มือหนาของพงศ์พยัคฆ์ยกขึ้นมาลูบไล้ไปตามใบหน้าเรียบของแพรวารินทร์ที่ยังหลับอยู่อย่างแสนรักก่อนจะยื่นหน้าไปจุมพิษที่หน้าผากมน แล้วเลื่อนลงมาที่หอมแก้มเนียนอย่างบางเบาเพื่อไม่ให้รบกวนคนที่ยังหลับอยู่ค่ำคืนที่ผ่านมาเขาเรียกร้องจากเธอครั้งแล้วครั้งเล่าจนเกือบรุ่งสางเธอควรได้พักผ่อน
เพราะถูกตอหนวดแหลมๆที่เพิ่งขึ้นของพงศ์พยัคฆ์ทิ่มลงที่แก้มทำให้หญิงสาวรู้สึกตัวตื่น แพรวารินทร์ลืมตาขึ้นอย่างก่อนจะหลบสายตาอย่างขัดเขินกับความสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้นอีกระดับของเธอกับเขาเธอเป็นภรรยาของหมอหนุ่มทั้งทางนิตินัยและพฤตินัยแล้ว
“อรุณสวัสดิ์ครับน้องแพร”พงศ์พยัคฆ์เอ่ยขึ้นก่อนจะจุมพิตลงที่ริมฝีปากบางก่อนจะถอนออกมายิ้มให้
“อรุณสวัสดิ์ค่ะ พี่เสือ เริ่มมีหนวดขึ้นมาแล้วนะคะโกนออกดีกว่า เดี๋ยวน้องแพรโกนให้” แพรวารินทร์เอ่ยบอกหาเรื่องคุยแก้เขินจนมาสะดุดตรงไรหนวดเล็กๆบนใบหน้าของเขา
“ก็ได้ครับ จริงสิคุณพีร์บอกว่าวันนี้นายนั้นต้องการเพิ่มอะไรเข้าไปในแบบให้ไปพบสิบเอ็ดโมงนะครับ” พงศ์พ
บ้านอัครวิทย์เพราะเกมพนันที่เคยพนันเดตแรกไว้กับฟ้ารดาที่ไร่พยัคฆ์ทำให้ปัญจวัตรต้องมาที่บ้านของฟ้ารดาในวันนี้หมอหนุ่มหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกความมั่นใจ ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ทำให้น้องชายฟ้ารดากลับมาบ้านเพื่อเดตแต่เพื่อเอาชนะใจพ่อแม่ของหญิงสาวด้วยและที่ปรึกษาหมายเลขหนึ่งในครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อนรักแต่เป็นผู้เป็นพ่อแทนจากข้อมูลที่ได้รับทำให้หมอหนุ่มมั่นใจเกือบ90%ว่าจะได้ใจของว่าที่แม่แฟนในอนาคตส่วนอีก10%คือพ่อและน้องชายที่เขาไม่มีความมั่นใจเลยว่าทั้งสองจะยอมให้เขาคบกับฟ้ารดา“เข้าไปข้างในกันคุณ” ฟ้ารดาเอ่ยบอกก่อนจะเดินนำเข้าไปในบ้านหมอหนุ่มเดินตามอย่างมั่นคงและมั่นใจทุกสรรพสิ่งในบ้านอัครวิทย์เหมือนจะหยุดเคลื่อนไหวทันทีเมื่อลูกสาวคนโตของบ้านเดินนำผู้ชายเข้ามาในตัวบ้านนายแพทย์หมออาศิระยืนมองชายหนุ่มรุ่นลูกอย่างไม่วางตาส่วนคุณนายฝนนภากลับมองอย่างตกใจไม่น้อยที่ลูกสาวคนเดียวพาชายหนุ่มที่หน้าคล้ายอดีตคนรักเข้ามาที่บ้านและแนะนำว่าเป็นแฟนหนุ่ม“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ ผมปัญจ์ครับ”ปัญจวัตรเอ่ยทักทายอย่างเ
