Share

บทที่ 1190

Penulis: จันทร์กระจ่างภูผา
เจ้ากรมอาญายิ้มเล็กน้อย “หากองค์หญิงใหญ่มีเรื่องใดให้ใช้งาน ขอให้สั่งมาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ ขึ้นภูเขามีด ลงทะเลเพลิง กระหม่อมไม่มีวันปฏิเสธ”

องค์หญิงใหญ่พูดเสียงเรียบ “อย่าได้เอ่ยกับผู้ใดเรื่องที่ได้พบกันในวันนี้ เจ้าไม่เคยพบข้า เจ้าเข้าใจหรือไม่?”

เจ้ากรมอาญาลุกขึ้นประกบมือ “กระหม่อมเข้าใจ”

หลังมองส่งเจ้ากรมอาญาจากไปแล้ว

องค์หญิงใหญ่ยกมุมปากยิ้มเย็น “หลี่หลงหลิน ครั้งนี้น่ากลัวว่าเจ้าจะต้องจบสิ้นแล้ว!”

“คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าเองก็มีวันนี้ เดิมทีวางแผนกำจัดองค์ชายสามเองกับมือ บัดนี้ปัญหาข้าลดลงไปแล้ว ไม่จำเป็นต้องลงมือด้วยตนเอง ช่างเป็นเรื่องที่ได้มาโดยไม่ต้องลงทุนลงแรงโดยแท้!”

แปะแปะ!

องค์หญิงใหญ่ปรบมือ จู่ๆ นินจาคนหนึ่งก็ปรากฎตัวออกมาต่อหน้านางอย่างกะทันหัน ท่าทางอ่อนน้อมถ่อมตน “องค์หญิง มีเรื่องใดต้องการสั่ง”

องค์หญิงใหญ่พูดเสียงเคร่งขรึม “ออกเดินทางกลับวัง”

ในสายตาองค์หญิงใหญ่ ความตายขององค์ชายสามเป็นโอกาสหาได้ยากยิ่งอย่างหนึ่ง

แม้ว่าเรื่องนี้ยังไม่เห็นผล แต่ตนจะต้องชิงโอกาสลงมือก่อน

จะต้องรีบรายงานเรื่องนี้ให้ฮองเฮาหลู่รู้

......

ตำหนักเย็น

ฮองเฮาหลู่นั่งภายในตำหนัก ตำหนักขน
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci

Bab terkait

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1191

    “สืบความจริงเรื่องนี้หรือยัง?”“ท่านเจ้ากรมได้ยินจากปากหลี่หลงหลินเอง เรื่องนี้ย่อมไม่ใช่เรื่องเท็จ”องค์หญิงใหญ่เห็นใบหน้าเย็นชาดุจน้ำแข็งของฮองเฮาหลู่ยิ้มแย้มเย็นเยียบขึ้นมา“ตายอย่างไร?”แววตาของฮองเฮาหลู่สั่นระริกแม้ปกติฮองเฮาหลู่จะดูแลเพียงฝ่ายใน แต่ก็มีหูมีตาอันเฉียบแหลมต่อสถานการณ์ในราชสำนักการสิ้นพระชนม์ขององค์ชายสาม แม้จะเหนือความคาดหมาย แต่ก็อยู่ในแผนการเช่นกันหากเป็นจริงดังว่า นางก็สามารถเดินหมากตากต่อไปได้องค์หญิงใหญ่ส่ายหน้า “สาเหตุที่แท้จริงยังสืบไม่แน่ชัด แต่หลังจากเมื่อวาน เป็นหลี่หลงหลินที่พาตัวองค์ชายสามหลี่เฟิงอวิ๋นไปจากตำหนักเฟิ่งชี หลังจากนั้นก็ไม่มีผู้ใดพบเห็นองค์ชายสามอีกเลย” “ดี ดีมาก!”“คาดไม่ถึงว่าเจ้าเด็กหลี่หลงหลินผู้นี้จะเหี้ยมหาญถึงเพียงนี้ ลงมือกำจัดองค์ชายสามโดยตรงเสียได้”องค์หญิงใหญ่กล่าวเสียงเข้ม “เสด็จแม่ เช่นนั้นเราจะดึงกำลังหนุนจากซีเหลียงมาต่อกรกับหลี่หลงหลินได้อย่างไร ในเมื่อตอนนี้ซีเหลียงไร้ผู้นำ เหล่าแม่ทัพคงไม่ยอมฟังคำสั่งจากสตรีเช่นข้าเป็นแน่”ฮองเฮาหลู่ทอดพระเนตรองค์หญิงใหญ่อย่างมีความหมายลึกซึ้ง ส่ายหน้ากล่าวว่า “ไม่! ที่ต้

