ทิฐิและความเข้าใจผิดนำพาให้เขามึนตึงใส่เธอแต่เมื่อมีเหตุไม่คาดฝันเกิดขึ้นทำให้เขาได้กลับมาสำนึกได้เมื่อใจปล่อยเธอไปไม่ได้เขาจึงต้องเริ่มจีบเธอตั้งแต่ต้น คนที่ใครคิดว่าเงียบกลับเจ้าเล่ห์และร้ายกาจแถมมีมุกเสี่ยวจีบหญิงสุดขนลุกจนเธอต้องส่ายหน้า
View Moreภายในเรือนไม้สีขาวหลังใหญ่ที่ผู้สร้างตั้งชื่อว่า ‘เรือนแสนรัก’ นั้นเต็มไปด้วยความเงียบเหงาไร้ชีวิตชีวาทั้งที่ภายในมีคนอาศัยอยู่ไม่ต่ำกว่า10คน ผู้อาศัยอยู่ในบ้านหลังนี้นอกจากคนรับใช้ราวแล้วก็มีชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งอาศัยอยู่ ทั้งคู่เป็นคู่สามีภรรยาที่นับว่าแปลกสำหรับบรรดาคนรับใช้ในบ้าน เพราะถึงจะรับรู้ว่าบ้านนี้มีเจ้านายสองคนแต่ทว่าคนทั้งคู่กลับไม่เคยปรากฏตัวพร้อมกันเลยสักครั้ง ไม่มีใครเคยเห็นทั้งคู่สวีตหวานกันเหมือนคู่สามีภรรยาทั่วไป ไม่มีสักครั้งที่ทั้งคู่ได้ร่วมโต๊ะกินข้าวกันภายในเรือนหลังนี้และ...ไม่มีใครเคยเห็นทั้งคู่นอนร่วมห้องเดียวกันตั้งแต่มาทำงานที่บ้านหลังนี้
จะพูดให้ถูกก็คือคนเป็นคุณผู้ชายของบ้านนั้นแทบจะไม่อยู่บ้านเลยก็ว่าได้ ในบ้านหลังนี้คล้ายกับว่ามีแค่คุณผู้หญิงเท่านั้นที่อาศัยอยู่
‘ทำไมชีวิตเราต้องเป็นแบบนี้กันนะ’ แพรวารินทร์ สัตยบดินทร์หรือแพร มัณฑนากรสาววัย26ปีได้แต่เฝ้าถามตัวเองในใจในขณะที่กำลังเดินขึ้นบันไดแล้วเหลือบไปเห็นกรอบรูปขนาดใหญ่หลายรูปที่แขวนอยู่มุมหนึ่งของบันได
ในรูปคือชายหนุ่มวัยประมาณยี่สิบต้น ๆ ในชุดสูทสีขาวครีมสำหรับพิธีแต่งงาน ใบหน้าเงียบขรึมติดจะเฉยชาและมีความเย็นชาอยู่ในทีด้านซ้ายของชายหนุ่มคือเด็กสาวในชุดเจ้าสาวเข้าชุดกับชุดของชายหนุ่มใบหน้างดงามดั่งภาพวาดดูอ่อนวัยในมือถือช่อกุหลาบขาวแสนสวยแต่ใบหน้านั้นฝืนยิ้มจนสามารถรับรู้ได้
‘9ปีแล้วสินะรูปนี้’ แพรวารินทร์เอ่ยกับตัวเองในใจก่อนที่จะมองใบหน้าพิมพ์เดียวกับตนเองในกรอบรูป...ใช่ นั่นคือเธอ รูปงานแต่งงานของเธอเมื่อ9ปีก่อน ซึ่งขณะนั้นเธออายุเพียงแค่17ปีเท่านั้นเอง
‘เราต้องทนอยู่แบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่กันนะ?’
