“ปีศาจ? มีเพียงวิชาต้องห้ามโบราณเท่านั้นถึงจะอัญเชิญสิ่งชั่วร้ายแบบนี้ออกมาได้? เยวี่ยจื่อหลิงเจ้ากล้าใช้วิชาต้องห้ามที่ขัดต่อกฎสวรรค์หรือ? เจ้ามันเป็นนังแพศยาสารเลว!”เยวี่ยจื่อชิงปรี่เข้ามาทำร้ายข้าด้วยท่าทางคลุ้มคลั่ง ดวงตาของนางแดงก่ำเหมือนถูกจิตมารครอบงำข้าใช้เลือดสาบาน โครงกระดูกขยับมาขวางตรงหน้าข้า แล้วฟาดเยวี่ยจื่อชิงลอยออกไปไกลสิบกว่าเมตรเมื่อเห็นการต่อสู้ตรงหน้า บิดาที่คุกเข่าอยู่กับพื้นก็ไม่กล้าแหงนหน้าขึ้นมา ข้าจึงคลี่ยิ้มแปลกประหลาดข้าใช้ปลายกระบี่เชยคางของเขาขึ้นมา จ้องมองดวงตาที่หวาดผวาของเขาแน่นิ่ง“ท่านพ่อ นางมีสิทธิ์อะไรมาต่อว่าข้ากันนะ? ชีวิตของนางก็อยู่รอดมาได้เพราะวิชาต้องห้ามโบราณไม่ใช่หรือไง”เขาส่ายหน้าอย่างหวาดกลัว เอ่ยขอโทษข้าด้วยเสียงตะกุกตะกัก“จื่อหลิงเจ้าพูดเรื่องอะไรกัน พ่อยอมรับว่าที่ผ่านมาลำเอียงเข้าข้างน้องสาวของเจ้าเล็กน้อย แต่ข้าจะไปใช้วิชาลับต้องห้ามได้อย่างไร?”ข้าฟันแขนของเขาจนขาดกระเด็นโดยไม่กระพริบตา มองเขาล้มลงไปดิ้นพล่านกับพื้นด้วยความเจ็บ“ท่านบอกว่าลำเอียงเล็กน้อยงั้นหรือ สังหารมารดาของข้าเพื่อเมียน้อยที่ท่านเลี้ยงดูเอาไว้ข้างนอก
เยวี่ยจื่อชิงเห็นท่าทางสบายอกสบายใจของข้า ก็เดือดดาลจนกัดฟันกรอดๆนางมองสำรวจรอบตัวข้าด้วยความหวาดระแวงรอบหนึ่ง ก่อนจะหันไปส่งสายตาให้บิดาที่อยู่ด้านหลัง พร้อมกับคลี่ยิ้มมีเลศนัย“พี่สาว ท่านนี่ไม่เห็นโรงศพไม่หลั่งน้ำตาจริงๆ นะ วันนี้ข้าจะเปิดโปงท่านต่อหน้าทุกคนเอง!”นางกล่าวจบก็หยดเลือดจากปลายนิ้วลงบนก้อนหิน“สัตว์วิญญาณระดับสูงสุด ได้โปรดแสดงอภินิหารอันยิ่งใหญ่ ผสานรวมกับข้าด้วยเถิด!”สิ้นเสียงของนาง นกกระเรียนจำนวนหนึ่งก็บินผ่านท้องฟ้า เมฆที่ขอบฟ้าปรากฏระลอกคลื่นสีแดง“ดีมาก นี่เป็นนิมิตหมายมงคล ข้าตัดสินใจแล้ว! ตำแหน่งปุโรหิตหญิงยกให้ชิงชิงเป็นผู้สืบทอด!”พอบิดาเป็นนิมิตประหลาดบนท้องฟ้า ก็ปรบมือหัวเราะลั่นด้วยความดีใจ ประกาศคำสั่งออกมาทันใดผู้คนที่ได้ยินแบบนั้น ก็พากันหันไปคุกเข่าก้มศีรษะให้เยวี่ยจื่อชิงอย่างพร้อมเพรียง“คารวะปุโรหิตหญิงคนแรกของเผ่ามังกร——”ข้ายืนนิ่งอยู่ท่ามกลางฝูงชน ไม่คิดปิดบังความเย็นชาในดวงตาอีกต่อไป สายตาจ้องตรงไปทางเยวี่ยจื่อชิงนางถูกสายตาของข้าทำให้ตกใจจนเผลอก้าวถอยหลัง จากนั้นก็ยกมือชี้หน้าข้าด้วยท่าทางดุร้าย“เยวี่ยจื่อหลิง เจ้าไม่ได้ยินหรือ
