Share

บทที่ 1556

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
ระหว่างที่ซ่งซีซีทำการสืบสวน นางได้รับเบาะแสจากขันทีน้อยคนหนึ่งว่า หนามเหล็กขององค์ชายสามที่หายไปนั้น แท้จริงแล้วมีนางกำนัลคนหนึ่งเก็บไป

ขันทีน้อยผู้นั้นเป็นผู้เห็นกับตา ว่าหนามเหล็กถูกเก็บไปโดยนางกำนัลชื่อจู๋อวิ๋น ซึ่งรับใช้ใกล้ชิดอยู่ข้างกายพระสนมกงเฟย

พระสนมกงเฟยไม่ได้มีเหตุใดที่จะปองร้ายองค์ชายใหญ่ ความสัมพันธ์ระหว่างนางกับพระสนมเต๋อเฟยและพระสนมซูเฟยก็เพียงธรรมดาเท่านั้น ดังนั้นซ่งซีซีจึงทูลขออนุญาตไทเฮา เพื่อตรวจสอบวังหลัง ว่าจู๋อวิ๋นนั้นแท้จริงแล้วอยู่ข้างใคร

ผลปรากฏว่า เมื่อตรวจสอบประวัติ จู๋อวิ๋นตอนเข้าวังครั้งแรก เป็นเพียงนางกำนัลล้างผ้าในฝ่ายซักรีด ชีวิตลำบากยากเข็ญ

นางเป็นคนบ้านเดียวกับชิงหลัน นางกำนัลคนสนิทของพระสนมเต๋อเฟย ชิงหลันจึงช่วยเจรจากับหมัวมัวผู้ดูแล ให้จู๋อวิ๋นได้ไปอยู่ตำหนักพระสนมกงเฟย เป็นเพียงสาวรับใช้ทำความสะอาด

จู๋อวิ๋นเป็นคนหัวไว ฉลาดปราดเปรียว เพียงไม่กี่ปีก็ได้รับความไว้วางใจจากพระสนมกงเฟย กลายเป็นคนใกล้ชิดที่พระสนมกงเฟยพึ่งพามากที่สุด

ส่วนสมุดทะเบียนของนางกำนัลในกรมมหาดเล็ก เมื่อตรวจสอบพบว่า ตอนจู๋อวิ๋นถูกส่งไปตำหนักพระสนมกงเฟยนั้น ได้เปลี่ยนถิ่นกำเ
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter
Comments (2)
goodnovel comment avatar
yaboinkop
โอ้ย กำลังช่วงพีคเลย หมดตอนแล้ว มาทีละ5ตอนต่อวันได้มั้ยยย
goodnovel comment avatar
ภา สุขสมบัติ มณีวงษ์
ขอเพิ่มตอนด้วยค่ะ กำลังสนุกเลย
VIEW ALL COMMENTS

Related chapters

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1557

    สำหรับการเสด็จมาถึงของจักรพรรดิ์ซูชิง พระสนมเต๋อเฟยราวกับตกอยู่ในภาวะเผชิญหน้ากับศัตรูช่วงนี้ นับแต่ซ่งซีซีขุดคุ้ยลึกขึ้นเรื่อยๆ นางก็หวาดกลัวจนสุดใจแต่ในใจยังมีความหวังริบหรี่... องค์ชายใหญ่ตายไปแล้ว องค์ชายสามยังเยาว์วัย สุขภาพก็ไม่แข็งแรง ที่เหลือมีเพียงองค์ชายรองที่เฉลียวฉลาด พรสวรรค์เลิศล้ำ ทั้งบุ๋นและบู๊ก็เริ่มแสดงฝีมือให้เห็น เขาเหมาะสมที่สุดที่จะเป็นองค์รัชทายาทหากไม่ใช่เขา จะเป็นองค์ชายสามหรือ?หากสุดท้ายเลือกองค์ชายรองขึ้นมา นางก็จะไม่ต้องถูกลงโทษ ฮ่องเต้ไม่มีทางแต่งตั้งพระมารดาขององค์รัชทายาทโดยมีมลทินได้บัดนี้ฮ่องเต้เสด็จมายังตำหนักไฉหลิง หัวใจนางเต้นระรัว ด้วยเหตุที่ฮ่องเต้เสด็จมาด้วยพระองค์เอง มีเพียงสองความเป็นไปได้หนึ่ง คือมาดูอาการขององค์ชายรอง เพื่อจะยืนยันสถานะองค์รัชทายาทสอง คือหลักฐานปรากฏชัดแล้ว และพระองค์มาเอาความไม่ว่าจะเป็นอย่างไร วันนี้ย่อมต้องมีผลลัพธ์แน่นอนนางนำข้าราชบริพารออกมากราบทูลต้อนรับ ก้มหน้าก้มตา สายตามองเห็นเพียงรองพระบาทแพรไหมสีเหลืองปักมังกรเลื้อยของฮ่องเต้แล้วนางก็เห็นฝ่าพระหัตถ์ที่ยื่นมาตรงหน้า พร้อมเสียงอันอ่อนโยนดังขึ้นว่า

