“กับข้าวอยู่ในตู้เย็น เอาไปอุ่นกินซะ ฉันจะนั่งรอเป็นเพื่อน”
คนตัวสูงพาเธอมาหยุดอยู่ที่ห้องครัว ใบหน้าหล่อพยักเพยิดไปทางตู้เย็นที่อยู่ติดกับผนังพร้อมกับออกคำสั่ง ถ้าบอกกันตั้งแต่แรกเธอก็คงไม่ต้องถูกกระชากลงจากเตียง และก็คงจะตอบเขาดี ๆ แต่ตอนนี้ไม่อยากพูดดีด้วยแล้ว
“ยังไม่หิวค่ะ”
จ๊อก…
“ดูเหมือนว่าท้องเธอกำลังประท้วงอยู่นะ”
สกายยืนกอดอกจ้องมองคนพูดอ้อมค้อมที่ยกมือขึ้นวางที่หน้าท้องตัวเอง แค่ยอมรับว่าหิวข้าวมันพูดยากนักหรือไง
“เอ่อ…”
ชะเอมอ้ำอึ้งทำตัวไม่ถูก ไม่รู้ว่าจะต้องปฏิบัติตัวอย่างไร เธอเข้ามาในบ้านก็แค่ฐานะผู้หญิงบนเตียง ไม่รู้ว่าต้องอยู่ต้องกินยังไง เพราะเขาไม่ได้บอกอะไรสักอย่าง เล่นพามาทิ้งไว้บนห้องแล้วก็หายออกไปเลย เธอก็ไม่กล้าที่จะเดินป้วนเปี้ยนภายในบ้าน กลัวว่าจะโดนตำหนิและทำให้ไม่พอใจอีก
“ไปอุ่นอาหารแล้วมานั่งกิน ฉันจะเฝ้าจนกว่าเธอจะกินเสร็จ”
“ทำไมต้องเฝ้าคะ ฉันนั่งกินคนเดียวได้”
“นี่มันบ้านฉัน ไม่ใช่บ้านเธอ และเธอก็ไม่มีสิทธิ์แสดงความเห็นใด ๆ ในบ้านหลังนี้ทั้งนั้น”
ชะเอมยู่ปากลอบถอนหายใจแล้วก็เงียบไป เพราะขี้เกียจจะเถียงคนเอาแต่ใจ เถียงไปก็ไม่มีวันชนะ หันไปเปิดตู้เย็นนำกับข้าวออกมาอุ่น และดีที่มีข้าวสวยเหลืออยู่ในหม้อ เลยใช้เวลาในการอุ่นอาหารไม่นาน ก็ตักมานั่งกินที่โต๊ะในห้องครัว
สกายเลื่อนแก้วที่มีน้ำอยู่เกือบเต็มมาใกล้จานข้าว ทำให้ชะเอมถึงกับงุนงง ทำไมเขาถึงได้เอาใจเธอแปลก ๆ
“น้ำ ฉันเตรียมมาให้”
สกายเห็นหญิงสาวจ้องหน้าเขาอย่างไม่วางใจจึงได้เอ่ยต่อ
“ฉันอุตส่าห์ทำให้ แต่เธอก็ยังไม่กล้ารับไว้ ต่อไปก็อย่าหวังว่าฉันจะใจดีกับเธอแล้วกัน”
“รับค่ะรับ ขอบคุณนะคะ”
ชะเอมเกรงว่าคนตรงหน้าจะผีเข้าแล้วใจร้ายกับเธออีกเลยไม่อยากขัดใจ ยื่นมือเล็กไปหยิบแก้วน้ำมาดื่มให้พอกลืนข้าวได้คล่องคอก็วางแก้วลงบนโต๊ะ
“พอใจรึยังคะ”
“พอใจมาก” ริมฝีปากหยักกระตุกยิ้มอย่างพึงพอใจ
หลังจากกินข้าวเสร็จชะเอมก็นำจานไปล้าง ก่อนที่ทั้งสองจะแยกย้ายเข้าห้องของตัวเอง
“ทำไมมันร้อนอย่างนี้นะ”
