/ โรแมนติก / พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก / บทที่1 นายแพทย์พงศ์พยัคฆ์

공유

บทที่1 นายแพทย์พงศ์พยัคฆ์

last update 최신 업데이트: 2025-03-02 14:14:05

โรงพยาบาลรักษ์บดินทร์

บานประตูห้องผ่าตัดถูกเปิดออกด้วยฝีมือของนางพยาบาลวัยกลางคนก่อนที่ร่างสูงสมาร์ตในชุดสำหรับผ่าตัดจะก้าวเดินออกมา สีหน้าของเขาดูผ่อนคลายแต่มีความขรึมอยู่ในท่าที ร่างนั้นเดินตรงไปหาญาติของคนไข้ด้วยท่าทีเป็นมิตรก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงผ่อนคลาย

“การผ่าตัดผ่านพ้นไปได้ด้วยดีครับ ตอนนี้คนไข้ปลอดภัยแล้วอีก3-4วันก็คงจะฟื้น”

“ขอบคุณคุณหมอมากนะคะ ขอบคุณจริง ๆ” หญิงสาววัยกลางคนกล่าวขอบคุณหมอหนุ่มผู้ทำการผ่าตัดเลือดคั่งในสมองออกให้แก่ผู้เป็นสามีด้วยความตื้นตันใจ

นายแพทย์พงศ์พยัคฆ์ สัตยบดินทร์หรือ หมอเสือ ศัลยแพทย์หนุ่มมือหนึ่งของประเทศที่เชี่ยวชาญทั้งการผ่าตัดระบบประสาท ทรวงอกและหัวใจ และการผ่าตัดทั่วไปจนสามารถเข้าผ่าตัดได้แทนได้ทุกเคสผ่าตัดยิ้มให้ญาติคนไข้เล็กน้อยก่อนจะเอ่ยบอกด้วยน้ำเสียงสุภาพ “มันเป็นหน้าที่ของหมออยู่แล้วครับไม่ต้องขอบคุณหรอก งั้นหมอขอตัวก่อนนะครับ”

พูดจบชายหนุ่มก็โน้มศีรษะลงทำความเคารพผู้สูงวัยกว่าก่อนจะเดินจากไปทิ้งให้ญาติคนไข้กล่าวชื่นชมถึงฝีมือการผ่าตัดและหน้าตาที่หล่อเหลาของผู้เป็นหมอกันอย่างยินดี

การได้เห็นรอยยิ้มโล่งใจไร้กังวลของญาติผู้ป่วยคือความสุขหนึ่งของชายหนุ่มตลอดหลายปีมานี้...ยอมรับว่ารอยยิ้มของคนไข้และญาติๆ คือกำลังใจที่มีค่าสำหรับเขา เขาผ่าตัดมาแล้วนับร้อยเคสแต่ก็มีหลายเคสที่การผ่าตัดอย่างเดียวไม่อาจจะช่วยได้ จนบางครั้งเขาก็อยากจะเรียนเฉพาะทางเพิ่มเพื่อเข้าไปช่วยในงานด้านนั้น ๆ ...ถ้าหากว่า9ปีก่อนตัวเขาไม่ต้องสละสิทธิ์สำหรับโอกาสหายากนั้นและได้ไปตามที่ตั้งใจไว้ก็คงจะดี...มันคงจะดีกว่านี้ ในทุก ๆ เรื่อง

“การผ่าตัดคงเหนื่อยน่าดูเลยซินะคะคุณหมอ”น้ำเสียงสอบถามอย่างเป็นห่วงเป็นใยของหญิงสาวในชุดพยาบาลที่เดินตามมาทำให้คนนึกเสียดายดึงสติกลับมาสนใจปัจจุบันอีกครั้ง ชายหนุ่มมองพยาบาลสาวที่เดินตามมาเพื่อมองหาจุดประสงค์ของอีกฝ่าย

“คุณบีเดินตามผมมาทำไมครับ” เขาถามกลับไปด้วยไม่เข้าใจสาเหตุที่พยาบาลฝึกหัดสาวนามว่าเบญจาหรือบีที่เดินตามเขามาทั้งที่ไม่มีความจำเป็นต้องตามมา