“สวัสดีครับคุณพิชชา อาการเป็นยังไงบ้างครับ” เสียงทรงเสน่ห์เอ่ยทักทายไถ่ถามอาการทำให้คนไข้วัยทำงานถึงกับใจละลายความจริงเธอไม่ได้ป่วยแต่แค่อยากจะเห็นหน้าหมอหนุ่มเท่านั้นนายแพทย์อัคนี อัครวิทย์ อายุรแพทย์หนุ่มสุดหล่อวัย25ปีขวัญใจสาวน้อยสาวใหญ่ในแถบนี้ยิ้มให้คนไข้อย่างเป็นมิตรแม้จะรู้ดีว่าสาวน้อยสาวใหญ่ทั้งหลายแค่อยากมาเห็นหน้าเขาเท่านั้นบ้างก็เอาของมาเยี่ยมเป็นประจำจนเป็นที่ชินตาของบุคลากรคนอื่นในโรงพยาบาล“วันนี้พิชชาจะเป็นอะไรดีเอ๋ย” อัคนีเอ่ยถามพร้อมยิ้มเอาใจอย่างน่ารักในสายตาเพื่อนหลายคนเขาเป็นคนกระล่อนและกวนประสาทสุดๆแต่สำหรับสาวน้อยสาวใหญ่ที่มาปลาบปลื้มเขากลับเป็นคนปากหวานและเอาใจเก่งเป็นอย่างมาก“วันนี้พิชชี่ปวดหัว ตัวร้อน ใจเต้นแรงมั๊กมากเลยค่ะหมอไฟขา” คนไข้สาวเอ่ยบอกทำท่าให้สมจริงจนหมอหนุ่มแอบขำ“แบบนี้คุณพิชชี่คงต้องมาหาหมอบ่อย ๆแล้วล่ะครับ หมอไฟว่าคุณพิชชี่เป็นโรครักหมอไฟแน่เลย” หมอหนุ่มเอ่ยหยอดพร้อมยิ้มแพรวพราว คนไข้สาวได้แต่เขินม้วนกับคำหยอดของหมอหนุ่ม&n
รุ่งเช้าวันจันทร์ที่แสนสดใสพิมพ์พิชชาเดินยิ้มน่าระรื่นเข้ามาในบริษัทพร้อมแพรวารินทร์ด้วยกิริยาอาการที่บ่งบอกว่ามีความสุขมากมายหลังจากพักผ่อนมาหนึ่งอาทิตย์วันนี้เป็นวันที่หญิงสาวจะได้กลับไปทำงานที่รักอีกครั้งหลังจากหยุดไป1เดือนเต็มๆและที่ทำให้ดีใจยิ่งกว่าคือจะได้ไปเจอหน้าใครบางคนที่หายหน้าไปทั้งอาทิตย์แต่ยังส่งดอกไม้มาเยี่ยมทุกวันอย่างเจ้านายสุดหล่อด้วย“นี่เลิกยิ้มได้แล้วแก ฉันนึกว่าเดินกับคนบ้า” แพรวารินทร์ออกเสียงปรามอย่างไม่จริงจัง ตั้งแต่เช้าที่ผ่านมาเพื่อนรักเอาแต่ยิ้มกว้างจนเธอได้แต่งง นางจะดีใจอะไรขนาดนั้นเล่นใหญ่จริง ๆ“ก็คนมันดีใจอ่า เดือนนึงแล้วน๊าที่ฉันไม่ได้มาทำงานคิดถึงงานแล้วก็เพื่อนร่วมงานจะแย่”“หรา ไม่ใช่คิดถึงคนที่หายไปหนึ่งอาทิตย์เหรอจ๊ะ”แพรวารินทร์ถามกลับอย่างรู้ทัน ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเพื่อนเธอคิดอย่างไรอยู่“รู้มากไปแล้วยะ ไปเข้าไปทำงานกันได้แล้ว”พิมพ์พิชชาว่าให้ก่อนจะดึงเพื่อนรักเข้าไปทำงาน“อ้าว ยัยทรายดูดมาทำงานแล้วเหรอนึกว่าชาตินี้จะไม่ได้เจอหล่อนซะแล้
หลังจากที่พิมพ์พิชชาวางสายจากปลายสายหญิงสาวก็ยืนมองบรรยากาศอย่างมีความสุขกับแผนการทำให้สองสาวขี้อิจฉาหน้าแตกกับใครบางคน“ทำแบบนี้ไม่กลัวแพรโกรธเหรอครับทราย”เสียงที่ดังมาจากด้านหลังทำให้พิมพ์พิชชาต้องสะดุ้ง คนที่ยืนอยู่ด้านหลังเธอคือรณพีร์นั่นเองเขายืนฟังเธอตั้งแต่แรกแล้วแต่ไม่ได้แสดงตัวเท่านั้นพิมพ์พิชชาหันมามองก่อนจะเอ่ยบอก“ความลับนะคุณพีร์อย่าให้ยัยแพรรู้เชียว”“มันก็ต้องมีอะไรมาแลกกันสิ แบบเงินมาผ้าหลุดอะไรประมาณเนี่ย” รณพีร์เอ่ยบอกพร้อมยิ้มอย่างมีเลศนัย“ก็ได้คุณอยากได้อะไร”พิมพ์พิชชาเอ่ยถามอย่างเป็นรอง“ดินเนอร์กันสักมื้อ เสาร์นี้” รณพีร์เอ่ยบอกและลุ้นรอคำตอบจากหญิงสาว“ก็ได้เสาร์นี้” หญิงสาวตอบรับอย่างว่าง่ายก่อนจะถามต่อ “วันศุกร์คุณว่างมั้ยถ้าว่างมาแจมกับแผนของฉันหน่อยนะ”“ได้สิ ผมก็เบื่อที่จะต้องถูกคนโยงไปทำร้ายคนอื่นแล้ว ถ้าเรื่องไม่จบผมคงต้องไล่พวกเธอออก”รณพีร์เอ่ยบอกตามใจคิดปัญหานี้บานปลายมานานแล้วเขาเองก็ควรทำอะไร