9ปีก่อน
“แพร” น้ำเสียงที่ฟังดูจริงจังดังขึ้นส่งผลให้ร่างบางกำลังนั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างต้องเงยหน้าขึ้นมามองทันทีด้วยความงุนงง
“ตาจะให้แพรแต่งงานกับเจ้าเสือเดือนหน้า เตรียมตัวไว้ล่ะหลังแต่งงานแพรต้องไปอยู่กรุงเทพฯ”
“นะ หนูไม่เข้าใจ?” แพรวารินทร์ในวัย17เอ่ยถามผู้เป็นตาด้วยใบหน้าไม่มั่นใจว่าได้ยินอะไรผิดไปหรือไม่ คุณตาจะให้เธอแต่งงานกับหลานชายเพื่อนท่านงั้นเหรอ?
“ตาบอกว่าจะให้หนูแต่งงานกับพี่เสือเดือนหน้า” พ่อเลี้ยงพยัคฆ์เจ้าของไร่ชาและกาแฟที่ใหญ่ที่สุดในภาคเหนือเอ่ยย้ำแก่หลานสาวก่อนที่คนเป็นหลานจะค้านขึ้น
“แต่หนูอายุแค่17เองนะคะ”
ใช่...เธอจะแต่งงานได้ไงเธอเพิ่งจะอายุ17ส่วนบุคคลที่จะเป็นเจ้าบ่าวของเธอก็อายุเพียงแค่21เอง
“เราก็รู้ว่าทำไมตาถึงต้องทำแบบนี้ ตาแก่แล้ว ไอ้บ้านั่นมันก็จ้องแพรตาเป็นมัน ตายอมไม่ได้หรอกนะถ้าจะมีใครสักคนมาข้องแวะอยากคบหากับเราเพราะอยากได้ไร่พยัคฆ์” ชายชราผู้เป็นตาเอ่ยบอกด้วยสีหน้าปวดใจ เดิมทีแพรวารินทร์นั้นอยู่ที่กรุงเทพฯกับครอบครัวของลูกพี่ชายท่านแต่เมื่อปีก่อนเด็กสาวเลือกที่จะมาเรียนต่อชั้นมัธยมปลายที่เชียงใหม่เพราะอยากจะช่วยตาอย่างเขาแบ่งเบาภาระที่ไร่พยัคฆ์ แต่นับวันหลานสาวของเขาก็เริ่มโตขึ้นและฉายแววงดงามไร้ที่ติไม่ต่างจากคนเป็นแม่หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่หลายคนจึงจ้องตาเป็นมันอยากจะสนิทชิดใกล้หลานสาวของเขา นอกจากใบหน้าที่เริ่มฉายแววงดงามไร้ที่ติแล้วแพรวารินทร์ยังเป็นที่สนใจเพราะมีชื่อเป็นเจ้าของไร่พยัคฆ์ไร่ชาและกาแฟแห่งใหญ่ที่สุดในเมืองไทยซึ่งตั้งอยู่ในทำเลทอง ทั้งสวยและมีทรัพย์ล่ำค่าขนาดนี้ใครก็อยากได้ไปครอบครองทั้งนั้น
นั่นเป็นสาเหตุที่เขาต้องรีบให้หลานสาวแต่งงานกับคนที่เขาไว้วางใจและไปกลับไปอยู่กรุงเทพ ฯ ซะและอีกสาเหตุก็คือหนึ่งในคนที่อยากครอบครองทั้งแพรวารินทร์และไร่พยัคฆ์นั้นคือศัตรูทางธุรกิจของเครือญาติเขาซึ่งอายุอานามก็ปาเข้าไป40ปีแล้ว เจ้านั่นเคยพลาด ผิดหวังจากแม่ของแพรวารินทร์จึงมีความคิดสกปรกอยากได้หลานสาวเขาไปแทนที่แม่....เขาไม่มีวันยอมแน่นอน