“บีคิดว่าคุณหมอน่าจะเมื่อยคอน่ะค่ะ บีเลยตามมาอาสาจะนวดให้” พยาบาลฝึกหัดสาวเอ่ยบอกความประสงค์ออกไปพร้อมทั้งส่งสายตาเชิญชวนให้แก่หมอหนุ่มอย่างแพราวพราว สองอาทิตย์ที่ตัวเธอมาเป็นพยาบาลฝึกหัดที่นี่ยอมรับเลยว่าเสน่ห์ของเธอทำให้คุณหมอหลายคนมองตามอย่างหลงใหลแต่กับคนตรงหน้านี้เธอยังไม่เห็นวี่แววว่าเขาจะเป็นเหมือนคนอื่น ๆ เลยและนั่นทำให้เธอสนใจอยากจะเอาชนะเขาให้ได้

“ไม่ต้องหรอกครับ เสียเวลาทำงานเปล่า ๆ” พงศ์พยัคฆ์ปฏิเสธด้วยน้ำเสียงเย็นชาก่อนที่จะหันเดินเข้าห้องส่วนตัวไปอย่างไม่สนใจจะรักษาน้ำใจหรือให้เกียรติอีกฝ่าย...เขาก็ไม่ใช่คนใจดีนัก เขาให้เกียรติแค่คนที่ควรให้เกียรติเท่านั้น ที่บ้านไม่ได้สอนให้สุภาพกับคนที่มีความคิดไม่ดีกับตัวเอง

“เย็นชานักนะ คิดว่าฉันจะง้อเหรอ เหอะ” คนโดนเดินหนีไม่ไว้หน้าเอ่ยอย่างโกรธแค้น...ไม่เคยมีใครไม่สนใจเธอได้ ไม่มีทาง

เที่ยง

ก๊อกๆ ๆ

“หมอเสือคะ” เสียงเรียกอันไพเราะดังขึ้นหลังจากเสียงเคาะประตูดังก่อนที่ร่างบางของแพทย์หญิงฟ้ารดา อัครวิทย์ หรือ หมอฟ้า กุมารแพทย์คนสวยที่ได้รับการโหวตว่าเป็นหมอที่น่ารักที่สุดของโรงพยาบาลจะปรากฏขึ้น เสียงของเธอเรียกความสนใจของพงศ์พยัคฆ์จากแผ่นฟิล์มเอกซเรย์สองถึงสามแผ่นตรงหน้าให้หันหน้ามามองเธอได้อย่างดี ชายหนุ่มมองใบหน้าหวานด้วยความสงสัยขณะที่คนมาใหม่นั้นคลี่ยิ้มกับท่าทีนั้นของเจ้าของห้อง

“เที่ยงแล้วค่ะ ไปทานข้าวกันค่ะ”

“อ้าว นี่เที่ยงแล้วเหรอครับผมยังคิดว่าเพิ่ง10โมงอยู่เลย มิน่าล่ะรู้สึกหิวแปลกๆ” หมอหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมมองนาฬิกาที่มันไม่ใช่แค่เที่ยงตรงแต่เลยเที่ยงตรงไปเกือบ30นาทีแล้วก่อนจะยิ้มอ่อนใจให้ตัวเอง เขามักทำงานจนลืมเวลาแบบนี้เสมอ...ทุกทีนั่นล่ะ

หมอสาวได้แต่ส่ายหน้าคล้ายเอือมระอาก่อนจะเอ่ยขึ้น “ไม่ใช่เที่ยงนะคะแต่อีกครึ่งชั่วโมงจะบ่ายแล้วไปค่ะ ไปทานข้าวกันดีกว่า”

“เฮ้ยเสือ เที่ยงแล้วไปกินข้าวกัน” เสียงแทรกดังมาจากหน้าประตูก่อนที่ร่างสูงสมส่วนของนายแพทย์ปัญจวัตร เกตทิวรากุลหรือ หมอปัญจ์ ศัลยแพทย์ทรวงอกและหัวใจฝีมือดีของโรงพยาบาลจะปรากฏตัวขึ้นทำให้พงศ์พยัคฆ์และฟ้ารดาหันไปมอง

