'ไม่อยากเป็นแล้วเพื่อน ขอเลื่อนสถานะได้ไหม?' เมื่อเพื่อนสนิทตั้งแต่วัยเด็กเริ่มคิดไม่ซื่อ ได้แต่เก็บงำความรู้สึกเอาไว้ในก้นบึ้งของหัวใจ เพื่อรักษาสถานะความเป็นเพื่อนให้คงเดิม ทั้งที่รู้อยู่ในอกว่าเขาเริ่มคิดกับเธอมากกว่าคำว่า เพื่อน
Lihat lebih banyakสามี (2) - 1
"ไอติม...วันนี้ไปดูหนังเป็นเพื่อนหน่อยสิ มีหนังเข้าใหม่เจทอยากไปแต่ไม่มีเพื่อน" ชายหนุ่มหน้าตาลูกครึ่งเอ่ยชวนเพื่อนสาวคนสนิท เมื่อทั้งสองนั้นเดินออกมาจากตัวอาคารเรียนคณะบริหาร
"ดูหนังอีกแล้วเหรอ...ไอติมไปดูทีไรก็หลับอ่ะ" หญิงสาวที่สูงราวอกของชายหนุ่มเอื้อนเอ่ยพลางมองหน้าของเขา
"น๊านะ...เจทบอกให้ไปเป็นเพื่อนไง ไม่อยากดูไปแล้วหลับก็ไม่ได้ว่าสักหน่อย นะติมนะ" ชายหนุ่มหยุดเดินแล้วพูดอย่างออดอ้อน การไปดูหนังที่เจทนั้นชอบเพราะได้อยู่ใกล้ชิดกับหญิงสาว มันทำให้เขานั้นสุขใจและหลับฝันดีตลอดคืน
".......ตลอดเลยเลี้ยงบิงซูด้วย" ไอติมผู้ที่ไม่ค่อยชอบใจกับการดูหนัง แต่หากเพื่อนคนนี้เอ่ยขอเธอก็ไม่เคยขัดใจ เพราะตั้งแต่เล็กจนเติบใหญ่ เธอก็มีเพียงเจทเท่านั้นเป็นเพื่อนที่คบหาอย่างสนิทใจ
"เลี้ยงได้สบายอยู่แล้ว ไอติมจะกินกี่แก้วกี่ถ้วย กินให้อ้วนไปเลยยังได้" เจทที่ไม่เคยด่าทอหรือเสียงดังในการพูดจากับเพื่อนสนิทอย่างไอติม แม้เขานั้นจะโมโหเพียงใดแต่ไม่เคยที่จะตวาดเสียงใส่สักครั้งไม่ว่าจะตอนเด็กหรือตอนโต
"จริงนะ...ห้ามหลอกไอติมไม่งั้นจะไม่ไปดูหนังด้วย ชวนยังไงก็จะไม่ไปเอาช้างมาลากไอติมก็จะไม่ไปเด็ดขาด" หญิงสาววัยสิบเก้าที่มีความน่ารักสดใสมาแต่เด็ก การพูดจาแม้จะเติบใหญ่มาหลายปีแต่กับเพื่อนชายคนนี้เธอยังคงกล้าที่จะแสดงความสดใสต่อหน้าเสมอด้วยไว้ใจ
"จริงครับ!!...แถมรองเท้าให้ด้วยอ่ะ โอเคไหม?" เจทที่ชอบเอาใจในยามเพื่อนสนิทเง้างอน เขามักจะเอาของที่เธอนั้นชอบและโปรดปรานมาล่อเสมอ ซึ่งมันก็ได้ผลทุกครั้งไปแม้จะรู้แก่ใจว่าอาการที่เพื่อนหญิงนั้นงอนแค่การแสดง แต่เจทที่มีหัวใจตั้งมั่นมานานหลายปีก็ยินยอมหากมันทำให้เขาได้ใกล้ชิดหญิงสาวได้นานที่สุดในระยะเวลาของวัน
