ระหว่างทางกวินขับรถอย่างอารมณ์ดี พร้อมกับมีพิพลอยที่วิดีโอคอลกันอยู่ตลอด
หญิงสาวมองชายหนุ่มที่อยู่ในหน้าจออย่างตั้งใจและเป็นห่วงในเวลาเดียวกัน เธอมองเขาแทบไม่ละสายตาเลยก็ว่าได้
ส่วนเสือร้ายก็คิดและวางแผนในหัวเอาไว้ ถ้าไปถึงห้องเขาจะต้องเริ่มจากตรงไหนและทำอะไรก่อนดี ยังไงวันนี้เขาก็ไม่มีทางปล่อยเหยื่อให้หลุดมือไป และคงได้จัดหนักจัดเต็มอย่างสมใจแน่นอน
(พี่ถึงแล้วนะครับ กำลังจะขึ้นไป) ไม่ว่าจะถึงไหน หรือว่าทำอะไรกวินก็จะบอกหญิงสาวที่อยู่ในสายเสมอ
พิพลอยลุกขึ้นยืนและเดินมารอเปิดประตูให้ชายหนุ่ม หัวใจดวงน้อยเต้นรัวทุกวินาที ไม่รู้ว่าทำไมเธอใจอ่อนและยอมให้กวินมานอนที่ห้องได้
นี่เป็นครั้งแรกที่เธออนุญาตให้แฟนมานอนด้วย และเป็นครั้งแรกที่เธอจะได้อยู่ใกล้ผู้ชายแบบสองต่อสองนานๆ หลายชั่วโมงในห้องนอน ทำเอาร่างสวยเกิดอาการประหม่าทำตัวไม่ถูกขึ้นมาทันที
ก๊อก!! ก๊อก!!
เสียงเคาะประตูหน้าห้องดังขึ้นซึ่งเรียกสติพิพลอยได้เป็นอย่างดี
(ถึงหน้าห้องแล้วครับ) กวินเอ่ยบอกพร้อมรอยยิ้มก่อนจะวางสายไป
หญิงสาวยืนนิ่งสูดลมหายใจเข้าออกเพื่อเรียกสติตัวเองที่หลุดลอยไปให้กลับมา มือบางยกขึ้นมาแนบอกด้วยความตื่นเต้น
เมื่อประตูเปิดออกใบหน้าสวยก็เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ชายหนุ่มอยู่ในชุดเสื้อยืดพร้อมนอนที่มาพร้อมกระเป๋าเล็กๆ เพียงหนึ่งใบ
บรรยากาศภายในห้องถูกปกคลุมไปด้วยความเงียบ เจ้าของห้องก็ทำตัวไม่ถูก ไม่รู้จะนั่งตรงไหน จะอยู่ตรงไหนดี
“หนูง่วงยังครับ” กวินวางกระเป๋าไว้ที่โซฟาแล้วเอ่ยถามเจ้าของห้อง
“ยังค่ะ” พิพลอยตอบพร้อมกับส่ายหน้าไปมา
“งั้นเราดูหนังกันไหม วันนั้นยังดูไม่จบเลย” เสือร้ายวางแผนมาเป็นอย่างดี ถ้าไม่รู้จะเริ่มยังไงก็แค่ชวนนอนดูหนังด้วยกัน เดี๋ยวทุกอย่างก็เป็นไปตามแผน
“ดูตรงไหนดีคะ” หญิงสาวที่ไร้เดียงสาถามออกมาด้วยความใสซื่อ
“บนเตียงก็ได้ครับ เผื่อหนูง่วงจะได้นอนเลย” ก็บอกแล้วว่าเสือร้ายวางแผนมาเป็นอย่างดี
ร่างบางขึ้นไปนอนบนเตียงอย่างว่าง่าย ตามด้วยกวินที่ตามไปนอนอยู่ข้างๆ ทำเอาหัวใจดวงน้อยสั่นไหวทุกวินาที
เครื่องปรับอากาศเย็นๆ ทำให้พิพลอยต้องสอดตัวเข้าไปอยู่ใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ ห้องนอนที่อยู่สบายและคุ้นเคย ตอนนี้ทำเอาหญิงสาวไม่กล้าแม้แต่จะขยับตัวไปไหน
กวินเปิดหนังที่ดูค้างไว้ในโทรศัพท์ แต่พอนอนดูหนังด้วยกันสักพักแจ้งเตือนในไลน์ก็ดังขึ้นมาไม่หยุด
“พี่วินตอบแชทก่อนก็ได้ค่ะ” พิพลอยบอกชายหนุ่มตามมารยาท
“ครับ”
LINE
D-day : มึงอยู่ไหน
D-day : ออกมาที่ผับด่วน!!