“งั้นดีเลยไปพร้อมกันสามคนนี่แหละ...หมอฟ้าคิดว่ายังไงครับ?” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยทำลายความเงียบเมื่อฟ้ารดาหันควับไปมองปัญจวัตรอย่างไม่พอใจ เขารู้ดีว่าเพื่อนหนุ่มต้องการเข้ามาขัดขวางไม่ให้กุมารแพทย์สาวได้อยู่กับเขาสองต่อสองเพราะตั้งแต่ฟ้ารดามาทำงานที่นี่เมื่อสามปีก่อนก็มีข่าวลือว่าเขาคบหากับหญิงสาวในทางชู้สาว ศัลยแพทย์ทรวงอกหนุ่มผู้รักเพื่อนจึงต้องคอยกันข่าวลือในทางลบที่จะเกิดขึ้นโดยการแทรกกลางระหว่างเขากับเธออยู่บ่อยครั้งและเขาเองก็ไม่ทุกข์ร้อนอะไรที่มีเพื่อนคอยทำตัวราวกับเป็นเห็บเป็นหมัดอยู่ข้างๆ ออกจะคิดว่าดีซะอีกเพราะกุมารแพทย์สาวไม่ควรมีข่าวลือแย่ๆ กับเขาถึงแม้หลายคนอาจไม่รู้แต่ก็มีอาจารย์หมอบางคนในโรงพยาบาลที่ทราบว่าเขาแต่งงานแล้วอาจทำให้กุมารแพทย์สาวถูกมองไม่ดีในสายตาคนเหล่านั้นได้

“ก็ได้ค่ะ” แม้จะผิดหวังที่ไม่ได้ไปกับหมอหนุ่มที่แอบชอบสองต่อสองแต่กุมารแพทย์สาวก็ไม่ปฏิเสธที่จะร่วมโต๊ะอาหารมื้อนี้ แม้จะขัดใจอยู่บ้างที่ตาหมอช่างขัดโผล่มาทั้งที่ก่อนมาห้องนี้เธออุตส่าห์เหลียวซ้ายแลขวาดูต้นทางก่อนแล้วแต่เรื่องอะไรเธอจะยอมยกธงขาวให้ตาหมอเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อนี่ได้ยิ้มเยาะเธอล่ะ หึ เมื่อเธอไม่ได้กินข้าวสองต่อสองกับพงศ์พยัคฆ์ ตาหมอเกย์เพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อคนนี้ก็ต้องไม่ได้เช่นกัน

เธอจะพิทักษ์หัวใจตัวเอง และพิทักษ์อธิปไตยของพงศ์พยัคฆ์ไว้ให้ได้ “เราไปกันเลยดีกว่าค่ะ ฉันหิวแล้ว”

“งั้นไปรถผมแล้วกันผมจองโต๊ะกับสั่งอาหารไว้แล้ว” ปัญจวัตรเอ่ยบอกแก่ฟ้ารดาก่อนจะเดินนำออกจากห้อง หญิงสาวเดินตามหลังสองหนุ่มด้วยความเจ็บใจ พูดก็พูดเถอะ ถึงจะรู้ว่าปัญจวัตรคิดไม่ซื่อกับพงศ์พยัคฆ์จึงขัดขวางไม่ให้เธอได้ไปไหนมาไหนกับพงศ์พยัคฆ์ประจำก็เถอะ แต่เธอก็ยังไม่เข้าใจอยู่ดี เธอไปทำให้อะไรให้ปัญจวัตรโกรธนักหนานะทำไมถึงได้ชอบขัดชอบขวางเธออยู่เรื่อย นายคนนี้น่ะไม่ใช่แค่ขัดเรื่องพงศ์พยัคฆ์หรอก เขาขัดเธอทุกเรื่องนั่นล่ะ แย้งกับเธอได้ทุกเรื่อง ทุกที่เลยล่ะตาคนนี้น่ะ

เวลาต่อมา...

ปัญจวัตรเดินนำสองหนุ่มสาวเข้ามาในร้านอาหารที่ชายหนุ่มจองไว้ก่อนที่พนักงานสาวจะเดินนำทั้งสามมายังโต๊ะติดกับกระจกใสมองออกไปภายนอกกระจกเห็นถนนใหญ่รถแล่นไปมาเสียงดังที่คุณหมอหนุ่มจองไว้