“แต่พี่เสือกำลังจะไปต่างประเทศนะคะ ทำแบบนี้ไม่เท่ากับคุณตาร่วมมือกับคุณตาเสกข์ขัดขวางไม่ให้พี่เขาไปเหรอคะ” คนเป็นหลานถาม คำถามนั้นทำให้พ่อเลี้ยงพยัคฆ์จนด้วยคำพูด ความจริงแล้วนี่ก็เป็นอีกเหตุผลที่งานแต่งงานระหว่างแพรวารินทร์กับหลานชายของเพื่อนสนิทของเขาต้องเกิดขึ้นในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า
“หนูไม่แต่งหรอก หนูไม่อยากเป็นส่วนหนึ่งของการขัดขวางความฝันของพี่เสือ” เสียงของแพรวารินทร์เรียกสติคนเป็นตาจนคุณตาวัยชราหันมามองด้วยใบหน้าจริงจัง
“ยังไงเดือนหน้าแพรก็ต้องแต่งงานกับเจ้าเสือ ต้องแต่งเท่านั้น ไม่แต่งไม่ต้องมาเรียกตาว่าตาอีก” ผู้เป็นตาเอ่ยอย่างจริงจังจนหลานสาวต้องยอมเพราะพ่อเลี้ยงพยัคฆ์คือญาติใกล้ชิดคนเดียวที่เหลืออยู่ของเธอ
พ่อและแม่ของแพรวารินทร์เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อ10ปีก่อนซึ่งจริง ๆ แล้วเธอควรตายไปเพราะอุบัติเหตุครั้งนั้นด้วยแต่โชคดีที่ผู้เป็นแม่ผลักเธอออกมาจากรถส่งให้กับคนที่มาช่วยก่อนที่รถจะระเบิดเหตุการณ์ครั้งนั้นสร้างความเจ็บปวดให้เด็กสาวเป็นอันมากในช่วงแรกแต่เพราะพ่อเลี้ยงพยัคฆ์ที่ทำทุกวิถีทางทำให้เธอกลับมาร่าเริงอีกครั้งเธอจึงให้ความสำคัญกับคุณตามาก
หนึ่งเดือนต่อจากนั้น
“พี่สะ...”
“หนูแพรนอนห้องนี้ล่ะ ไม่ต้องกังวลหรอกพี่จะไปนอนห้องเล็ก เราต่างคนต่างอยู่ หนูแพรก็มีชีวิตของหนูแพรไป พี่ก็มีชีวิตของพี่ไม่เกี่ยวข้องกัน...ไม่ต้องกลัวว่าพี่จะทำให้หนูแพรลำบากใจหรอก” ชายหนุ่มในชุดสูทสีขาวครีมเอ่ยก่อนจะมุ่งตรงไปยังประตูที่เชื่อมต่อระหว่างห้องหอกับห้องนอนเล็ก
ปัง!
ประตูห้องถูกเปิดและปิดลงในเวลาไม่นานเจ้าสาวตัวน้อยที่นั่งอยู่บนเตียงได้แต่อ้าปากค้างไม่นานหลังจากนั้นน้ำตาหยดน้อยก็ค่อย ๆ หยดแมะ ๆ จากดวงตา
เธอพอจะรู้มาจากพิมพ์พิชชาหรือทรายเพื่อนรักซึ่งเป็นน้องสาวของพงศ์พยัคฆ์หรือพี่เสือ ผู้เป็นเจ้าบ่าวของเธอในวันนี้ว่าชายหนุ่มผิดหวังมากที่ต้องสละสิทธิ์ไปศึกษาต่อและทำงานในประเทศที่ตั้งใจไว้ทั้งผิดหวังและพาลโกรธไปทั่ว ทั้งโกรธคุณปู่ โกรธคุณพ่อ และอาจจะพาลโกรธเธอด้วย
