Share

พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี
พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี
Author: โม่เสียวชี่

บทที่ 1

Author: โม่เสียวชี่
แคว้นจิ้ง ยี่สิบแปดเดือนสิบสอง

มันเป็นวันที่อากาศกำลังหนาวเย็นพอดี

เฉียวเนี่ยนซักเสื้อผ้าชุดสุดท้ายในตอนเช้าเสร็จ ยังไม่ทันเช็ดมือที่หนาวจนชาให้แห้งก็ได้ยินนางกำนัลอาวุโสจากกรมซักล้างตะโกนเรียกนางว่า “เฉียวเนี่ยน เร็วเข้า จวนโหวมีคนมารับเจ้าแล้ว!”

นางยืนอึ้งอยู่ที่เดิม

จวนโหว ช่างเป็นคําที่ทั้งคุ้นเคยและไม่คุ้นเคยยิ่งนัก

นางเคยเป็นคุณหนูผู้สูงศักดิ์ของจวนโหวมาสิบห้าปี แต่เมื่อสามปีก่อนกลับได้รับแจ้งว่าตนเองเป็นตัวปลอม

เป็นนางกำนัลอาวุโสที่ทําคลอดในตอนนั้นที่เห็นแก่ตัว นำลูกของตัวเองกับคุณหนูของจวนโหวแลกเปลี่ยนกัน และก่อนตายก็ค้นพบมโนธรรมและบอกความจริงออกมา

เฉียวเนี่ยนจําได้แม่นว่าวันนั้นที่ท่านโหวสองสามีภรรยาได้รู้จักกับหลินยวนลุกสาวแท้ๆ นั้นตื่นเต้นแค่ไหน พวกเขากอดกันทั้งร้องไห้ทั้งหัวเราะ ส่วนนางยืนมองอยู่ข้างๆ อย่างทําอะไรไม่ถูก ไม่เข้าใจว่าพ่อแม่ที่ตัวเองเรียกมาสิบห้าปี ทําไมจู่ๆ ถึงไม่ใช่พ่อแม่ของตัวเองแล้ว

อาจเป็นเพราะมองเห็นความผิดหวังของนางได้ ท่านโหวหลินจึงสัญญากับนางว่า นางยังคงเป็นคุณหนูของจวนโหว และยังให้หลินยวนเรียกนางว่าพี่สาว แม้แต่ฮูหยินหลินก็ยังบอกว่า พวกเขายังคงรักนางเหมือนลูกสาวแท้ๆ

แต่วันนั้นพวกเขาเห็นหลินยวนทําถ้วยขององค์หญิงแตกด้วยตาตัวเอง เห็นสาวใช้ของหลินยวนผลักความผิดนี้มาที่นาง เห็นนางถูกองค์หญิงตําหนิ เห็นนางถูกส่งมาเป็นทาสรับใช้ที่กรมซักล้างแห่งนี้ พวกเขากลับยืนปกป้องหลินยวนอยู่ข้างๆ ไม่พูดสักคําตั้งแต่ต้นจนจบ

นางก็รู้แล้วว่านางไม่สามารถเป็นลูกสาวของพวกเขาได้อีกต่อไปแล้ว

“เฉียวเนี่ยน มัวนิ่งอยู่ทําไม? อย่าให้ท่านโหวน้อยรอจนร้อนใจสิ!” เสียงเร่งเร้าของนางกำนัลอาวุโสดึงความคิดเฉียวเนี่ยนกลับมา

นางเงยหน้าขึ้นมองไปทางประตูกรมซักล้าง ก็เห็นร่างสูงตระหง่านยืนอยู่ด้านนอก แสงแดดในฤดูหนาวส่องกระทบร่างของเขาจนดูราวกับมีประกายส่องมาจากตัวเขา

เมื่อเห็นใบหน้าที่ทั้งคุ้นเคยและไม่คุ้นเคยนั้น หัวใจของเฉียวเนี่ยนที่ไม่รู้สึกอะไรมานานก็บีบรัดอย่างเจ็บปวดโดยไม่ทันตั้งตัว