ชะเอมเริ่มมีอาการแปลกประหลาด เธอบ่นพลางเลื่อนมือลูบหน้าผากที่มีเม็ดเหงื่อซึมผุดพลาย ปรายตามองอุณหภูมิของแอร์ก็ยังเปิดอยู่ที่ยี่สิบห้าองศาปกติ จึงได้หยิบผ้าเช็ดตัวแล้วเข้าไปอาบน้ำ หวังจะให้ความเย็นของสายน้ำช่วยคลายความร้อนรุ่มที่เกิดขึ้นได้
แต่มันไม่ได้เป็นอย่างที่คิดเลย
แม้ว่าตัวเธอจะเปียกปอนไปด้วยน้ำจากฝักบัว แต่ความร้อนภายในกายมันก็ยิ่งปะทุสูงขึ้นเรื่อย ๆ จนรู้สึกทรมาน
มือเล็กลูบไล้ไปทั่วทั้งตัวก็เกิดความรู้สึกประหลาด มันสยิว ยิ่งลูบก็ยิ่งเสียว โดยเฉพาะตรงจุดอ่อนไหวก็เริ่มขมิบตอดความว่างเปล่าและมีความรู้สึกต้องการอะไรบางอย่าง
แต่แล้วก็มีมือหนาโอบเรือนร่างเปลือยเปล่าของเธอจากทางด้านหลัง แล้วจับเธอหมุนตัวให้หันหน้าเข้าหากัน
“คุณเข้ามาได้ยังไง”
หญิงสาวช้อนดวงตาที่หนักอึ้งและพร่ามัวขึ้นมองใบหน้าหล่อของหนุ่มลูกครึ่ง ขบเม้มริมฝีปากอย่างเย้ายวน ข่มอารมณ์บางอย่างเอ่ยถามเขาเสียงแผ่ว
“ให้ฉันช่วยเธอนะ”
คนตัวสูงโน้มใบหน้ามากระซิบที่ข้างหู พลางยื่นมือไปปิดน้ำที่ไหลชโลมกายหญิงสาว
“คุณทำอะไรฉัน หรือว่าน้ำที่คุณให้ฉันกิน…”
รอยยิ้มร้ายปรากฏอยู่บนใบหน้าของมาเฟียเจ้าเล่ห์ เขาจ้องมองหญิงสาวที่ยืดหนีบขา ยกสองแขนขึ้นปิดหน้าอกอวบอิ่มที่ใหญ่เกินตัว ใบหน้าหวานแดงซ่านราวกับลูกตำลึง
“ใช่แล้วล่ะ เป็นอย่างที่เธอคิด”
น้ำที่เขาให้เธอกินมีปัญหาจริง ๆ เพราะตอนจะแยกกันกับเพื่อน เลย์ก็ได้ให้ของบางสิ่งบางอย่างกับเขา และสิ่งนั้นมันก็ได้ปลุกสัญชาตญาณอันเร่าร้อนให้กับหญิงสาวไร้ประสบการณ์ได้เป็นอย่างดีเลยทีเดียว
ชะเอมได้ยินดังนั้นแทนที่จะโกรธ แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรความอายของเธอมันจึงได้หายไปหมด ดวงตาหวานเยิ้มช้อนมองที่ริมฝีปากหยักได้รูปตอนที่เขากระตุกยิ้ม มันช่างหล่อกระชากใจจนอกข้างซ้ายของเธอเต้นระรัว
ชะเอมปิดเปลือกตาลง ส่ายหน้าไปมาหวังจะสลัดความคิดในหัวให้หมดไป แต่เสียงทุ้มแผ่วเบาก็ได้ดังขึ้นอยู่ข้างหู ก็ทำให้เธอลืมตาขึ้น และเจอกับใบหน้าหล่อในระยะประชิด
“บอกฉันสิ ว่าเธอต้องการอะไร”
“ฉันอยาก…”
อยู่ ๆ เธอก็รู้สึกอยากจะลิ้มลองรสจูบของเขาขึ้นมา แต่ก็พยายามข่มความรู้สึกและคำพูดที่มีไว้ด้วยการกัดริมฝีปาก
“ทำแบบนั้นเดี๋ยวก็ได้ปากแตกกันพอดี ให้ฉันช่วยเธอนะ”
