ปึก!"โอ๊ย!" ลิตาเสียงหลงออกมาด้วยความเจ็บปวด เมื่อเขากระแทกแก่นกายใหญ่เข้ามาจนสุดความยาวของมันอย่างดิบเถื่อน แม้จะมีน้ำหวานใสเป็นตัวเบิกทาง แต่ทว่าขนาดแก่นกายที่ใหญ่เกินมาตรฐานทำให้ร่างกายของเธอยังคงไม่คุ้นชิน"จะ...เจ็บ อึก~""เอาท่ายากกันบ่อยๆ เดี๋ยวก็ชินเอง"ปึก! ปึก! ปึก! ปึก!เสียงแก่นกายกระแทกช่องทางรักของลิตาอย่างหยาบโลนดังไปทั่วห้องน้ำหญิง ฝ่ามือหนาที่สอดใต้ขาพับข้างนึงก็แบะขาของหญิงสาวออกให้กว้างกว่าเดิม ส่วนมืออีกข้างก็โอบเอวเธอไว้แน่น จนเนื้อด้านในสีแดงสดปลิ้นเข้าออกตามแรงกระแทกที่แสนดุดัน"อื้อ...เจ็บ" ดวงตากลมเหลือบมองไปที่ประตูห้องน้ำด้วยความหวาดระแวง กลัวว่าเสียงเริงรักระหว่างเธอและแม็กเครย์จะดังเล็ดลอดออกไปจนลูกน้องของเขาได้ยิน เธอจิกปลายเรียวเล็บลงบนแผ่นหลังกว้างในตอนที่เขาขบเม้มอกอวบทั้งสองข้างจนเป็นรอยสีแดงจ้ำแทบไม่เหลือพื้นที่ว่าง เธอเผลอแอ่นอกให้เขาปรนเปรอโดยไม่รู้ตัว"หึ...แอ่นอกขนาดนี้ ชอบสินะที่ดูดนมให้" แหงนมองใบหน้าหวานที่กำลังเหยเกด้วยรอยยิ้มร้ายกาจ ก่อนจะกระแทกแก่นกายใหญ่ใส่ร่องสวาทอย่างไม่ยั้งเอวสอบ ปากหยักยังคงดูดเต้าอวบด้วยความกระหายจ๊วบๆปึกๆๆๆ"อื้อ.
ด้านลิตาเมื่อดื่มกับเพื่อนๆ และน้องรหัสมาสักพักหญิงสาวจึงเดินไปเข้าห้องน้ำด้วยตัวเอง ถึงแม้ตองเจและเพื่อนสาวทั้งสองจะอาสาตามมาด้วยแต่เธอยืนยันว่ายังมีสติสัมปชัญญะครบถ้วน สามารถไปห้องน้ำเองได้"ไม่มีคนเลยแหะ" เมื่อเดินเข้ามาในโซนห้องน้ำผู้หญิงของชั้นสองที่เงียบสงัดผิดหูผิดตา แต่เธอก็รีบเข้าไปปลดทุกข์แล้วปิดประตูลงกลอนโดยไม่ลังเลแกร็ก!"...เฮือก~" ทันทีเปิดประตูออกมาจากห้องน้ำ ริมฝีปากอวบอิ่มอ้าค้างด้วยความตกใจ เมื่อเธอเห็นแม็กเครย์ยืนไขว้ขาพิงเคาน์เตอร์ล้างมือ ใบหน้าหล่อเหลาแหงนพ่นควันบุหรี่สีขาวคละคลุ้งในอากาศ เธอได้แต่เงียบแล้วรีบเดินไปที่อ่างล้างมืออีกฝั่งที่ว่างอยู่พรึบ!"โอ๊ย...นี่เจ็บนะ " เขาคว้าข้อมือของลิตาแล้วออกแรงกระชากอย่างแรงจนทำเอาเธอแทบล้มลงบนพื้น"หึ...ไม่คิดจะทักทายกันหน่อยรึไง เห็นฉันยืนหัวโด่อยู่น่ะฮะ" จบประโยคเขาโยนบุหรี่ลงพื้นก่อนจะใช้รองเท้าหนังสีดำมีราคาเหยียบมันจนดับ"...สวัสดีค่ะ ท่านประธาน" เธอถอนหายใจด้วยความระอาก่อนจะเปล่งวาจาทักทายชายหนุ่มไปตามมารยาทพร้อมกับกระชับกระเป๋าสะพายคล้องไหล่ หลังจากนั้นก็รีบหมุนตัวหมายจะตรงไปที่ประตู ซึ่งมีชายฉกรรจ์กำลังไล่ลูกค้
