรับหลินยวนกลับมาเมื่อหลายปีก่อนหมอตำแยที่ทำคลอดให้ฮูหยินหลินสับเปลี่ยนเนี่ยนเนี่ยนกับหลินยวนแล้วทำไมบัดนี้ถึงมีหมอตำแยแซ่เฉาโผล่มาอีกคนหลินเย่ว์มองเซียวเหิงด้วยสายตาเย็นชา ไม่คิดจะตอบเขา และกำลังจะหันหลังเดินจากไปแต่เดินออกไปได้แค่สองก้าว ความชั่วร้ายในใจก็ครอบงำเขาเขาค่อยๆ หันกลับมามองเซียวเหิง มุมปากยิ้มเยาะ "เมื่อครึ่งเดือนก่อน ก็คือวันที่สองหลังจากเนี่ยนเนี่ยนตกแม่น้ำฉางหยาง หมอตำแยแซ่เฉามาที่จวนโหว นางบอกว่าเนี่ยนเนี่ยนต่างหากที่เป็นลูกสาวแท้ๆ ของจวนโหว"ทันทีที่คำพูดจบลง หลินเย่ว์ก็มองเห็นดวงตาลึกล้ำของเซียวเหิงค่อยๆ เผยความตกใจออกมาจากนั้น เขาก็พุ่งเข้

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 529

    ทันทีที่โลงศพเปิดออก กลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงก็โชยออกมาท่านโหวหลินแทบจะอาเจียนออกมาในทันที และเมื่อเห็นร่างในโลงศพ เขาก็ตกใจจนถอยหลังไปหลายก้าวครึ่งเดือน ร่างกายก็เริ่มบวมเน่าแล้วใบหน้าของหญิงสาวไม่สามารถระบุลักษณะได้อีกต่อไป แม้แต่สีผิวก็เปลี่ยนไปแล้วทว่าแม้ท่านโหวหลินจะมองเพียงแวบเดียว เขาก็มั่นใจอย่างประหลาดใจว่า "นี่ไม่ใช่เนี่ยนเนี่ยน!"เมื่อได้ยินเช่นนี้ เซียวเหิงราวกับถูกสะกดจิตก็เงยหน้าขึ้นมองท่านโหวหลินทันทีดวงตาของเขาราวกับเต็มไปด้วยความหวังหลินเย่ว์ก็ประหลาดใจเช่นกัน เขาคิดว่าหากท่านโหวหลินมั่นใจเช่นนี้ บางทีอาจไม่ใช่นางจริงๆเซียวเหอเหลือบมองเซียวเหิงที่อยู่ไม่ไกลโดยไม่รู้ตัว จากนั้นจึงถามว่า "ท่านโหวพูดเช่นนี้ได้อย่างไร?"เสียงของท่านโหวหลินสั่นเครือ น้ำตาคลอเบ้า "พวกเจ้าเลอะเลือนไปแล้วหรือ? เนี่ยนเนี่ยนมีรอยแผลเต็มตัว! หรือตกลงไปในน้ำ รอยแผลจะหายไป?"ร่างของหญิงสาวนี้ไม่มีรอยแผลเป็นเลย!นี่คือสิ่งที่เซียวเหิงและเซียวเหอกำลังสงสัยเซียวเหอมองไปยังเซียวเหิงที่อยู่ไม่ไกล จากนั้นจึงเอ่ยว่า "เหิงเอ๋อร์บอกว่า ก่อนหน้านี้เขาเคยมอบยาทาแผลเป็นให้เนี่ยนเนี่ยน ฉะนั้นเนี

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 528

    ทำไมถึงแตกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยแบบนี้...ดวงตาของเฉียวเนี่ยนเปียกชื้นในทันทีกำไลนี้เป็นตัวแทนการยอมรับของตระกูลจิ่งที่มีต่อนาง เป็นเครื่องยืนยันความสัมพันธ์ของนางกับจิ่งเหยียน นางทะนุถนอมมันมาโดยตลอด แต่ในที่สุดก็แตกสลายอยู่ดีความรู้สึกเจ็บปวดในอกแผ่ซ่าน เฉียวเนี่ยนก้มหน้าลง ไม่ต้องการให้ไป๋อวี่เห็นความผิดปกติของนาง จึงเอ่ยเพียงเสียงทุ้มต่ำว่า "ขอบคุณพี่ไป๋มาก"เอ่ยจบก็หันหลังเดินกลับบ้าน กระโดดไปข้างหน้าและข้างหลังโดยจับผนังไว้ทว่าไป๋อวี่เห็นน้ำตาหยดนั้นที่หยดลงบนกำไลหยกในเวลานี้ เมืองหลวงที่อยู่ห่างออกไปสามร้อยลี้ข่าวการค้นพบเฉียวเนี่ยนแพร่กระจายออกไป ทำให้ท่านโหวหลินและฮูหยินหลินรีบเร่งออกจากเมืองหลวงตลอดทางฮูหยินหลินรู้สึกกระวนกระวายใจอย่างมาก แม้ว่าท่านโหวหลินจะจับมือนางไว้ตลอดเวลา มือของนางก็ยังคงเย็นเฉียบเมื่อพวกเขาลงจากรถม้าที่ชานเมืองหลวงและเห็นโลงศพขนาดใหญ่ ขาของฮูหยินหลินก็อ่อนแรงทันที แทบล้มลงกับพื้นไม่ใช่ว่าพวกเขาพบคนแล้วหรือ?ทำไมถึงเป็นโลงศพ?ดวงตาของหลินเย่ว์เต็มไปด้วยความเศร้าหมอง เมื่อเห็นท่านโหวหลินและฮูหยินหลินเดินเข้ามา เขาก็ไม่ได้พูดอะไร เพียงแค

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status