ร่างสูงของอัคนีเดินเข้ามาในโรงพยาบาลด้วยใบหน้านิ่งก่อนจะเผยยิ้มออกมาเมื่อเห็นร่างของคนที่ทาบทามเขามาทำงานที่นี่“สวัสดีครับอาจารย์” อัคนีเอ่ยทักอีกฝ่ายอย่างสนิทสนม เขานนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นผู้บริหารโรงพยาบาลแห่งนี้นั่นเอง เขาได้รู้จักกับแดนสรวงเมื่อ7ปีก่อนสมัยเรียนแพทย์ปี1แดนสรวงเป็นอาจารย์หมอที่เขาสนิทด้วยที่สุดหลังจากเรียนจบอาจารย์หมอหนุ่มทาบทามเขาให้มาทำงานที่นี่หลายครั้งแต่เพราะอยากอยู่ใกล้ครอบครัวทำให้ปฏิเสธไปจนในช่วง2ปีมานี้ที่ฟ้ารดาย้ายมาทำงานที่นี่ทำให้เขาลังเลอยากตามมาอยู่หลายครั้งจนกระทั่งปัญจวัตรโผล่เข้ามาทำให้เขาติดต่ออาจารย์หมอคนสนิทอย่างรวดเร็ว“ไงอัคนี นึกยังไงถึงอยากย้ายมา หวงพี่สาวเหรอ?”แดนสรวงเอ่ยถามลูกศิษย์คนสนิทอย่างขบขัน ไม่คิดว่าที่เคยพูดว่าหวงพี่สาวมากจะหวงขนาดยอมย้ายตามมาขัดขวางเลยทีเดียว สงสารก็เเต่เพื่อนรักของญาติผู้น้องป่านนี้จะรู้รึยังว่าตัวป่วนมาถึงถิ่นแล้ว“หวงมากครับจารย์ ว่าแต่จารย์รู้จักไอ้หน้าจืดปัญญาอ่อนที่มาป้วนเปี้ยนเกาะเกะพี่สาวผมแค่ไหน” อัคนีเอ่ยถามแดนสรวงถึงปัญจวัตร
ภายในเรือนไม้สีขาวหลังใหญ่ที่ผู้สร้างตั้งชื่อว่า ‘เรือนแสนรัก’ นั้นเต็มไปด้วยความเงียบเหงาไร้ชีวิตชีวาทั้งที่ภายในมีคนอาศัยอยู่ไม่ต่ำกว่า10คน ผู้อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้นอกจากคนรับใช้ราวแล้วก็มีชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งอาศัยอยู่ ทั้งคู่เป็นคู่สามีภรรยาที่นับว่าแปลกสำหรับบรรดาคนรับใช้ในบ้าน เพราะถึงจะรับรู้ว่าบ้านนี้มีเจ้านายสองคนแต่ทว่าคนทั้งคู่กลับไม่เคยปรากฏตัวพร้อมกันเลยสักครั้ง ไม่มีใครเคยเห็นทั้งคู่สวีตหวานกันเหมือนคู่สามีภรรยาทั่วไป ไม่มีสักครั้งที่ทั้งคู่ได้ร่วมโต๊ะกินข้าวกันภายในเรือนหลังนี้และ...ไม่มีใครเคยเห็นทั้งคู่นอนร่วมห้องเดียวกันตั้งแต่มาทำงานที่บ้านหลังนี้จะพูดให้ถูกก็คือคนเป็นคุณผู้ชายของบ้านนั้นแทบจะไม่อยู่บ้านเลยก็ว่าได้ ในบ้านหลังนี้คล้ายกับว่ามีแค่คุณผู้หญิงเท่านั้นที่อาศัยอยู่‘ทำไมชีวิตเราต้องเป็นแบบนี้กันนะ’ แพรวารินทร์ สัตยบดินทร์หรือแพร มัณฑนากรสาววัย26ปีได้แต่เฝ้าถามตัวเองในใจในขณะที่กำลังเดินขึ้นบันไดแล้วเหลือบไปเห็นกรอบรูปขนาดใหญ่หลายรูปที่แขวนอยู่มุมหนึ่งของบันไดในรูปคือชายหนุ่มวัยประมาณยี่สิบต้น ๆ ในชุดสูทสีขาวครีมสำหรับพิธีแต่งงาน ใบหน้าเงียบขรึมติดจะ