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1192

    ค่ายทหารซีเหลียงด้านนอกกระโจมทหาร แสงคบเพลิงวูบไหวราตรีล่วงลึกเหล่าทหารต่างเข้าสู่นิทรา เหลือเพียงกองลาดตระเวนกลุ่มเล็กๆ เดินตรวจตราไปตามแนวค่าย เพื่อป้องกันข้าศึกจู่โจมยามค่ำคืนแม้ทัพซีเหลียงจะเพิ่งบดขยี้ทัพชนเผ่าป่าเถื่อนทางตอนเหนือ จนแตกพ่ายยับเยิน ต้องหนีกระเซอะกระเซิงไปก็ตาม ทว่ายิ่งอยู่ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ ยิ่งมิอาจประมาทแม้เพียงน้อยนิดกุก กุก...พิราบสื่อสารตัวหนึ่งบินเข้าไปในค่ายทหาร ลงเกาะบนยอดกระโจมหลังหนึ่งมือใหญ่หยาบกร้านข้างหนึ่งปลดกระบอกสาส์นลับออก จากนั้นจึงรีบรุดไปยังกระโจมของรองแม่ทัพทันทีรองแม่ทัพโจวทงคือแม่ทัพคู่ใจคนสำคัญภายใต้บัญชาของซีเหลียงอ๋องหลี่เฟิงอวิ๋น ครั้งนี้ที่ซีเหลียงอ๋องเสด็จเข้าเมืองหลวงเพื่อรับพระราชทานรางวัล ก็ได้มอบหมายอำนาจในการดูแลกิจการซีเหลียงให้แก่โจวทง ทรงไว้วางพระทัยในตัวเขาอย่างยิ่งภายในกระโจมของรองแม่ทัพโจวทง สว่างไสวไปด้วยแสงไฟ ราวกับกำลังรอคอยสิ่งใดอยู่ “ท่านรองแม่ทัพ มีสาส์นจากเมืองหลวงขอรับ!”ทหารนายนั้นยื่นสาส์นพิราบส่งให้โจวทงเขาเหลือบมองเพียงปราดเดียว ก็โบกมือให้ทหารคนอื่นๆ ที่ไม่เกี่ยวข้องออกไปก่อนในไ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1193

    วาจาเพียงไม่กี่คำ ก็สามารถตัดสินความเป็นความตายของคนผู้หนึ่งได้แม้ฮ่องเต้หวู่จะทรงกุมอำนาจสูงสุด แต่ก็ทรงถูกเหล่าขุนนางกังฉินในราชสำนักใช้เป็นหอกดาบโจวทงกุมกระบี่ประจำกายไว้แน่น กล่าวเสียงเย็นชา “แม้ข้าจะไม่ถนัดการใช้คารม แต่กระบี่ยาวเล่มนี้อยู่ในมือข้า ข้าจะเข้าเมืองหลวงไปสังหารเจ้าพวกกังฉินนั่น! ใช้เลือดสดๆ ของพวกมันเซ่นไหว้ดวงวิญญาณท่านอ๋อง!”ความเยือกเย็นของโจวทง บ่งบอกว่าเขาได้ครุ่นคิดมานานแล้ว มิใช่คำพูดที่พลั้งปากออกมาด้วยอารมณ์ชั่ววูบแววตาของหวังหมิงเต็มไปด้วยความตกตะลึง “ท่านแม่ทัพโจว ท่านเสียสติไปแล้วหรือ! รู้หรือไม่ว่านี่ต้องโทษสถานใด?”“การก่อกบฏเคลื่อนทัพ มีโทษถึงประหารเก้าชั่วโคตรนะ!”โจวทงแค่นเสียงเย็นชา “ก่อกบฏรึ?”“ข้าเพียงกำจัดขุนนางชั่ว ชำระสะสางข้างฮ่องเต้!”“จะปล่อยให้ฝ่าบาททรงถูกปิดหูปิดตาต่อไปมิได้! ข้าจะทำให้พระองค์ทรงตาสว่าง มองเห็นว่าต้าเซี่ยที่แท้จริงเป็นเช่นไร!”กล่าวจบ โจวทงก็กระชับกระบี่แน่น เดินออกไปนอกกระโจม เตรียมเคลื่อนพลเข้าเมืองหลวงทันที!หวังหมิงรีบเข้ามาขวางหน้าโจวทง “ไม่ได้เด็ดขาด! ท่านแม่ทัพโจว! อย่าได้วู่วามเป็นอันขาด!”“หากท่านเคล