สกายเอ่ยพลางจับข้อมือของเธอ พร้อมกับแขนอีกข้างที่โอบรอบเอวของหญิงสาวให้ขยับเข้ามาใกล้กันมากขึ้น
และพอชะเอมได้รับไออุ่นจากคนตัวสูง ความร้อนที่มีก่อนหน้าก็ปะทุขึ้นหนักจนหายใจถี่กระชั้น แต่มันช่างเป็นสัมผัสที่เธอต้องการอยู่พอดี
“ทำยังไงก็ได้ ให้ฉันหายจากอาการบ้า ๆ นี่ที”
สิ้นสุดเสียงหวาน สกายก็พลิกตัวให้เธอหันหลัง และสอดนิ้วเรียวใหญ่เข้าไปในร่องคับแคบที่ฉ่ำเยิ้มไปด้วยน้ำสวาท ทำให้หญิงสาวหลับตาพริ้ม เชิดหน้าสูดปากคราง พลางบิดเร้าเรียวขาเพื่อเรียกร้องให้เขาปรนเปรอเธอเหมือนช่วงบ่าย
“อ๊า…”
เสียงครางน่าฟังประสานกับเสียงนิ้วที่ชักเข้าออกอยู่ในร่องสาว ดังกระทบกับหว่างขาของเธอเป็นเวลาหลายนาที มืออีกข้างก็บีบขย้ำอกอวบเต็มไม้เต็มมือ จนกระทั่งเธอถึงฝั่งฝันก็ขับน้ำสีใสออกมาเปรอะเปื้อนเต็มมือชายหนุ่ม
“ช่วยทำฉันอีก”
หญิงสาวหันมาจับลำแขนแกร่ง แล้วจิกเล็บลงบนแขนของเขาด้วยความร้อนรุ่ม กลางกายสาวของเธอมันยังมีความต้องการอยู่ เมื่อกี้เขาทำให้เธอมีความสุขมาก แต่มันยังไม่พอ
“บอกมาสิว่าอยากโดนฉันเอาแล้ว”
สกายว่าพลางจับมือของเธอยัดเข้าไปในกางเกงที่ถูกปลดกระดุมและรูดซิปลง มือเล็กก็ได้สัมผัสกับเจ้ามังกรไซซ์ยุโรปขนาดหกสิบสองที่แข็งเป็นลำใหญ่แทบจะโผล่พ้นขอบกางเกงใน
“ฉันอยากโดนคุณเอา”
@ มหาวิทยาลัย1 ปีต่อมาเหล่ารุ่นน้องได้ยืนรายล้อมรุ่นพี่บัณฑิตที่จบการศึกษาระดับปริญญาตรี พร้อมกับร้องเพลงบูมกันดังกึกก้องไปทั่วทั้งมหาวิทยาลัย ท่ามกลางสายตาของคนที่มาร่วมแสดงความยินดีในวันรับปริญญาชะเอมอยู่ในชุดนักศึกษาที่สวมชุดครุยสีดำทับอีกชั้น ได้ยืนอยู่กลางวงล้อมของเหล่ารุ่นน้อง ทั้งร่วมร้องเพลงและขยับร่างกายเป็นจังหวะตามเนื้อเพลงที่ดังขึ้นหลังจากนั้นเธอก็ไปถ่ายรูปร่วมเฟรมกับเพื่อนรัก ผลัดกันแสดงความยินดี“ดีใจด้วยนะแก”“ยินดีกับแกเหมือนกันนะน้ำหวาน”“เรียนจบแล้วก็อย่าลืมเพื่อนอย่างฉันล่ะ” น้ำหวานทำหน้าหงอยเล็กน้อย เมื่อคิดว่าเรียนจบแล้วคงจะได้เจอกันน้อยลง ด้วยอายุที่มากขึ้น และต่างคนก็ต้องไปทำหน้าที่ของตนเอง“จะลืมได้ยังไง แกเป็นเพื่อนรักของฉันนะ ฉันยังอยู่กรุงเทพฯ พักที่บ้านพี่สกาย ถ้ามีเวลาก็มาเจอกันบ่อย