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1558

    ในดวงตาขององค์ชายรองฉายชัดด้วยความตื่นตระหนกหวาดกลัว ราวกับเพิ่งตื่นจากฝันร้าย เขาหายใจหอบถี่ ปิดหูแล้วร้องตะโกนออกมา “ไม่... เสด็จแม่ ข้าไม่เอา! ข้าไม่อยากให้พี่ใหญ่ตาย ข้าไม่เอา...”พระสนมเต๋อเฟยทรุดลงคุกเข่าอย่างหมดแรง ตั้งแต่วินาทีที่ฮ่องเต้หยิบหนามเหล็กออกมา นางก็รู้สึกเหมือนแรงทั้งหมดในร่างถูกดูดไปจนสิ้นแต่จักรพรรดิ์ซูชิงหาได้ทรงสนใจนางไม่ สายพระเนตรยังจับจ้ององค์ชายรอง น้ำเสียงเย็นเฉียบ “สายไปแล้ว... พี่ใหญ่ของเจ้า... ตายแล้ว เจ้าเป็นคนฆ่าเขา”องค์ชายรองพลันหันกลับมาชนเข้าไปที่หน้าท้องของพระสนมเต๋อเฟยอย่างแรง ปากก็ร้องตะโกนเสียงโหยหวน “ท่านหลอกข้า! ท่านบอกว่าพี่ใหญ่ไม่ตาย แค่ขาหัก ท่านหลอกข้า! หลอกข้า! อ๊า ท่านหลอกข้า! ข้าฆ่าพี่ใหญ่ไปแล้ว...”พระสนมเต๋อเฟยถูกชนจนเครื่องในแทบเคลื่อนที่ นางอดทนต่อความเจ็บ รีบโผเข้าไปหมายจะปิดปากองค์ชายรอง แต่เขาราวกับเสียสติ กระโดดชนผนัง ตะโกนเสียงหลงไม่หยุดเขากระแทกจนเลือดอาบศีรษะ อู๋ต้าปั้นจึงเข้าจับไว้ ใช้สันมือฟาดจนหมดสติ แล้วเรียกคนมาพาตัวไปพันแผลเมื่อประตูตำหนักปิดลง อู๋ต้าปั้นมายืนข้างกายจักรพรรดิ์ซูชิง ด้านล่างคือพระสนมเต๋อเฟยกับช

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1559

    จักรพรรดิ์ซูชิงไม่ได้สั่งประหารพระสนมเต๋อเฟยในทันที แต่กลับให้คนลงโทษด้วยการทุบกระดูกขาทั้งสองทีละท่อน จนเนื้อหนังฉีกขาด เลือดแดงฉานเผยให้เห็นกระดูกขาวโพลน นางเจ็บปวดจนหมดสติไปหลายครั้ง แล้วจึงถูกโยนเข้าไปในตำหนักเย็นพระองค์ทรงนำองค์ชายรองไปที่ตำหนักเย็นด้วยพระองค์เอง ชี้ไปยังพระสนมเต๋อเฟยที่ขดร่างทรมานอยู่กับพื้น ส่งเสียงโหยหวนไม่หยุด ตรัสเย็นชา “หลังจากพี่ใหญ่ของเจ้าตกม้า เขาเจ็บปวดยิ่งกว่านางเสียอีก... เขาต้องทรมานจนตายทั้งเป็น”ใบหน้าองค์ชายรองเปื้อนไปด้วยคราบน้ำตาและความเสียใจ เขาทรุดตัวลงกับพื้น ปิดหูแน่น ไม่กล้าฟังเสียงร้องครวญของมารดาจักรพรรดิ์ซูชิงยังให้โบยชิงหลัน แล้วส่งนางเข้าไปอยู่ด้วย ให้ดูแลพระสนมเต๋อเฟยไม่ให้ตาย หากนางตาย ชิงหลันก็ต้องตายตามต่อให้ชิงหลันเคยติดตามพระสนมเต๋อเฟยแล้ววางแผนร้าย ลอบทำเรื่องดำมืดมาไม่น้อย แต่ฉากนองเลือดเช่นนี้ นางก็เคยเห็นเพียงครั้งเดียวในอุปทยานบุปผาหลวง นั่นคือตอนที่องค์ชายใหญ่ตกม้าครั้งนั้นรู้สึกสะใจ ทว่าตอนนี้... เหลือเพียงความเจ็บปวดที่ตำหนักฉางชุน ฮองเฮาฉีแทบตกใจไปทั้งร่างเป็นพระสนมเต๋อเฟย?เป็นพระสนมเต๋อเฟย!นางยังไม่ทันได