“แหม่! เลือกมุมดีนะคะหมอปัญจ์...มองเห็นถนนด้วยแถมได้ยินเสียงข้างนอกชัดแจ๋วเลย” ฟ้ารดาเอ่ยกับปัญจวัตรอย่างประชดประชัน ตั้งแต่เริ่มได้กลิ่นทะแม่ง ๆ จนมั่นใจว่าปัญจวัตรเป็นศัตรูหัวใจเมื่อปี2ก่อนเธอก็แสดงออกชัดเจนแล้วว่าเธอกับตาคนนี้ไม่มีวันญาติดีกัน เกย์ร่างยักษ์คนนี้เธอจะขัดขวางไม่ให้ได้ล่วงล้ำอธิปไตยของพงศ์พยัคฆ์อย่างแน่นอน เพื่อผู้ชายที่เธอตกหลุมรัก เธอจะประชด เหน็บแนม และจิกกัดตาหมอเกย์นี่ให้ถึงที่สุด

“เปลี่ยนบรรยากาศไงหมอ...บรรยากาศแบบเดิมน่าเบื่อจะตาย” ปัญจวัตรยังคงไม่ทุกข์ร้อนกับคำประชดของกุมารแพทย์สาวก่อนจะเลื่อนเก้าอี้ให้หมอสาวนั่งทางฝั่งซ้ายซึ่งติดกับกระจกใสและผายมือให้เพื่อนสนิทนั่งตรงฝั่งตรงข้ามกับกระจกใสส่วนตนก็กลับมานั่งตรงข้ามกับกุมารแพทย์สาวที่ตอนนี้ชักสีหน้าใส่เขาอยู่ครู่ต่อมาพนักงานเสิร์ฟก็นำอาหารที่สั่งไว้มาเสิร์ฟ

“นี่ฉันสั่งของโปรดนายมาเลยนะเนี่ยไอ้เสือ กินเยอะๆ” ปัญจวัตรเอ่ยขึ้นพร้อมตักอาหารใส่จานเพื่อนรัก “ทำงานลืมเวลาแบบนายเดี๋ยวโรคกระเพาะก็ถามหาเข้าสักวัน...ถ้าหมอป่วยซะเองแล้วใครจะดูแลคนไข้กันล่ะ”

“อย่าว่าแต่คนอื่นครับหมอปัญจ์...นายก็กินเยอะ ๆ หมอฟ้าด้วยนะครับ” ประสาทศัลยแพทย์หนุ่มเอ่ยกลับก่อนที่หยิบช้อนและส้อมขึ้นมาโดยไม่มีคำขอบคุณส่งให้ สำหรับเพื่อนที่รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก แค่มองตาเขาและอีกฝ่ายก็เข้าใจกันแล้ว

ขณะที่พงศ์พยัคฆ์จะตักอาหารคำแรกเข้าปากก็มีบางสิ่งปรากฏต่อสายตาเขาจนต้องหุบยิ้ม มือหนาที่กำลังตกข้าวเข้าปากชะงัก...มันรวดเร็วจนมองไม่ทันแต่เพราะเขาเป็นคนที่สายตาดีทำให้เห็นจังหวะนั้นพอดี สิ่งที่เห็นตรงหน้าคือภาพรถเก๋งคันหนึ่งแล่นมาด้วยความเร็วสูงและอีกคันด้านขวามือของชายหนุ่มขับย้อนศรมาก่อนที่รถทั้งสองจะชนประสานงากันเสียงดังสนั่น

โครม!!!

ปัญจวัตรตกใจกับเสียงที่เกิดขึ้นหันมองซ้ายขวาทันทีอย่างระแวดระวังพร้อมกับถามขึ้น “เสียงอะไรวะ”

“รถชนกัน” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกก่อนจะทิ้งช้อนลงและวิ่งออกไปนอกร้านทันทีสองหนุ่มสาวก็วิ่งตามออกไปด้วยสัญชาตญาณ ถ้าเกิดอุบัติเหตุแน่นอนว่าอาจจะมีคนได้รับบาดเจ็บดังนั้นแล้วพวกเขาควรจะไปให้ถึงที่เกิดเหตุให้ไวถ้าอยู่ใกล้ ๆ

หมอหนุ่มแหวกกลุ่มไทยมุงไปยังที่เกิดเหตุทันทีโดยมีปัญจวัตรและฟ้ารดาตามไปไม่ห่าง “ขอทางหน่อยครับผมเป็นหมอ”

“ผมเป็นหมอครับ หลีกทางหน่อย”