D-day : กำลังสนุกเลย สาวๆ ก็เยอะ
กวินอ่านข้อความด้วยท่าทางสุดเซ็ง ก่อนจะหันไปมองพิพลอยที่นอนอยู่ในอ้อมแขน
“พี่วินอยากไปไหมคะ” พิพลอยถามเสียงเบา เมื่อรู้ตัวแล้วว่าชายหนุ่มกำลังใช้สายตาขอคำตอบจากเธอ
“แล้วหนูอยากให้พี่ไปไหม” กวินมองใบหน้าสวยก่อนจะเอ่ยถามออกมาราวกับเป็นการขออนุญาต
“ไม่ค่ะ” ร่างบางในอ้อมแขนตอบออกมาตามตรง ยิ่งเธอได้อยู่ใกล้เขาความอบอุ่นก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้น และเธอก็อยากจะอยู่แบบนี้กับเขาไปนานๆ
GAVIN : กูไม่ว่าง
ชายหนุ่มรีบส่งข้อความปฏิเสธเพื่อน แต่เมื่อเพื่อนได้อ่านก็รีบโทรวิดีโอคอลหากวินทันที
“อะไรของมึง” กวินกดรับแล้วถามคนในสายด้วยท่าทางหงุดหงิด
(กูแค่จะชวนมึงมาเที่ยว) ดีเดย์ไม่พูดเปล่า หันกล้องให้กวินได้ดูบรรยากาศภายในผับที่มีสาวๆ สวยๆ เยอะแยะเต็มไปหมด
“กูไม่ไป” กวินปฏิเสธเสียงแข็ง
(มึงอยู่กับใครวะ ทำไมน่ารักจังเลย) เพื่อนถามขึ้นด้วยความสงสัยเมื่อเห็นว่ามีผู้หญิงอยู่ข้างๆ กวิน
พิพลอยที่ได้ยินคำชมจากเพื่อนของแฟนหนุ่มก็ถึงกับทำตัวไม่ถูกรีบมุดหน้าเข้าผ้าห่มด้วยความเขินอายทันที
“กูอยู่กับแฟน แล้วก็ห้ามส่งอะไรมากวนตีนกูอีกนะ” กวินพูดเสียงแข็ง
(มึงมีแฟนตั้งแต่เมื่อไหร่วะ) เพื่อนยังคงแกล้งถามต่อ และไม่ยอมวางสายง่ายๆ
“กูจะไล่มึงออกจากกลุ่ม ข้อหาทำให้แฟนกูเขิน” ชายหนุ่มคาดโทษเพื่อนเอาไว้ก่อนจะกดวางสายไปอย่างไร้เยื่อใย
เมื่อวางสายไปแล้วกวินก็สอดตัวเข้าไปใต้ผ้าห่มผืนใหญ่ มือหนาลูบไล้เรือนร่างขาวเนียน ความเนียนนุ่มทำให้กวินอดใจแทบไม่ไหว
“หนูอยากเล่นผีผ้าห่มเหรอ” น้ำเสียงแหบพล่านเอ่ยถามหญิงสาวที่อยู่ใต้ผ้าห่ม
“ไม่ใช่ค่ะ” คนตัวเล็กปฏิเสธแต่ก็ยังไม่ยอมออกจากใต้ผ้าห่ม
“แล้วหนูเป็นอะไร” กวินยังคงถามต่อมือหนาก็ยังคงลูบไล้และสัมผัสเรือนร่างเนียนนุ่ม
“หนูอายค่ะ” พิพลอยตอบเสียงเบาด้วยความเขินอาย
“อายที่เป็นแฟนกับพี่เหรอ” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ แล้วออกจากผ้าห่มมาเปิดดูหนังต่อ
ทว่าความจริงแล้วมันเป็นเพียงแค่แผนของเสือร้ายที่แกล้งงอน หวังจะให้พิพลอยเป็นฝ่ายง้อต่างหาก คิดจะเป็นเสือก็ต้องมีแผนเยอะๆ หน่อย เหยื่อจะได้ตายใจ