ที่ผ่านมาเธอเป็นเพื่อนน้องสาวที่สนิทกับชายหนุ่มมาก เขาใส่ใจเธอเสมอ และเธอเองก็สนิทใจกับเขามากที่สุด...เธอไม่พร้อมจริง ๆ ที่จะถูกโกรธและถูกเกลียด...ไม่พร้อมจริง ๆ
นับตั้งแต่วันแต่งงานจวบจนวันนี้เธอได้เห็นหน้าชายหนุ่มแค่ตอนไปทานข้าวร่วมโต๊ะกับพ่อแม่ของอีกฝ่ายและพิมพ์พิชชาที่บ้านสัตยบดินทร์ซึ่งอยู่ในรั้วเดียวกับบ้านแสนรักหลังนี้แต่อยู่ห่างกันพอสมควรเพียงเท่านั้น นอกจากช่วงเวลานั้นแล้วเธอแทบไม่เห็นหน้าเขาเลย ชายหนุ่มไปทำงานแต่เช้ากลับมาในช่วงดึกหลังจากที่เธอเข้านอนแล้วบางครั้งก็หายไปเป็นอาทิตย์และเป็นเดือนถึงจะกลับ วันหยุดเขาอยู่บ้านแต่เธอก็ไม่เคยมีวันหยุดที่ตรงกับเขาเลย มันเป็นเรื่องแปลกสำหรับคนรับใช้แต่สำหรับเธอ...เธอชินชาเสียแล้ว
“สวัสดีครับคุณพิชชา อาการเป็นยังไงบ้างครับ” เสียงทรงเสน่ห์เอ่ยทักทายไถ่ถามอาการทำให้คนไข้วัยทำงานถึงกับใจละลายความจริงเธอไม่ได้ป่วยแต่แค่อยากจะเห็นหน้าหมอหนุ่มเท่านั้นนายแพทย์อัคนี อัครวิทย์ อายุรแพทย์หนุ่มสุดหล่อวัย25ปีขวัญใจสาวน้อยสาวใหญ่ในแถบนี้ยิ้มให้คนไข้อย่างเป็นมิตรแม้จะรู้ดีว่าสาวน้อยสาวใหญ่ทั้งหลายแค่อยากมาเห็นหน้าเขาเท่านั้นบ้างก็เอาของมาเยี่ยมเป็นประจำจนเป็นที่ชินตาของบุคลากรคนอื่นในโรงพยาบาล“วันนี้พิชชาจะเป็นอะไรดีเอ๋ย” อัคนีเอ่ยถามพร้อมยิ้มเอาใจอย่างน่ารักในสายตาเพื่อนหลายคนเขาเป็นคนกระล่อนและกวนประสาทสุดๆแต่สำหรับสาวน้อยสาวใหญ่ที่มาปลาบปลื้มเขากลับเป็นคนปากหวานและเอาใจเก่งเป็นอย่างมาก“วันนี้พิชชี่ปวดหัว ตัวร้อน ใจเต้นแรงมั๊กมากเลยค่ะหมอไฟขา” คนไข้สาวเอ่ยบอกทำท่าให้สมจริงจนหมอหนุ่มแอบขำ“แบบนี้คุณพิชชี่คงต้องมาหาหมอบ่อย ๆแล้วล่ะครับ หมอไฟว่าคุณพิชชี่เป็นโรครักหมอไฟแน่เลย” หมอหนุ่มเอ่ยหยอดพร้อมยิ้มแพรวพราว คนไข้สาวได้แต่เขินม้วนกับคำหยอดของหมอหนุ่ม&n