เป็นหลินเย่ว์

พี่ชายที่นางเรียกมาสิบห้าปี พี่ชายที่เคยเดินทางไปเจียงหนานที่อยู่แสนไกลเพื่อตามหาไข่มุกราตรีที่หายากที่สุดในโลก และพี่ชายที่ผลักนางลงจากชั้นสองเพื่อหลินยวน

ไม่ได้เจอกันสามปี ความรู้สึกคับข้องใจที่หายไปสามปีนั้นพลันพรั่งพรูออกมา

เฉียวเนี่ยนหายใจเข้าลึกๆ และระงับความคับข้องใจนั้นไว้ ใบหน้ายังคงไร้อารมณ์ใดๆ

นางเดินไปหาหลินเย่ว์ เดินเข้าไปใกล้ด้านหน้าแล้วคุกเข่าลงทําความเคารพ น้ำเสียงราบเรียบ แฝงไปด้วยความห่างเหิน “บ่าวคารวะท่านโหวน้อยเจ้าค่ะ”

ก่อนมา หลินเย่ว์ก็เคยความเพ้อฝันถึงฉากที่พวกเขาพี่น้องได้พบกัน

คิดไปคิดมา ตามนิสัยเดิมของนาง ไม่ก็โผเข้ากอดเขา ออดอ้อนไปพลางร้องไห้พลางบ่นน้อยใจตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่ก็เต็มไปด้วยความเกลียดชัง ไม่ยอมพบเขาแม้แต่ครั้งเดียว

คาดไม่ถึงว่านางจะเดินมาหาเขาอย่างใจเย็นและคุกเข่าลง

นี่คือน้องสาวที่เขาตามใจมาสิบห้าปีเชียวนะ!

ความดื้อรั้นและเอาแต่ใจของนาง ความเย่อหยิ่งของนางล้วนถูกตามใจโดยเขา

ทําไมตอนนี้กลับ...

หลินเย่ว์รู้สึกเพียงว่าหัวใจของตัวเองถูกมือที่มองไม่เห็นฉีกกระชากอย่างรุนแรง มือที่ไพล่หลังกําแน่น ลําคอเหมือนถูกมือข้างหนึ่งจับไว้ เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วจึงเอ่ยปาก “ท่านย่าคิดถึงเจ้ามาก ฮองเฮาเห็นแก่ความชราของนาง อนุญาตให้เจ้าออกไปจากที่นี่ได้”

พูดจบประโยค หลินเย่ว์ก็รู้สึกว่าน้ำเสียงแข็งกระด้างเกินไป เขาขมวดคิ้วแล้วโน้มตัวไปข้างหน้าเพื่อประคองเฉียวเนี่ยนให้ลุกขึ้น จงใจพูดอย่างอ่อนโยนว่า “ตามพี่กลับบ้านเถอะ!”

ดวงตาที่ก้มต่ำของเฉียวเนี่ยนพลันสั่นไหวระริก

ตามพี่กลับบ้านเถอะ!

ใครจะรู้ว่าประโยคสั้นๆ นี้นางรอคอยมานานแค่ไหนแล้ว

ช่วงที่มากรมซักล้างครั้งแรกนั้น นางเฝ้ารอคอยหลินเย่ว์มารับนางกลับบ้านแทบทั้งวันทั้งคืน

แต่วันแล้ววันเล่า ความหวังก็กลายเป็นความผิดหวัง จนถึงตอนนี้นางไม่มีความเพ้อฝันใดๆ เกี่ยวกับการกลับจวนโหวอีกแล้ว

ไม่คิดว่าเขาจะมา

นางถอยหลังไปหนึ่งก้าว สะบัดมือหลินเย่ว์ออกอย่างเงียบๆ ก้มตัวลงทําความเคารพ “บ่าวขอบพระทัยที่ฮองเฮาทรงเมตตา ขอบคุณที่ฮูหยินเฒ่าเมตตา”

น้ำเสียงของนางจริงใจและท่าทางของเขาก็ดูเคารพมาก แต่ความห่างเหินที่ออกมาจากทุกคําและทุกประโยคนั้นทําให้หัวใจของหลินเย่ว์รู้สึกอึดอัดมากขึ้นเรื่อยๆ

เขาชักมือกลับ หัวคิ้วขมวดเป็นปม น้ำเสียงเต็มไปด้วยความโกรธอย่างบอกไม่ถูก “ท่านพ่อไม่เคยถอดฐานะของเจ้าออก แม้เจ้าจะอยู่ในกรมซักล้างมาสามปี แต่ทะเบียนก็ยังอยู่ในจวนโหว เจ้าไม่เคยเป็นทาสรับใช้อะไรทั้งนั้น”

เด็กสาวบอบบางที่เขาโปรดปรานตั้งแต่เด็กจะเป็นทาสได้ยังไงกัน?