เมื่อได้ยินน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปพิพลอยก็รีบดันตัวออกจากผ้าห่ม แล้วมองชายหนุ่มที่กำลังนอนหันหลังให้เธออยู่
‘งอนจริงเหรอเนี่ย’ คำถามนี้ยังคงดังก้องอยู่ในหัวของหญิงสาว ก่อนจะคิดหาวิธีง้อผู้ชายในเวลาต่อมา
“หนูขอโทษนะคะ หนูไม่ได้คิดแบบนั้นจริงๆ” พิพลอยกอดกวินเอาไว้หลวมๆ ก่อนจะขอโทษที่เธอเป็นฝ่ายทำให้เขาเข้าใจผิดคิดไปแบบนั้น
“เรานอนกันเถอะ” กวินเปลี่ยนเรื่องด้วยน้ำเสียงที่เปลี่ยนไปจนหญิงสาวรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ
“ไม่ดูหนังต่อเหรอคะ” พิพลอยรีบพูดเรื่องหนังขึ้นมาอ้าง เผื่อว่าชายหนุ่มจะเปลี่ยนใจดูหนังกับเธอต่อ
“พี่ง่วงแล้ว”
ประโยคสุดท้ายก่อนที่กวินจะวางโทรศัพท์เอาไว้ข้างเตียงนอน มือหนากำลังจะเอื้อมไปปิดไฟที่หัวเตียง แต่ก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเขานึกขึ้นได้ว่าพิพลอยกลัวผีและเธอไม่ชอบปิดไฟนอน
ร่างหนาทิ้งตัวลงนอนที่เดิม พร้อมกับนอนหันหลังให้กับเจ้าของห้อง ไหนๆ ก็แกล้งงอนแล้ว ก็ต้องแกล้งให้สุด ยังไงเธอก็ต้องเป็นฝ่ายง้อเขาอยู่ดี
..
อิพี่กวินนี่ก็แผนเยอะเกิน
แบบนี้น้องจะรอดหรือเปล่าเนี่ย!!
หนึ่งเดือนต่อมากวินเริ่มอาการดีขึ้นทุกวัน แผลที่เคยเจ็บก็เริ่มหายเหลือเพียงรอยแผลเป็นที่ยังคงอยู่วันนี้เป็นวันที่พิพลอยจะเดินทางไปเรียนต่อที่ต่างประเทศตอนแรกกวินตั้งใจที่จะไปพร้อมเธอ แต่เอกสารบางอย่างของเขายังไม่เรียบร้อย การเดินทางของเขาจึงต้องเลื่อนออกไปชายหนุ่มกับครอบครัวมายืนรอพิพลอยที่สนามบินเพื่อรอเวลาที่เธอและครอบครัวจะมาถึง ทุกคนตั้งใจที่จะมาส่งเธอในการเดินทางครั้งนี้“นั่นไง หนูพลอยมานู้นแล้ว” คุณแม่ของกวินทักขึ้นเมื่อเห็นหญิงสาวและครอบครัวกำลังเดินมากวินตั้งใจที่จะใช้โอกาสนี้ขอโทษและขอขมาครอบครัวของพิพลอยที่เขาเคยทำไม่ดีและคำเธอเสียใจมาก่อนทันทีที่ครอบครัวของพิพลอยเดินเข้ามา ร่างสูงก็นั่งคุกเข่าลงกลางสนามบินที่มีผู้คนมากมายต่างจ้องมองมาที่พวกเขามือหนาพนมมือขึ้นไหว้ก่อนจะก้มลงกราบขอโทษคุณพ่อกับคุณแม่ของหญิงสาวที่เขาเคยทำไม่ดีกับเธอจนทำให้ครอบครัวของเธอไม่ชอบเขา“ผมขอโทษสำหรับทุกอย่างนะครับ” กวินพูดเข้าเรื่องทันที“ผมขอโทษที่เคยทำให้พิพลอยต้องเสียใจและตอนนี้ผมก็รู้แล้วว่าผมรักพิพลอยมาก ผมอยากจะขอโอกาสดูแลพิพลอยครับ” มือหนายังคงไหว้เพื่อขอโอกาสจากครอบครัวของพิพลอย“มั่นใจ
