Share

บทที่ 181

Author: ปาเย่วเซิ่งเซี่ย
ให้เป่าจูอยู่นอกตำหนัก ซ่งซีซีก้มศีรษะลงแล้วเข้าไปในตำหนัก เห็นว่ากระเบื้องปูพื้นหยกสีขาวใต้เท้าส่องแสง และจากมุมตาของนาง ทุกสิ่งเต็มไปด้วยความรู้สึกหรูหรา

นางเงยหน้าขึ้นมองอย่างรวดเร็วและเห็นผู้สูงศักดิ์สวมชุดพระราชวังสีม่วงนั่งอยู่บนเก้าอี้ไขว้ตรงกลาง ผมรวบเป็นก้อนเมฆและมีไข่มุกอันหรูหราอยู่บนศีรษะ ลักษณะใบหน้าค่อนข้างคล้ายกับของผู้บังคับบัญชา

นางรู้ว่านี่คือสนมฮุ่ยไทเฟย

นางก้าวไปข้างหน้าและคุกเข่าลง "หม่อมฉันซ่งซีซีถวายบังคมไทเฟยเพคะ"

ท่าทางการคุกเข่านางตั้งตรง คิ้วลดลง เสื้อผ้าเรียบร้อย พู่ปิ่นปักผมขยับเล็กน้อยเมื่อคุกเข่า ความกว้างก็สมเหตุสมผล ไม่สามารถให้คนจับผิดได้ เนื่องจาก เนื่องจากนางเรียนมารยามที่ภูเขาเหม่ยชานเป็นเวลาหนึ่งปี และเป็นแม่นมในวังเป็นคนสอน

เสียงเย็นชาของสนมฮุ่ยไทเฟยดังมา "เงยหน้าขึ้นให้ข้าเห็นรูปลักษณ์ที่มีเสน่ห์ของเจ้าหน่อย"

ซ่งซีซีค่อย ๆ เงยหน้าขึ้นตามคำแนะนำและเผชิญหน้ากับสนมฮุ่ยไทเฟยโดยตรง แต่ดวงตาไม่ได้สบกับนาง แต่สัมผัสได้ถึงความเย็นชาในดวงตานาง

"ฮึ่ม เจ้ามีหน้าตาดีจริง ๆ ไม่น่าแปลกใจเลยที่ลูกชายของข้าจะหลงเจ้า" สนมฮุ่ยไทเฟยยื่นมือออกมาและแม่นมเกาก็ช
Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App
Locked Chapter
Mga Comments (4)
goodnovel comment avatar
Tiwapon Prasertsarn
นางมีความเข้มแข็งและสง่างาม
goodnovel comment avatar
Tiwapon Prasertsarn
บททดสอบของไทเฟย ไม่ให้เกียรติกันเลย
goodnovel comment avatar
Tiwapon Prasertsarn
ต่อสู้กันด้วยกำลังภายใน
Tignan lahat ng Komento

Kaugnay na kabanata

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 182

    ซ่งซีซียกคางแหลมขึ้นเล็กน้อยด้วยสีหน้าเคร่งขรึมแล้วพูดว่า "ขอบพระทัยไทเฟยที่ประทานอภัยโทษ หม่อมฉันสถานะอะไร คู่ควรท่านอ๋องหรือไม่ ขึ้นอยู่กับเขา สรุปถ้าเขาไปขอแต่งงานที่จวน ข้าก็จะแต่งงาน"สนมฮุ่ยไทเฟยโกรธมาก "เขาหลงไปชั่วขณะ สับสนอยู่พักหนึ่ง จะต้องตื่นขึ้นสักวัน เจ้าเป็นหญิงที่จวนแม่ทัพทิ้ง เขาก็เห่ออยู่พักหนึ่ง รอเลิกเห่อแล้วก็ทิ้งเจ้าไป พูดแล้วเจ้าก็เสียเปรียบ ข้าหวังดีกับเจ้า ทำไมเจ้าถึงไม่รู้ดีขนาดนี้?"ซ่งซีซีกล่าวว่า "หม่อมฉันหย่าสันติกับจ้านเป่ยว่าง ไม่ใช่ภรรยาที่ถูกทอดทิ้ง ยิ่งไปกว่านั้น หม่อมฉัน ร้องขอพระราชโองการหย่า หากบอกว่าทิ้ง ก็เป็นหม่อมฉันที่ทิ้งเขา จวนแม่ทัพไม่มีสิทธิ์ทิ้งหม่อมฉัน แต่ก็ต้องขอบพระทัยไทเฟยที่หวังดีต่อหม่อมฉัน"สนมฮุ่ยไทเฟยกล่าวอย่างโกรธเคือง "ไม่ว่าใครจะทิ้งใคร เจ้าก็ยังแต่งงานเป็นครั้งที่สอง ผู้หญิงที่ดีไม่ควรแต่งงานเป็นครั้งที่สอง ในเมื่อเลือกที่จะหย่าควรอยู่ที่บ้าน อย่าพยายามปีนขึ้นไปให้สูงและทำลายชื่อเสียงของผู้หญิง"ซ่งซีซีกล่าวอย่างเคร่งขรึม "ผู้ชายสามารถหย่ากับภรรยาของเขาแล้วแต่งงานใหม่ได้ และเขาสามารถมีภรรยาสามอนุภรรยาสี่คน ทำไมผู้หญิงถึงแต