แต่เมื่อได้ยินคําพูดนี้ เฉียวเนี่ยนกลับรู้สึกประชดประชัน

สามปีที่ผ่านมา ทุกวันนางต้องตื่นมาซักผ้าก่อนฟ้าสาง ซักจนพระอาทิตย์ตกดิน ซักจนมือทั้งสองเปื่อยยุ่ย

นางกำนัลอาวุโสที่ดูแลกรมซักล้างเอะอะก็ตีหรือด่าใส่นาง ฐานะของนางที่นี่แม้แต่ทาสชั้นต่ำก็ยังสู้ไม่ได้

ฐานะ? ทะเบียนบ้าน?

จะมีประโยชน์อะไรกัน

เมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนไม่พูดไม่จา หลินเย่ว์จึงทําได้เพียงสูดหายใจเข้าลึกๆ เพื่อระงับความโกรธที่อธิบายไม่ได้นั้น แล้วพูดว่า “ในบ้านมีทุกอย่าง เจ้าก็ไม่ต้องไปเก็บอะไรอีกแล้ว ไปเถอะ อย่าทําให้ท่านย่าต้องรอนาน”

พูดจบก็หันตัวจากไปก่อน

เดินไปได้ไม่นานเขาก็จะหันกลับมา เห็นเฉียวเนี่ยนเดินตามไปอย่างไม่ใกล้ไม่ไกล สายตามองตรงไปตลอดทาง ไม่มองเขาแม้แต่น้อย นึกถึงท่าทางออดอ้อนออดอ้อนของนางในอดีต ความโกรธในใจยังไงก็ระงับไว้ไม่อยู่แล้ว

จนทําให้ฝีเท้าเร็วขึ้นโดยไม่รู้ตัว

หลังจากเฉียวเนี่ยนถูกหลินเย่ว์ผลักตกเรือนไปเมื่อสามปีก่อน ข้อเท้าก็บาดเจ็บจนตกเป็นโรคเก่า ตอนนี้จึงตามไม่ทัน เมื่อเดินมาถึงประตูวัง หลินเย่ว์ก็นั่งในรถม้าของจวนโหวไปนานแล้ว

คนขับรถม้าเป็นคนเก่าคนแก่ของจวน จึงรู้จักเฉียวเนี่ยน

เมื่อเห็นเฉียวเนี่ยนเดินเข้ามา ก็ทําความเคารพ “บ่าวคารวะคุณหนูขอรับ”

เฉียวเนี่ยนโค้งตัวคํานับกลับ แล้วขึ้นรถม้าไปนั่งข้างคนขับรถม้า

คนขับรถม้าประหลาดใจเล็กน้อย “คุณหนูไม่เข้าไปนั่งหรือขอรับ”

เฉียวเนี่ยนส่ายหน้า “ผิดระเบียบน่ะ”

เพิ่งสิ้นเสียง ในรถม้าพลันมีเท้าข้างหนึ่งยื่นออกมา เตะเฉียวเนี่ยนจนล้มลงกับพื้นอย่างแรง

หลินเย่ว์เปิดม่านรถออกด้วยความโกรธแค้น “เพิ่งพบหน้าก็ไม่รู้จักไว้หน้าซะแล้ว ไม่ยอมกลับจวนโหวก็ไสหัวกลับไปเป็นทาสรับใช้ที่กรมซักล้างของเจ้าต่อไปซะ!”

เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วแน่น ใบหน้าเจ็บปวดจนเริ่มซีด ข้อเท้าของนางเกรงว่าคงจะบิดอีกแล้ว

แต่เมื่อได้ยินหลินเย่ว์ถามอย่างเย็นชาว่า "หรือว่าเจ้ารู้สึกน้อยใจและจงใจชักสีหน้าให้ข้า หลินเนี่ยน เจ้าได้เสวยสุขแทนยวนเอ๋อร์มาสิบห้าปีแล้ว ตอนนี้แค่ต้องทนทุกข์ทรมานแทนนางเป็นเวลาสามปีเท่านั้น มีอะไรต้องน้อยใจหรือไง?”