สามวันต่อมาพิพลอยมาอยู่ดูแลกวินทุกวันถึงแม้ว่าจะมีพยาบาลพิเศษที่จ้างมาดูแลอยู่แล้วก็ตาม เธอก็ยังอยากจะดูแลเขาให้ดีที่สุดเท่าที่เธอจะทำได้ถึงแม้ว่าเวลาจะล่วงเลยมาถึงสองวันแล้ว แต่กวินก็ยังคงนอนนิ่งและไม่มีท่าทีว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาเลยสักนิดพิพลอยทำได้เพียงไหว้พระขอพรและภาวนาขอให้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ช่วยให้กวินฟื้นขึ้นมา โชคดีที่คุณพ่อกับคุณแม่อนุญาตให้เธออยู่ดูแลชายหนุ่มจนกว่าเขาจะฟื้นและอาการดีขึ้น โดยมีข้อแม้ว่าถ้าหากเขาฟื้นขึ้นมาเธอจะต้องไปเรียนต่อต่างประเทศทันทีหญิงสาวจับมือชายหนุ่มมากุมเอาไว้อย่างอ่อนโยน ความรักและความเป็นห่วงที่เธอมีให้เขามันมากมายอย่างที่เธอไม่เคยมอบให้ใครมาก่อนแววตาที่เต็มไปด้วยความเศร้ามองชายหนุ่มที่นอนนิ่งอยู่บนเตียง แต่เธอก็ยังมีความหวังว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาอาการของกวินตอนนี้ยังคงทรงตัวไม่ได้มีอาการอะไรแทรกซ้อน ร่างกายไม่ได้แย่ลงแต่ก็ยังไม่ดีขึ้นทางคุณหมอก็ยังให้คำตอบไม่ได้เลยว่าเขาจะฟื้นขึ้นมาตอนไหน บางอย่างอาจจะต้องใช้เวลาและปาฏิหาริย์เข้าช่วย“ขอบใจหนูพลอยมากนะที่มาดูแลตาวินทุกวันเลย” คุณแม่ของกวินรักและเอ็นดูพิพลอยตั้งแค่ครั้งแรกที่เจอเธอ“ไม่เป็นไรค่ะ หนูเต
ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนที่พิพลอยนอนอยู่บนเตียงกว้าง เพราะก่อนที่เพชรจะออกไปเขาได้อุ้มน้องสาวไปส่งที่ห้องนอนของเธอก่อนแล้วคุณแม่คอยดูแลพิพลอยอยู่ไม่ห่างด้วยความเป็นห่วงที่อยู่ๆ ลูกสาวก็เป็นลมไปแบบนี้ ทั้งที่เธอก็แข็งแรงและไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนผ่านไปสักพักมือบางก็ค่อยๆ ขยับและลืมตาตื่นขึ้นมามองเห็นคุณแม่นั่งอยู่ไม่ไกลพร้อมรอยยิ้มที่กำลังมองมาที่เธอ“หนูฟื้นแล้วเหรอลูก” คุณแม่ถามด้วยความเป็นห่วงปนดีใจที่ลูกสาวฟื้นขึ้นมาสักทีพิพลอยนั่งนิ่งและตั้งสติอยู่สักพัก