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1560

    เสียงร่ำไห้ของฉีฮองเฮาชะงักทันที นางชะงักนิ่งไป ก่อนเอ่ยถามเสียงสั่น “ฝ่าบาทตรัสว่าอะไรนะ? เจิ้งเอ่อร์ยังไม่ตายหรือ?”เป็นไปได้อย่างไร? มิใช่ว่าจัดพิธีศพแล้วหรือ? ขุนนางทั่วทั้งราชสำนักล้วนรู้กันทั้งนั้นจักรพรรดิ์ซูชิงมองนาง พลางกล่าวว่า “เขายังไม่ตาย แต่บาดเจ็บสาหัส ขาทั้งสองหัก ต่อให้รักษาหาย ก็ไม่มีทางยืนขึ้นได้อีก หมอมหัศจรรย์ดันส่งเขาไปยังสำนักเทพโอสถ ถ้ารักษาหาย เขาก็จะใช้ชีวิตอย่างไม่เปิดเผยนาม ถ้ารักษาไม่หาย สำนักเทพโอสถ ก็ถือเป็นที่พำนักที่ดีอยู่แล้ว”ฮองเฮามองดูพระองค์ ไม่เหมือนตรัสล้อเล่น ความหวังและความยินดีพุ่งพล่านขึ้นในใจ แต่แล้วก็ตามมาด้วยความสงสัยและไม่เข้าใจ “หากเขายังไม่ตาย เหตุใดต้องจัดพิธีศพ? เหตุใดไม่รักษาที่เมืองหลวง? บางทีบาดแผลของเขาอาจไม่ร้ายแรงถึงเพียงนั้น ฝ่าบาททรงถูกหมอมหัศจรรย์ดันหลอกก็เป็นได้ หมอผู้นี้เป็นลุงของซ่งซีซี ซ่งซีซีอยากผลักดันองค์ชายสามขึ้นเป็นรัชทายาทมาโดยตลอด!”จักรพรรดิ์ซูชิงถามกลับทันควัน “เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าซ่งซีซีต้องการผลักดันองค์ชายสามขึ้นเป็นรัชทายาท?”ฉีฮองเฮารีบพูดเสียงร้อนรน “ตอนก่อตั้งโรงงานทอผ้า มารดาของหม่อมฉันให้หม่อมฉันอ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1561

    กล้ามเนื้อทั่วร่างของฮองเฮาเกร็งตึง เหงื่อไหลชุ่มนางมองผ้าขาวที่กำลังจะคล้องคอลงมา พลางตะโกนอย่างลนลาน “ไม่... ยังไม่สาย! ฝ่าบาททรงรักองค์ชายใหญ่ จะปล่อยให้เขาไร้มารดาได้อย่างไร? ข้าต้องไปดูแลเขาด้วยตัวเอง! พวกเจ้าไม่มีสิทธิ์แย่งสิทธิ์ของข้าในฐานะมารดา!”“อีกอย่าง ซ่งซีซีเคยกล่าวไว้ นางว่าองค์ชายใหญ่รักข้ามาก เป็นเขาพูดด้วยปากของเขาเอง! ตอนนี้เขาบาดเจ็บสาหัส โดดเดี่ยวไร้คนดูแล จะปล่อยให้เขาไปสำนักเทพโอสถเพียงลำพังได้อย่างไร? ข้าต้องอยู่ข้างเขา... ข้าต้องไปอยู่กับเขา!”ผ้าขาวคล้องคอเข้าพอดี ฮองเฮากรีดร้องเสียงแหลม “ฝ่าบาท! ฝ่าบาท พระองค์จะใจร้ายปานนี้ไม่ได้! หม่อมฉันผิดอะไร? พระสนมเต๋อเฟยวางแผนฆ่าองค์ชายใหญ่ยังไม่ถูกประหาร แต่พระองค์กลับจะฆ่าหม่อมฉัน! หม่อมฉันก็แค่เอาแต่ใจ ไม่เคยฆ่าใครสักคน!”อู๋ต้าปั้นหยุดมือลง คำบางคำ เขาไม่ควรพูด แต่เมื่อนึกถึงองค์ชายใหญ่ที่บาดเจ็บสาหัส เขาก็อดไม่ได้ เอ่ยเสียงเย็นชา “ฮองเฮาจะบอกว่าตนไม่เคยทำร้ายใครหรือ? เรื่องของฝูเจาอี๋ กระหม่อมจะยังไม่พูดถึง แต่กับองค์ชายใหญ่ที่ตกม้าเช่นนั้น ฮองเฮาก็มีส่วนไม่น้อยเลยนะพ่ะย่ะค่ะ”ฉีฮองเฮาเบิกตากว้าง มือกำผ้าขาวแน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1562

    สุดท้าย พระสนมเต๋อเฟยก็ทนไม่ไหว... นางจากไปแล้วตั้งแต่ที่รู้ว่าองค์ชายรองกลายเป็นคนปัญญาอ่อน และถูกส่งไปอยู่วัดใช้ชีวิตที่เหลือ นางก็ดูเหมือนจะหมดแรงใจความเจ็บปวดเหมือนหนามที่ฝังแน่นในกระดูก ทรมานนางทุกลมหายใจ กระทั่งคืนหนึ่งที่เหน็บหนาว นางก็จากไปอย่างเงียบงันไทเฮาออกคำสั่งด้วยตนเอง จัดการส่งข้ารับใช้ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทั้งหมดออกจากวัง ส่วนจัดการอย่างไร ซ่งซีซีและผู้อื่นก็ไม่มีใครล่วงรู้ได้ในวังหลัง... ชั่วพริบตาเดียว ฮองเฮากับสองพระสนมผู้มีอำนาจต่างสิ้นชีพ ไทเฮาเองก็สุขภาพไม่ดี จึงให้พระสนมกงเฟยรับหน้าที่ดูแลวังหลังชั่วคราวจักรพรรดิ์ซูชิงไม่คิดจะตั้งฮองเฮาขึ้นใหม่อีก วังหลังเรียบง่ายหน่อย ย่อมลดปัญหาตามมาได้แต่พระสนมกงเฟยกลับไร้ความสามารถ ทำให้เกิดปัญหาขึ้นแทบทุกสามวัน สองวัน แค่เรื่องจัดสรรเบี้ยหวัดค่าอาหารเครื่องนุ่งห่มของพระสนมฝ่ายใน รวมถึงเงินเดือนของข้าราชบริพารในวัง ก็ทำให้เกิดความวุ่นวายกันทั้งตำหนักนางต้องการชื่อเสียงว่าเป็นหญิงผู้รู้จักประหยัดมัธยัสถ์ ลดค่าใช้จ่ายในวัง จึงลดเงินเดือน ลดเครื่องแต่งกายฤดูใบไม้ผลิของฝ่ายใน ให้ตัดเพียงชุดเดียว ประหยัดเงินไปได้ไม