“ในเมื่อไม่ยอมนั่งรถกลับจวน งั้นเจ้าก็เดินกลับไป ระหว่างทางก็ลองคิดดูดีๆ ว่าตัวเองเป็นใครกันแน่ มีคุณสมบัติที่จะมาวางท่าแบบนี้ให้ข้าดู! จะได้ไม่ต้องกลับไปเจอหน้าท่านย่าที่จวนแล้วยังทําหน้าจะเป็นจะตายแบบนี้อีก มีแต่ซ้ำเติมความโชคร้ายเปล่าๆ”

หลินเย่ว์พูดจบก็สะบัดม่านรถออก ส่งเสียงเย็นชาใส่คนขับรถม้า “กลับจวน!”

คนขับรถม้าไม่กล้าขัดคําสั่ง มองเฉียวเนี่ยนอย่างกังวลแล้วก็ขับรถออกไป

เมื่อเห็นรถม้าที่จากไปไกล ในใจของเฉียวเนี่ยนก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากนัก

ยังไงซะ นางก็ถูกคนที่นางรักมากที่สุดทิ้งไปเมื่อสามปีก่อนแล้ว

นางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ นางพยายามตะเกียกตะกายลุกขึ้น เดินกระโผลกกระเผลกไปยังทิศทางของจวนโหว

ไม่นานหลังจากนั้น รถม้าคันหนึ่งก็หยุดลงตรงหน้านาง

นิ้วมือที่มีข้อต่อชัดเจนเลิกม่านรถขึ้น ดวงตาทั้งคู่เย็นชาห่างเหิน “แม่นางหลิน?”

Continue to read this book for free
Scan code to download App
Comments (9)
goodnovel comment avatar
Khud Kst
Dxxhhehhhdhhdhhdhhfhjjchbdbbdjdjjdjcjcnjcjckcknndnjjjnejnduhebvrv
goodnovel comment avatar
น้องหนู นูนู
อ่านถึงตอนที่ 3 ร้อยกว่าๆ นอ.แต่งงานกับเซียวเหอ พี่ชาย(แม่ทัพพิการท่อนล่าง)ของเซียวเหิง ส่วนเซียวเหิงแต่งงานกับอินังชั่วหลินยวน แต่ไม่ยอมเข้าหอ ส่วนอิตระกูลหลิน ตั้งแต่ พ่อ แม่ และหลินเย่ว์ เลวทั้งตระกูล ตรรกะนรกมาก ขอ อย่าให้ เซียวเหิง เป็น พระเอกเลย โคตรเลวมาก ไม่อยากให้เฉียวเนี่ยนให้อภัยมัน
goodnovel comment avatar
Krisana
Good start
VIEW ALL COMMENTS

Latest chapter

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 936

    เฉียวเนี่ยนในยามนี้ ไหนเลยจะมีใจตอบคำถามของมู่ซ่างเสวี่ย?นางสาวเท้าไปยังข้างเตียง เริ่มจับชีพจร พลางกล่าวกับมู่ซ่างเสวี่ยว่า “เรื่องที่ท่านพี่ถาม ข้าจะอธิบายให้ภายหลัง ตอนนี้ต้องรีบรักษาพี่ห้าให้ได้ก่อน”ขณะพูด นิ้วมือก็สัมผัสได้ถึงการเต้นของชีพจรจังหวะเต้นเบาๆ ความแรง ความเร็ว ความลึก ล้วนบ่งบอกให้เฉียวเนี่ยนรู้ว่าร่างกายของพี่ห้าขณะนี้เป็นเช่นไรนางจึงเอ่ยว่า “ไม่ทราบว่าท่านพี่พอจะช่วยหากำมะถันมาให้ข้าได้หรือไม่?”เห็นว่าสถานการณ์เร่งด่วน มู่ซ่างเสวี่ยก็พยักหน้ารับทันที “ข้าจะสั่งคนไปเตรียมเดี๋ยวนี้!”พูดจบ มู่ซ่างเสวี่ยก็ออกจากห้องไปขณะเดียวกัน หลินเย่ว์ก็วิ่งพรวดเข้ามาเมื่อเห็นสภาพของพี่ห้า หลินเย่ว์ก็สะดุ้งตกใจเฉียวเนี่ยนเหลือบมองเขาเล็กน้อย ไม่ได้พูดอะไร นางเพียงหยิบเข็มเงินออกมาเพื่อฝังเข็มให้พี่ห้าหลินเย่ว์อยากจะถามว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ พี่ห้าถึงได้ถูกวางยา เกี่ยวข้องกับชายชราที่ขายยานั่นหรือไม่?แต่ก็รู้ดีว่าเวลานี้ไม่เหมาะจะซักถาม จึงยืนอยู่ข้างๆ เอ่ยเสียงเข้มว่า “หากมีสิ่งใดให้ข้าช่วย ก็สั่งมาได้เลย”เฉียวเนี่ยนไม่ตอบมู่ซ่างเสวี่ยจัดการเร็วมาก ไม่ถึ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 935