ๆ นะ”ขณะที่สองสาวกอดกัน ก็มีเสียงทุ้มดังอยู่ใกล้ ๆ และพอหันไปมองก็พบว่าเป็นธามไท หนุ่มเจ้าของโรงแรมที่พวกเธอไปฝึกงาน“ยินดีด้วยนะครับน้องน้ำหวาน น้องชะเอม”“ขอบคุณนะคะพี่ธามไท ว่าแต่มาแสดงความยินดีกับพวกเราสองคน ทำไมมีดอกไม้แค่ช่อเดียวคะ” ชะเอมเอ่ยทักทายหนุ่มรุ่นพี่ ก่อนจะเ
@ โรงแรมธามไทสกายขับรถมาส่งแฟนสาวด้วยตัวเอง วันนี้เธอต้องฝึกงานเป็นวันแรกในช่วงปิดภาคเรียน ซึ่งก่อนหน้านี้เขาก็ได้ติดต่อโรมแรมของเพื่อน เพื่อขอให้แฟนสาวและเพื่อนรักของเธอมาฝึกงานที่นี่“ขอบคุณนะคะที่มาส่ง”เธอปลดเข็มขัดนิรภัยออกก็เอ่ยด้วยรอยยิ้ม แล้วโน้มตัวไปจูบที่แก้มของเขา“ปากด้วยสิครับ”จุ๊บ!“หนูไปก่อนนะคะ เดี๋ยวยัยน้ำหวานจะบ่นเอาว่ามาถึงช้า”ที่ช้าก็เพราะถูกเขาจับกินตั้งแต่เช้าตรู่ ทั้งบนเตียง ในห้องน้ำ จนได้อาบน้ำด้วยกัน กว่าจะแต่งตัวเสร็จแล้วลงมากินมื้อเช้า ก็ทำให้ออกจากบ้านช้ากว่าที่กำหนด“ครับ”สิ้นเสียงขานรับชะเอมก็เปิดประตูลงจากรถ แต่แล้วก็ได้ยินเสียงประตูอีกฝั่งที่เปิดออก จึงรีบหันไปมองด้วยความสงสัย“พี่สกาย จะลงมาทำไมอีกคะ”“รีบไม่ใช่เหรอครับ เข้าไปข้างในสิ พี่แค่จะเข้าไปส่งเมีย”ชะเอมกระตุกยิ้มพร้อมกับมือที่โดนอีกฝ่ายกอบกุม แล้วพากันเดินเข้าไปในโรงแรมของเพื่อนแฟนหนุ่ม“ชะเอม”ทันทีที่น้ำหวานเห็นเพื่อนเดินเข้ามากับแฟน ก็โบกมือแล้วเอ่ยเรียกเบา ๆ ด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เพราะนี่คงจะเป็นครั้งแรกที่ได้เจอหนุ่มรุ่นพี่ใจดีที่เป็นธุระเรื่องฝึกงานให้เธอกับชะเอม“สวัสดีค่ะพี่สกาย ห
ร่างของหญิงสาวถูกอุ้มคีบเอวขณะที่ริมฝีปากก็บดจูบกันอย่างเร่าร้อน และวางลงข้างโต๊ะสนุกเกอร์ เท้าแตะพื้นโน้มตัวคว่ำหน้านอนบนนั้น แอ่นก้นงามให้เขากระแทกร่องสาวจากทางด้านหลัง“อ๊ะ อ๊ะ อ๊า... พี่สกาย”เสียงร้องครางดังระงมของทั้งคู่ประสานกันลั่นห้อง เขาได้ชื่อว่าเป็นหนุ่มกินดุ กินโหด เพราะฉะนั้นน้ำเดียวไม่เคยพอ“อ่า... เมียพี่ตอดดีมาก”“อื้อ จะ จุก ซี้ด...”“พี่ขออีกน้ำนะครับ”ปัก ปัก ปัก!!!