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1563

    ทันทีที่ซ่งซีซีเห็นยาทำหมัน นางก็รู้สึกตระหนกในใจ เอ่ยเสียงเบา “ฝ่าบาททรงระแวงเจ้าอีกแล้วหรือ?”เซี่ยหลูโม่ส่ายหน้า “ตอนนี้ไม่ระแวงแล้ว กลับกัน พระองค์ทรงไว้เนื้อเชื่อใจอย่างมาก บรรดาราชฎีกาส่วนใหญ่ก็ต้องผ่านมือข้ากับท่านเจ้ากรมก่อนถึงโต๊ะทรงพระอักษรของพระองค์เสียอีก”“เช่นนั้นแล้วไยต้องคิดถึงเรื่องนี้?” ซ่งซีซีไม่เข้าใจ“พิจารณาอยู่สามข้อ” เซี่ยหลูโม่วางยาเม็ดนั้นลงเบาๆ แล้วจับมือนางไว้แน่น “ข้อแรก ฝ่าบาทที่ไว้ใจข้าในยามนี้ ก็เพราะเพิ่งผ่านเรื่องราวมากมายมา อีกทั้งพระอาการก็ทรงทรงตัว จึงปลอดโปร่งจากความระแวง แต่หากวันใดพระอาการทรุด ข้ากลับมีอำนาจล้นมือ แล้วยังมีบุตรชายอีก... เช่นนั้น ข้าจะกลายเป็นภัยคุกคามในสายพระเนตรแน่นอน”ซ่งซีซีพยักหน้าเข้าใจ “เช่นนั้นเราก็รอสักสองสามปีก็ได้ไม่ใช่หรือ? เดิมทีท่านก็เคยกินยาครั้งหนึ่ง มันควบคุมได้ถึงห้าปีมิใช่หรือ? ตอนนี้ก็ครบห้าปีแล้ว กินอีกเม็ดก็อยู่ได้อีกห้าปีมิใช่หรือ?”เซี่ยหลูโม่กำมือแน่นขึ้น “ยานี่ก็คือเม็ดที่สอง ครั้งแรกกินแล้วคุมได้ห้าปี แต่ครั้งที่สอง... จะเป็นหมันถาวร ชิงเชวี่ยบอกว่า หากข้าไม่กิน... เจ้าต้องดื่มยาคุมกำเนิด ยานั้นทำร้

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1564

    ฝนฤดูใบไม้ผลิชุ่มฉ่ำดั่งน้ำมัน แม้เป็นฝนเดือนสี่ ก็ไม่ถือว่ามาสายจักรพรรดิ์ซูชิงยืนอยู่ที่หน้ามุขนอกห้องทรงพระอักษร ทอดพระเนตรโคมลมพลิ้วไหวท่ามกลางสายฝนยามราตรี สิ่งที่ทอดพระเนตรดูประหนึ่งความฝัน ประหนึ่งความจริง เงาร่างของเซี่ยหลูโม่เลือนหายไปในสายฝนเนิ่นนานแล้ว มองก็ไม่เห็นอีกต่อไป พระทัยของพระองค์เต็มไปด้วยความขมขื่น ระลึกถึงภาพที่เขากลืนโอสถนั้นลงไปอย่างเด็ดเดี่ยวแน่วแน่ มิได้มีแม้แต่เสี้ยววินาทีของความลังเล ขณะเดียวกันที่พระองค์รู้สึกวางพระทัย ก็กลับเจ็บปวด เป็นพระองค์เองที่บีบบังคับพระอนุชาให้ถึงจุดนี้ ทั้งเขาและภรรยาก็ยังหนุ่มสาวนัก ไม่จำเป็นต้องมีอนุ ก็สามารถให้กำเนิดบุตรชายหญิงได้สามถึงห้าคน แต่เมื่อกินโอสถนั้นลงไปแล้ว สายโลหิตของเขาก็ขาดสะบั้น แม้จะสามารถรับบุตรบุญธรรม แต่ถึงอย่างไรก็หาใช่สายเลือดของตนเอง จะไม่ให้นับเป็นความอาลัยได้อย่างไร? ในฐานะพี่ชาย พระองค์รู้สึกเสียดายและเจ็บปวดอย่างหาที่เปรียบมิได้ แต่ในฐานะฮ่องเต้ พระองค์ก็สามารถวางพระทัยได้อย่างแท้จริง ความรู้สึกขัดแย้งนี้ ทำให้พระองค์ทอดถอนพระทัยเบาๆ ตรัสว่า “ในใต้หล้า จะมีหนทางใดเล่าที่สมบูรณ์

Latest chapter

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1614

    สนมฮุ่ยไทเฟยย่อมมีฐานะมั่นคงเช่นนี้ หลายปีมานี้ไม่ค่อยมีค่าใช้จ่าย รายรับกลับมากไม่น้อยเบี้ยหวัดจากในวัง ของกำนัลจากทุกบ้าน อีกทั้งบรรดาลูกหลานที่โตแล้วต่างก็สามารถตัดสินใจเองได้ บรรดาผู้ที่กตัญญูต่อท่านมีไม่น้อย โดยเฉพาะเสิ่นว่านจื่อ ยิ่งกตัญญูไม่ยั้งมือสำหรับหลานสาวคนเดียวนี้ ท่านไม่มีสิ่งใดที่เสียดายเลย คำพูดที่มักติดปากคือ เมื่อท่านสิ้นไป สมบัติทั้งปวงย่อมตกเป็นของหลานสาวบัดนี้เมื่อแม่ลูกสองคนไปถึงที่อยู่ของท่าน ท่านก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถึงเรื่องที่เซี่ยเจิงจะไปภูเขาเหม่ยชานฝึกวรยุทธ์อีกครา"ไม่ใช่ว่าข้าไม่เห็นดีเห็นงาม เพียงแต่การไปนานถึงเพียงนั้น ปีหนึ่งกลับมาได้ไม่กี่ครั้ง อนาคตยังบอกว่าจะออกไปผจญภัยอีก เด็กหญิงน้อยๆ เช่นนี้ จะไปฝ่าโลกภายนอกได้อย่างไร? ข้าขัดท่านพ่อของเจ้าไม่ไหว เขาเป็นคนไม่เข้าใจโลก พูดอะไรก็ไม่เคยพูดให้เข้าใจได้ ข้าก็ไม่มีทาง""ท่านยาย หลานไม่ใช่เด็กสาวบอบบางหรอกเจ้าค่ะ ท่านลองดูหมัดของหลานเถิด" เซี่ยเจิงชูหมัดขึ้น โบกไปมาอยู่ตรงหน้าสนมฮุ่ยไทเฟย กล่าวอย่างภาคภูมิว่า "หมัดนี้ของหลาน แม้แต่หมูป่ายังต้องสลบเหมือด"สนมฮุ่ยไทเฟยทอดถอนใจ "บุตรีบ้านอื่น มือเอา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1613

    สองสามีภรรยาเอ่ยถึงเรื่องราวในอดีต ยิ่งพูดยิ่งรู้สึกอบอุ่นในใจ โดยเฉพาะซ่งซีซี ที่แต่เดิมรู้สึกว่าการแต่งงานครั้งนั้นเป็นการถูกบังคับ แต่ใครจะคาดคิดว่าจะได้พบกับความสุขเช่นวันนี้ช่างเป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดานักทันใดนั้นก็มีคนวิ่งพรวดพราดเข้ามาทางประตู ยังไม่ทันเห็นหน้าชัด ก็โผเข้ากอดเซี่ยหลูโม่แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นยินดี "ท่านพ่อ ของขวัญพิธีปักปิ่นที่ท่านมอบให้ข้านั้น ข้าชอบมากนัก ขอบคุณท่านพ่อ ข้ารักท่านพ่อที่สุดเลยเจ้าค่ะ"เซี่ยหลูโม่กล่าวว่า "ยังคงซุกซนเช่นเดิมหรือ? โตเป็นสาวแล้ว ต้องสุขุมให้มากหน่อย"แม้ว่าจะเอ่ยเช่นนั้น ทว่าดวงตากลับเปี่ยมด้วยความเอ็นดู มือช่วยจัดปิ่นที่นางสวมในพิธีปักปิ่นให้เรียบร้อย แล้วเอ่ยต่อว่า "เครื่องประดับหัวทับทิมแดงนั่นเจ้าไม่ชอบหรือ? ท่านแม่ของเจ้าตั้งใจเลือกให้นัก""ชอบเจ้าค่ะ ชอบทุกอย่างเลย" เซี่ยเจิงยิ้มจนตาหยี รักทุกสิ่งที่พ่อแม่มอบให้เซี่ยหลูโม่มองรอยยิ้มของบุตรสาวแล้วพลันรู้สึกเคลิ้มใจบุตรสาวยิ่งโต ยิ่งเหมือนซ่งซีซี ในวันแรกที่พบซ่งซีซีที่ภูเขาเหม่ยชาน นางก็ยิ้มเช่นนี้แต่หลังจากนั้น นางก็แทบไม่เคยยิ้มแบบนี้อีก ต่อ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1612