@คลับออนิกซ์ในค่ำคืนที่ต่างคนต่างออกมาสังสรรค์พบปะเพื่อนฝูงเพื่อคลายความเหนื่อยล้าจากช่วงเวลากลางวัน ท่ามกลางเสียงดังกระหึ่มปนเสียงตะโกนของหนุ่มสาวหลายร้อยชีวิตในสถานบันเทิงช่วงเวลาเกือบห้าทุ่มของชั้นล่างซึ่งถูกออกแบบให้เหมือนผับส่วนชั้นสองก็มีทั้งโซนวีไอพีสไตล์ไนท์คลับสีฉูดฉาดโดยมีพื้นที่สำหรับแดนซ์และบูธดีเจรวมไปถึงเลาจน์ห้องส่วนตัวและชั้นบนถัดไปก็มีห้องพักสำหรับค้างคืนสองขาเรียวบนรองเท้าส้นสูงสองนิ้ว เจ้าของร่างอรชรภายใต้ชุดเดรสสายเดี่ยวสีครีมน่าทะนุถนอมก็เดินกรีดกรายตามหลังเพื่อนสาวคนสนิททั้งสองขึ้นไปยังชั้นสองของคลับ"คนเยอะชะมัด" ลิตาพึมพำด้วยรู้สึกกังวลบอกไม่ถูก ไอเย็นตกกระทบบนผิวเนียนจนรู้สึกหนาวเย็น ทั้งที่พึ่งหายป่วยไข้ แต่กลับมาเที่ยวในสถานที่อโคจรแบบนี้ ไม่รู้เธอคิดผิดหรือคิดถูกกันแน่"พี่ลิตา พี่บะหมี่ พี่น้ำอิงทางนี้ครับ" เสียงของตองเจตะโกนเรียกสามสาวแข่งกับเสียงเพลง พร้อมกับยกฝ่ามือหนากวักเรียกเป็นเชิงให้สัญญาณท่ามกลางแสงไฟมืดสลัว"ทำไมเลือกโซนนี่ล่ะ" เมื่อเดินมาถึงที่หมาย ลิตากวาดสายตามองไปรอบๆ ก่อนจะวางกระเป๋าสะพายข้างใบเล็กลงโต๊ะข้างแก้วเปล่า ซึ่งไม่ต่างกับบะหมี่แล
"จะ...เจ็บ ฉันไม่ค่อยสบายอยู่นะคะ" สองมือเล็กของเธอรีบแกะฝ่ามือหนาที่ปลายคางให้คลายออก"หึ...ฉันให้เวลาเธอพักผ่อนแค่สองวันปาลิตา ยาของเธออยู่ที่หัวเตียง แล้วฉันจะต้องเห็นเธอกลับมาทำงานที่บริษัทของฉัน" แม็กเครย์ถอนฝ่ามือออกจากใบหน้าหวานของลิตาก่อนจะออกคำสั่งตามอำเภอใจ"ฮะ?""ไสหัวไปได้แล้ว แล้วอย่าปล่อยให้ตัวเองท้องนะ เพราะฉันไม่รับผิดชอบ เข็มทิศ มึงไปส่งเด็กนี่ที "จบประโยคคำสั่งเอาแต่ใจตัวเอง เขาก้าวขายาวกลับไปที่ห้องทำงานและทิ้งให้เด็กสาวที่กำลังป่วยไข้มองตามมาด้วยความมึนงง"เหอะ ใครจะอยากไปท้องกับคนใจร้ายกันเล่า เผด็จการชะมัด~ " หลังจากนั้นลิตาก็เดินลากสังขารเข้าไปหยิบกระเป๋าสะพายส่วนตัว โดยมีบัตรประจำตัวพนักงานของโรงแรมแอมมิวตันวางอยู่ใกล้ๆ รวมไปถึงถุงสีขาวที่มีซองยาจิปาถะตามคำสั่งของแม็กเครย์โดยไม่อิดออด เธอกดอ่านข้อความในมือถือ ก็พบข้อความจากเจ๊น้ำส่งมา"เป็นไงบ้าง คนของคุณแม็กเครย์มาบอกว่า ลิตาเป็นคนของเขา แล้วห้ามไม่ให้ลิตาให้มาทำงานกับเจ๊อีก อ่านข้อความแล้วตอบกลับเจ๊หน่อยนะ"เธอเกาหัว...แกร็กๆ พลางกลอกตาไปมา แล้วจึงส่งข้อความตอบกลับไป เวลาผ่านไปครู่หนึ่งจึงเดินออกมาที่โถงทางเ
"มึงไปเอาเอกสารทั้งหมดที่กูต้องเซ็นมาที่นี่ วันนี้กูไม่เข้าบริษัท" แม็กเครย์เดินออกมานอกห้องแล้วหันไปสั่งการกับลูกน้องคนเดิม"ได้ครับนาย"ภายในห้องทำงานที่รายล้อมไปด้วยหนังสือหลายร้อยเล่มซึ่งจัดวางไว้เป็นระเบียบบนชั้นวางหนังสือ แม็กเครย์นั่งเซ็นเอกสารและตรวจแฟ้มงานที่กองไว้บนโต๊ะ เขาสะดุดกับเอกสารชุดหนึ่งแล้วอารมณ์เดือดดาลก็คุกรุ่นขึ้นทันทีใจความสำคัญของกระดาษแผ่นนี้คือ ทางคณะของมหาวิทยาลัยที่ปาลิตาเรียนอยู่ ขอยกเลิกฝึกงาน เนื่องจากเด็กสาวมีความประสงค์จะไปฝึกงานที่อื่นใกล้ๆ หอพัก และให้นักศึกษาคนอื่นมาฝึกงานที่นั่นแทนแม็กเครย์จึงขยำกระดาษแผ่นดังกล่าวทิ้งลงที่พื้นเพื่อระบายอารมณ์ เด็กนั้นกล้าดียังไง ถึงได้ปฏิเสธที่จะฝึกงานกับโรงแรมห้าดาวหรูหราใจกลางเมืองที่มีเงินเดือนให้อย่างโรงแรมแอมมิวตันก๊อก ก๊อก"ขออนุญาตครับ นาย""เข้ามา" เขาละสายตาจากเอกสารแล้วเงยหน้าให้คำตอบมือขวาคนสนิทที่กำลังเดินเข้ามาในห้องทำงาน"นายครับ HR แจ้งมาว่า เรื่องขอยกเลิกการฝึกงานของปาลิตา ไม่ทราบว่านายจะอนุมัติหรือไม่ครับ พอดีทางมหา'ลัยติดต่อมาต้องการทราบผลภายในวันนี้ครับ เพราะมันมีผลต่อชั่วโมงฝึกงาน" ประโยคยืดย
"ไปดีลงาน แต่เจ้าพ่อรถตักดินดันไปลากเด็กในคลับมาแทน?"เสียงของออนิกซ์โพล่งขึ้นเป็นเชิงเหน็บแนมทันทีที่เห็นพี่แม็กเครย์เดินเข้ามาด้านในของห้องรับรองที่พวกเขาในกลุ่มมักจะมารวมตัวกันเพื่อคุยเรื่องธุรกิจสีเทาหรือสังสรรค์บ้างในบางครั้ง ไม่ก็ไปที่คลับของเขาแทน ส่วนฉายา "เจ้าพ่อรถตักดิน" เป็นคำที่เพื่อนๆ ตั้งไว้เรียกแม็กเครย์โดยเฉพาะ สืบเนื่องจากชื่อของเจ้าตัวดันไปใกล้เคียงกับคำว่าแม็กโคร"มึงหงุดหงิดเรื่องอะไร หรือเป็นเพราะกูโทรไปขัดจังหวะมึงบนรถ?" เป็นลาร์คินที่ตั้งข้อสังเกต เพราะโดยปกติเท่าที่เขาเห็น แม็กเครย์ไม่เคยมีเรื่องหัวเสียขนาดนี้มาก่อน มาเฟียใบหน้าเย็นชาเป็นนักแก้ปัญหาที่เก่งกาจ ขนาดถูกลูกน้องหักหลัง แต่แม็กเครย์ก็ไม่เคยไม่แสดงท่าทีเกรี้ยวกราดให้ได้เห็น ยิ่งเรื่องผู้หญิงความเป็นไปได้แทบเป็นศูนย์"เด็กมันคงพยศแหละมั้ง เจ้าพ่อรถตักดินลูกรังถึงได้อารมณ์เสียเอา" ไทเลอร์พูดแทรกขึ้นพลางหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาแกว่งเบาๆ ก่อนจะกระดกของเหลวสีแดงเข้มเข้าปากในพรวดเดียว"ถ้าพวกมึงตามกูมาแค่ต้องการกวนตีนใส่กู งั้นกูจะกลับ" แม็กเครย์รีบตัดบทสนทนาก่อนจะเดินไปนั่งที่โซฟาซึ่งว่างอยู่ โดยไม่ได้รู้ตัวเลยว