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1194

    “ประหารขุนนางกังฉิน ชำระล้างข้างพระองค์!”“ประหารขุนนางกังฉิน ชำระล้างข้างพระองค์!”“...”ซีเหลียงอ๋องเป็นที่รักและเคารพอย่างยิ่งในหมู่ทหารเหล่าทหารจึงขานรับอย่างพร้อมเพรียงทันที!เหล่าทหารหรือจะทนให้ขุนนางกังฉินในราชสำนักทำร้ายแม่ทัพผู้ภักดีเยี่ยงนี้ได้?ทหารยอมตายได้ แต่ไม่อาจถูกหยาม!สุดสายตาของโจวทง ล้วนเป็นเหล่าทหารผู้เปี่ยมด้วยเลือดร้อนแห่งวัยหนุ่มบัดนี้ กองทัพซีเหลียงย่อมต้องฟังคำบัญชาเคลื่อนพลจากเขาอยู่แล้วเพียงมีเหตุผลอันชอบธรรม เหล่าทหารย่อมไม่สงสัยว่าเขามีใจคิดกบฏโจวทงอยู่ในชุดขาวไว้ทุกข์ ราวกับกำลังสวมผ้าป่านแสดงความกตัญญูเขายกชามสุราโลหิตขึ้นเหนือศีรษะ จ้องมองท้องฟ้ายามราตรีที่มืดมิดดุจผืนน้ำ กล่าวด้วยเสียงเคร่งขรึม “ท่านอ๋อง หากดวงวิญญาณท่านรับรู้ได้บนสวรรค์ โปรดอภัยให้ความหุนหันพลันแล่นของข้าน้อยด้วย!”“หากมิอาจล้างแค้นทวงคืนความยุติธรรมให้ท่านอ๋องได้ ข้าน้อยก็ไม่มีหน้าไปพบท่านในปรโลก!”“วันนี้ ข้าน้อยจะนำเหล่าทหาร บุกเข้าเมืองหลวงกำจัดขุนนางกังฉิน แม้ต้องลุยน้ำลุยไฟเพื่อท่านอ๋อง ก็หาได้ลังเลไม่!”“ขอท่านอ๋องโปรดพักผ่อนอย่างสงบ ณ ปรโลกด้วยเถิด!”กล่าว

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1195

    “เจ้ารวบรวมทหารในกองทัพด้วยเหตุใด!”“หรือว่าเจ้าคิดจะก่อกบฏกันแน่!”หลี่เฟิงอวิ๋นเหงื่อผุดซึมเรื่องราวเป็นไปดังที่หลี่หลงหลินกล่าวไว้จริงๆข่าวการตายของตนเองหากแพร่กลับไปถึงซีเหลียง จะต้องทำให้เกิดการกบฏในกองทัพอย่างแน่นอน!ยังดีที่หลี่หลงหลินคาดการณ์แม่นยำราวเทพยดา มิฉะนั้นจะต้องก่อให้เกิดภัยพิบัติใหญ่หลวงเป็นแน่!ตนเองส่งข่าวสารด่วนแปดร้อยลี้ เดินทางทั้งวันทั้งคืน ม้าเร็วชั้นดีต้องเหนื่อยตายไปถึงสามตัว กว่าจะตามมาทันได้อย่างหวุดหวิดเพียงพอที่จะเห็นได้ว่าสถานการณ์เร่งด่วนเพียงใด!หลี่เฟิงอวิ๋นตวาดสั่ง “ทหาร! ยึดกระบี่ประจำตัวของเขามา!”บัดนี้ แม้แต่รองแม่ทัพที่ตนไว้วางใจที่สุดก็ยังมีใจคิดกบฏหลี่เฟิงอวิ๋นไม่กล้าลังเลแม้แต่น้อยต้องแสดงอำนาจเด็ดขาดปานสายฟ้าฟาด มิฉะนั้นเกรงว่าจะมีคนฉวยโอกาสก่อความวุ่นวายขึ้นอีก!ทหารสองสามนายก้าวไปข้างหน้า จับกุมตัวโจวทงไว้จากนั้นก็ปลดกระบี่ประจำตัวของเขาออกแม้โจวทงจะไม่เต็มใจอย่างยิ่งแต่บัดนี้ตัวคนเดียว คิดจะต่อกรกับกองทัพใหญ่ซีเหลียงทั้งหมด ก็เหมือนเอาไข่ไปกระทบหิน ไม่ประมาณตน!โจวทงกล่าวเสียงสั่นเครือ “ท่านอ๋อง ข้าน้อยถูกใส่ร้าย

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1196

    “ตอนนี้เสนาธิการทัพหวังอยู่ที่ใด!”หลี่เฟิงอวิ๋นเป็นห่วงสถานการณ์ของหวังหมิงอย่างยิ่งแผนการล่อลวงคนป่าเถื่อนทางตอนเหนือเข้าสู่กับดัก แล้วทำลายล้างเสียให้สิ้นในคราวเดียว ล้วนเป็นกลอุบายของหวังหมิง!ชัยชนะอันยิ่งใหญ่ของซีเหลียงครั้งนี้ ความดีความชอบของหวังหมิงมิอาจลบเลือนได้!บัดนี้ รางวัลที่ตนเคยรับปากหวังหมิงไว้ก็ยังไม่ได้มอบให้ แต่เขากลับตกอยู่ในสภาวะเป็นตายเท่ากันเสียแล้ว!ทหารผู้ส่งข่าวประสานมือคำนับกล่าวว่า “เรียนท่านแม่ทัพใหญ่ ตอนนี้เสนาธิการถูกส่งตัวไปรักษาแล้ว สถานการณ์โดยละเอียดข้าน้อยก็ไม่ค่อยทราบชัดเจนขอรับ”“พบเขาในกระโจมทหารหลังใด!”แม้ในใจหลี่เฟิงอวิ๋นจะคาดเดาได้แล้ว แต่เขายึดถือหลักฐานก่อนที่หลักฐานจะชัดเจน จะไม่ด่วนสรุปอย่างเด็ดขาด!ทหารผู้นั้นมองโจวทงที่คุกเข่าอยู่บนพื้นเช่นกัน โกรธแต่ไม่กล้าพูด หลี่เฟิงอวิ๋นตวาด “อย่างไร! หรือเจ้ายังกลัวว่าข้าอยู่ในกองทัพนี้แล้วจะให้ความเป็นธรรมกับเจ้าไม่ได้หรือ?”“พูดมา!”ทหารผู้นั้นพยักหน้า “ข้าพบเสนาธิการหวังในกระโจมของแม่ทัพโจวขอรับ ยังดีที่ไปทัน ร่างกายยังพอมีไออุ่นหลงเหลืออยู่บ้าง”หลี่เฟิงอวิ๋นถลึงตามองโจวทงแว