โรงพยาบาลรักษ์บดินทร์บานประตูห้องผ่าตัดถูกเปิดออกด้วยฝีมือของนางพยาบาลวัยกลางคนก่อนที่ร่างสูงสมาร์ตในชุดสำหรับผ่าตัดจะก้าวเดินออกมา สีหน้าของเขาดูผ่อนคลายแต่มีความขรึมอยู่ในท่าที ร่างนั้นเดินตรงไปหาญาติของคนไข้ด้วยท่าทีเป็นมิตรก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย“การผ่าตัดผ่านพ้นไปได้ด้วยดีครับ ตอนนี้คนไข้ปลอดภัยแล้วอีก3-4วันก็คงจะฟื้น”“ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ ขอบคุณจริง ๆ” หญิงสาววัยกลางคนกล่าวขอบคุณหมอหนุ่มผู้ทำการผ่าตัดเลือดคั่งในสมองออกให้แก่ผู้เป็นสามีด้วยความตื้นตันใจนายแพทย์พงศ์พยัคฆ์ สัตยบดินทร์หรือ หมอเสือ ศัลยแพทย์หนุ่มมือหนึ่งของประเทศที่เชี่ยวชาญทั้งการผ่าตัดระบบประสาท ทรวงอกและหัวใจ และการผ่าตัดทั่วไปจนสามารถเข้าผ่าตัดได้แทนได้ทุกเคสผ่าตัดยิ้มให้ญาติคนไข้เล็กน้อยก่อนจะเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงสุภาพ “มันเป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้วครับไม่ต้องขอบคุณหรอก งั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ”พูดจบชายหนุ่มก็โน้มศีรษะลงทำความเคารพผู้สูงวัยกว่าก่อนจะเดินจากไปทิ้งให้ญาติคนไข้กล่าวชื่นชมถึงฝีมือการผ่าตัดและหน้าตาที่หล่อเหลาของผู้เป็นหมอกันอย่างยินดีการได้เห็นรอยยิ้มโล่งใจไร้กังวลของญาติผู้ป่วยคือความสุข
เวลาต่อมาห้องผ่าตัดหลังจากรถพยาบาลพาคนเจ็บมาถึงโรงพยาบาลหญิงสาวก็ถูกนำตัวเข้าทำMRIทันทีและผลก็ออกมาว่ามีเลือดคั่งอยู่ในสมองบริเวณจุดสำคัญพอดีจึงถูกนำตัวเข้าห้องผ่าตัดทันทีโดยมีพงศ์พยัคฆ์เป็นหัวหน้าทีมแพทย์ผู้ทำการผ่าตัด โชคดีที่ไม่มีเนื้องอกอย่างที่พงศ์พยัคฆ์กังวลแต่คนเจ็บก็มีเลือดคั่งมาก่อนหน้านี้แล้ว“การผ่าตัดครั้งนี้อันตรายมากเราต้องระมัดระวังเป็นพิเศษขอให้ทุกคนอย่าประมาท เอาล่ะก่อนอื่นเราจะเปิดกะโหลกเพื่อระบายเลือดที่คั่งออกทุกคนพร้อม” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยขึ้นทุกคนพยักหน้าก่อนที่การผ่าตัดจะเริ่มขึ้นอย่างระมัดระวังจนกระทั่งสิ้นสุดการผ่าตัด ร่างอันเหนื่อยล้าก้าวออกจากห้องผ้าตัดก่อนที่จะพ่นลมหายใจอย่างเหนื่อยล้าและโล่งใจ“เป็นไงบ้างวะเสือ ปลอดภัยแล้วใช่มั้ย” ปัญจวัตรเอ่ยถามเพื่อนรักหลังจากให้การกับตำรวจเท่าที่เห็นและพาเด็กน้อยที่ดูท่าจะหิวไปทานข้าวเพราะตนกับกุมารแพทย์สาวก็ทานไปได้ไม่ถึงสามคำก็เกิดอุบัติเหตุขึ้นซะก่อนจากนั้นชายหนุ่มจึงขับรถกลับมาที่โรงพยาบาลพร้อมกับฟ้ารดาและเด็กหญิงตัวน้อยที่หยุดร้องไห้แล้วหมอหนุ่มพยักหน้าก่อนที่จะสอบถามถึงการติดต่อญาติคนไข้ “ปลอดภัยแล้วการผ่าตัดผ่านไปได