    ความหวังที่เคยร่วงหล่นสู่หุบเหวกลับลุกโชนขึ้นอีกครั้ง เฉียวเนี่ยนสูดลมหายใจเข้าลึก มุมปากก็ยกยิ้มขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวเช่นนั้น รออีกสองวัน กลับไปแล้วก็ค่อยไปถามฉู่จืออี้ดูเถอะ!ขณะกำลังคิดอยู่นั้น เสียงของพี่ห้าก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน“เอ๊ะ?”เสียงฉงนดังขึ้นมาเฉียวเนี่ยนหันไปมองพี่ห้า ก็เห็นว่าพี่ห้ากำลังจ้องมองฝ่ามือตนเอง สีหน้าเคร่งเครียด“พี่ห้า เป็นอะไรหรือ?” เฉียวเนี่ยนเดินไปหา สายตาก็มองไปยังมือของพี่ห้า แล้วก็พบว่า กลางฝ่ามือขวาของพี่ห้ากลับมีคราบดำสนิทอยู่ก้อนหนึ่ง“นี่ไปเปื้อนมาตอนไหนกัน?”พี่ห้าพึมพำกับตัวเอง แล้วใช้นิ้วโป้งมือซ้ายเริ่มถูตรงกลางฝ่ามือแต่กลับไม่เป็นอย่างที่คิด ไม่เพียงแต่ถูไม่ออก ตรงคราบดำนั้นกลับยิ่งขยายวงกว้างมากขึ้นเฉียวเนี่ยนตกใจทันที รีบคว้ามือขวาของพี่ห้าไว้ แล้วยกขึ้นดมที่ปลายจมูกอย่างระมัดระวัง แล้วก็เหมือนจะนึกอะไรขึ้นได้ จึงหันไปมองพี่ห้า “เมื่อครู่ ตำลึงเงินนั่นอยู่ไหน?”“อยู่นี่น่ะ!” อยู่ในฝ่ามือซ้ายที่กำไว้แน่นเลย!แต่ก็เพิ่งจะเปลี่ยนมาอยู่ในมือซ้ายเมื่อครู่นี้เอง ก่อนหน้านี้ถือตำลึงเงินไว้ในมือขวาตลอด!เฉียวเนี่ยนรีบดึงมือซ้ายของพี