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 183

    สนมฮุ่ยไทเฟยไม่อยากปล่อยนางไปง่าย ๆ อย่างน้อยก็ปล่อยนางไปไม่ได้จนกว่านางจะล้มเลิกความคิดที่จะแต่งงานกับจวนอ๋องส่วนซ่งซีซีก็คุกเข่าลงอย่างเฉยเมย อย่างไรก็ตามก็เคยถูกลงโทษให้คุกเข่าลงหลายครั้งในภูเขาเหม่ยชาน ดังนั้นจึงคุ้นเคยนางจะไม่เอาใจสนมฮุ่ยไทเฟย รอบตัวสนมฮุ่ยไทเฟยไม่ขาดคนที่เอาใจ และเรื่องการแต่งงานของนางกับผู้บังคับบัญชาก็เป็นสิ่งที่ต่างคนต่างต้องการอยู่แล้ว ไม่ต้องต้อนรับจริง ๆ แล้วนิสัยสนมฮุ่ยไทเฟยกลับรับมือง่าย ดุต่อหน้า ไม่มีแผนการณ์ ดีกว่าต่อหน้าอีกอย่างลับหลังอีกอย่างนางไม่ได้รังแกสนมฮุ่ยไทเฟย แต่นางก็จะไม่ปล่อยให้สนมฮุ่ยไทเฟยรังแกนางเช่นกัน เช่นเดียวกับฮูหยินผู้เฒ่าจวนแม่ทัพในตอนนั้น ก่อนที่จ้านเป่ยว่าง จะกลับมา ก็ไม่เคยหาเรื่องและปฏิบัติต่อนางอย่างกรุณา ดังนั้นนางจึงกตัญญูต่อฮูหยินผู้เฒ่าโดยธรรมชาติแต่ต่อมาเมื่อจ้านเป่ยว่างกลับมาจากราชการและจะแต่งงานกับยี่ฝาง ฮูหยินผู้เฒ่าก็เปลี่ยนจากความอ่อนโยนก่อนหน้านี้ นางก็ไม่จำเป็นต้องอดทนอีกต่อไปเมื่อหาทางออกไม่ได้ ก็ได้ยินคำว่าเสด็จแม่ดังขึ้น จากนั้นองค์หญิงเซียนหนิงก็นำคนเข้ามาปีนี้องค์หญิงเซียนหนิงอายุได้สิบห้าปี เพิ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 184

    เมื่อมองดูองค์หญิงผู้น่ารักและไร้เดียงสา ซ่งซีซีก็นึกถึงตอนที่นางยังเป็นเด็ก อ้วนและน่ารักมากตอนนี้ผอมลงแล้ว แต่แก้มยังคงมีเนื้อ โดยเฉพาะตอนยิ้ม ดวงตาเป็นประกาย และคิ้วดูเหมือนจะเต็มไปด้วยน้ำผึ้ง ซึ่งทำให้ผู้คนมองแล้วมีความสุขซ่งซีซียิ้มแล้วพูดว่า "ถ้าไม่มีอะไรผิดพลาด ข้าน่าเป็นพี่สะใภ้เจ้า"องค์หญิงเซียนหนิงเขย่าแขนนาง มีประกายดาวในดวงตา "ข้าชื่นชมท่านมาก ทั้งเสด็จแม่และฮ่องเต้ บอกว่าท่านเป็นแม่ทัพหญิงที่โดดเด่นที่สุดในราชวงศ์ซางของเรา เมื่อก่อนเป็นยี่ฝางนั่น ข้าไม่ค่อยชอบนาง ข้าเคยเจอนางครั้งหนึ่ง หยิ่งผยองและพฤติกรรมก็หยาบคายมาก ไม่เหมือนพี่ซ่งที่มีทั้งบารมีของนายหารและจริตแบบผู้หญิง"นางพูดพร้อมกับแลบลิ้นล้อเล่น "แต่ เสด็จแม่บอกว่าผู้หญิงไม่ควรพูดถึงผู้หญิงตามใจชอบ และเป็นเรื่องง่ายที่จะทำลายชื่อเสียงของผู้หญิงเนื่องจากความเข้าใจผิด ข้าจะไม่พูดอีกต่อไป ยังไงข้าก็ไม่ชอบนาง"เมื่อเห็นรอยยิ้มนาง ซ่งซีซีก็อดไม่ได้ที่จะยิ้ม ผู้หญิงที่เหมือนลูกอมคนนี้ มักจะทำให้คนมีความสุขเสมอองค์หญิงเซียนหนิงยังคงต้องการรบกวนนาง แต่ป้าที่ดูแลอยู่ข้างนอกก็เรียกแล้ว "องค์หญิง ไทเฟยเชิญท่านกลับตำห