ร่างสูงของอัคนีเดินเข้ามาในโรงพยาบาลด้วยใบหน้านิ่งก่อนจะเผยยิ้มออกมาเมื่อเห็นร่างของคนที่ทาบทามเขามาทำงานที่นี่“สวัสดีครับอาจารย์” อัคนีเอ่ยทักอีกฝ่ายอย่างสนิทสนม เขานนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นผู้บริหารโรงพยาบาลแห่งนี้นั่นเอง เขาได้รู้จักกับแดนสรวงเมื่อ7ปีก่อนสมัยเรียนแพทย์ปี1แดนสรวงเป็นอาจารย์หมอที่เขาสนิทด้วยที่สุดหลังจากเรียนจบอาจารย์หมอหนุ่มทาบทามเขาให้มาทำงานที่นี่หลายครั้งแต่เพราะอยากอยู่ใกล้ครอบครัวทำให้ปฏิเสธไปจนในช่วง2ปีมานี้ที่ฟ้ารดาย้ายมาทำงานที่นี่ทำให้เขาลังเลอยากตามมาอยู่หลายครั้งจนกระทั่งปัญจวัตรโผล่เข้ามาทำให้เขาติดต่ออาจารย์หมอคนสนิทอย่างรวดเร็ว“ไงอัคนี นึกยังไงถึงอยากย้ายมา หวงพี่สาวเหรอ?”แดนสรวงเอ่ยถามลูกศิษย์คนสนิทอย่างขบขัน ไม่คิดว่าที่เคยพูดว่าหวงพี่สาวมากจะหวงขนาดยอมย้ายตามมาขัดขวางเลยทีเดียว สงสารก็เเต่เพื่อนรักของญาติผู้น้องป่านนี้จะรู้รึยังว่าตัวป่วนมาถึงถิ่นแล้ว“หวงมากครับจารย์ ว่าแต่จารย์รู้จักไอ้หน้าจืดปัญญาอ่อนที่มาป้วนเปี้ยนเกาะเกะพี่สาวผมแค่ไหน” อัคนีเอ่ยถามแดนสรวงถึงปัญจวัตร
หลังจากที่พิมพ์พิชชาวางสายจากปลายสายหญิงสาวก็ยืนมองบรรยากาศอย่างมีความสุขกับแผนการทำให้สองสาวขี้อิจฉาหน้าแตกกับใครบางคน“ทำแบบนี้ไม่กลัวแพรโกรธเหรอครับทราย”เสียงที่ดังมาจากด้านหลังทำให้พิมพ์พิชชาต้องสะดุ้ง คนที่ยืนอยู่ด้านหลังเธอคือรณพีร์นั่นเองเขายืนฟังเธอตั้งแต่แรกแล้วแต่ไม่ได้แสดงตัวเท่านั้นพิมพ์พิชชาหันมามองก่อนจะเอ่ยบอก“ความลับนะคุณพีร์อย่าให้ยัยแพรรู้เชียว”“มันก็ต้องมีอะไรมาแลกกันสิ แบบเงินมาผ้าหลุดอะไรประมาณเนี่ย” รณพีร์เอ่ยบอกพร้อมยิ้มอย่างมีเลศนัย“ก็ได้คุณอยากได้อะไร”พิมพ์พิชชาเอ่ยถามอย่างเป็นรอง“ดินเนอร์กันสักมื้อ เสาร์นี้” รณพีร์เอ่ยบอกและลุ้นรอคำตอบจากหญิงสาว“ก็ได้เสาร์นี้” หญิงสาวตอบรับอย่างว่าง่ายก่อนจะถามต่อ “วันศุกร์คุณว่างมั้ยถ้าว่างมาแจมกับแผนของฉันหน่อยนะ”“ได้สิ ผมก็เบื่อที่จะต้องถูกคนโยงไปทำร้ายคนอื่นแล้ว ถ้าเรื่องไม่จบผมคงต้องไล่พวกเธอออก”รณพีร์เอ่ยบอกตามใจคิดปัญหานี้บานปลายมานานแล้วเขาเองก็ควรทำอะไร