วันต่อมา ข้าไปที่ลานทำพิธีของเผ่ามังกรตามที่สัญญาไว้ในสถานที่แห่งนั้นมีธิดามังกรมารวมตัวกันจำนวนมาก ทุกคนต่างเฝ้ารอให้สัตว์วิญญาณระดับสูงสุดปรากฏกาย“เจ้าว่าพวกเขาสองคนพี่น้อง ใครจะได้รับเลือกเป็นปุโรหิตหญิง?”“ต้องเป็นชิงชิงอยู่แล้ว! นางฝึกฝนสัตว์วิญญาณสีม่วงได้ นั่นเป็นระดับสูงสุดเลยนะ ใครยังจะเหนือกว่านางได้?”“เจ้าตกข่าวเกินไปแล้ว พี่สาวจอมขี้ขลาดของนางหวาดกลัวจนขอถอนตัวออกจากการแข่งขันไปตั้งแต่เมื่อวานแล้ว ตำแหน่งปุโรหิตหญิงต้องเป็นของชิงชิงแน่นอน”“ชิงชิงเก่งกาจมากจริงๆ สมแล้วที่เป็นแบบอย่างของเผ่ามังกร”ถึงแม้ยามนี้ผู้คนทั้งหลายจะชื่นชมยกย่องเยวี่ยจื่อชิงแค่ไหน นางกลับไม่แสดงสีหน้ายินดีปรีดาแม้แต่น้อยหากสังเกตดูดีๆ จะเห็นว่านางหวาดกลัวถึงขั้นตัวสั่นด้วยซ้ำ ขนาดริมฝีปากยังซีดขาวเลยทุกคนรบเร้าให้นางรีบใช้พลังจิตประสานกับสัตว์วิญญาณ แต่เยวี่ยจื่อชิงเพียงแค่กำก้อนหินในมือเอาไว้แน่นนางรู้ดีกว่าใคร ว่าก้อนหินในมือนางไม่มีทางเชื่อฟังคำสั่งนับตั้งแต่ข้าปิดด่านและตัดสินใจล้มเลิกการฝึกสัตว์วิญญาณ ก้อนหินในมือของนางก็กลายเป็นของไร้ประโยชน์แล้วเพื่อทำลายบรรยากาศที่หนักอึ้ง
ทั้งที่เป็นตอนเที่ยงซึ่งแดดแรงจัด แต่ข้ากลับรู้สึกหนาวเหน็บไปถึงขั้วหัวใจร่างกายของข้ากำลังสั่นเทิ้ม กระทั่งจะหายใจยังยากลำบากต่อให้จะขโมยสัตว์วิญญาณของข้าไป แต่ลำพังความสามารถของเยวี่ยจื่อชิงไม่มีทางทำได้แน่เรื่องทั้งหมดนี้ทำให้ข้าสับสนจนคิดไม่ตกตอนนั้นเอง เยวี่ยจื่อชิงก็สังเกตเห็นข้า นางจึงส่งยิ้มมีเลศนัยแปลกมาทางข้า“พี่สาว ไม่พบกันนานนะ พรุ่งนี้ก็เป็นวันเลือกปุโรหิตหญิงแล้ว สัตว์วิญญาณของท่านฝึกฝนไปถึงไหนแล้วล่ะ?”นางขยับเข้ามาใกล้ข้าอย่างอวดดี เอ่ยด้วยน้ำเสียงชั่วร้าย“ต่อให้สัตว์วิญญาณเกิดสติปัญญาแล้ว แต่ความพยายามของเจ้าก็สูญเปล่าอยู่ดี เพราะว่าน้องสาวคนนี้ฝึกฝนสัตว์วิญญาณสีม่วงได้แล้ว”“สัตว์วิญญาณที่แข็งแกร่งสุดในใต้หล้าอยู่ในมือของข้า ตำแหน่งปุโรหิตหญิงก็ต้องเป็นของข้าเช่นกัน! เจ้าถูกกำหนดมาให้ด้อยกว่าข้าเสมอ!”นางคล้ายกำลังมองสัตว์เดรัจฉานตัวหนึ่ง ใช้มือตบแก้มข้าเบาๆ อย่างดูแคลน ก่อนจะสะบัดแขนเสื้อเดินจากไปความเดือดดาลของข้าพุ่งสูงเทียมฟ้าอย่างฉับพลัน ข้าแผดเสียงลั่นถามนาง“เจ้าใช้วิชาชั่วร้ายแบบไหนกันแน่ เจ้ากล้าดีอย่างไรถึงขโมย...”ทว่าข้ายังไม่ทันพูดจบประ