"โอเค...งั้นไปเลยไอติมจะผลาญเจทให้หมดตัวเลย" หญิงสาวผู้สดใสเอ่ยขึ้นพลางส่งยิ้มสวย ใบหน้าที่เปื้อนยิ้มตลอดเวลามันทำให้ชายหนุ่มอย่างเจทนั้นปริ่มใจ การใกล้ชิดที่อีกคนไม่ได้คิดไกลเกินเลย แต่สำหรับเขาที่เก็บกลั้นความรู้สึกไว้ยาวนานหลายปี รักแรกที่เขาตั้งมั่นมาตลอดยังไม่เคยเสื่อมคลาย แม้จะมีหญิงมากมายพยายามเข้าหา แต่ว่าพื้นที่หัวใจของเขามีไว้สำหรับเธอเท่านั้นที่รอคอย
"ทีอย่างนี้ไวเชียว" ชายหนุ่มผลักหัวของหญิงสาวเบา ๆ อย่างหยอกล้อในแบบที่ทำกันบ่อยครั้งจนกลายเป็นคุ้นชิน
"ก็ได้ของที่ชอบจะช้าอยู่ทำไมล่ะเจท..." หญิงสาวย้อนคืนด้วยใบหน้าเปี่ยมสุขกับการที่เจทนั้นเสนอของชอบแก่เธอเป็นการตอบแทน
"ทำไมเจทมีเพื่อนงกวะ..." เจทแซวด้วยรอยยิ้มเขาไม่เคยตำหนิหรือเสียดายกับการที่ต้องจับจ่ายแก่เพื่อนหญิงคนนี้แม้แต่น้อย
"ขนหน้าแข้งเจทไม่ร่วงหรอกน๊า...บ้านก็รวย ส่งออกไวน์แต่ละทีมากมายจะตาย เดี๋ยวนี้งกกับเพื่อนเหรอ ห๊ะ" หญิงสาวแหวแซวพลางจิ้มนิ้วลงอกแน่นที่เป็นกล้ามเนื้ออย่างหยอกเย้า
"หึ!! แสบว่ะ" ชายหนุ่มยิ้มลึกมุมปากแววตาที่มองหน้าของไอติมนั้นมันสื่อความหมายอย่างลึกซึ้งภายใต้คำว่าเพื่อน ความรู้สึกที่มีมาเนิ่นนานแต่ไม่เคยเลยสักครั้งที่เขาจะกล้าบอกความรู้สึกที่มันล้ำเส้นนี้ เพราะไม่อยากเสียเธอไปด้วยการคิดไกลเกินกว่าสถานะที่เธอนั้นให้
....สองหนุ่มสาวแรกรุ่นเดินเคียงกันมายังรถยนต์ที่จอดไว้ ด้วยท่าทางหยอกล้อสนิทสนมคุ้นเคย วงแขนแกร่งของเจทกอดคอหญิงสาวอย่างคุ้นชิน การพูดคุยที่สนุกสนานแต่ต้องชะงักการเดินเมื่ออยู่ ๆ ก็มีคนมายืนดักหน้าพร้อมกับส่งยิ้มสวยจ้องมองมาทางเจท จากที่ยิ้มและคุยอย่างร่าเริงสนุกครื้นเครงต้องหุบยิ้มลงทันใด
((สวัสดีค่ะเจท))
"ไอติมจะไปรอที่รถนะ" ทันทีที่มองเห็นหญิงที่จากมีรอยยิ้มเปื้อนใบหน้า ก้าวขาเดินหลบหนีทันใด ปล่อยเพียงเจททิ้งไว้ข้างหลังอย่างไม่พูดอะไรออกมามากมายนอกจากบอกกล่าวให้รับรู้ว่าเธอนั้นควรอยู่ไหน?