พงศ์พยัคฆ์เข้าไปดูอาการคนเจ็บของรถคันที่เขาเห็นเต็มตาว่าเป็นฝ่ายขับมาด้วยความเร็วและพุ่งชนประสานงากับรถอีกคัน ขณะที่ปัญจวัตรนั้นแยกไปดูรถอีกคันส่วนฟ้ารดายกโทรศัพท์มากดเรียกรถพยาบาลและตำรวจก่อนจะเข้าไปช่วยพงศ์พยัคฆ์

“รถพยาบาลกำลังจะมาแล้วค่ะ” ฟ้ารดาเอ่ยบอกคนเจ็บยังคงมีสติอยู่ “อดทนไว้นะคะ"

พงศ์พยัคฆ์ที่ดูอาการของคนเจ็บถอนใจโล่งเมื่อสำรวจแล้วอีกฝ่ายไม่เป็นอะไรมาก “อาการน่าจะเคล็ดขัดยอกและกระดูกแขนร้าวไม่ถึงขั้นสาหัส อดทนอีกนิดนะครับ เดี๋ยวรถพยาบาลก็มา”

ในขณะที่หมอหนุ่มดูอาการคนเจ็บในรถที่ขับมาด้วยความเร็วปัญจวัตร ที่ไปดูอาการคนเจ็บที่ขับรถย้อนศรก็ตะโกนเรียก “เสือมาดูทางนี้หน่อย ที่หัวและจมูกมีเลือดออก”

“ฝากคุณหมอฟ้าดูทางนี้ด้วยนะครับ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกก่อนจะตรงไปยังรถที่ปัญจวัตรดูอยู่ในรถมีผู้หญิงเป็นคนขับข้างๆ มีเด็กหญิงวัยประมาณสามถึงสี่ขวบนั่งร้องไห้อยู่ จากรูปการณ์หญิงสาวคงเป็นแม่ของเด็กหญิงและคงกลัวลูกจะบาดเจ็บจึงเอาตัวไปบังไว้และตอนที่รถประสานงากันศีรษะก็ไปกระแทกเข้ากับอะไรบางอย่างจนมีเลือดไหลออกมาอีกทั้งยังมีเลือดไหลออกทางจมูกซึ่งไม่ใช่เลือดกำเดาสาเหตุอาจจะมาจากอาการผิดปกติในระบบประสาท

“อาจจะมีเลือดคั่ง หรือไม่เธอก็น่าจะมีอาการผิดปกติในระบบประสาทมาก่อนหน้านี้แล้วทำให้มีเลือดไหลออกจากจมูก คงต้องพาไปทำำMRIที่โรงพยาบาลดูก่อน ถ้ามีเลือดคั่งก็คงเป็นเคสที่อันตรายมากแล้ว...เด็กเป็นไงบ้างวะ” พงศ์พยัคฆ์สันนิษฐานอาการอย่างไม่ปักใจในประเด็นใดประเด็นหนึ่ง ข้อสันนิษฐานของเขาแยกออกไปสองประเด็นคือมีเลือดคั่งในบริเวณที่อันตรายสาเหตุมาจากการกระแทกรุนแรงของรถ สองคือหญิงสาวอาจจะมีอาการผิดปกติที่ระบบประสาทอยู่ก่อนแล้วอาจจะเป็นเลือดคั่ง หรือไม่ก็เนื้องอกในสมอง แต่ถ้าหญิงสาวโชคร้ายเป็นทั้งสองข้อสันนิษฐานคงเป็นเคสที่อันตรายและต้องระวังมากในการผ่าตัด สีหน้าของคนที่ทำงานหลักเป็นประสาทศัลยแพทย์เครียดขึ้นก่อนจะหันไปถามถึงเด็กหญิงที่ร้องไห้อยู่

“ไม่เป็นไรว่ะ แค่ตกใจงั้นฉันพาไปหาหมอเด็กก่อน ฉันไม่สันทัดเรื่องแบบนี้” ปัญจวัตรเอ่ยก่อนจะอุ้มเด็กหญิงไปที่หมอเด็กหรือกุมารแพทย์สาวนั่นเอง