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 185

    หลังจากดื่มเสร็จ ซ่งซีซีก็พูดว่า "ไทเฮา ที่จริงแล้วสนมฮุ่ยไทเฟยนั้นเข้าถึงง่ายมาก"อย่างน้อยก็เข้าถึงไม่ยาก"เข้าถึงได้ง่าย เกรงว่าเจ้าจะไม่พูดถึงน้องสาวของ ข้า" ไทเฮาหยุดหัวเราะ แต่ยังคงมองซ่งซีซีด้วยคิ้วที่เต็มไปด้วยความสุข "นางเหรอ ทุกคนในวังกลัว นาง แม้แต่หวงโฮ่วเห็นนางก็ยังต้องหลบ"ซ่งซีซีคิดในใจว่าเผด็จการและหยิ่งผยอง ใครเห็นใครไม่หลบ ในฐานะคนปกติคุณคงจะไม่อยากถูกสุนัขกัดขณะเดินหรอก?แต่ หากนางถูกขอให้เลือกที่จะเข้ากับหวงโฮ่วหรือสนมฮุ่ยไทเฟย นางก็ยังคงเลือกสนมฮุ่ยไทเฟย ครอบงำแต่ง่ายต่อการจัดการคำพูดของหวงโฮ่วฟังดูเผิน ๆ แต่เมื่อคุณคิดให้รอบคอบแล้ว ทุกอย่างก็เต็มไปด้วยหนามซ่งซีซีต้องการดื่มอีกชามหนึ่ง แต่เป่าจูก็หยุดนางอย่างรวดเร็ว "คุณหนู อย่าดื่มมากเกินไป หมอมหัศจรรย์ดันบอกว่าร่างกายของท่านจำเป็นต้องได้รับการพักฟื้น และท่านไม่ควรดื่มน้ำเย็นหรือน้ำแข็งมากเกินไป"เมื่อไทเฮาทราบก็ทรงสั่งให้มีคนยกชาอุ่น ๆ มาหนึ่งถ้วยแล้วพูดว่า "อากาศร้อนมาก ชาเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการดับกระหาย เจ้าควรฟังคำแนะนำของหมอและดูแลรักษาสุขภาพของเจ้าให้ดี หลังแต่งงานเข้าจวนอ๋องจะได้มีทายาทเร็ว ๆ"ทั

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 186

    ซ่งซีซีรู้สึกงุนงง แต่หัวใจที่เฉียบแหลมรู้สึกถึงบางสิ่งที่แปลก เช่นความเป็นปรปักษ์ แต่ก็ไม่เหมือนโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาพูดคำเหล่านั้นด้วยรอยยิ้มในตอนท้าย มันทำให้สับสนจริง ๆ คำว่าปกป้องไว้ก่อนแล้วหมายความว่าอย่างไร?นั่นคือความจริงนางหยุดชั่วคราวและพูดว่า "ฮ่องเต้ สงครามไม่มีการตัดสินใจที่ปลอดภัยอย่างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการต่อสู้ช่วงสุดท้าย เกือบจะต้องสู้ตาย วิธีการโจมตีซีม่อนของเราถูกต้อง มีความผิดพลาดเล็กน้อยหม่อมฉันคิดว่าควรค่าแก่การให้อภัย เนื่องจากในที่สุดก็ยึดคืนเขตหนานเจียงและได้รับชัยชนะในที่สุด"ฮ่องเต้หัวเราะเสียงดัง "ข้าแค่ถามเจ้าไม่กี่คำ ดูสิทำให้เจ้าตื่นเต้นขนาดนี้เลยเหรอ ไม่ต้องตื่นเต้น ข้าแค่ถามดูเฉย"เสื้อผ้าบนหลังของซ่งซีซีเปียกโชก ถามเฉย ๆ ที่ไหนกัน? ดูจากท่าทางจริงจังของเขาเมื่อกี้ ดูเหมือนจะมาเอาเรื่องยึดคืนเขตหนานเจียง แต่กลับมาสอบสวนผู้บังคับบัญชาเนื่องจากความผิดพลาดของทหารผู้ใต้บังคับบัญชา ไม่จำเป็นเลยแต่หัวใจกษัตริย์คาดเดาไม่ได้ ซ่งซีซีรู้สึกว่ายังไม่ควรอยู่นาน โค้งคำนับกล่าว "หม่อมฉันจะไม่ขัดจังหวะพูดคุยของไทเฮากับฮ่องเต้แล้ว หม่อมฉันทูลลาเพคะ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 187

    ไทเฮามองดูเขาอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า "เสด็จพ่อของเจ้าก็มีคนอยู่ในใจ แต่เขาถือว่าผู้บังคับบัญชาซ่งเป็นพี่น้อง ดังนั้น ทุกครั้งที่ซ่งฮูหยินเข้าร่วมหรือนางเข้ามาในวัง เสด็จพ่อของเจ้าจะหลีกเลี่ยง นี่เป็นความเคารพที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่เขามีต่อพี่น้อง แม้แต่ซ่งฮูหยินก็ไม่รู้ใจของเสด็จพ่อเจ้าจนตาย"ใบหน้าของฮ่องเต้แช่แข็งอยู่ครู่หนึ่ง และรอยยิ้มก็ค่อย ๆ หายไปจากใบหน้าของเขา แทนที่ด้วยรอยยิ้มที่เคร่งขรึม "เสด็จแม่ตักเตือน ข้าเข้าใจแล้ว"หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง เขาก็พูดว่า "เสด็จแม่ไม่รังเกียจเหรอ? ยังทำดีกับซ่งซีซีแบบนี้"ไทเฮายิ้มช้า ๆ ด้วยสีหน้าสบายๆ "จะรังเกียจอะไร? ผู้หญิงในวังหลังนี้ยังไม่พอเหรอ? นอกจากนี้ ข้าแต่งงานกับเขาเพื่อเป็นพระชายารัชทายาท เป็นหวงโฮ่ว และแม้กระทั่งตอนนี้เป็นไทเฮา แต่งงานกับครอบครัวกษัตริย์ ถ้าเรียกร้องความจริงใจของกษัตริย์ ก็คงอยู่ไม่ได้หรอก?""ส่วนเสด็จพ่อของเจ้าเขาก็รู้ตัวตนของเขา เขาเป็นฮ่องเต้ สิ่งที่เขาต้องทำคือทำงานอย่างขยันขันแข็งและรักประชาชนปกป้องประเทศคืนดินแดนที่ถูกยึดคืนกำจัดและแลกเปลี่ยนเจ้าหน้าที่ทุจริต เพื่อความสงบสุขและความเจริญรุ่งเรืองเขาไม่เคยล