"ติม! เดี๋ยว! ไอติม"
ห้องทำงานของผู้เป็นสามียังเปิดสว่างจ้าแม้ว่าตอนนี้จะเริ่มดึกแล้ว เธอมองไปยังห้องทำงานของสามีก่อนจะเดินเข้าห้องตัวเอง หวังจัดการชำระร่างกายที่เหนื่อยล้ามาทั้งวัน ความตั้งใจหลังจัดการตัวเองเสร็จ คิดจะเข้าไปหาผู้เป็นสามีด้วยความห่วงใยที่มี พร้อมกับแก้วนมอุ่น ๆ ในมือ“งานใกล้เสร็จยัง” ผู้เป็นภรรยาเอ่ยถามพร้อมกับร่างกายที่เย้ายวนเดินนวยนาดเข้าไปใกล้ชายผู้เป็นสามี“ใกล้แล้วครับ ลูกหลับแล้วเหรอ?” เขาเงยหน้ามอง แล้วจึงเอ่ยถามพร้อมกับร่างของภรรยาให้นั่งลงบนตักแกร่ง วงแขนโอบรอบเอวของเธอ และซบแก้มลงต้นแขนเล็กนั้นอย่างรักใคร่“หลับแล้วค่ะ สกีอยากให้เจทเล่านิทานให้ฟัง แต่บอกแล้วว่าเจททำงานไอติมเล่าให้ฟังแป๊บเดียวก็หลับปุ๋ยเลย...อ่ะ! ดื่มนมอุ่น ๆ หน่อยนะไอติมชงมาให้” เธอยื่นแก้วนมในมือไปตรงหน้าสามีพร้อมกับยิ้มอ่อน“ไม่อยากกินมันไม่อร่อย”“ก็นมที่เจทดื่มประจำนะ รสชาติก็เหมือนเดิมจะไม่อร่อยได้ยังไงคะ?”“งั้นไอติมก็กินเองสิ ชิมดูว่ามันอร่อยจริงหรือเปล่า”เธอบอกตามจริง พร้อมกับสิ่งที่ทำให้สงสัยต่อคำปฏิเสธที่สามีเปรยออกมา แต่หารู้ไม่ว่ามันเป็นความกะล่อนของสามีเธอที่แอบแฝงเธอยกแก้วนมขึ้นมาดื่มอย่างว่าง่
สี่ปีผ่านไปเด็กน้อยเติบใหญ่ไปตามกาลเวลา จนตอนนี้อยู่ในวัยที่กำลังหัดพูดและช่างสงสัย เป็นหลานชายของบ้านที่ทุกคนนั้นรักและเอ็นดูที่สุด เพราะความน่ารักของเด็กชาย ใบหน้าของลูกเสี้ยวที่มีเคล้าของผู้เป็นพ่อประปราย ทำให้เด็กชายนั้นดูน่ารักน่าเอ็นดูตลอดเวลาสี่ปีที่ผ่านมามีเรื่องวุ่นวายให้เธอและครอบครัวนั้นปวดหัว เพราะความมักมากของอาไฟที่ทำให้ต้องมีการดัดนิสัยกันมากมาย กว่าจะมามีครอบครัวที่สมบูรณ์ก็กินเวลาไปนานหลายปี แต่สุดท้ายพ่อเสือก็สิ้นลายกลับกลายมาเป็นลูกแมวที่แสนเชื่อง และยังมีเมียเด็กรุ่นราวคราวเดียวกับกลาน แถมยังมีเด็กหญิงอันดาผู้น่ารักสดใส เธอเป็นที่รักของทุก ๆ คน ส่วนนิสัยของเธอนั้นไม่ต้องพูดถึง เธอได้พ่อมาเต็ม ๆ แต่เหมือนจะมากกว่าเสียด้วยซ้ำ แต่ก็มีบางมุมที่อ่อนไหวง่ายดั่งกับผู้เป็นแม่ และเธอก็มักจะมาเที่ยวเล่นกับเด็กชายสกีเป็นประจำ"มัมสกีอยากหาน้าปัง" เด็กชายตัวน้อยเอ่ยบอกผู้เป็นแม่ ที่ตอนนี้อยู่ในครัวเตรียมมื้อเช้า เขามักเป็นแบบนี้ประจำเพราะติดคุณน้าขนมปังที่สดใส ผูกพันจนใกล้ชิดกันมาแต่ไหนแต่ไร"วันนี้น้าปังไม่อยู่ครับคนเก่ง" คุณแม่ไอติมย่อตัวลงต่ำ แล้วลูบหัวลูกชายตัวน้อยอย่างอ่