บ้านอัครวิทย์เพราะเกมพนันที่เคยพนันเดตแรกไว้กับฟ้ารดาที่ไร่พยัคฆ์ทำให้ปัญจวัตรต้องมาที่บ้านของฟ้ารดาในวันนี้หมอหนุ่มหายใจเข้าปอดเพื่อเรียกความมั่นใจ ครั้งนี้ไม่ใช่แค่ทำให้น้องชายฟ้ารดากลับมาบ้านเพื่อเดตแต่เพื่อเอาชนะใจพ่อแม่ของหญิงสาวด้วยและที่ปรึกษาหมายเลขหนึ่งในครั้งนี้ไม่ใช่เพื่อนรักแต่เป็นผู้เป็นพ่อแทนจากข้อมูลที่ได้รับทำให้หมอหนุ่มมั่นใจเกือบ90%ว่าจะได้ใจของว่าที่แม่แฟนในอนาคตส่วนอีก10%คือพ่อและน้องชายที่เขาไม่มีความมั่นใจเลยว่าทั้งสองจะยอมให้เขาคบกับฟ้ารดา“เข้าไปข้างในกันคุณ” ฟ้ารดาเอ่ยบอกก่อนจะเดินนำเข้าไปในบ้านหมอหนุ่มเดินตามอย่างมั่นคงและมั่นใจทุกสรรพสิ่งในบ้านอัครวิทย์เหมือนจะหยุดเคลื่อนไหวทันทีเมื่อลูกสาวคนโตของบ้านเดินนำผู้ชายเข้ามาในตัวบ้านนายแพทย์หมออาศิระยืนมองชายหนุ่มรุ่นลูกอย่างไม่วางตาส่วนคุณนายฝนนภากลับมองอย่างตกใจไม่น้อยที่ลูกสาวคนเดียวพาชายหนุ่มที่หน้าคล้ายอดีตคนรักเข้ามาที่บ้านและแนะนำว่าเป็นแฟนหนุ่ม“สวัสดีครับคุณพ่อคุณแม่ ผมปัญจ์ครับ”ปัญจวัตรเอ่ยทักทายอย่างเ
มือหนาของพงศ์พยัคฆ์ยกขึ้นมาลูบไล้ไปตามใบหน้าเรียบของแพรวารินทร์ที่ยังหลับอยู่อย่างแสนรักก่อนจะยื่นหน้าไปจุมพิษที่หน้าผากมน แล้วเลื่อนลงมาที่หอมแก้มเนียนอย่างบางเบาเพื่อไม่ให้รบกวนคนที่ยังหลับอยู่ค่ำคืนที่ผ่านมาเขาเรียกร้องจากเธอครั้งแล้วครั้งเล่าจนเกือบรุ่งสางเธอควรได้พักผ่อนเพราะถูกตอหนวดแหลมๆที่เพิ่งขึ้นของพงศ์พยัคฆ์ทิ่มลงที่แก้มทำให้หญิงสาวรู้สึกตัวตื่น แพรวารินทร์ลืมตาขึ้นอย่างก่อนจะหลบสายตาอย่างขัดเขินกับความสัมพันธ์ที่เพิ่มขึ้นอีกระดับของเธอกับเขาเธอเป็นภรรยาของหมอหนุ่มทั้งทางนิตินัยและพฤตินัยแล้ว“อรุณสวัสดิ์ครับน้องแพร”พงศ์พยัคฆ์เอ่ยขึ้นก่อนจะจุมพิตลงที่ริมฝีปากบางก่อนจะถอนออกมายิ้มให้“อรุณสวัสดิ์ค่ะ พี่เสือ เริ่มมีหนวดขึ้นมาแล้วนะคะโกนออกดีกว่า เดี๋ยวน้องแพรโกนให้” แพรวารินทร์เอ่ยบอกหาเรื่องคุยแก้เขินจนมาสะดุดตรงไรหนวดเล็กๆบนใบหน้าของเขา“ก็ได้ครับ จริงสิคุณพีร์บอกว่าวันนี้นายนั้นต้องการเพิ่มอะไรเข้าไปในแบบให้ไปพบสิบเอ็ดโมงนะครับ” พงศ์พ