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 188

    เซี่ยหลูโม่ยังคงเงียบ ผู้บังคับบัญชากับท่านอ๋องต่างกันตรงไหน?"เหตุใดท่านอ๋องจึงมารออยู่ที่นี่" ซ่งซีซีถามความคิดเซี่ยหลูโม่กลับมา "โอ้ อยากเข้าวังไปดูว่าเสด็จแม่แกล้งเจ้ายังไง นางเข้าได้ยากใช่ไหม? แต่เจ้าไม่ต้องกังวล ในอนาคตเมื่อมาจวนอ๋อง นางจะไม่กําเริบเสิบสานเหมือนอยู่ในวัง อย่างไรเสียคนในจวนอ๋องก็ฟังข้าและเจ้า อาจจะไม่ฟังนางก็ได้"ซ่งซีซียิ้มและพูดว่า "กลับไม่ได้เข้าหายาก ค่อนข้างจะรับมือยาก เพียงแต่ว่าวิธีการ... ค่อนข้างหยาบคายไปหน่อย แต่ง่ายต่อการจัดการ"เซี่ยหลูโม่เอียงศีรษะ วิธีการหยาบคาย? อธิบายได้แม่นยำจริง ๆ เสด็จแม่รู้เรื่องการใช้วิธีการลงมือที่ไหน? นางเติบโตมาด้วยความเอาแต่ใจ และหากอารมณ์เสียหรืออ้อน ก็จะมีใครสักคนมาช่วยนาง"นางไม่มีวิธีการอะไรจริง ๆ ข้าจำได้ว่าตอนที่ยังอยู่ในวัง นางก็ใช้วิธีโหดเหี้ยมที่สุดกับเต๋อกุ้ยไทเฟย ตอนเต๋อกุ้ยไทเฟยตั้งท้องน้องเจ็ด เสด็จพ่อก็ไปหานางเสมอ นางต้องการเชิญเสด็จพ่อมา อยากหาข้อแก้ตัวที่จะโกหกว่าป่วยจึงแช่ตัวในน้ำเย็น แต่พอแช่ตัว กลับเย็นชาสาปแช่งทันทีว่าไม่อยากมาก็อย่ามา นางไม่มีวันทำร้ายตัวเอง"ซ่งซีซีอดหัวเราะไม่ได้เมื่อคิดถึงฉากน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 189

    "จริงเหรอ?" เซี่ยหลูโม่ขมวดคิ้ว เขารู้จักนิสัยของป้าคนนี้ดีที่สุดปากหวาน แต่ซ่อนเข็ม ชอบจัดงานเลี้ยงน้ำชามากที่สุด ไปมาหาสู่กับญาติพี่น้องของผู้มีอำนาจในเมืองหลวง มีชีวิตหญิงสาวอยู่ในมือไม่น้อยการแต่งงานของผู้มีอำนาจจำนวนมากเกิดขึ้นเพื่อพบกันในงานเลี้ยงนางถ้าเสด็จแม่ต้องทนทุกข์จากน้ำมือของใครก็ตามในชีวิต นั่นก็คือป้าของเขาคนนี้ นางเก่งในการใช้อุบายและทำสิ่งเลวร้ายมากมายดูเหมือนนางจะป่วยทางจิต หลังจากให้กำเนิดลูกสาวไม่มีอีก รับอนุภรรยาให้พระราชบุตรเขยจำนวนมาก เมื่ออนุภรรยาให้กำเนิดลูก นางก็แย่งพวกเขาไปและประหารชีวิตอนุภรรยา ด้วยวิธีการที่โหดร้ายอย่างยิ่งมีอนุภรรยาคนหนึ่งที่โต้ตอบกับนางเพียงไม่กี่คำ นางก็ไม่เอาแม้แต่เด็กคนนั้น จับเด็กคนนั้นกระแทกตายต่อหน้าอนุภรรยา และตัดนิ้วเท้าของอนุภรรยาไปทีละนิ้ว อนุภรรยาคนนั้นทรมานอยู่หลายวันกว่าจะตายสิ่งเลวร้ายเช่นนี้ถูกซ่อนไว้อย่างดี เนื่องจากใครจะไปกล้ายุ่งเรื่องของจวนองค์หญิงส่วนเหตุผลที่เขารู้ ก็เป็นลุงเขยที่กินเหล้าในวังเมื่อปลายปีนั้น ขณะเข้าห้องน้ำเกิดหลงทางด้วยความเมาสุรา จึงออกตามหาจึงพบว่าลุงหลบอยู่หลังภูเขาจำลอง เพื่อปิดบังใ