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1197

    หลี่เฟิงอวิ๋นกล่าวเสียงกร้าว “ตัดหัวเขา ส่งม้าเร็วแปดร้อยลี้ไปยังเมืองหลวง ส่งไปยังจวนองค์รัชทายาททันที!”“ขอรับ!”หลี่เฟิงอวิ๋นขมวดคิ้วเล็กน้อยในฐานะบุคคลที่อยู่ใจกลางวังวนเขาสัมผัสได้แล้วว่า สถานการณ์ที่พลิกผันคาดเดาไม่ได้ในขณะนี้ หากพลาดพลั้งเพียงเล็กน้อย ก็จะถูกดึงเข้าไปสู่หายนะที่มิอาจฟื้นคืนขอเพียงสามารถส่งศีรษะของผู้ก่อกบฏและจดหมายลับที่สมคบกับศัตรูไปถึงมือของหลี่หลงหลินได้คันชั่งสถานการณ์ในราชสำนักจะต้องเอียงมาทางหลี่หลงหลินอย่างแน่นอนสถานการณ์ก็จะยิ่งชัดเจนขึ้นยิ่งไปกว่านั้น อีกไม่กี่วันก็จะเป็นวันอภิเษกสมรสของหลี่หลงหลินแล้วเกรงว่าในราชสำนักคงมีคลื่นใต้น้ำปั่นป่วน เตรียมพร้อมที่จะลงมือกับหลี่หลงหลินได้ทุกเมื่อ!“หวังว่าจดหมายฉบับนี้และศีรษะของผู้ก่อกบฏจะช่วยองค์รัชทายาทได้”หลี่เฟิงอวิ๋นเงยหน้ามองจันทร์ ถอนหายใจยาว “ความสามารถขององค์รัชทายาทเหนือกว่าจินตนาการของข้าไปนานแล้ว ความสำเร็จในภายหน้าจะต้องเหนือกว่าเสด็จพ่ออย่างแน่นอน!”“สามารถขึ้นตรงต่อประมุขผู้ปราดเปรื่องเช่นนี้ ข้าหลี่เฟิงอวิ๋นยอมรับจากใจจริง”...เมืองหลวงกำหนดการอภิเษกสมรสใกล้เข้ามาเรื่

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1198

    เมื่อได้ยินดังนั้น หลิ่วหรูเยียนซึ่งกำลังแต่งหน้าให้ซูเฟิ่งหลิงอยู่ก็ชะงักไปเล็กน้อย“ใช่แล้ว พรุ่งนี้ก็เป็นวันอภิเษกสมรสของน้องเล็กแล้ว...”น้ำเสียงของหลิ่วหรูเยียนแฝงแววเศร้าสร้อยอยู่บ้างซูเฟิ่งหลิงมองผ่านกระจกทองสัมฤทธิ์ เห็นสีหน้ายินดีแต่เดิมของหลิ่วหรูเยียนพลันแข็งค้างบนใบหน้าซูเฟิ่งหลิงวางมือลงบนหลังมือของหลิ่วหรูเยียน “พี่สะใภ้สี่ ท่านไม่ต้องอาลัยอาวรณ์ข้านักหรอกหลังแต่งงานก็แค่ย้ายเข้าไปอยู่ในวัง ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากตระกูลซูเท่าใดนัก ท่านแวะเวียนไปหาข้าที่วังได้เสมอ”หลิ่วหรูเยียนพยักหน้ารับส่วนหนึ่งนางอาลัยอาวรณ์น้องเล็กแต่ส่วนใหญ่คือความอิจฉาเมื่อใดกันที่หลี่หลงหลินจะสามารถตบแต่งตนเองเข้าจวนอย่างถูกต้องตามธรรมเนียมได้?หลิ่วหรูเยียนมองไม่เห็นความหวังหลิ่วหรูเยียนฝืนยิ้มออกมา “ไม่เป็นไรหรอกน้องเล็ก ขอเพียงเจ้ากับองค์รัชทายาทมีความสุข ก็ดีกว่าสิ่งใดแล้ว”ซูเฟิ่งหลิงพยักหน้า ตั้งใจมองดูกระดาษสีแดงในมือที่เขียนไว้แน่นขนัดแผ่นนั้นตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน การแต่งงานล้วนเป็นเรื่องใหญ่ในชีวิตยิ่งไปกว่านั้น คู่หมายของซูเฟิ่งหลิงคือองค์รัชทายาทองค์ปัจจุบัน จึงยิ่งให้ค