이 책을 계속 무료로 읽어보세요.
QR 코드를 스캔하여 앱을 다운로드하세요

최신 챕터

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่45 ภัยร้ายรอบตัว

    สายตาคมมองโต๊ะทำงานที่มีร่องรอยของการกรีดอย่างขบคิดว่าใครกันที่ทำแบบนี้ ใครที่เกลียดเธอถึงขนาดนี้ ใครกัน? ฟ้ารดาเฝ้าถามตัวเองโดยไม่รู้สึกถึงการมาของใครบางคน“ทำอะไรอยู่คะพี่ฟ้า ตายแล้วนี่เกิดอะไรขึ้นคะพี่ฟ้า ทำไมโต๊ะถึงได้เป็นแบบนี้” เสียงร้องอย่างตกใจของคนข้างหลังทำให้ฟ้ารดาถึงกับสะดุ้ง คนที่ยืนอยู่หลังเธอคือสุนิสาหรือนิดพยาบาลสาวรุ่นน้องที่ดีกับเธอคนนึงแต่เมื่อเกิดข่าวลือเรื่องเธอกับพงศ์พยัคฆ์เมื่อสามเดือนก่อนทำให้เธอเปลี่ยนความคิดในทันทีเพราะสุนิสาเป็นคนนึงที่เอาข่าวลือไปใส่สีตีไข่จนไม่เหลือเค้าความจริงเธอจึงหลีกเลี่ยงที่จะคบค้ากับคนหน้าซื่อใจคดหน้าไหว้หลังหลอก“มีอะไรเหรอคะคุณนิด” ฟ้ารดาเอ่ยตอบเสียงเรียบราวกับไม่รู้สิ่งที่พยาบาลสาวเคยทำแต่ก็ไม่ได้ยินดีที่จะคุยด้วย“ทำไมพี่ฟ้าทำเสียงแบบนั้นล่ะคะน่ากลัวมากเลย”สุนิสาแกล้งใสซื่อจนถ้าเธอไม่รู้มาก่อนคงคิดว่าผู้หญิงตรงหน้านั้นใสซื่อจริง ๆ“ไม่มีอะไรหรอกค่ะ พี่แค่ตกใจไปหน่อยคุณนิดมีอะไรก็พูดมาเถ

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่44 ตัวป่วน  

    ร่างสูงของอัคนีเดินเข้ามาในโรงพยาบาลด้วยใบหน้านิ่งก่อนจะเผยยิ้มออกมาเมื่อเห็นร่างของคนที่ทาบทามเขามาทำงานที่นี่“สวัสดีครับอาจารย์” อัคนีเอ่ยทักอีกฝ่ายอย่างสนิทสนม เขานนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นผู้บริหารโรงพยาบาลแห่งนี้นั่นเอง เขาได้รู้จักกับแดนสรวงเมื่อ7ปีก่อนสมัยเรียนแพทย์ปี1แดนสรวงเป็นอาจารย์หมอที่เขาสนิทด้วยที่สุดหลังจากเรียนจบอาจารย์หมอหนุ่มทาบทามเขาให้มาทำงานที่นี่หลายครั้งแต่เพราะอยากอยู่ใกล้ครอบครัวทำให้ปฏิเสธไปจนในช่วง2ปีมานี้ที่ฟ้ารดาย้ายมาทำงานที่นี่ทำให้เขาลังเลอยากตามมาอยู่หลายครั้งจนกระทั่งปัญจวัตรโผล่เข้ามาทำให้เขาติดต่ออาจารย์หมอคนสนิทอย่างรวดเร็ว“ไงอัคนี นึกยังไงถึงอยากย้ายมา หวงพี่สาวเหรอ?”แดนสรวงเอ่ยถามลูกศิษย์คนสนิทอย่างขบขัน ไม่คิดว่าที่เคยพูดว่าหวงพี่สาวมากจะหวงขนาดยอมย้ายตามมาขัดขวางเลยทีเดียว สงสารก็เเต่เพื่อนรักของญาติผู้น้องป่านนี้จะรู้รึยังว่าตัวป่วนมาถึงถิ่นแล้ว“หวงมากครับจารย์ ว่าแต่จารย์รู้จักไอ้หน้าจืดปัญญาอ่อนที่มาป้วนเปี้ยนเกาะเกะพี่สาวผมแค่ไหน” อัคนีเอ่ยถามแดนสรวงถึงปัญจวัตร