Pinakabagong kabanata

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1618

    ที่เสาโจว พวกนางได้รู้จักกับเพื่อนท้องถิ่นหลายคน เป็นพวกพ่อค้าเร่ที่เดินขายของตามตรอกซอกซอย ซึ่งเป็นของเล่นพื้นเมืองเฉพาะถิ่นของกว่างหนานตงลู่ล้วนเป็นของเล่นสำหรับเด็ก เซี่ยเจิงปากบอกว่าตนเป็นผู้ใหญ่แล้ว แต่แท้จริงกลับชอบของเล่นพวกนี้ที่สุดนางซื้อหัวสิงโตเล็กๆ สองอัน เป็นแบบย่อส่วนของการเชิดสิงโต ดูน่ารักยิ่งนักแถบกว่างหนานตงลู่ล้วนมีธรรมเนียมเชิดสิงโตกันทั้งสิ้น ไม่ว่าจะในเทศกาลปีใหม่หรือเมื่อมีงานมงคลในบ้านใด ก็สามารถเชิญทีมเชิดสิงโตมาได้ โดยเฉพาะช่วงปีใหม่จะคึกคักเป็นพิเศษช่วงปีใหม่ที่เสาโจวก็มีการเชิดมังกรเชิดสิงโตกันในหมู่บ้านด้วย ครึกครื้นยิ่งนัก พวกนางดูจนเพลินไปหมดหลังจากผ่านปีใหม่แล้ว นางก็เขียนจดหมายกลับไปยังเมืองหลวงและภูเขาเหม่ยชาน แล้วจึงออกเดินทางต่อมาถึงมณฑลกว่างโจวในเดือนสอง อากาศไม่หนาวไม่ร้อน กำลังพอดีนางไปหาใต้เท้าเหยียน ข้าหลวงประจำกว่างหนานตงลู่ นำตราองค์หญิงออกแสดง ใต้เท้าเหยียนก็รีบให้การต้อนรับอย่างแขกผู้มีเกียรติ และพาไปดูความคืบหน้าในการสร้างจวนองค์หญิงจวนองค์หญิงตั้งอยู่บนแนวแกนกลางของมณฑลกว่างโจว อยู่ไม่ไกลจากที่ว่าการ มีพื้นที่กว้างใหญ่ ช่าง

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1617

    เช้าวันถัดมา เซี่ยเจิงก็พาซวงเยว่ไปเที่ยวเล่นทั่วชายแดนเฉิงหลิงนางหนานเดิมทีจัดคนมาเป็นคนนำทางให้พวกนางแล้ว แต่เซี่ยเจิงไม่ต้องการ บอกว่าเที่ยวตามใจดีกว่าชายแดนเฉิงหลิงทุกวันนี้เป็นเมืองชายแดนที่เชื่อมต่อสองแคว้น วัฒนธรรมทั้งสองผสมกลมกลืน มีของแปลกใหม่มากมาย จนพวกนางมองจนตาลายขนมบางอย่างจากเมืองซีจิง ที่ชายแดนเฉิงหลิงก็ยังหากินได้ที่ชายแดนเฉิงหลิง เซี่ยเจิงยังเห็นโรงงานปักเย็บซู่เจิน ก็รู้สึกแปลกใจยิ่งนักเพราะโรงงานเย็บผ้านั้นมีอยู่ทั่วไป แต่ที่ชื่อว่าโรงงานปักเย็บซู่เจินมีเพียงที่เมืองหลวง แล้วเหตุใดที่นี่ก็มีอีกแห่ง?นางสงสัยจึงกลับไปถามนางหนาน นางหนานบอกว่านี่คือโรงงานปักเย็บซู่เจินที่หวังชิงหรูตั้งขึ้นด้วยเงินบริจาค แตกต่างจากของเมืองหลวง ที่นี่เป็นเพียงโรงปักเย็บธรรมดา ปักเย็บได้ทั้งที่โรงงานหรือที่บ้าน แล้วนำชิ้นงานมาขายให้โรงงานปักเย็บซู่เจินที่ชายแดนเฉิงหลิงก็มีหญิงที่ถูกหย่าร้างอยู่บ้าง แต่โดยมากก็ยังได้รับการยอมรับจากบ้านเดิม ไม่เคร่งครัดเหมือนในเมืองหลวงหากหญิงใดไม่ได้รับการยอมรับจริงๆ จึงจะมาอยู่โรงงาน แต่ความจริงแล้ว ตอนนี้ผู้ที่อาศัยในโรงงานมีอยู่น้อยดังน