Bab terbaru

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1300

    ทุกคนมองไปยังจุดที่หลี่หลงหลินชี้บนแผนที่ สีหน้าล้วนแสดงความลำบากใจ ซูเฟิ่งหลิงเอ่ยเสียงเคร่งขรึม: “องค์รัชทายาท ณ สถานที่แห่งนี้จะสามารถสร้างเมืองใหม่ขึ้นได้จริงหรือเจ้าคะ?” แม้ซูเฟิ่งหลิงจะไม่เข้าใจวิชาการก่อสร้าง แต่นางมีความรู้พื้นฐานอยู่บ้าง บ้านเรือนทั้งหมดในต้าเซี่ยล้วนต้องสร้างห่างจากทะเลและทะเลสาบ มิเช่นนั้นอากาศชื้นที่มาพร้อมกับลมทะเลจะส่งผลกระทบต่อความแข็งแรงของอิฐดินดิบที่ใช้สร้างบ้าน นานวันเข้าบ้านเรือนก็จะพังทลาย กระทั่งไม่มีหนทางซ่อมแซม ทำได้เพียงรื้อทิ้งสร้างใหม่เท่านั้น ดังนั้นแม้เมืองตงไห่จะอยู่ติดทะเล แต่จากประตูเมืองไปจนถึงริมทะเลที่แท้จริงยังต้องเดินทางอีกกว่าสิบลี้ หลี่หลงหลินเอ่ยเสียงเรียบ: “ที่นี่คือทำเลที่มีค่าที่สุดในตงไห่ ตลอดจนทั่วทั้งต้าเซี่ย เพียงหนึ่งเดียว ณ ที่แห่งนี้จะต้องสร้างเมืองขึ้นได้อย่างแน่นอน” ซูเฟิ่งหลิงเอ่ยเสียงเคร่งขรึม: “องค์รัชทายาท ที่นี่อยู่ใกล้ชายทะเลมากเกินไป หากสร้างเมืองใหม่ขึ้นที่นี่ เกรงว่าอีกไม่กี่ปีก็จะถูกลมทะเลกัดเซาะจนกลายเป็นกองซากปรักหักพัง เรื่องนี้มิใช่เรื่องล้อเล่น องค์รัชทายาทโปรดทรงไตร่ตรองให้รอบคอบด้วยเถิด!”

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1299

    “สามารถงอกเงยเป็นเงินได้!” ทุกคนต่างมีสีหน้าตกตะลึงพรึงเพริด ที่ดินที่สามารถงอกเงยเป็นเงินได้นั้น ไม่เคยได้ยินมาก่อน แต่ดูจากท่าทีของหลี่หลงหลินแล้ว ก็ไม่เหมือนกำลังเอ่ยวาจาโอ้อวด หลี่หลงหลินเอ่ยเสียงเรียบ: “ข้าตั้งใจจะสร้างเมืองใหม่ขึ้นที่แถบชายฝั่งทะเล มิเพียงสามารถจัดการให้ผู้อพยพพักพิงอาศัยได้ ยังจะขยายขนาดของสามกิจการใหญ่นั้น ให้ก้าวไปสู่ระดับที่ไม่เคยมีมาก่อน! ที่ดินเช่นนี้ ไม่ว่าจะแห้งแล้งหรืออุดมสมบูรณ์ ย่อมสามารถนำมาซึ่งผลกำไรหลั่งไหลมามิขาดสายได้อย่างแน่นอน!” บนใบหน้าของหลี่หลงหลินเต็มไปด้วยความเชื่อมั่น มั่นใจในแผนการ ท่าทีเปี่ยมด้วยอำนาจบัญชาการ เมื่อได้ฟัง ลั่วอวี้จู๋พลันมีสีหน้าปรากฏแววลังเล: “องค์รัชทายาท ปัจจุบันกิจการนำผลกำไรมาสู่ตระกูลซูในแต่ละปีอย่างมั่นคงและเป็นกอบเป็นกำแล้ว หากผลีผลามโยกย้ายและขยายขนาดกิจการ มิเพียงต้องนำผลกำไรที่ได้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาไปลงทุนทั้งหมด กระทั่งอาจต้องเผชิญกับสภาวะที่รายได้ไม่แน่นอนอีกด้วย...” ลั่วอวี้จู๋ดูแลบัญชีของตระกูลซูทั้งหมดตลอดจนกิจการทั้งหมด ในฐานะผู้ดูแลการคลัง นางย่อมต้องพิจารณาจากมุมมองด้านผลกำไร ไม่ว่าจากด