การแต่งงานที่เป็นสัญลักษณ์ยืนยันต่อการใช้ชีวิตคู่ มันคือการเริ่มต้นของชีวิตที่ต้องจับมือเดินเคียงข้างกันไป ไม่ว่าจะพบเจออุปสรรคอะไรจะต้องฝ่าฟันมันไปให้ได้ และจะต้องเชื่อใจซึ่งกันและกัน ความรักของคนทั้งสองที่มีให้กันยังคงมั่นคงไม่เปลี่ยนแปลง จนบัดนี้ล่วงเลยเวลามานานเป็นปี และพวกเขากำลังจะมีทายาทตัวน้อยหลังจากที่พยายามผลิตจนตอนนี้สำเร็จผลแล้ว"เจทคะ...เสร็จหรือยัง" ไอติมเรียกขานผู้เป็นสามี เพราะว่าวันนี้มีนัดฉลองวันเกิดให้กับน้องสาวที่ก้าวขึ้นสู่อายุสิบแปดปีบริบูรณ์"เสร็จแล้วครับ" เจทที่อยู่ในชุดธรรมดา แค่เสื้อยืดกับกางเกงยีนส์ก็ทำให้เขาดูดีได้ เพราะรูปลักษณ์ภายนอกดีเป็นทุนเดิม"หล่อจังเลยค่ะคุณพ่อเจท" ไอติมเอ่ยแซวผู้เป็นสามีพร้อมฉีกยิ้มสวยส่งให้"วันนี้คุณแม่ก็สวย" ต่างคนก็ต่างชมกันไปมาตามประสาคนที่รักกันเสมอต้นเสมอปลาย“จุ๊บ!! สามีน่ารักจริง ๆ เลย” ไอติมเขย่งเท้าแล้วแตะจูบริมฝีปากของผู้เป็นสามี กิริยาเช่นนี้พวกเขามักแสดงออกเป็นประจำจนคุ้นชิน“เนี้ยก็ชอบทำให้รักตลอดเลย เจทจะไปไหนได้ล่ะครับ หื้ม” ผู้เป็นสามีแนบหน้าผากชิดกับหญิงสาว ปลายจมูกถูกเสียดสีไปมา เป็นความน่ารักของคนทั้งสองที่ยัง
"เจท วันนี้น้ำอุ่นเข้ามาสมัครงานแล้วนะ ไอติมดีใจมากเลยจะได้มีคนช่วยงานอาไฟแล้ อาไฟจะได้ไม่เหนื่อย"หญิงสาวที่นั่งทานข้าวอยู่ในร้านอาหารกับสามีเอ่ยขึ้นด้วยท่าทางที่แสนจะดีใจกับการมาร่วมงานของรุ่นน้องที่เธอเอ็นดู แม้จะไม่ค่อยได้เอ่ยถึง แต่ทั้งสองก็ผูกพันกัน"เหรอ ดีแล้วล่ะ" เจทว่าขึ้นพร้อมกับตักข้าวเข้าปาก"เจทว่าน้ำอุ่นจะทำงานกับอาไฟไหวไหมอ่ะ ไอติมกลัวว่าน้ำอุ่นจะทนไม่ไหว เพราะอาไฟค่อนข้างจริงจังกับงานมาก ๆ""น่าจะได้นะ จากที่เห็นน้องน่าจะมีความอดทนดีเลยทีเดียว" ความกังวลใจทำให้เธอต้องเอ่ยถามผู้เป็นสามีออกไป แล้วเจทก็ให้คำตอบในทันที"ไอติมก็ว่าแบบนั้นแหละ...แล้วกับข้าวอร่อยไหมคะ?"