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1616

    เพียงเท่านี้ สาวน้อยสองคนก็ขี่ม้ามุ่งหน้าไปยังชายแดนเฉิงหลิงแล้วเซี่ยเจิงกับซวงเยว่สนิทสนมกันมาก หลังจากซวงเยว่เข้ามาอยู่ในสถาบันว่านซงเหมินแล้ว แม้แต่กินข้าวก็ยังเกรงใจไม่กล้ากินมาก เป็นเซี่ยเจิงที่คอยคีบกับข้าวใส่ถ้วยให้นางอยู่เรื่อยซวงเยว่กล่าวว่านางชินกับชีวิตยากลำบาก พอได้มาใช้ชีวิตแบบนี้ก็ราวกับฝันไป ฝันที่แช่อยู่ในไหน้ำผึ้งเลยทีเดียวเซี่ยเจิงจึงหัวเราะแล้วตอบว่า เช่นนั้นก็ต้องฝันเช่นนี้ไปตลอดชีวิตแม้เป้าหมายของสองคนคือชายแดนเฉิงหลิง แต่ตลอดทางกลับเที่ยวเล่นไปด้วย ไม่ได้เร่งรีบเดินทางไปถึงที่ใด ต้องลิ้มลองอาหารพื้นเมืองของที่นั่น ซึมซับบรรยากาศผู้คนท้องถิ่น เคยแอบร่วมงานแต่งหลายงาน หัวเราะเฮฮาอย่างมีความสุขครั้นมาถึงชายแดนเฉิงหลิง ก็เป็นฤดูหนาวที่หิมะตกหนักแล้วเซี่ยเจิงไปคารวะท่านตาทวดก่อน เห็นท่านแม้ผมเผ้าขาวโพลน แต่ยังเปี่ยมด้วยพลัง เซี่ยเจิงจึงคุกเข่าคารวะตามระเบียบเรียบร้อยท่านแม่ทัพใหญ่เซียวดีใจจนยิ้มไม่หุบ หัวเราะพลางบ่นว่า นางมัวชักช้าอยู่บนทาง รับจดหมายว่านางจะมาแต่เนิ่นๆ แต่กลับให้เขารอจนถึงฤดูหนาวเช่นนี้เมื่อเซี่ยเจิงเล่าเรื่องราวระหว่างทางให้ท่านฟังที

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1615

    พิธีปักปิ่นจัดขึ้นอีกครั้งที่ภูเขาเหม่ยชาน ณ สถาบันว่านซงเหมินนั่นจึงเป็นเหตุผลที่เหรินหยางอวิ๋นไม่ยอมมาเมืองหลวงเพื่อร่วมพิธีปักปิ่นของนาง เขากล่าวไว้ว่า ภูเขาเหม่ยชานของพวกเราจัดพิธีปักปิ่นไม่ได้หรือ? เหตุใดต้องไปเมืองหลวงให้ลำบากพูดคุยกับคนแปลกหน้ามากมายด้วยเล่าสถาบันว่านซงเหมินนั้นไม่ได้คึกคักเช่นนี้มานานแล้ว เหรินหยางอวิ๋นในชุดยาวสีแดง ราวกับประทัดที่แขวนห้อยอยู่ นั่งอยู่บนเก้าอี้ประมุขสูงสง่าของเขา มองดูศิษย์น้องอูโซเว่ยคอยต้อนรับแขกเหรื่อด้วยรอยยิ้มเขานั้นแทบไม่ค่อยสุงสิงกับผู้คน โดยเฉพาะเมื่ออายุมากขึ้นก็ยิ่งเกลียดการเข้าสังคมแต่บางครั้ง เขาก็ชอบบรรยากาศครึกครื้น ชอบมองคนอื่นสนุกสนานเช่นในเวลานี้ มองดูทุกคนรายล้อมเหลนศิษย์ตัวน้อยของเขา ความอิ่มเอมและพึงใจผุดขึ้นมาโดยไม่รู้ตัวเพียงแต่ ในใจก็มีอีกความรู้สึกหนึ่งแทรกเข้ามาอย่างช้าๆเขารู้สึกเวทนาซีซี ศิษย์น้อยของเขา ปีที่นางอายุสิบห้าคือจุดเปลี่ยนในชีวิต จากเด็กหญิงร่าเริงไร้กังวล กลายเป็นสาวน้อยเงียบขรึมเศร้าหมองแต่ก็ดี ที่ตอนนี้นางใช้ชีวิตได้ดีและยังดีที่เด็กหญิงตรงหน้านี้ จะสามารถใช้ชีวิตอย่างเสรีและเบิกบานที