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่43 เอาใจใส่

    หลังจากที่พิมพ์พิชชาวางสายจากปลายสายหญิงสาวก็ยืนมองบรรยากาศอย่างมีความสุขกับแผนการทำให้สองสาวขี้อิจฉาหน้าแตกกับใครบางคน“ทำแบบนี้ไม่กลัวแพรโกรธเหรอครับทราย”เสียงที่ดังมาจากด้านหลังทำให้พิมพ์พิชชาต้องสะดุ้ง คนที่ยืนอยู่ด้านหลังเธอคือรณพีร์นั่นเองเขายืนฟังเธอตั้งแต่แรกแล้วแต่ไม่ได้แสดงตัวเท่านั้นพิมพ์พิชชาหันมามองก่อนจะเอ่ยบอก“ความลับนะคุณพีร์อย่าให้ยัยแพรรู้เชียว”“มันก็ต้องมีอะไรมาแลกกันสิ แบบเงินมาผ้าหลุดอะไรประมาณเนี่ย” รณพีร์เอ่ยบอกพร้อมยิ้มอย่างมีเลศนัย“ก็ได้คุณอยากได้อะไร”พิมพ์พิชชาเอ่ยถามอย่างเป็นรอง“ดินเนอร์กันสักมื้อ เสาร์นี้” รณพีร์เอ่ยบอกและลุ้นรอคำตอบจากหญิงสาว“ก็ได้เสาร์นี้” หญิงสาวตอบรับอย่างว่าง่ายก่อนจะถามต่อ “วันศุกร์คุณว่างมั้ยถ้าว่างมาแจมกับแผนของฉันหน่อยนะ”“ได้สิ ผมก็เบื่อที่จะต้องถูกคนโยงไปทำร้ายคนอื่นแล้ว ถ้าเรื่องไม่จบผมคงต้องไล่พวกเธอออก”รณพีร์เอ่ยบอกตามใจคิดปัญหานี้บานปลายมานานแล้วเขาเองก็ควรทำอะไร

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่42 ยัยตัวแสบ

    รุ่งเช้าวันจันทร์ที่แสนสดใสพิมพ์พิชชาเดินยิ้มน่าระรื่นเข้ามาในบริษัทพร้อมแพรวารินทร์ด้วยกิริยาอาการที่บ่งบอกว่ามีความสุขมากมายหลังจากพักผ่อนมาหนึ่งอาทิตย์วันนี้เป็นวันที่หญิงสาวจะได้กลับไปทำงานที่รักอีกครั้งหลังจากหยุดไป1เดือนเต็มๆและที่ทำให้ดีใจยิ่งกว่าคือจะได้ไปเจอหน้าใครบางคนที่หายหน้าไปทั้งอาทิตย์แต่ยังส่งดอกไม้มาเยี่ยมทุกวันอย่างเจ้านายสุดหล่อด้วย“นี่เลิกยิ้มได้แล้วแก ฉันนึกว่าเดินกับคนบ้า” แพรวารินทร์ออกเสียงปรามอย่างไม่จริงจัง ตั้งแต่เช้าที่ผ่านมาเพื่อนรักเอาแต่ยิ้มกว้างจนเธอได้แต่งง นางจะดีใจอะไรขนาดนั้นเล่นใหญ่จริง ๆ“ก็คนมันดีใจอ่า เดือนนึงแล้วน๊าที่ฉันไม่ได้มาทำงานคิดถึงงานแล้วก็เพื่อนร่วมงานจะแย่”“หรา ไม่ใช่คิดถึงคนที่หายไปหนึ่งอาทิตย์เหรอจ๊ะ”แพรวารินทร์ถามกลับอย่างรู้ทัน ทำไมเธอจะไม่รู้ว่าเพื่อนเธอคิดอย่างไรอยู่“รู้มากไปแล้วยะ ไปเข้าไปทำงานกันได้แล้ว”พิมพ์พิชชาว่าให้ก่อนจะดึงเพื่อนรักเข้าไปทำงาน“อ้าว ยัยทรายดูดมาทำงานแล้วเหรอนึกว่าชาตินี้จะไม่ได้เจอหล่อนซะแล้