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1298

    หลี่หลงหลินมองซูเฟิ่งหลิงอย่างระอาใจอยู่บ้าง เอ่ยเสียงเคร่งขรึม: “อ้ายเฟย เจ้าพูดจาเหลวไหลอันใดกัน? เราคือองค์รัชทายาทแห่งต้าเซี่ยผู้สง่างาม หรือจะก่อกบฏต่อตนเองได้อย่างไร?” ซูเฟิ่งหลิงถามอย่างประหลาดใจ: “เช่นนั้นเหตุใดองค์รัชทายาทจึงตรัสว่าเขาทิศประจิมอยู่ใกล้เมืองหลวงเกินไป ทำให้การจัดการบางเรื่องไม่สะดวกเล่าเจ้าคะ?” หลี่หลงหลินส่ายหน้า เอ่ยเสียงเคร่งขรึม: “บัดนี้ไม่ว่าจะเป็นการถลุงโลหะหรือการหล่อโลหะล้วนก่อให้เกิดไอพิษ ก่อให้เกิดมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรงยิ่ง หากตั้งอยู่ที่เขาทิศประจิม ก็มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งที่จะส่งผลกระทบต่อพระวรกายของเสด็จพ่อและเสด็จแม่ อีกทั้งในภายภาคหน้าเมื่อกิจการขยายใหญ่ขึ้น ไอพิษที่เกิดขึ้นก็จะยิ่งมากขึ้น ถึงเวลานั้นเกรงว่าแม้แต่ราษฎรทั่วทั้งเมืองหลวงก็จะได้รับผลกระทบไปด้วย” ซุนชิงไต้พยักหน้า เอ่ยว่า: “ที่องค์รัชทายาทตรัสนั้นมีเหตุผลยิ่งเจ้าค่ะ บัดนี้สภาพแวดล้อมที่เขาทิศประจิมไม่เหมือนแต่ก่อนแล้วจริง ๆ อากาศโดยรอบก็เริ่มมีกลิ่นผิดปกติ กระทั่งมีราษฎรที่เขาทิศประจิมเริ่มมีอาการไอที่ข้าหาสาเหตุมิได้ และจำนวนผู้ป่วยก็ยังคงเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ” หลิ่ว

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1297

    ลั่วอวี้จู๋เอ่ยเสียงเคร่งขรึม: “องค์รัชทายาท พระองค์โปรดไตร่ตรองให้รอบคอบด้วยเถิด บัดนี้ยังกลับคำได้ทัน คำนวณเวลาเดินทางแล้ว ผู้อพยพนับแสนคนนี้เกรงว่ายังมิได้เดินทางออกจากเขตเมืองหลวง ยังสามารถให้พวกเขากลับไปยังค่ายผู้ลี้ภัยได้ หากมาถึงตงไห่แล้ว ย่อมสิ้นหนทางแก้ไข! หากที่ตงไห่มิอาจจัดการผู้อพยพนับแสนคนนี้ได้อย่างเหมาะสม เกรงว่าผลลัพธ์ร้ายแรงที่ตามมาจะยากเกินกว่าจะคาดคะเนได้!” หลี่หลงหลินเอ่ยเสียงเรียบ: “มิต้อง เพียงผู้อพยพแสนคน ข้ายังเห็นว่าน้อยไปด้วยซ้ำ” “เห็นว่าน้อยไปรึ?” เหล่าพี่สะใภ้ยืนนิ่งอึ้งอยู่กับที่ อ้าปากค้าง ในแววตาเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ ซูเฟิ่งหลิงเอ่ย: “องค์รัชทายาท ผู้อพยพนับแสนคนนี้เกือบจะเท่ากับจำนวนประชากรของเมืองตงไห่แล้ว เมืองตงไห่เล็กแค่นี้ จะรองรับผู้คนมากมายถึงเพียงนี้ได้อย่างไร?” ลั่วอวี้จู๋พยักหน้า แล้วเอ่ยเสริม: “ใช่แล้วเจ้าคะ องค์รัชทายาท ยังมิต้องเอ่ยถึงค่ากินอยู่ใช้สอยของผู้อพยพนับแสนคน เพียงแค่เรื่องที่พักอาศัยก็เพียงพอให้ปวดหัวแล้ว คงมิอาจให้พวกเขาไปอาศัยอยู่ตามท้องถนนได้หรอกกระมัง? ถึงเวลานั้นเกรงว่าเมืองตงไห่คงจะวุ่นวายเหมือนจับปูใส่กระด้ง ไม