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 934

    เฉียวเนี่ยนรู้สึกแปลกกับคำพูดนี้อย่างบอกไม่ถูก จึงเผลอมองไปทางชายชราอีกครั้งก็เห็นชายชรากำลังค่อยๆ เก็บขวดยาทีละขวด ร่างกายงองุ้มเล็กน้อย ดูไม่ต่างจากชายชราทั่วไปหรือนางคิดมากไปเอง?เฉียวเนี่ยนขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่สุดท้ายก็ก้าวออกจากโรงน้ำชาไปอย่างรวดเร็วเบื้องหลังนั้น พี่ห้ากำลังเล่นเงินตำลึงในมือด้วยท่าทางสงสัย “เจ้าตามหายาถอนพิษของพิษเยือกมรณะทำไม? มีใครโดนพิษรึ?”เฉียวเนี่ยนเห็นว่าไม่ใช่เรื่องต้องปิดบัง จึงถอนหายใจแล้วเอ่ยว่า “ท่านพี่เซียวน่ะเจ้าค่ะ”พอได้ยิน พี่ห้าก็ตกใจ รีบเดินอ้อมมาขวางหน้าเฉียวเนี่ยน ขณะเดินถอยหลังก็เอ่ยว่า “เซียวเหอรึ? ตอนนี้เขาเป็นอย่างไรบ้าง?”เฉียวเนี่ยนเดินคุยกับพี่ห้า “ที่ท่านพี่เซียวกลายเป็นอัมพาตนอนอยู่บนเตียงเมื่อก่อนนั้น เป็นเพราะพิษสลายกระดูก ต่อมาข้ารู้สึกว่าอุณหภูมิร่างกายเขาผิดปกติ พอถามอาจารย์ ข้าจึงรู้ว่าเขายังถูกพิษเยือกมรณะอีกด้วย อย่างที่ชายชราผู้นั้นว่าไว้ พิษเยือกมรณะกับพิษสลายกระดูกส่งผลต่อกันและกัน จึงฝังรากลึกอยู่ในร่างท่านพี่เซียว หากไม่หาวิธีถอนพิษนี้ได้ ท่านพี่เซียวอาจถึงตาย”“ร้ายแรงขนาดนั้นเชียว?” พี่ห้าอุทานเสียงดัง ก่อนจ

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 933

    “เจ้าจะไปรู้อะไร!” ชายชราสบถด้วยน้ำเสียงเย้ยหยัน “นั่นมันเพราะพวกคนชั่วแห่งสำนักราชาโอสถเล่นสกปรก วางยาพิษใส่ข้า หากมิใช่เช่นนั้น ข้าต้องสามารถถล่มสำนักราชาโอสถลงได้แน่นอน!”เมื่อเห็นชายชราทำหน้าขุ่นเคืองอย่างแรงกล้า เฉียวเนี่ยนกลับไม่ได้พูดอะไรอีกคำพูดของชายชรานี้ จะเชื่อได้สักเท่าไรยังยากจะตัดสิน แม้ว่าเขาจะโอ้อวดวรยุทธของตนเอง ทว่าก็ถือเป็นหลักฐานว่าตนออกมาจากสำนักราชาโอสถจริง เรื่องของพิษเยือกมรณะ ก็มีความเป็นไปได้สูงว่าน่าจะเป็นเรื่องจริงพี่ห้าอ้อมมาข้างหน้าชายชรา เอ่ยถามด้วยรอยยิ้มว่า “เช่นนั้น ไอ้พิษเยือกมรณะอะไรนั่น ไม่มียาถอนพิษจริงๆ ใช่หรือไม่?”“โธ่เอ๋ย ข้าก็บอกแล้ว พิษนี้อยู่ในร่างกายเดี๋ยวเดียวก็สลาย จะเสียเวลาไปทำยาถอนพิษทำไม? จะเชื่อหรือไม่ก็แล้วแต่!”ชายชราเหมือนเริ่มรำคาญที่ถูกถามมาก จึงขึ้นเสียงด้วยความหงุดหงิดพี่ห้าก็ยังยิ้มอยู่ดี “ถ้าเช่นนั้น พิษเยือกมรณะนี้ ปรุงขึ้นได้อย่างไร เจ้ารู้หรือไม่?”ได้ยินดังนั้น ชายชราก็ชะงักเล็กน้อย มองพี่ห้าด้วยสายตาฉงน “เจ้าถามเช่นนี้ทำไม?”พี่ห้าเผยรอยยิ้มมั่นใจออกมาทันที “ข้าจะบอกให้ ว่าน้องสาวของข้าคนนี้น่ะเก่งมาก ไม่ว่า