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่41 น้องชายขี้หวง

    “สวัสดีครับคุณพิชชา อาการเป็นยังไงบ้างครับ” เสียงทรงเสน่ห์เอ่ยทักทายไถ่ถามอาการทำให้คนไข้วัยทำงานถึงกับใจละลายความจริงเธอไม่ได้ป่วยแต่แค่อยากจะเห็นหน้าหมอหนุ่มเท่านั้นนายแพทย์อัคนี อัครวิทย์ อายุรแพทย์หนุ่มสุดหล่อวัย25ปีขวัญใจสาวน้อยสาวใหญ่ในแถบนี้ยิ้มให้คนไข้อย่างเป็นมิตรแม้จะรู้ดีว่าสาวน้อยสาวใหญ่ทั้งหลายแค่อยากมาเห็นหน้าเขาเท่านั้นบ้างก็เอาของมาเยี่ยมเป็นประจำจนเป็นที่ชินตาของบุคลากรคนอื่นในโรงพยาบาล“วันนี้พิชชาจะเป็นอะไรดีเอ๋ย” อัคนีเอ่ยถามพร้อมยิ้มเอาใจอย่างน่ารักในสายตาเพื่อนหลายคนเขาเป็นคนกระล่อนและกวนประสาทสุดๆแต่สำหรับสาวน้อยสาวใหญ่ที่มาปลาบปลื้มเขากลับเป็นคนปากหวานและเอาใจเก่งเป็นอย่างมาก“วันนี้พิชชี่ปวดหัว ตัวร้อน ใจเต้นแรงมั๊กมากเลยค่ะหมอไฟขา” คนไข้สาวเอ่ยบอกทำท่าให้สมจริงจนหมอหนุ่มแอบขำ“แบบนี้คุณพิชชี่คงต้องมาหาหมอบ่อย ๆแล้วล่ะครับ หมอไฟว่าคุณพิชชี่เป็นโรครักหมอไฟแน่เลย” หมอหนุ่มเอ่ยหยอดพร้อมยิ้มแพรวพราว คนไข้สาวได้แต่เขินม้วนกับคำหยอดของหมอหนุ่ม&n

  • พันธนาการร้ายหัวใจพ่ายรัก   บทที่40 พาผู้ชายเข้าบ้าน

    บ้านอัครวิทย์เพราะเกมพนันที่เคยพนันเดตแรกไว้กับฟ้ารดาที่ไร่พยัคฆ์ทำให้ปัญจวัตรต้องมาที่บ้านของฟ้ารดาในวันนี้หมอหนุ่มหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกความมั่นใจ ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ทำให้น้องชายฟ้ารดากลับมาบ้านเพื่อเดตแต่เพื่อเอาชนะใจพ่อแม่ของหญิงสาวด้วยและที่ปรึกษาหมายเลขหนึ่งในครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อนรักแต่เป็นผู้เป็นพ่อแทนจากข้อมูลที่ได้รับทำให้หมอหนุ่มมั่นใจเกือบ90%ว่าจะได้ใจของว่าที่แม่แฟนในอนาคตส่วนอีก10%คือพ่อและน้องชายที่เขาไม่มีความมั่นใจเลยว่าทั้งสองจะยอมให้เขาคบกับฟ้ารดา“เข้าไปข้างในกันคุณ” ฟ้ารดาเอ่ยบอกก่อนจะเดินนำเข้าไปในบ้านหมอหนุ่มเดินตามอย่างมั่นคงและมั่นใจทุกสรรพสิ่งในบ้านอัครวิทย์เหมือนจะหยุดเคลื่อนไหวทันทีเมื่อลูกสาวคนโตของบ้านเดินนำผู้ชายเข้ามาในตัวบ้านนายแพทย์หมออาศิระยืนมองชายหนุ่มรุ่นลูกอย่างไม่วางตาส่วนคุณนายฝนนภากลับมองอย่างตกใจไม่น้อยที่ลูกสาวคนเดียวพาชายหนุ่มที่หน้าคล้ายอดีตคนรักเข้ามาที่บ้านและแนะนำว่าเป็นแฟนหนุ่ม“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ ผมปัญจ์ครับ”ปัญจวัตรเอ่ยทักทายอย่างเ

더보기
좋은 소설을 무료로 찾아 읽어보세요
GoodNovel 앱에서 수많은 인기 소설을 무료로 즐기세요! 마음에 드는 책을 다운로드하고, 언제 어디서나 편하게 읽을 수 있습니다
앱에서 책을 무료로 읽어보세요
앱에서 읽으려면 QR 코드를 스캔하세요.
DMCA.com Protection Status