    สายหมอกเย็นยะเยือกปกคลุมยอด ดอกเหมยเบ่งบานหลายคราเซี่ยเจิงมีพรสวรรค์ทางวรยุทธ์สูงส่งนัก เรื่องนี้เรียกได้ว่าเก็บข้อดีของเซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีมาไว้ทั้งหมดเหรินหยางอวิ๋นสามารถกล่าวได้อย่างภาคภูมิใจว่า เซี่ยเจิงคือลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์สูงสุดในบรรดาศิษย์ทั้งหลายของภูเขาเหม่ยชานอูโซเว่ยเองก็ไม่อาจปฏิเสธเรื่องนี้ได้ เมื่อนางถูกเซี่ยเจิงถามว่าใครเก่งกว่ากัน ระหว่างนางกับท่านพ่อ อูโซเว่ยได้แต่ตอบอย่างเลี่ยงๆ ว่า "พอๆ กัน ต่างก็มีข้อดี"วรยุทธ์ของเซี่ยเจิงที่ฝึกฝนมาจนถึงวันนี้ หาได้มาจากเพียงหมื่นสำนักเท่านั้นนางได้ร่ำเรียนจากทุกฝ่ายในภูเขาเหม่ยชานเมื่อนางมาถึงภูเขาเหม่ยชาน ยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อย ผิวขาวเนียนราวหยก รอยยิ้มหวานละมุน ผู้ใดเห็นก็ต้องเอ็นดูนางช่างพูด ช่างคุ้นเคยเร็ว อีกทั้งปากหวานนัก หลอกล่อให้บรรดาหัวหน้าสำนักต่างถ่ายทอดวิชาให้หมดเปลือกเดิมทีนางมีนิสัยซุกซน แต่ด้วยการมุ่งมั่นฝึกวรยุทธ์ และฝึกฝนวิชาเนื้อใน จิตใจก็สงบนิ่งขึ้นมากครั้นถึงปีที่สิบห้า นางได้เข้าพิธีเก็บปิ่นพิธีเก็บปิ่นจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ของขวัญย่อมหลั่งไหลมาดังสายน้ำ ส่งเข้ามาไม่ขาดสายซ่งซีซีได้มอบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1611

    แสงแดดสาดลงบนกิ่งไม้ ใต้พุ่มใบหนาแน่น เผยให้เห็นขาเล็กๆ คู่หนึ่งแกว่งไปมา ดูแล้วชวนให้รู้สึกสบายใจนักนางมีนามเดิมว่าเซี่ยเจิง ชื่อนี้จารึกอยู่ในหยกพงศ์ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นชื่อเล่นว่าจิ้งเหยียนว่ากันว่าเพราะมารดาของนางรังเกียจที่นางพูดมาก จึงตั้งชื่อนี้เพื่อกดทับให้นางสงบลงเซี่ยเจิงเองเห็นว่าตั้งชื่อนี้ก็เปล่าประโยชน์ อีกทั้งฟังดูไม่น่าฟัง จิ้งเหยียนก็คือการเงียบงัน เช่นนั้นแล้วนางมีปากไว้ทำไม หากไม่ได้พูด เอาแต่กินหรือ?เช่นนั้นไม่ต้องกินจนอ้วนกลมไปหรอกหรือ?“ท่านหญิงของข้า ท่านอยู่ที่นี่เอง หาเสียจนข้าเหนื่อย” เป่าจูเงยหน้าขึ้นจากใต้ต้นไม้ ทั้งโกรธทั้งขบขัน “รีบลงมาเถิด ท่านอ๋องกับพระชายากำลังตามหาท่านอยู่”“ท่านอาเป่าจู พวกเขาเรียกหาข้าด้วยเรื่องอันใดกัน?” เสียงใสๆ ดังลงมาจากบนต้นไม้ แฝงด้วยความสบายใจและอิ่มหนำ“พระชายาจะไปภูเขาเหม่ยชาน บอกว่าจะพาท่านไปด้วย ท่านอยากไปหรือไม่?” เป่าจูเอ่ยเซี่ยเจิงได้ยินดังนั้น ก็รีบลื่นไถลลงจากลำต้นไม้ สองข้างไหล่มีเจ้าสุนัขจิ้งจอกสีขาวสองตัวเกาะอยู่ นางยิ้มดีใจกล่าวว่า “จริงหรือ? เช่นนั้นรีบไปเถิด”สองสุนัขจิ้งจอกนั้น ตัวหนึ่งชื่อเซวียนเช