ในหัวกำลังประมวลภาพเหตุการณ์และเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้นก่อนหน้าร่างบางไม่ตอบคุณแม่แต่อย่างใด ใบหน้าสวยแสดงออกถึงท่าทางตกใจ เธอรีบลุกขึ้นยืนและตั้งท่าจะเดินออกจากห้องไปทันที โชคดีที่คุณแม่คว้ามือลูกสาวเอาไว้ทัน“หนูจะไปไหน” คุณแม่ถามด้วยความสงสัยทันทีที่เห็นท่าทางของลูกสาว“หนูจะออกไปช่วยพี่วินค่ะ” พิพลอยตอบไปตามตรงและตอนนี้เธอก็เป็นห่วงเขามาก เธอไม่รู้เลยว่าเธอเป็นลมไปนานแค่ไหนและตอนนี้ชายหนุ่มจะเป็นยังไงบ้าง“คุณพ่อกับตาเพชรออกไปจัดการให้แล้ว หนูรอฟังข่าวอยู่ที่บ้านกับแม่นะ” คุณแม่จับมือลูกสาวเอาไว้แน่น“หนูขอออกไปได้ไหม
หลายวันต่อมาถึงกวินสัญญาว่าจะตามพิพลอยไป แต่เธอก็ยังคงเศร้าเพราะคุณพ่อกับคุณแม่ยืนยันว่าจะให้เธอเดินทางในเร็วๆ นี้เรื่องราวทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนเธอไม่ทันตั้งตัว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเอกสารต่างๆ ก็ดูเตรียมพร้อมไปหมดทุกอย่าง แต่มีอย่างเดียวที่ไม่พร้อมก็คือตัวเธอเองพิพลอยมักจะถือโทรศัพท์ติดตัวตลอดและมักจะค้างสายของกวินเอาไว้ ไม่ว่าเธอจะทำอะไรหรือพูดคุยกับใครกวินก็ได้ยินและรู้เรื่องไปกับเธอด้วย“ผมจัดการเรื่องที่เรียนให้เรียบร้อยแล้วนะครับ”หลังจากที่ทานอาหารเย็นด้วยกันเสร็จเพชรก็พูดเข้าประเด็นที่กำลังสำคัญที่สุดในตอนนี้กวินที่อยู่ในสายพอได้ยินก็รู้สึกเจ็บปวดขึ้นมาทันที ตอนนี้เขาอยากจะรู้จริงๆ ว่าครอบครัวของพิพลอยกำลังคิดจะทำอะไรอยู่ แต่เขาก็ไม่อาจทนนิ่งเฉยได้อีกต่อไป เวลานี้เขาคงต้องทำอะไรสักอย่างแล้วพิพลอยนั่งนิ่บมองหน้าพี่ชายด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย ตั้งแต่เกิดมาเธอยังไม่เคยถูกบังคับหรือกดดันเท่านี้มาก่อนทั้งๆ ที่ทุกคนก็รู้ว่าเธอไม่อยากไป แต่ทำไมทุกคนถึงไม่ฟังความต้องการและความรู้สึกของเธอเลยสักนิด ทำไมทุกคนถึงอยากให้เธอไปอยู่ไกลขนาดนี้“หนูขอตัวก่อนนะคะ”พิพลอยไม่อยากรับรู้