เขาก้าวออกมาข้างหน้าแล้วตบหน้าข้าอย่างไม่ออมแรง“เจ้าคิดว่าข้าไม่ได้ยิน เรื่องที่เจ้ากล่าวหาว่าชิงชิงขโมยสัตว์วิญญาณของเจ้าไปหรือไง?”“เจ้าเป็นลูกสาวของปุโรหิตแท้ๆ แต่กลับกล้าพูดโกหกพกลม ใส่ร้ายน้องสาวแท้ๆ! เจ้าทำให้ข้าผิดหวังจริงๆ!”“วันนี้เจ้าไม่ต้องเข้าร่วมงานพระราชสมภพของราชามังกรแล้ว กลับไปเก็บตัวทบทวนความผิดซะ หากยังไม่สำนึกอีก แม้แต่ตำแหน่งเจ้าสำนักเจ้าก็อย่าหวังจะได้เป็น!”ภายในหนึ่งวันนั้น มีข่าวลือแพร่ไปทั่วเผ่ามังกรพวกนางบอกว่าพลังฝึกปรือทั้งหมดที่ข้าบำเพ็ญอย่างยากลำบากล้วนใช้ทางลัด หากพิจารณากันจริงๆ แล้วเยวี่ยจื่อชิงมีพรสวรรค์มากกว่ายังไม่ทันฝึกฝนสัตว์วิญญาณได้ พวกนางก็มั่นใจแล้วว่าเยวี่ยจื่อชิงจะได้เป็นปุโรหิตหญิงคนถัดไป ธิดามังกรแต่ละคนต่างพยายามจะเอาอกเอาใจนางข้ามองสมุนไพรที่อยู่บนโต๊ะด้วยสีหน้าเฉยเมย จมดิ่งสู่ภวังค์ความคิด“เจ้าบอกข้าได้ไหมว่าเยวี่ยจื่อชิงใช้วิธีการแบบไหนกันแน่ ถึงสามารถสับเปลี่ยนสัตว์วิญญาณของข้าได้?”ข้าคิดแล้วคิดอีก ก่อนจะแหงนหน้าหัวเราะลั่น“ตำแหน่งปุโรหิตหญิงเป็นของเจ้างั้นหรือ? ข้าไม่ยอมให้เป็นแบบนั้นหรอก!”ข้าปาดน้ำตาที่รินไหลออกมา
ฉันไม่เชื่อหรอกว่าใต้หล้าจะมีเรื่องบังเอิญถึงเพียงนี้อย่าบอกนะว่าบิดาแอบส่งสายลับมาไว้ข้างกายข้า ข้อมูลรั่วไหลออกไปแล้ว?ความอัดอั้นตันใจทั้งหมดระเบิดออกมาอย่างสิ้นเชิง ข้าก้าวฉับๆ ตรงไปข้างหน้า แล้วดึงชายแขนเสื้อธิดามังกรคนนั้นไว้“เจ้าว่าอะไรนะ? เยวี่ยจื่อชิงฝึกฝนสมุนไพรจนเกิดสติปัญญาหรือ?”ธิดามังกรคนนั้นยังไม่ทันจะได้ตอบ เยวี่ยจื่อชิงที่มีผู้คนห้อมล้อมทั้งหน้าหลัง ก็หยิบสมุนไพรวิเศษออกมาพร้อมรอยยิ้ม“ถูกต้อง ยังไม่ได้บอกเรื่องน่ายินดีกับพี่สาวเลย ตอนนี้ท่านพูดอะไรออกมา สมุนไพรของข้าก็ฟังรู้เรื่องหมดแล้ว”ข้ายื่นมือออกไปตรงหน้าสมุนไพรต้นนั้น ใบอ่อนของมันก็ยื่นมาพันรอบนิ้วของข้าด้วยความผูกพันทันทีข้าเบิกตาโพลงด้วยความตกใจ จากนั้นก็ปล่อยพลังจิตออกไปหยั่งเชิง สมุนไพรต้นนั้นก็แผ่รัศมีที่ข้าคุ้นเคยมากที่สุดออกมามันคือสัตว์วิญญาณที่ข้าใช้จิตวิญญาณของตัวเองบ่มเพาะเลี้ยงดู!“มันคือสมุนไพรของข้า!”กล่าวจบ ข้าก็ปลดปล่อยพลังจิตออกไป มองเห็นสมุนไพรในมือเยวี่ยจื่อชิงทำท่าจะบินตรงมาทางข้าข้าทนไม่ไหวอีกต่อไป เตรียมจะยื่นมือออกไปคว้าไว้เยวี่ยจื่อชิงที่หูตามือไวรีบปัดมือของข้าอย่างร