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1610

    เพียงแต่ ข้าก็รู้ดีว่าในใจของซ่งซีซีไม่ได้มีเสด็จน้อง นางเลือกแต่งกับเสด็จน้อง ก็เพียงเพราะไม่อยากเข้าวังถวายงานแม้นไม่ใช่สามีภรรยาที่จิตใจเป็นหนึ่งเดียว เช่นนั้นข้าจึงแต่งตั้งซ่งซีซีเป็นแม่ทัพใหญ่กองทัพซวนเจีย ให้รับผิดชอบดูแลกองทัพซวนเจียแทนในสายตาของผู้อื่น กองทัพซวนเจียยังคงอยู่ในมือของสามีภรรยาคู่นี้ ข้าไม่ได้ตัดอำนาจของเสด็จน้องเพิ่มเติมเมื่อมองในขณะนั้นแล้ว นับเป็นความคิดที่แยบยลอย่างยิ่งแต่ข้ากลับไม่คาดคิดว่าสามีภรรยาจะไม่ใช่คู่ที่ใจไม่ตรงกันเสมอไป เมื่อนานวันเข้าย่อมเกิดความรักใคร่ อีกทั้งผลประโยชน์ก็เป็นหนึ่งเดียวกันข้าไม่รู้เลย เพราะข้ากับฮองเฮาแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ได้ใจตรงกัน ข้าเองก็ไม่เคยไตร่ตรองเรื่องของสามีภรรยาแต่โชคดีที่ แม้ว่าพวกเขาสองสามีภรรยาจะรักใคร่กันภายหลัง แต่ก็ไม่เคยเกิดความทะเยอทะยานที่คิดจะชิงอำนาจเป็นข้าที่ระแวงเกินไปเดิมที ข้าเห็นว่าซ่งซีซีแม้จะมีวรยุทธ์สูงส่ง แต่การบัญชาการกองทัพซวนเจียย่อมลำบาก อีกทั้งมีผู้ไม่ยอมรับนางมากมาย ข้าคิดว่านางอาจถอดใจในสามหรือห้าเดือน เช่นนั้นข้าก็จะหาคนใหม่มาแทนที่แต่ไม่คาดเลยว่า เหล่าทหารหัวแข็งในกองทัพซวนเจี

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1609

    แต่!แต่คนหนึ่งจะมีจิตใจที่มั่นคงและกล้าหาญได้อย่างไรเล่า?ใครจะคิดว่าในวันนั้นซ่งซีซีไม่ได้รับความไว้วางใจจากข้า แต่กลับขี่ม้าไปยังหนานเจียงเพื่อแจ้งข่าวให้เสด็จน้องทราบนี่เป็นเรื่องใหญ่ที่น่าตกใจและน่าทึ่งจริงๆ!หญิงที่หย่าร้างออกจากบ้าน ไม่มีผู้ติดตามหรือองครักษ์ กล้าบุกเข้าไปในค่ายทหารหนานเจียง ความกล้าหาญและความเด็ดเดี่ยวเช่นนี้ในราชสำนักนี้ไม่มีใครทำได้หลายคนเสด็จน้องและข้าก็ต่างกัน เขาเชื่อในตัวซ่งซีซี และเตรียมทัพก่อนเวลา เพื่อรับมือกับกองทัพพันธมิตรแคว้นซาและซีจิงสนามรบจะอันตรายแค่ไหน ข้ารู้ดีไม่ต้องเล่ารายละเอียดเมื่อข่าวดีในการยึดหนานเจียงมาถึง น้ำตาไหลนองหน้าข้าหลังจากนั้นเสด็จน้องส่งคำกราบทูลเพื่อยกย่องทหารซ่งซีซีและพรรคพวกของนางแน่นอนว่าเป็นผู้มีคุณูปการใหญ่ ข้าจะให้รางวัลแก่พวกเขาแต่จ้านเป่ยว่างและยี่ฝางกลับทำให้ข้าผิดหวัง ข้าจึงต้องคิดอย่างลึกซึ้งถึงเหตุผลที่คนจากซีจิงทำลายข้อตกลงในสนามรบหนานเจียงข้าก็ไม่ใช่คนที่เริ่มคิดเรื่องนี้ในเวลานี้ แต่การแบ่งเขตแดนของเส้นแนวกั้นหลิ่งหลิงก็เป็นหนึ่งในผลงานการบริหารของข้า ข้าจึงพอใจในใจคนเรามักจะโลภ แต่ก็ต้องรู

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1608

    เมื่อครั้งที่ข้าขึ้นครองราชย์ การศึกชิงคืนหนานเจียงก็ดำเนินมาแล้วหลายปี ชายแดนเฉิงหลิงก็ยังไม่สงบ ส่งผลให้ท้องพระคลังร่อยหรอ ราษฎรพลัดถิ่นไร้ที่อยู่อาศัยยามที่ข้าสวมอาภรณ์มังกร ประทับเหนือบัลลังก์มังกร ก็ลั่นวาจาในใจว่า ถึงจะไม่อาจเปรียบได้กับสมเด็จพระบรมราชบุพการีผู้ทรงพระปรีชาสามารถ แต่ข้าก็จะไม่เป็นจักรพรรดิที่โง่เขลาไร้ความสามารถ ข้าจะต้องชิงคืนหนานเจียง ทำให้แคว้นซางรุ่งเรือง ราษฎรมีความสุขต่อมาข้าจึงได้รู้ว่า มนุษย์นั้นมีเพียงในยามโง่เขลาหรือมีสติปัญญาเป็นเลิศเท่านั้น ถึงกล้าตั้งปณิธานยิ่งใหญ่เช่นนี้ได้หนานเจียงพ่ายแพ้ ตระกูลซ่งทั้งเจ็ดพี่น้องล้วนพลีชีพในสนามรบแรกเริ่ม เสด็จพ่อและข้าก็ยังมีความหวังลมๆ แล้งๆ คิดว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งมีประสบการณ์ในสนามรบมาก อีกทั้งทหารที่เขานำก็กล้าหาญเชี่ยวชาญเสียดายที่เสบียงล่าช้า ทหารต้องสู้รบทั้งที่ท้องว่าง แม้จะทุ่มสุดกำลัง ก็ยังสู้ฝ่ายศัตรูไม่ได้ยิ่งเมื่อเคยยึดหนานเจียงกลับมาได้แล้ว แต่ต้องเสียคืนไป ผู้คนก็ยิ่งเชื่อว่าแม่ทัพใหญ่ซ่งยังมีหวังจะตีคืนได้ด้วยเหตุผลหลายประการและความลังเลมากมาย ทำให้ข้าไม่อาจส่งกองทัพเป่ยหมิงของเสด็จน้องไปได