ผ้าม่านหนาเปิดออกก่อนที่ร่างบางจะเดินออกมาแพรวารินทร์อยู่ในชุดราตรีความยาวคุมเข่าสีฟ้าอ่อนลายลูกไม้ดูสวยงามใบหน้าถูกแต่งแต้มสวยงามเรือนผมถูกปล่อยปิดแผ่นหลังเนียนพงศ์พยัคฆ์ยืนมองภรรยาสาวดั่งต้องมนตร์หมอหนุ่มอยู่ในชุด เสื้อเชิ้ตสีขาวผูกเนคไทสีดำสวมทับด้วยเสื้อสูทสีเทาดำ กางเกงสแลคทุกองค์ประกอบดูหล่อเท่ห์สมาร์ท“เริด คู่สร้างคู่สมของแท้” แชมมี่เอ่ยขึ้น หลังจากดูผลงานการเลือกชุดของตน หลังจากสองสามีภรรยาเดินเที่ยวในห้างสรรพสินค้ากันจนเที่ยงทั้งสองก็เดินทางกลับไปทานราดหน้าทะเลของพิมพ์พิชชาก่อนจะเดินทางมาที่ห้องเสื้อของแชมมี่เพื่อเตรียมชุดสำหรับงานเลี้ยงรุ่นในช่วงเย็น หลังจากเดินเข้ามาในห้องเสื้อแชมมี่ก็ลากทั้งสองลองชุดต่าง ๆราวกับตุ๊กตาจนกระทั่งเวลาล่วงเลยมาเกือบ17.00น.เจ้าของห้องเสื้อชื่อดังก็ยังเลือกชุดให้ทั้งสองไม่ได้โดยที่เหตุผลของแชมมี่เอ่ยบอกคือเลือกไม่ถูกเพราะทั้งสองใส่ชุดไหนก็หล่อสวยไปหมด“ชุดนี้เริด เรียบสง่าและมีเสน่ห์ โอเคผ่านแล้ว” แชมมี่เอ่ยบอกพร้อมยิ้มปลื้มปริ่มกับความสง่าเหมาะสมของทั้งคู่“กว่าจะพอใจนายนะชัยจะห
“good morning ครับที่รักของพี่เสือ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยขึ้นหลังจากที่แพรวารินทร์เดินออกมาจากห้องนอนหมอหนุ่มเดินเข้าไปกอดและจุ๊บแก้มเนียนเป็นอย่างแรก“ฉวยโอกาส ใครอนุญาตคะ” แพรวารินทร์แกล้งดุแต่พงศ์พยัคฆ์หาได้กลัวไม่“ไม่มีใครอนุญาตครับอนุญาตตัวเอง”“พอเลย ไปอาบน้ำแต่งตัวเถอะค่ะเราจะได้กลับเรือนแสนรักซะทีน้องแพรจะไปจัดการสถานหนักกับคนเจ้าแผนการ” แพรวารินทร์เอ่ยบอกแม้จะขะเขินกับคำว่าน้องแพรบ้างแต่เพราะหมอหนุ่มขอให้แทนแบบนี้เธอก็เลยขัดไม่ได้“หนูแพรครับ ยัยตัวแสบแค่อยากให้เราเข้าใจกันเท่านั้นแหละ”พงศ์พยัคฆ์แก้ตัวให้น้องสาวผู้แสนดี แต่ถูกแพรวารินทร์มองด้วยสายตาเอาเรื่องจนต้องหงอ“แล้วแต่หนูแพรจะจัดการเลยครับ พี่เสือไม่ยุ่ง” ‘ตัวใครตัวมันนะน้องรัก พี่เสือไม่ยุ่ง’ พงศ์พยัคฆ์เอ่ยบอกหากแต่ประโยคท้ายเขากลับเอ่ยมันในใจส่งกระแสจิตไปบอกน้องสาว“ดีค่ะไม่ยุ่งน่ะดีแล้ว ไปอาบน้ำเถอะค่ะเดี๋ยวน้องแพรชงกาแฟกับปิ้งขนมปังไว้ให้”“K