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1296

    ณ จวนอ๋องตงไห่ นกพิราบสื่อสารตัวหนึ่งกางปีกบินมา เกาะลงบนบ่าของซูเฟิ่งหลิงซูเฟิ่งหลิงชะงักไปเล็กน้อย สีหน้าสงสัยเคลือบแคลง: “ยามนี้มิมีการศึก เหตุใดจึงมีนกพิราบส่งสาส์นมา?” นางปลดกระบอกสาส์นจากขานกพิราบด้วยความสงสัย ทันใดนั้นก็พลันตกใจจนหน้าซีดเผือด “อะไรนะ!” ลั่วอวี้จู๋ที่อยู่ข้างกายนางเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ: “น้องหญิง เกิดเรื่องอันใดขึ้น?” ซูเฟิ่งหลิงยื่นสาส์นให้ลั่วอวี้จู๋ เอ่ยว่า: “พี่สะใภ้ เป็นสาส์นจากหนิงชิงโหวที่เมืองหลวง ในสาส์นเอ่ยว่า บัดนี้ฝ่าบาททรงอนุญาตตามคำขอขององค์รัชทายาทแล้ว มีพระบัญชาให้ผู้อพยพนับแสนคนเดินทางมายังตงไห่ทันที” ลั่วอวี้จู๋อ่านสาส์นจบก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย: “องค์รัชทายาทเหตุใดจึงทรงทำตามอำเภอใจเช่นนี้? บัดนี้ราษฎรตงไห่เพิ่งจะพอมีพอกินประทังชีวิต องค์รัชทายาทกลับทูลขอผู้อพยพจากฝ่าบาทอีกนับแสนคน? ยังมิต้องพูดถึงว่าผู้อพยพเหล่านี้ต้องบุกป่าฝ่าดงข้ามน้ำข้ามเขามายังตงไห่ หนทางยาวไกล เมื่อมาถึงตงไห่แล้ว พวกเขาจะกินอะไร ดื่มอะไร?” ซูเฟิ่งหลิงเอ่ยเสียงเคร่งขรึม: “พี่สะใภ้ ตอนนี้พวกเราไปหาองค์รัชทายาทที่ห้องหนังสือกันเถิด ดูว่าพระองค์ทรงมีแผนการเช่นไ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1295

    ภายในค่ายผู้ลี้ภัยมีเสียงด่าทอดังกึกก้องสะท้านโสต! เหล่าขุนนางส่งเสียงอื้ออึง “อะไรนะ?” “เหตุใดผู้อพยพพวกนี้จึงยินยอมไปตงไห่?” “พระราชโองการยังมาไม่ถึงมิใช่หรือ?” เหล่าขุนนางมองหน้ากันเลิ่กลั่ก งุนงงสงสัยยิ่งนัก “พระราชโองการมาถึงแล้ว!” เสียงกังวานดังก้องอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัย เหล่าผู้อพยพต่างมีสีหน้าตกตะลึงงัน “พระราชโองการ!” “ฝ่าบาททรงระลึกถึงพวกเราแล้ว รีบคุกเข่าลงเร็ว!” “...” ผู้อพยพนับแสนต่างค้อมกายลงคุกเข่า หมอบกราบถวายความเคารพอย่างสูง เว่ยซวินถือพระราชโองการ เดินผ่านเหล่าขุนนางไป มิได้สนใจแม้แต่น้อย มุ่งตรงไปยังค่ายผู้ลี้ภัย คลี่พระราชโองการออกช้า ๆ: “สนองโองการสวรรค์ ฝ่าบาทมีราชโองการดังนี้ ปัจจุบันผู้อพยพในเมืองหลวงอดอยากปากแห้ง มีผู้คนล้มตายเพราะความอดอยากเกลื่อนกลาด เป็นความทุกข์ร้อนในใจของข้า บัดนี้ตงไห่มีทรัพยากรอุดมสมบูรณ์ สามารถแก้ไขความเดือดร้อนเร่งด่วนของราษฎรได้ จึงมีบัญชาให้ผู้อพยพทั้งหนึ่งแสนคนในเมืองหลวง เดินทางไปยังตงไห่พร้อมกัน ชักช้ามิได้แม้เพียงครู่ยาม ห้ามผู้ใดขัดขวางโดยเด็ดขาด!” “จงปฏิบัติตามนี้!” สายตาของเว่ยซวินจับจ้องไปยังเหล่าเ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1294

    ภายในค่ายผู้ลี้ภัยเนืองแน่นไปด้วยผู้คน แต่ละคนล้วนสวมใส่เสื้อผ้าขาดรุ่งริ่ง ต่างมองตาละห้อยมายังหนิงชิงโหว เสียงเด็กร้องไห้งอแงดังแว่วอยู่ข้างหู สภาพแวดล้อมในค่ายผู้ลี้ภัยยามนี้เลวร้ายอย่างยิ่ง ไม่มีขุนนางผู้ใดยินดีเข้ามารับผิดชอบ น้ำเน่าไหลนองไปทั่ว อากาศค่อย ๆ อุ่นขึ้น เริ่มมีแมลงวันแมลงหวี่แพร่พันธุ์ หนิงชิงโหวสูดลมหายใจลึก เอ่ยเสียงเคร่งขรึม: “บัดนี้เบื้องหน้าพวกท่านมีเพียงหนทางรอดเดียว ฉวยโอกาสที่อากาศยังมิได้ร้อนอบอ้าว รีบเดินทางไปยังตงไห่เพื่อพึ่งพิงองค์รัชทายาททันที เมื่อถึงตงไห่ องค์รัชทายาทย่อมไม่ทรงทำให้พวกท่านลำบากเป็นแน่ มิเช่นนั้นหากยังคงอยู่ในเมืองหลวงต่อไป ก็มีแต่ทางตายสถานเดียว!” หนิงชิงโหวสีหน้าเคร่งขรึม ผู้อพยพเบื้องหน้ามืดฟ้ามัวดิน มองไปสุดลูกหูลูกตา มิอาจเห็นจุดสิ้นสุดได้เลย นี่จะต้องมีผู้อพยพมากมายเพียงใดกัน และมีครอบครัวที่เคยสมบูรณ์พูนสุขสักกี่ครอบครัวกันเล่า? เพียงเพราะภัยสงคราม จึงต้องตกอยู่ในสภาพพลัดพรากไร้ที่อยู่อาศัย หนิงชิงโหวตวาดเสียงดัง: “ผู้ใดเชื่อมั่นในองค์รัชทายาท ผู้นั้นรอด! ผู้ใดกังขาในองค์รัชทายาท ผู้นั้นตาย!” แม้สุ้มเสียงของหนิงชิงโหวจ