คนทั้งสองผลัดเปลี่ยนกันมอบบทรัก จนกระทั่งน้ำสีขาวขุ่นหลั่งออกมาเป็นครั้งที่สาม สกายก็อุ้มหญิงสาวมานั่งอยู่บนตักตรงโซฟาดังเดิมเพื่อพักให้หายเหนื่อย“ขอบคุณนะคะที่พายายมาอยู่ด้วย”“เราขอบคุณพี่หลายรอบแล้วนะ”เอ่ยพลางยื่นมือหนาเชยปลายคางของหญิงสาวให้เงย ก่อนจะก้มลงไปจูบแผ่วเบา ทำเอาคนโดนจูบคลี่ยิ้มเขิน“ก็พี่แสนดีแบบนี้ไงล่ะคะ ให้ขอบคุณวันละล้านรอบก็ยังตอบแทนไม่หมดเลย”“ไม่ต้องล้านรอบหรอก ตอบแทนเป็นตัวกับหัวใจวันละน้ำสองน้ำก็พอ”“คนบ้า”หญิงสาวคลี่ยิ้มส่งสายตามองค้อนให้คนเจ้าเล่ห์ พูดดีด้วยหน่อยไม่ได้ ต้องวกเข้าเรื่องสิบแปดบวกตลอดทั้งสองต่างจ้องตาและหลุดยิ้มออกมา พักกันพอหายเหนื่อย สกายและชะเอมก็พากันไปยั
@ โรงพยาบาลสามทุ่มของวันนี้ยายของหญิงสาวจะเข้ารับการผ่าตัดปลูกถ่ายหัวใจ เมื่อช่วงพลบค่ำได้ตรวจเลือดและสภาพร่างกายโดยรวมแล้วมีความพร้อมทุกอย่างปรียานุชแม่ของสกายได้จัดการติดต่อกับทางโรงพยาบาลทั้งสองแห่งเรื่องการผ่าตัด เพราะหัวใจที่นำออกมาแล้วนั้น จำเป็นต้องนำไปปลูกถ่ายให้กับยายของชะเอมโดยด่วน จะให้มีเรื่องผิดพลาดไม่ได้เด็ดขาด“เจอกันอีกแล้วนะพ่อหนุ่ม”ผู้เป็นยายเอ่ยทักทายสกายทันทีที่เห็นเด็กทั้งสองเดินเข้าไปหาในห้องพักผู้ป่วย ทำเอาชะเอมงุนงงว่าไปรู้จักกันตอนไหน เพราะเธอไม่เคยพาแฟนหนุ่มมาเยี่ยมยายเลยสักครั้ง“ยายรู้จักพี่สกายด้วยเหรอคะ”“รู้จักสิ เขาก็เคยมาเยี่ยมยาย”ชะเอมยังไม่อยากคาดคั้นสิ่งที่อยากรู้ในตอนนี้ เลยได้แต่คลี่ยิ้มส่งกำลังใจให้ผู้เป็นยาย สักพักก็มีพยาบาลและเจ้าหน้าที่เวรเปลมาพายายไปที่ห้องผ่าตัด“หนูจะรออยู่ตรงนี้นะคะ”หญิงสาวที่จับมือของยายมาตลอดทางก็ปล่อยมือออกเพราะเข้าไปในห้องผ่าตัดด้วยไม่ได้ สกายจึงโอบไหล่พาชะเอมไปนั่งรอที่เก้าอี้หน้าห้องผ่าตัดผู้เป็นยายเข้าไปได้ไม่นาน ก็มีเจ้าหน้าที่วิ่งออกมาจากลิฟต์ ในมือยังถือกระติกสี่เหลี่ยม เข้าไปในห้องผ่าตัดอย่างรวดเร็วหัวใจข
@ ทะเลชะเอมถูกแฟนหนุ่มจูงมือเข้าไปยังร้านอาหารริมทะเลแห่งหนึ่ง ทั้งสองเข้าไปนั่งที่โต๊ะแล้วเปิดดูเมนูเพื่อสั่งอาหาร“พามากินข้าวไกลจังเลยนะคะ”“เราเพิ่งผ่านเรื่องร้ายมาด้วยกัน พี่เลยอยากพาเธอมาเปิดหูเปิดตา เผื่อว่าจะรู้สึกดีขึ้น”“ขอบคุณนะคะ ตอนนี้หนูรู้สึกดีขึ้นมากแล้วค่ะ” เธอยิ้มให้กับคนตรงหน้าทั้งสองนั่งรออาหารไม่นานก็มีพนักงานเดินมาเสิร์ฟให้ที่โต๊ะ หลังจากนั้นสกายก็พาชะเอมไปที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งที่อยู่ติดกับชายทะเล เปิดประตูออกมานั่งเล่นรับลม และลงเล่นน้ำทะเลที่ด้านหน้าได้เลย“คืนนี้นอนกันที่นี่นะ”ชะเอมที่กำลังแง้มผ้าม่านมองดูคลื่นของน้ำทะเลก็หันมาถามกลับ“แต่เราไม่ได้เอาเสื้อผ้ามานะคะ”“พี่เตรียมมาให้แล้วครับ”“ไปแอบเตรียมมาตอนไหนคะ หนูไม่เห็นพี่หิ้วกระเป๋าลงมาจากห้องเลย”“ถ้าเห็นจะเรียกว่าแอบเหรอ”ชายหนุ่มกระตุกยิ้มหย่อนก้นลงนั่งที่ปลายเตียง จับหญิงสาวนั่งลงบนตักแล้วสวมกอดเธอทางด้านหลัง เกยปลายคางลงที่ไหล่บาง เอ่ยกระซิบข้างใบหู“เราจะทำอะไรดี”“ไปเดินเล่นกันไหมคะ”“ดูแดดสิครับ เดี๋ยวผิวเมียพี่ก็เสียหมด เรามานอนพักกันดีกว่า”“ว้าย พี่สกาย ไม่เอา นี่มันกลางวันอยู่เลยนะคะ”เสียงหว
ชะเอมกดเบอร์โทรออกไปหาเพื่อน และทันทีที่น้ำหวานรับสายก็ส่งเสียงเอ็ดเธอด้วยความเป็นห่วง“แกไปอยู่ไหนมา ฉันติดต่อไม่ได้เลย รู้ไหมว่ามีคนเป็นห่วง ฉันนอนไม่หลับทั้งคืน คิดว่าแกคงจะเกิดเรื่องขึ้นแน่ ๆ ถึงได้หายไปเลย สรุปมันเกิดอะไรขึ้นบอกฉันมาเดี๋ยวนี้”“เอาทีละคำถามได้ไหม ฉันฟังไม่ทัน”“ก็ฉันเป็นห่วงแกนี่ เล่นหายออกไปแล้วให้คนอื่นมาบอก ฉันรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีเลย”“แกตั้งสติก่อนนะ เมื่อวานฉันถูกคุณอคิณจับตัวไป”“คุณอคิณ ทำไมต้องจับตัวแกไปด้วย ไอ้คนหน้าไหว้หลังหลอก ไอ้ปีศาจในคราบนักบุญ หน้าหล่อเสียเปล่าแต่สันดานแย่สุด ๆ ถ้ารู้ว่าจะเป็นแบบนี้ฉันน่าจะผลักให้ตกเรือตั้งแต่ไปช่วยน้ำท่วม”น้ำหวานรู้สึกโกรธแทนเพื่อน และโมโหตัวเองด้วยที่หลงไหลเพียงหน้าตาหล่อเหลา โดยไม่รู้จักนิสัยใจคอที่แท้จริง“เอาน่า อย่าโมโหไปเลย ตอนนี้ฉันปลอดภัยแล้ว พี่สกายเป็นคนไปช่วย”“พี่สกาย พี่รถสปอร์ตที่แกแอบชอบน่ะเหรอ นั่นไง ฉันคิดไว้แล้วว่ายังไงเขาก็ต้องชอบแกเหมือนกัน ไม่อย่างนั้นจะเสี่ยงชีวิตไปช่วยแกทำไม แล้วตอนนี้แกอยู่ที่ไหน ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรใช่ไหม”“ฉันอยู่โรงพยาบาล”“นี่มันทำแกเจ็บถึงขนาดเข้าโรงพยาบาลเลยเหรอ”“เป