“จากที่ไม่ชอบ ก็กลายเป็นใช่ กลายเป็นคำตอบของใจฉันความผูกพันเพิ่มขึ้นเพิ่มขึ้นไม่ลดเลย ฉันรักเธอจัง...”เมื่อเสียงเพลงจบลงแพรวารินทร์ได้แต่เขินอายจนต้องวิ่งเข้าไปในห้องน้ำทั้งเขินทั้งเสียใจที่หมอหนุ่มยังคงนิ่งโดยไม่รู้เลยว่าคนที่คิดว่านิ่งนั้นแอบยิ้มและร้องไชโยในใจอยู่ถ้าไม่ติดที่ต้องเก๊กนิ่งนะเขาจะกระโดดเต้นแร้งเต้นกาเลยด้วยซ้ำ“สำเร็จ” พงศ์พยัคฆ์เอ่ยเบาๆอย่างดีใจเมื่อแพรวารินทร์วิ่งเข้าไปในห้องน้ำ“สำเร็จแต่ยังไม่พอ ต้องบอกตรง ๆ” หมอหนุ่มเอ่ยบอกตัวเองและทำหน้านิ่งตัวตรงอีกครั้งด้านคนในห้องน้ำยืนมองตัวเองในกระจกอย่างเขินอายก่อนจะกรี๊ดลั่นแต่หมอหนุ่มก็ไม่มีทางได้ยินเพราะเป็นห้องเก็บเสียง ก่อนที่จะโทรศัพท์หาที่ปรึกษาตัวแสบอย่างพิมพ์พิชชาพร้อมเล่าทุกอย่างให้ฟัง“แก ฉันร้องเพลงบอกรักไปแล้วแต่พี่เสือยังนิ่งอีกเอาไงดีล่ะ”ด้านพิมพ์พิชชาอมยิ้มและกลั้นหัวเราะอย่างเต็มที่เธอไม่เชื่อว่าพี่ชายเธอยังนิ่งแค่ยัยเพื่อนรักไม่เห็นเท่านั้นแหละ“บอกรักผ่านเพลงอาจจะครุมเครือมั้งแก พี่เส
พระอาทิตย์ใกล้จะตกดินแล้วแต่คุณหมอหนุ่มยังไม่เลิกงานซึ่งนั้นก็หมายความว่าผู้ติดตามอย่างแพรวารินทร์ก็ยังไม่เลิกงานด้วยหญิงสาวมองญาติคนไข้ฉุกเฉินของพงศ์พยัคฆ์อย่างหงุดหงิดเธอพอจะรู้ว่าผู้หญิงคนนั้นตกใจเสียใจที่ญาติเข้าโรงพยาบาลแต่มีสิทธิ์อะไรมากอดสามีเธอไว้แบบนั้นแถมยังเบียดหน้าอกหน้าใจเข้าหาเขาอีกนั้นสามีของเธอนะภรรยาเขานั่งอยู่นี่ไม่เห็นรึไง‘ชิ แกนั่งอยู่นี่ทั้งคน นางยังเบียดนมเข้าแนบอกพี่เสืออีกยัยนมแตงโม’ แพรวารินทร์ได้แต่แยกเขี้ยวใส่พร้อมก่นด่าในใจตอนนี้เข้าใจความรู้สึกของคนหึงแล้วโวยวายไม่ได้แล้วว่าเป็นยังไงและพอเข้าใจความรู้สึกของพงศ์พยัคฆ์ในวันนั้นแล้วด้วย แพรวารินทร์ได้แต่หงุดหงิดก่อนจะเดินกลับไปที่ห้องทำงานของพงศ์พยัคฆ์เพราะทนภาพบาดตาไม่ไหวอยากจะกระชากออกจากกันให้รู้แล้วรู้รอด“พิมพ์พิชชาส่งคุณมาใช่มั้ย” หมอหนุ่มเอ่ยถามเมื่อแพรวารินทร์กลับห้องทำงานไปแล้ว เขามั่นใจว่าผู้หญิงที่พยายามเอาหน้าอกมาเบียดเขาเนี่ยไม่ใช่ญาติของคนไข้แน่นอนและจะเป็นใครไปไม่ได้ที่จะส่งมาถ้าไม่ใช่น้องสาวเขา“รู้ด้วย ฉลาดจังหมอขา&r