หนึ่งเดือนต่อมาตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพิพลอยยังคงเรียนอยู่ที่บ้านเหมือนเดิมไม่ได้ออกไปไหน และโทรคุยกับกวินแทบจะตลอดเวลาความสัมพันธ์ของพิพลอยกับกวินก็เริ่มพัฒนาในทางที่ดีขึ้นอีกครั้ง ดีจนพิพลอยอยากจะกลับไปใช้ชีวิตที่คอนโดเหมือนเดิมแต่เธอก็ยังไม่กล้าพอที่จะขอคุณพ่อกับคุณแม่ตั้งแต่ที่เธอสัญญาว่าจะขอไปเป็นกำลังใจที่ศาลวันนั้น เธอก็ไม่กล้าที่จะขออะไรอีกเลย ส่วนทางด้านกวินก็เข้าใจพิพลอยมากขึ้น ไม่บังคับและไม่เอาแต่ใจตัวเองเหมือนเมื่อก่อนกวินเฝ้ารอและอดทนเจอพิพลอยแค่สัปดาห์ละครั้งในตอนที่เธอออกไปร้านนวดกับคุณแม่ และเธอก็แอบออกมาเจอเขาทุกครั้งทว่าอาทิตย์นี้คุณแม่ของพิพลอยติดธุระกับญาติๆ เธอก็เลยไม่ได้ออกจากบ้านและไม่ได้ไปหากวินเหมือนทุกครั้งแค่เจอกันอาทิตย์ละครั้งก็นานพอแล้ว แต่อาทิตย์กลับไม่ได้เจอ ทำเอากวินคิดถึงพิพลอยจนแทบบ้า ชีวิตเขาเปลี่ยนไปเป็นอย่างมากตั้งแต่รู้ใจตัวเองว่ารักพิพลอยจริงๆยิ่งตอนที่เขาสู้คดีก็ยิ่งทำให้เขารู้และมั่นใจว่าพิพลอยนั้นรักเขามากแค่ไหน“วันนี้มึงมีนัดกับพิพลอยไม่ใช่เหรอวะ” ไทเกอร์ถามขึ้นมาเพราะจำได้ว่าวันนี้กวินต้องไปหาพิพลอย“นั่นดิวะ แล้วมึงมานั่งเศร้าทำไม”
ช่วงค่ำของวันพิพลอยนั่งเขี่ยอาหารในจานของตัวเองไปมา ตอนนี้ในหัวของเธอมีคำถามมากมายเต็มไปหมด วันนี้ทั้งกวินก็ไม่โทรมาหาเธอและตอนนี้พี่ชายของเธอก็กำลังทานอาหารและคุยเรื่องงานกับคุณพ่อโดยไม่มีท่าทีว่าการสนทนาในครั้งนี้จะจบลงง่ายๆใช้เวลาเกือบหนึ่งชั่วโมงกว่าพี่ชายของเธอจะเดินขึ้นห้องทำงาน พิพลอยใช้โอกาสนี้เดินตามพี่ชายไปทันที“พี่เพชร”“มีอะไรหรือเปล่า” ชายหนุ่มถามน้ำเสียงนิ่งเรียบ สายตายังคงจ้องมองเอกสารที่อยู่ตรงหน้า“เรื่องคดีเป็นยังไงบ้างคะ” หญิงสาวไม่รีรอรีบถามเข้าเรื่องที่อยากรู้ทันที“พี่เข้าไปดูให้แล้ว”“แล้วพี่วินมีโอกาสรอดกี่เปอร์เซ็นต์คะ” คำถามเดียวที่พิพลอยอยากจะรู้ในตอนนี้“เก้าสิบเปอร์เซ็นต์”คำตอบของเพชรทำเอาหญิงสาวยิ้มกว้างพร้อมกับวิ่งเข้าไปกอดพี่ชายเอาไว้แน่นด้วยความดีใจ“ถ้าพยานไม่กลับคำให้การในชั้นศาลนะ”ทว่าประโยคต่อมาทำให้พิพลอยถึงกับหุบยิ้มทันที“หมายความว่ายังไงคะ” ใบหน้าสวยขมวดคิ้วถามพี่ชายด้วยความสงสัย“ถ้าไม่มีใครไปข่มขู่หรือทำอะไรพยายาน แล้วเล่าตามที่เล่าวันนี้ หมอนั่นรอดแน่นอน” เพชรอธิบายให้น้องสาวฟัง“พี่ช่วยให้คนของเราไปดูแลความปลอดภัยให้พยานได้ไหมคะ” พิพลอ