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1293

    หนิงชิงโหวในชุดบัณฑิตผู้นี้ดึงดูดความสงสัยใคร่รู้ของเหล่าผู้อพยพได้ในที่สุด พวกเขาต่างพากันเดินเข้ามาหา ในไม่ช้า รอบกายของหนิงชิงโหวก็เนืองแน่นไปด้วยผู้คนมากมายมหาศาลในสายตาของผู้อพยพ หนิงชิงโหวในชุดบัณฑิตปรากฏตัวที่นี่ ย่อมต้องเป็นผู้รับคำสั่งราชสำนักมาแจกจ่ายสิ่งของบรรเทาทุกข์แก่ผู้ประสบภัยเป็นแน่ เหล่าผู้อพยพต่างหยิบชามกระเบื้องในมือขึ้นมา วิงวอนขอเสบียงอาหารจากหนิงชิงโหว ทันใดนั้น หนิงชิงโหวกลับรู้สึกว่าตนเองช่างต่ำต้อยถึงเพียงนี้ แม้นได้อ่านตำราปราชญ์จนเจนจบ แต่ก็มิอาจหาหนทางแก้ไขปัญหาในความเป็นจริงจากในตำราเหล่านั้นได้ บัดนี้ราษฎรผู้ทุกข์ยากอยู่เบื้องหน้า แต่เขากลับจนปัญญา ไร้ความสามารถจะช่วยเหลือ จำนวนผู้อพยพเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ สถานการณ์เริ่มจะวุ่นวาย กระทั่งมีผู้อพยพจำนวนไม่น้อยเริ่มดึงทึ้งชายเสื้อของหนิงชิงโหว แต่หนิงชิงโหวก็มิได้หวั่นไหว ในแววตาของเขามีเพียงราษฎรผู้ทุกข์ยากเหล่านี้ นี่คือเขตเมืองหลวง ใต้พระบาทโอรสสวรรค์แท้ ๆ ในต้าเซี่ยอันกว้างใหญ่ไพศาลนี้ ยังมีราษฎรเช่นนี้อีกเท่าใดกัน เขาเองก็ยากจะจินตนาการได้ พลันเกิดเพลิงแห่งความมุ่งมั่นลุกโชนขึ้นในใจของหนิงชิง

  • องค์ชายอ่อนหัด หวนคืนชะตากลับมาแก้แค้น   บทที่ 1292

    “ให้ผู้อพยพหนึ่งแสนคนไปตงไห่รึ?” เหล่าขุนนางต่างส่งเสียงฮือฮา ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่ออย่างยิ่ง เจ้ากรมคลังเอ่ยเสียงเคร่งขรึม: “เว่ยกงกง สถานการณ์ที่ตงไห่ในยามนี้ หรือฝ่าบาทจะยังไม่ทรงทราบ? ราษฎรที่ตงไห่ต่างร้องทุกข์กันระงม หากส่งผู้อพยพหนึ่งแสนคนนี้ไปยังตงไห่ แล้วจะต่างอันใดกับการผลักไสพวกเขาให้ลงไปในหลุมไฟเล่า?” “ยิ่งไปกว่านั้น จลาจลของราษฎรที่ตงไห่ยังมิได้สงบลง หากส่งผู้อพยพอีกหนึ่งแสนคนนี้ไปอีก มิใช่เป็นการส่งเสริมให้คนชั่วเหิมเกริม เป็นการขุดหลุมฝังตนเองหรอกหรือ?” เหล่าขุนนางในราชสำนักล้วนตื่นตระหนก หรือว่าฝ่าบาทจะทรงเลอะเลือนไปแล้วจริง ๆ? การจัดการกับผู้อพยพเช่นนี้ถือเป็นหนทางที่เลวร้ายที่สุด มีแต่จะทำให้สถานการณ์ในราชสำนักยิ่งปั่นป่วนวุ่นวาย เจ้ากรมกลาโหมก้าวออกมายืนขวางหน้าเว่ยซวิน: “เว่ยกงกง หากในใจข้ายังพอมีมโนธรรมหลงเหลืออยู่ ยังคงห่วงใยทุกข์สุขของราษฎร และยังถือว่าพอจะมีกึ๋นอยู่บ้าง ข้าย่อมไม่ไปประกาศพระราชโองการเช่นนี้ของฝ่าบาทเป็นแน่!” ทันใดนั้น เพลิงโทสะในใจของเว่ยซวินก็ลุกโชนขึ้น ในฐานะขันทีในวัง สิ่งที่ชิงชังที่สุดคือการถูกผู้อื่นขุดคุ้ยปมด้อยของตน!

Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status