เดอะ ซัน คอนโดมิเนี่ยมคนที่ไม่ออกจากเรือนแสนรักมาโดยไม่รู้จุดหมายปลายทางเลือกจะมายังคอนโดมิเนียมแห่งนี้ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงพยาบาลและเป็นที่พักในช่วงที่เขาไปทำงานที่นิติเวชร่างสูงเปิดประตูเข้ามาในห้องก่อนจะเดินเข้ามายังห้องนอนแล้วทรุดลงนั่งบนเตียงอย่างหมดแรง เขาน้อยใจที่เธอว่าเขาไม่มีเหตุผลและมีสิทธิ์อะไรไปทำแบบนั้นและเขาหึงที่เธออยู่ในอ้อมกอดของชายคนอื่นและที่เป็นแบบนี้ไม่ใช่ความผิดของแพรวารินทร์แต่เป็นเพราะเขารักเธอมากเกินไปแถมเธอยังไม่มีใจให้กันอีกด้วย พงศ์พยัคฆ์ล้มลงนอนก่อนจะฝืนหลับตาลงอย่างยากลำบาก“พี่เสือคิดถึงหนูแพรนะครับ ขอแค่คิดถึงแต่จะไม่ไปกวนใจอีกแล้ว”2วันผ่านไปเรือนแสนรักเป็นเวลาสองวันแล้วหลังจากพงศ์พยัคฆ์ขับรถออกไปและหมอหนุ่มก็ไม่ได้กลับมาอีกตลอดระยะเวลาสองวันที่ผ่านมาช่างดูหดหู่ในความรู้สึกของแพรวารินทร์และทุกคนในบ้านที่ต่างเฝ้ารอการกลับมาของหมอหนุ่มโดยเฉพาะแพรวารินทร์ที่มีอาการเหม่อลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวจนต้องขอลางานอีกหนึ่งอาทิตย์“แพรจะไปตามพี่เสือกลับมา พี่เสือ
ร่างสูงสมบูรณ์แบบของพงศ์พยัคฆ์หันมองไปยังโต๊ะที่มีคนคุ้นเคยในหัวใจของเขานั่งอยู่อย่างหงุดหงิดและพยายามควบคุมอารมณ์ไว้ไม่เดินเข้าไปกระชากผู้ชายคนนั้นขึ้นมาต่อยเพราะรู้ดีว่าตนทำผิดไว้มากและถ้าเดินเข้าไปต่อยลูกค้าของเธออีกมีหวังโอกาสของเขาคงหมดลงเป็นแน่แม้ว่าคำว่าสามีจะมีสิทธิ์ทำแบบนั้นแต่เขาไม่ใช่สามีที่เธอรักและยังอยู่ในสถานะที่รอการพิจารณาว่าจะรักหรือไม่เท่านั้นหมอหนุ่มจึงหันกลับมาสนใจกลุ่มเพื่อนร่วมงานตรงหน้าที่ชวนเขามาทานอาหารเที่ยงแทน ทีมแพทย์ที่สนิทของชายหนุ่มซึ่งนำทีมโดยรามินเอ่ยชวนเขามาทานอาหารเที่ยงที่นี่พงศ์พยัคฆ์ที่ไม่อยากเป็นกขค.ของเพื่อนรักกับกุมารแพทย์สาวจึงไม่คิดปฏิเสธการร่วมโต๊ะในครั้งนี้แต่เมื่อมาถึงที่นั่งของเขาดันบังเอิญมองไปเห็นอีกมุมนึงของร้านซึ่งเป็นที่ที่เจ้าของหัวใจของเขานั่งอยู่นั้นเอง“พี่เสือเป็นไรเปล่า ผมว่าพี่ทำหน้าดูน่ากลัวไงไม่รู้”รามินเอ่ยถามหลังจากเห็นรุ่นพี่หนุ่มทำหร้าเหมือนจะหักคอคนได้“เปล่าไม่มีอะไร ว่าแต่ที่มากันครบทีมแบบนี้เนื่องในโอกาสอะไร” พงศ์พยัคฆ์ที่ไม่อยากเป็นกอขอคอของเพื่อนรักเอ่ย
Comments