รุ่งเช้าวันจันทร์ที่แสนสดใสพิมพ์พิชชาเดินยิ้มน่าระรื่นเข้ามาในบริษัทพร้อมแพรวารินทร์ด้วยกิริยาอาการที่บ่งบอกว่ามีความสุขมากมายหลังจากพักผ่อนมาหนึ่งอาทิตย์วันนี้เป็นวันที่หญิงสาวจะได้กลับไปทำงานที่รักอีกครั้งหลังจากหยุดไป1เดือนเต็มๆและที่ทำให้ดีใจยิ่งกว่าคือจะได้ไปเจอหน้าใครบางคนที่หายหน้าไปทั้งอาทิตย์แต่ยังส่งดอกไม้มาเยี่ยมทุกวันอย่างเจ้านายสุดหล่อด้วย“นี่เลิกยิ้มได้แล้วแก ฉันนึกว่าเดินกับคนบ้า” แพรวารินทร์ออกเสียงปรามอย่างไม่จริงจัง ตั้งแต่เช้าที่ผ่านมาเพื่อนรักเอาแต่ยิ้มกว้างจนเธอได้แต่งง นางจะดีใจอะไรขนาดนั้นเล่นใหญ่จริง ๆ“ก็คนมันดีใจอ่า เดือนนึงแล้วน๊าที่ฉันไม่ได้มาทำงานคิดถึงงานแล้วก็เพื่อนร่วมงานจะแย่”“หรา ไม่ใช่คิดถึงคนที่หายไปหนึ่งอาทิตย์เหรอจ๊ะ”แพรวารินทร์ถามกลับอย่างรู้ทัน ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเพื่อนเธอคิดอย่างไรอยู่“รู้มากไปแล้วยะ ไปเข้าไปทำงานกันได้แล้ว”พิมพ์พิชชาว่าให้ก่อนจะดึงเพื่อนรักเข้าไปทำงาน“อ้าว ยัยทรายดูดมาทำงานแล้วเหรอนึกว่าชาตินี้จะไม่ได้เจอหล่อนซะแล้
“สวัสดีครับคุณพิชชา อาการเป็นยังไงบ้างครับ” เสียงทรงเสน่ห์เอ่ยทักทายไถ่ถามอาการทำให้คนไข้วัยทำงานถึงกับใจละลายความจริงเธอไม่ได้ป่วยแต่แค่อยากจะเห็นหน้าหมอหนุ่มเท่านั้นนายแพทย์อัคนี อัครวิทย์ อายุรแพทย์หนุ่มสุดหล่อวัย25ปีขวัญใจสาวน้อยสาวใหญ่ในแถบนี้ยิ้มให้คนไข้อย่างเป็นมิตรแม้จะรู้ดีว่าสาวน้อยสาวใหญ่ทั้งหลายแค่อยากมาเห็นหน้าเขาเท่านั้นบ้างก็เอาของมาเยี่ยมเป็นประจำจนเป็นที่ชินตาของบุคลากรคนอื่นในโรงพยาบาล“วันนี้พิชชาจะเป็นอะไรดีเอ๋ย” อัคนีเอ่ยถามพร้อมยิ้มเอาใจอย่างน่ารักในสายตาเพื่อนหลายคนเขาเป็นคนกระล่อนและกวนประสาทสุดๆแต่สำหรับสาวน้อยสาวใหญ่ที่มาปลาบปลื้มเขากลับเป็นคนปากหวานและเอาใจเก่งเป็นอย่างมาก“วันนี้พิชชี่ปวดหัว ตัวร้อน ใจเต้นแรงมั๊กมากเลยค่ะหมอไฟขา” คนไข้สาวเอ่ยบอกทำท่าให้สมจริงจนหมอหนุ่มแอบขำ“แบบนี้คุณพิชชี่คงต้องมาหาหมอบ่อย ๆแล้วล่ะครับ หมอไฟว่าคุณพิชชี่เป็นโรครักหมอไฟแน่เลย” หมอหนุ่มเอ่ยหยอดพร้อมยิ้มแพรวพราว คนไข้สาวได้แต่เขินม้วนกับคำหยอดของหมอหนุ่ม&n
บ้านอัครวิทย์เพราะเกมพนันที่เคยพนันเดตแรกไว้กับฟ้ารดาที่ไร่พยัคฆ์ทำให้ปัญจวัตรต้องมาที่บ้านของฟ้ารดาในวันนี้หมอหนุ่มหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกความมั่นใจ ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ทำให้น้องชายฟ้ารดากลับมาบ้านเพื่อเดตแต่เพื่อเอาชนะใจพ่อแม่ของหญิงสาวด้วยและที่ปรึกษาหมายเลขหนึ่งในครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อนรักแต่เป็นผู้เป็นพ่อแทนจากข้อมูลที่ได้รับทำให้หมอหนุ่มมั่นใจเกือบ90%ว่าจะได้ใจของว่าที่แม่แฟนในอนาคตส่วนอีก10%คือพ่อและน้องชายที่เขาไม่มีความมั่นใจเลยว่าทั้งสองจะยอมให้เขาคบกับฟ้ารดา“เข้าไปข้างในกันคุณ” ฟ้ารดาเอ่ยบอกก่อนจะเดินนำเข้าไปในบ้านหมอหนุ่มเดินตามอย่างมั่นคงและมั่นใจทุกสรรพสิ่งในบ้านอัครวิทย์เหมือนจะหยุดเคลื่อนไหวทันทีเมื่อลูกสาวคนโตของบ้านเดินนำผู้ชายเข้ามาในตัวบ้านนายแพทย์หมออาศิระยืนมองชายหนุ่มรุ่นลูกอย่างไม่วางตาส่วนคุณนายฝนนภากลับมองอย่างตกใจไม่น้อยที่ลูกสาวคนเดียวพาชายหนุ่มที่หน้าคล้ายอดีตคนรักเข้ามาที่บ้านและแนะนำว่าเป็นแฟนหนุ่ม“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ ผมปัญจ์ครับ”ปัญจวัตรเอ่ยทักทายอย่างเ
มือหนาของพงศ์พยัคฆ์ยกขึ้นมาลูบไล้ไปตามใบหน้าเรียบของแพรวารินทร์ที่ยังหลับอยู่อย่างแสนรักก่อนจะยื่นหน้าไปจุมพิษที่หน้าผากมน แล้วเลื่อนลงมาที่หอมแก้มเนียนอย่างบางเบาเพื่อไม่ให้รบกวนคนที่ยังหลับอยู่ค่ำคืนที่ผ่านมาเขาเรียกร้องจากเธอครั้งแล้วครั้งเล่าจนเกือบรุ่งสางเธอควรได้พักผ่อนเพราะถูกตอหนวดแหลมๆที่เพิ่งขึ้นของพงศ์พยัคฆ์ทิ่มลงที่แก้มทำให้หญิงสาวรู้สึกตัวตื่น แพรวารินทร์ลืมตาขึ้นอย่างก่อนจะหลบสายตาอย่างขัดเขินกับความสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้นอีกระดับของเธอกับเขาเธอเป็นภรรยาของหมอหนุ่มทั้งทางนิตินัยและพฤตินัยแล้ว“อรุณสวัสดิ์ครับน้องแพร”พงศ์พยัคฆ์เอ่ยขึ้นก่อนจะจุมพิตลงที่ริมฝีปากบางก่อนจะถอนออกมายิ้มให้“อรุณสวัสดิ์ค่ะ พี่เสือ เริ่มมีหนวดขึ้นมาแล้วนะคะโกนออกดีกว่า เดี๋ยวน้องแพรโกนให้” แพรวารินทร์เอ่ยบอกหาเรื่องคุยแก้เขินจนมาสะดุดตรงไรหนวดเล็กๆบนใบหน้าของเขา“ก็ได้ครับ จริงสิคุณพีร์บอกว่าวันนี้นายนั้นต้องการเพิ่มอะไรเข้าไปในแบบให้ไปพบสิบเอ็ดโมงนะครับ” พงศ์พ
ผ้าม่านหนาเปิดออกก่อนที่ร่างบางจะเดินออกมาแพรวารินทร์อยู่ในชุดราตรีความยาวคุมเข่าสีฟ้าอ่อนลายลูกไม้ดูสวยงามใบหน้าถูกแต่งแต้มสวยงามเรือนผมถูกปล่อยปิดแผ่นหลังเนียนพงศ์พยัคฆ์ยืนมองภรรยาสาวดั่งต้องมนตร์หมอหนุ่มอยู่ในชุด เสื้อเชิ้ตสีขาวผูกเนคไทสีดำสวมทับด้วยเสื้อสูทสีเทาดำ กางเกงสแลคทุกองค์ประกอบดูหล่อเท่ห์สมาร์ท“เริด คู่สร้างคู่สมของแท้” แชมมี่เอ่ยขึ้น หลังจากดูผลงานการเลือกชุดของตน หลังจากสองสามีภรรยาเดินเที่ยวในห้างสรรพสินค้ากันจนเที่ยงทั้งสองก็เดินทางกลับไปทานราดหน้าทะเลของพิมพ์พิชชาก่อนจะเดินทางมาที่ห้องเสื้อของแชมมี่เพื่อเตรียมชุดสำหรับงานเลี้ยงรุ่นในช่วงเย็น หลังจากเดินเข้ามาในห้องเสื้อแชมมี่ก็ลากทั้งสองลองชุดต่าง ๆราวกับตุ๊กตาจนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาเกือบ17.00น.เจ้าของห้องเสื้อชื่อดังก็ยังเลือกชุดให้ทั้งสองไม่ได้โดยที่เหตุผลของแชมมี่เอ่ยบอกคือเลือกไม่ถูกเพราะทั้งสองใส่ชุดไหนก็หล่อสวยไปหมด“ชุดนี้เริด เรียบสง่าและมีเสน่ห์ โอเคผ่านแล้ว” แชมมี่เอ่ยบอกพร้อมยิ้มปลื้มปริ่มกับความสง่าเหมาะสมของทั้งคู่“กว่าจะพอใจนายนะชัยจะห