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1614

    สนมฮุ่ยไทเฟยย่อมมีฐานะมั่นคงเช่นนี้ หลายปีมานี้ไม่ค่อยมีค่าใช้จ่าย รายรับกลับมากไม่น้อยเบี้ยหวัดจากในวัง ของกำนัลจากทุกบ้าน อีกทั้งบรรดาลูกหลานที่โตแล้วต่างก็สามารถตัดสินใจเองได้ บรรดาผู้ที่กตัญญูต่อท่านมีไม่น้อย โดยเฉพาะเสิ่นว่านจื่อ ยิ่งกตัญญูไม่ยั้งมือสำหรับหลานสาวคนเดียวนี้ ท่านไม่มีสิ่งใดที่เสียดายเลย คำพูดที่มักติดปากคือ เมื่อท่านสิ้นไป สมบัติทั้งปวงย่อมตกเป็นของหลานสาวบัดนี้เมื่อแม่ลูกสองคนไปถึงที่อยู่ของท่าน ท่านก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยถึงเรื่องที่เซี่ยเจิงจะไปภูเขาเหม่ยชานฝึกวรยุทธ์อีกครา"ไม่ใช่ว่าข้าไม่เห็นดีเห็นงาม เพียงแต่การไปนานถึงเพียงนั้น ปีหนึ่งกลับมาได้ไม่กี่ครั้ง อนาคตยังบอกว่าจะออกไปผจญภัยอีก เด็กหญิงน้อยๆ เช่นนี้ จะไปฝ่าโลกภายนอกได้อย่างไร? ข้าขัดท่านพ่อของเจ้าไม่ไหว เขาเป็นคนไม่เข้าใจโลก พูดอะไรก็ไม่เคยพูดให้เข้าใจได้ ข้าก็ไม่มีทาง""ท่านยาย หลานไม่ใช่เด็กสาวบอบบางหรอกเจ้าค่ะ ท่านลองดูหมัดของหลานเถิด" เซี่ยเจิงชูหมัดขึ้น โบกไปมาอยู่ตรงหน้าสนมฮุ่ยไทเฟย กล่าวอย่างภาคภูมิว่า "หมัดนี้ของหลาน แม้แต่หมูป่ายังต้องสลบเหมือด"สนมฮุ่ยไทเฟยทอดถอนใจ "บุตรีบ้านอื่น มือเอา

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1613

    สองสามีภรรยาเอ่ยถึงเรื่องราวในอดีต ยิ่งพูดยิ่งรู้สึกอบอุ่นในใจ โดยเฉพาะซ่งซีซี ที่แต่เดิมรู้สึกว่าการแต่งงานครั้งนั้นเป็นการถูกบังคับ แต่ใครจะคาดคิดว่าจะได้พบกับความสุขเช่นวันนี้ช่างเป็นเรื่องที่ยากจะคาดเดานักทันใดนั้นก็มีคนวิ่งพรวดพราดเข้ามาทางประตู ยังไม่ทันเห็นหน้าชัด ก็โผเข้ากอดเซี่ยหลูโม่แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงเปี่ยมไปด้วยความตื่นเต้นยินดี "ท่านพ่อ ของขวัญพิธีปักปิ่นที่ท่านมอบให้ข้านั้น ข้าชอบมากนัก ขอบคุณท่านพ่อ ข้ารักท่านพ่อที่สุดเลยเจ้าค่ะ"เซี่ยหลูโม่กล่าวว่า "ยังคงซุกซนเช่นเดิมหรือ? โตเป็นสาวแล้ว ต้องสุขุมให้มากหน่อย"แม้ว่าจะเอ่ยเช่นนั้น ทว่าดวงตากลับเปี่ยมด้วยความเอ็นดู มือช่วยจัดปิ่นที่นางสวมในพิธีปักปิ่นให้เรียบร้อย แล้วเอ่ยต่อว่า "เครื่องประดับหัวทับทิมแดงนั่นเจ้าไม่ชอบหรือ? ท่านแม่ของเจ้าตั้งใจเลือกให้นัก""ชอบเจ้าค่ะ ชอบทุกอย่างเลย" เซี่ยเจิงยิ้มจนตาหยี รักทุกสิ่งที่พ่อแม่มอบให้เซี่ยหลูโม่มองรอยยิ้มของบุตรสาวแล้วพลันรู้สึกเคลิ้มใจบุตรสาวยิ่งโต ยิ่งเหมือนซ่งซีซี ในวันแรกที่พบซ่งซีซีที่ภูเขาเหม่ยชาน นางก็ยิ้มเช่นนี้แต่หลังจากนั้น นางก็แทบไม่เคยยิ้มแบบนี้อีก ต่อ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1612

    สายหมอกเย็นยะเยือกปกคลุมยอด ดอกเหมยเบ่งบานหลายคราเซี่ยเจิงมีพรสวรรค์ทางวรยุทธ์สูงส่งนัก เรื่องนี้เรียกได้ว่าเก็บข้อดีของเซี่ยหลูโม่และซ่งซีซีมาไว้ทั้งหมดเหรินหยางอวิ๋นสามารถกล่าวได้อย่างภาคภูมิใจว่า เซี่ยเจิงคือลูกศิษย์ที่มีพรสวรรค์สูงสุดในบรรดาศิษย์ทั้งหลายของภูเขาเหม่ยชานอูโซเว่ยเองก็ไม่อาจปฏิเสธเรื่องนี้ได้ เมื่อนางถูกเซี่ยเจิงถามว่าใครเก่งกว่ากัน ระหว่างนางกับท่านพ่อ อูโซเว่ยได้แต่ตอบอย่างเลี่ยงๆ ว่า "พอๆ กัน ต่างก็มีข้อดี"วรยุทธ์ของเซี่ยเจิงที่ฝึกฝนมาจนถึงวันนี้ หาได้มาจากเพียงหมื่นสำนักเท่านั้นนางได้ร่ำเรียนจากทุกฝ่ายในภูเขาเหม่ยชานเมื่อนางมาถึงภูเขาเหม่ยชาน ยังเป็นเด็กหญิงตัวน้อย ผิวขาวเนียนราวหยก รอยยิ้มหวานละมุน ผู้ใดเห็นก็ต้องเอ็นดูนางช่างพูด ช่างคุ้นเคยเร็ว อีกทั้งปากหวานนัก หลอกล่อให้บรรดาหัวหน้าสำนักต่างถ่ายทอดวิชาให้หมดเปลือกเดิมทีนางมีนิสัยซุกซน แต่ด้วยการมุ่งมั่นฝึกวรยุทธ์ และฝึกฝนวิชาเนื้อใน จิตใจก็สงบนิ่งขึ้นมากครั้นถึงปีที่สิบห้า นางได้เข้าพิธีเก็บปิ่นพิธีเก็บปิ่นจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ของขวัญย่อมหลั่งไหลมาดังสายน้ำ ส่งเข้ามาไม่ขาดสายซ่งซีซีได้มอบ