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 932

    ชายชรามิได้ตอบ กลับเป็นฝ่ายย้อนถามว่า “ข้าว่าเจ้าคงมิได้ต้องการพิษเยือกมรณะ แต่ต้องการยาถอนพิษของพิษเยือกมรณะใช่หรือไม่?”เฉียวเนี่ยนสะท้านในใจ คาดไม่ถึงเลยว่าชายชราผู้นี้จะเดาออกอย่างง่ายดายถึงเพียงนี้ ใบหน้าจึงพลันหม่นลงโดยไม่รู้ตัวเมื่อเห็นท่าทางของเฉียวเนี่ยนเช่นนี้ ชายชราก็รู้ว่าตนเดาถูกแล้ว แต่กลับมีท่าทีสงสัย “แต่นั่นก็แปลก พิษเยือกมรณะนี้มิอาจอยู่ในร่างกายได้นานนัก บางทีแค่นอนหลับไปสักตื่น พิษในร่างกายก็อาจเลือนหายหมดแล้ว แล้วเหตุใดจึงต้องใช้ยาถอนพิษ?”เมื่อพูดถึงตรงนี้ ชายชราก็อดครุ่นคิดมิได้ “ฮึ่ม หรือว่าเป็นเพราะเกิดปฏิกิริยากับพิษสลายกระดูก ถึงทำให้มันสามารถคงอยู่ในร่างกายได้ยาวนาน?”เมื่อพูดถึงตรงนี้ สีหน้าชายชรากลับกลายเป็นท่าทีคล้ายดั่งได้ตาสว่างเห็นเขาเป็นเช่นนั้น เฉียวเนี่ยนก็อดรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาโดยไร้เหตุผลแต่นางก็ยังข่มกลั้นโทสะไว้ เอ่ยถามด้วยเสียงอ่อนโยนว่า “เช่นนั้น ยาถอนพิษของพิษเยือกมรณะ ยังมีอยู่หรือไม่?”“ไม่มี” ชายชราส่ายศีรษะ “พิษชนิดนี้ก็ไม่ใช่ของดีอันใด เป็นเพียงสิ่งที่อดีตเจ้าสำนักราชาโอสถปรุงขึ้นโดยบังเอิญระหว่างทดลองปรุงพิษ เมื่อมันไม่อาจคงอย

  • พลิกชะตาชีวิตหลังเป็นทาสมาสามปี   บทที่ 931

    “ไม่ซื้อก็ไปให้พ้น” ชายชราเอ่ยอย่างไร้เยื่อใยเฉียวเนี่ยนรู้ตัวทันทีว่าชายชรานี้อารมณ์ร้าย ไม่ใช่คนที่รับมือได้ง่ายๆนางจึงเข้าประเด็นตรงๆ ถามว่า “เมื่อครู่นี้ที่เจ้าพูดว่ามีพิษที่ทำให้คนพิการเป็นอัมพาตอยู่ไหนล่ะ?”ชายชรามองเฉียวเนี่ยนอีกรอบ “ตกลงเจ้าจะซื้อพิษหรือจะซื้อยา?”เฉียวเนี่ยนก็ไม่พูดดีด้วย “เจ้ามาตั้งแผงอยู่ตรงนี้ จะมาสนใจอะไรว่าข้าจะซื้อพิษหรือซื้อยา? ข้าจะซื้อทั้งสองอย่างไม่ได้รึ?”ชายชราดูเหมือนไม่คาดคิดว่าเฉียวเนี่ยนจะ 'ปากกล้า' ถึงเพียงนี้ จึงพยักหน้ารับ “ได้ๆๆ พิษที่ทำให้พิการเป็นอัมพาตใช่ไหม? นี่ไง พิษสลายกระดูก ดื่มเพียงคำเดียวก็ทำให้คนนอนเป็นผักทั้งชีวิต และยังเจ็บแสบจนกระดูกแทบละลายทุกคืน รับรองว่าโหดสุดๆ! เจ้าจะซื้อไปใช้กับใครล่ะ? สามีเจ้าหรือ?”เฉียวเนี่ยนไม่ตอบ เพียงถามเสียงเย็น “แล้วพิษเยือกมรณะล่ะ? มีไหม?”พอได้ยินคำถามของเฉียวเนี่ยน สีหน้าชายชราก็เปลี่ยนเป็นเย็นยะเยือกในทันทีเขาจ้องมองเฉียวเนี่ยนอย่างพิจารณา ดวงตาเต็มไปด้วยความระแวง “เจ้าเป็นใครกันแน่?”“เจ้าไม่ต้องรู้หรอกว่าข้าเป็นใคร แค่ตอบมาก็พอ เจ้าใช่คนของสำนักราชาโอสถหรือไม่?” เฉียวเนี่ยนถามเสี

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status