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1607

    ข้าเคยอ่านบันทึกการชันสูตรศพโดยมือชันสูตรแล้ว คำให้การของเขานั้นตรงกับบันทึกแทบทุกประการรายละเอียดอื่นๆ ของคดีก็เช่นกัน ข้าซักถามทีละข้อ เมื่อมั่นใจว่าตรงกันหมดแล้ว จึงส่งตัวเขาไปยังสำนักเขตจิงจ้าว และให้ท่านกงไต้เหรินส่งคนไปค้นหาอาวุธสังหารข้านึกว่าเมื่อจับคนร้ายได้ คดีนี้ก็ถือว่าเสร็จสิ้น ไม่นับว่าสิ่งที่ข้าอดทนลอบเฝ้าอยู่หลายวันนั้นสูญเปล่าใครจะรู้ว่า พอไปถึงสำนักเขตจิงจ้าว หลิวเซิ่งกลับกลับคำให้การ บอกว่าถูกข้าบีบบังคับจนต้องรับสารภาพ คำสารภาพที่ข้าให้เขาเอ่ยออกมา ล้วนเป็นสิ่งที่ข้าบังคับให้เขาพูดทีละคำเขาร้องขอความเป็นธรรม ยืนกรานว่าตนเองบริสุทธิ์กลับกัน เขายังกล่าวหาข้าว่าเป็นโจรหญิง ขอให้สำนักเขตจิงจ้าวจับข้าและข่าวร้ายก็มาอีก ระบุจุดที่เขาบอกว่าโยนอาวุธสังหารไป สำนักเขตจิงจ้าวส่งคนหลายสิบลงงมหา กลับไม่พบเสื้อผ้าหรือมีดเลยแม้แต่น้อยสำนักเขตจิงจ้าวสอบสวนอยู่หลายวัน เพราะเขามีบาดแผล จึงไม่ได้ใช้การทรมาน เขายังคงร้องขอความเป็นธรรม ตะโกนเสียงแหบพร่า ว่าตนบริสุทธิ์ไร้ซึ่งหลักฐาน อีกทั้งยังถูกข้อกล่าวหาว่าข้าบีบบังคับคำสารภาพ จึงจำต้องปล่อยตัวเขาไปก็ในตอนนั้นเอง ข้าจ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1606

    ผู้ใต้บัญชาทำงานรวดเร็วยิ่งนัก ตอนที่เขาลืมตาตื่น เครื่องทรมานก็ถูกขนเข้ามาเรียบร้อยแล้วเตาถ่านถูกตั้งขึ้น คีมเหล็กถูกเผาจนแดง แส้ที่เปื้อนเลือดฟาดกลางอากาศสองสามครั้ง เพี้ยะ เพี้ยะ ดังสะท้านใจหลิวเซิ่งถึงอย่างไรก็เคยฆ่าคนมาก่อน ใจคอจึงหนักแน่นแม้ยามเผชิญกับสถานการณ์เช่นนี้ มิแม้แต่กระพริบตา กล่าวว่า “พวกเจ้าตั้งศาลเถื่อนเช่นนี้ ถือเป็นความผิดใหญ่หลวง พวกเจ้ายังมีขื่อมีแปหรือไม่?”คนบางประเภทก็มักเป็นเช่นนี้ คิดว่ากฎหมายใช้บังคับกับใครก็ได้ ยกเว้นตนเองตนกระทำผิด แต่กลับคิดใช้กฎหมายปกป้องตนกับคนประเภทนี้ ไม่จำเป็นต้องโต้แย้ง การโต้แย้งมีแต่จะยิ่งเปิดช่องให้เขาพูดจาไร้สาระมากขึ้นข้าหยิบคีมเหล็กที่ถูกเผาจนแดงก่ำหนีบเข้าที่แขนเขาทันที พอกดแน่นลงไป เสื้อก็ละลายจนเป็นรู เสียงเนื้อถูกไหม้ดัง ซี่ๆๆ…เสียงกรีดร้องโหยหวนดังลั่นไม่เป็นไร ที่นี่เป็นห้องใต้ดินลับ ต่อให้ร้องจนเสียงขาดหาย ก็ไม่มีผู้ใดได้ยินแม้กระดูกจะแข็งเพียงใด แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าเครื่องทรมาน ก็ไร้ซึ่งพลังต่อต้านข้ายังมิทันได้เริ่มถอนเล็บ เขาก็สารภาพทุกสิ่งอย่างละเอียดทั้งสองครอบครัวสนิทกันจริง พ่อแม่ทั้งสองฝ่ายร

Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status