“good morning ครับที่รักของพี่เสือ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยขึ้นหลังจากที่แพรวารินทร์เดินออกมาจากห้องนอนหมอหนุ่มเดินเข้าไปกอดและจุ๊บแก้มเนียนเป็นอย่างแรก“ฉวยโอกาส ใครอนุญาตคะ” แพรวารินทร์แกล้งดุแต่พงศ์พยัคฆ์หาได้กลัวไม่“ไม่มีใครอนุญาตครับอนุญาตตัวเอง”“พอเลย ไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะค่ะเราจะได้กลับเรือนแสนรักซะทีน้องแพรจะไปจัดการสถานหนักกับคนเจ้าแผนการ” แพรวารินทร์เอ่ยบอกแม้จะขะเขินกับคำว่าน้องแพรบ้างแต่เพราะหมอหนุ่มขอให้แทนแบบนี้เธอก็เลยขัดไม่ได้“หนูแพรครับ ยัยตัวแสบแค่อยากให้เราเข้าใจกันเท่านั้นแหละ”พงศ์พยัคฆ์แก้ตัวให้น้องสาวผู้แสนดี แต่ถูกแพรวารินทร์มองด้วยสายตาเอาเรื่องจนต้องหงอ“แล้วแต่หนูแพรจะจัดการเลยครับ พี่เสือไม่ยุ่ง” ‘ตัวใครตัวมันนะน้องรัก พี่เสือไม่ยุ่ง’ พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกหากแต่ประโยคท้ายเขากลับเอ่ยมันในใจส่งกระแสจิตไปบอกน้องสาว“ดีค่ะไม่ยุ่งน่ะดีแล้ว ไปอาบน้ำเถอะค่ะเดี๋ยวน้องแพรชงกาแฟกับปิ้งขนมปังไว้ให้”“K
“จากที่ไม่ชอบ ก็กลายเป็นใช่ กลายเป็นคำตอบของใจฉันความผูกพันเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นไม่ลดเลย ฉันรักเธอจัง...”เมื่อเสียงเพลงจบลงแพรวารินทร์ได้แต่เขินอายจนต้องวิ่งเข้าไปในห้องน้ำทั้งเขินทั้งเสียใจที่หมอหนุ่มยังคงนิ่งโดยไม่รู้เลยว่าคนที่คิดว่านิ่งนั้นแอบยิ้มและร้องไชโยในใจอยู่ถ้าไม่ติดที่ต้องเก๊กนิ่งนะเขาจะกระโดดเต้นแร้งเต้นกาเลยด้วยซ้ำ“สำเร็จ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยเบาๆอย่างดีใจเมื่อแพรวารินทร์วิ่งเข้าไปในห้องน้ำ“สำเร็จแต่ยังไม่พอ ต้องบอกตรง ๆ” หมอหนุ่มเอ่ยบอกตัวเองและทำหน้านิ่งตัวตรงอีกครั้งด้านคนในห้องน้ำยืนมองตัวเองในกระจกอย่างเขินอายก่อนจะกรี๊ดลั่นแต่หมอหนุ่มก็ไม่มีทางได้ยินเพราะเป็นห้องเก็บเสียง ก่อนที่จะโทรศัพท์หาที่ปรึกษาตัวแสบอย่างพิมพ์พิชชาพร้อมเล่าทุกอย่างให้ฟัง“แก ฉันร้องเพลงบอกรักไปแล้วแต่พี่เสือยังนิ่งอีกเอาไงดีล่ะ”ด้านพิมพ์พิชชาอมยิ้มและกลั้นหัวเราะอย่างเต็มที่เธอไม่เชื่อว่าพี่ชายเธอยังนิ่งแค่ยัยเพื่อนรักไม่เห็นเท่านั้นแหละ“บอกรักผ่านเพลงอาจจะครุมเครือมั้งแก พี่เส