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1611

    แสงแดดสาดลงบนกิ่งไม้ ใต้พุ่มใบหนาแน่น เผยให้เห็นขาเล็กๆ คู่หนึ่งแกว่งไปมา ดูแล้วชวนให้รู้สึกสบายใจนักนางมีนามเดิมว่าเซี่ยเจิง ชื่อนี้จารึกอยู่ในหยกพงศ์ต่อมาถูกเปลี่ยนเป็นชื่อเล่นว่าจิ้งเหยียนว่ากันว่าเพราะมารดาของนางรังเกียจที่นางพูดมาก จึงตั้งชื่อนี้เพื่อกดทับให้นางสงบลงเซี่ยเจิงเองเห็นว่าตั้งชื่อนี้ก็เปล่าประโยชน์ อีกทั้งฟังดูไม่น่าฟัง จิ้งเหยียนก็คือการเงียบงัน เช่นนั้นแล้วนางมีปากไว้ทำไม หากไม่ได้พูด เอาแต่กินหรือ?เช่นนั้นไม่ต้องกินจนอ้วนกลมไปหรอกหรือ?“ท่านหญิงของข้า ท่านอยู่ที่นี่เอง หาเสียจนข้าเหนื่อย” เป่าจูเงยหน้าขึ้นจากใต้ต้นไม้ ทั้งโกรธทั้งขบขัน “รีบลงมาเถิด ท่านอ๋องกับพระชายากำลังตามหาท่านอยู่”“ท่านอาเป่าจู พวกเขาเรียกหาข้าด้วยเรื่องอันใดกัน?” เสียงใสๆ ดังลงมาจากบนต้นไม้ แฝงด้วยความสบายใจและอิ่มหนำ“พระชายาจะไปภูเขาเหม่ยชาน บอกว่าจะพาท่านไปด้วย ท่านอยากไปหรือไม่?” เป่าจูเอ่ยเซี่ยเจิงได้ยินดังนั้น ก็รีบลื่นไถลลงจากลำต้นไม้ สองข้างไหล่มีเจ้าสุนัขจิ้งจอกสีขาวสองตัวเกาะอยู่ นางยิ้มดีใจกล่าวว่า “จริงหรือ? เช่นนั้นรีบไปเถิด”สองสุนัขจิ้งจอกนั้น ตัวหนึ่งชื่อเซวียนเช

  • สตรีขี่ม้าออกศึก   บทที่ 1610

    เพียงแต่ ข้าก็รู้ดีว่าในใจของซ่งซีซีไม่ได้มีเสด็จน้อง นางเลือกแต่งกับเสด็จน้อง ก็เพียงเพราะไม่อยากเข้าวังถวายงานแม้นไม่ใช่สามีภรรยาที่จิตใจเป็นหนึ่งเดียว เช่นนั้นข้าจึงแต่งตั้งซ่งซีซีเป็นแม่ทัพใหญ่กองทัพซวนเจีย ให้รับผิดชอบดูแลกองทัพซวนเจียแทนในสายตาของผู้อื่น กองทัพซวนเจียยังคงอยู่ในมือของสามีภรรยาคู่นี้ ข้าไม่ได้ตัดอำนาจของเสด็จน้องเพิ่มเติมเมื่อมองในขณะนั้นแล้ว นับเป็นความคิดที่แยบยลอย่างยิ่งแต่ข้ากลับไม่คาดคิดว่าสามีภรรยาจะไม่ใช่คู่ที่ใจไม่ตรงกันเสมอไป เมื่อนานวันเข้าย่อมเกิดความรักใคร่ อีกทั้งผลประโยชน์ก็เป็นหนึ่งเดียวกันข้าไม่รู้เลย เพราะข้ากับฮองเฮาแต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ได้ใจตรงกัน ข้าเองก็ไม่เคยไตร่ตรองเรื่องของสามีภรรยาแต่โชคดีที่ แม้ว่าพวกเขาสองสามีภรรยาจะรักใคร่กันภายหลัง แต่ก็ไม่เคยเกิดความทะเยอทะยานที่คิดจะชิงอำนาจเป็นข้าที่ระแวงเกินไปเดิมที ข้าเห็นว่าซ่งซีซีแม้จะมีวรยุทธ์สูงส่ง แต่การบัญชาการกองทัพซวนเจียย่อมลำบาก อีกทั้งมีผู้ไม่ยอมรับนางมากมาย ข้าคิดว่านางอาจถอดใจในสามหรือห้าเดือน เช่นนั้นข้าก็จะหาคนใหม่มาแทนที่แต่ไม่คาดเลยว่า เหล่าทหารหัวแข็งในกองทัพซวนเจี

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status