เธอตอบอย่างเห็นตาม แล้วจึงเอ่ยถามถึงอาหารตรงหน้าด้วยรอยยิ้ม"อร่อย แต่ไม่สู้กินเมีย เอ๊ย!! กินกับเมียที่บ้าน"“เจท!! พูดบ้าอะไรเนี้ย อายคนอื่นบ้างไหม?”เจทพูดแซวพร้อมกับยื่นหน้าเข้าไปใกล้ ไอติมเธอต่อว่าเขา พร้อมกับฟาดมือลงแขนแกร่งนั้นอย่างลงโทษ คำพูดแซวมันทำให้เธอเขินอาย เพราะอยู่ในที่สาธารณะ มองซ้ายมองขวาเพื่อดูว่ามีใครได้ยินหรือไม่ แล้วจึงจ้องตาเขม็งข่มขู่ผู้เป็นสามี“ล้อเล่นครับ ไม่เอาไม่ทำหน้าแบบนั้น หน้า
การฮันนีมูนจบสิ้นในระยะเวลาหนึ่งสัปดาห์ของหลายเดือนที่ผ่านมา กลับเข้าสู่การทำงานสานต่อธุรกิจของครอบครัวอย่างเต็มตัว ทั้งเจทและไอติมได้เข้ามาทำงานกับผู้เป็นพ่อจนชำนาญ ตามความถนัดของแต่ละคน และพ่อเจก็ฝึกฝนจนคนทั้งคู่นั้นเก่งพอที่จะทำงานได้โดยไม่ต้องมีพ่อเจคอยแนะนำแบบแต่ก่อนLineLineLineเสียงของการแจ้งเตือนจากแอปพลิเคชันสีเขียวดังขึ้น เรียกความสนใจของคนที่กำลังนั่งก้มหน้าก้มตาทำงานที่กองท่วมหัว“น้ำอุ่น”เมื่อเห็นว่าเป็นใครที่เฝ้ารอตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา ตั้งแต่ที่ได้พบเจอกันในต่างแดนเธอก็เฝ้ารอด้วยความหวังจากรุ่นน้องที่เอ็นดู เห็นดังนั้นจึงรีบตอบกลับทันทีไอติม : “ดีใจที่น้ำอุ่นทักมา สบายดีไหม?”ไอติมพิมพ์ถามกลับบ้าน พร้อมกับรอยยิ้มของความหวังและห่วงใยรุ่นน้องที่ทักมาน้ำอุ่น : “สบายดีค่ะ พี่ไอติมสบายดีเหมือนกันใช่ไหม?”ไอติม : “สบายดีมาก ๆ เลยจ้า การทักมาครั้งนี้พี่จะได้รับข่าวดีหรือเปล่าน้อ”ทั้งสองคนพิมพ์ตอบโต้กันไปมา งานที่คั่งค้างของไอติมถูกเมินไปชั่วครู่ เมื่อเธอมีสิ่งที่สนใจมากกว่าน้ำอุ่น : “ยังว่างให้หนูทำงานด้วยไหมคะ?”ไอติม : “ดีใจจัง พี่รอเรามานานแล้ว ยังว่างอยู่หน้าที่เดิ
เมื่อได้ในสิ่งที่ต้องการ ทั้งคู่จึงเดินออกมาเพื่อมุ่งหน้ากลับสู่ที่พัก การมาเที่ยวพักผ่อนทำให้กระชับความสัมพันธ์ของคนทั้งสองให้แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม พวกเขาเธอเรียบไปตามทางเดินที่มีผู้คนพลุกพล่านมากมาย แสงไฟในยามราตรีดูสวยงามตระกานตา เดินมาเรื่อย ๆ จนเกือบจะถึงที่พักพลางหยอกล้อพูดคุยกันอย่างสนุกสนานตามประสาปึก!“อ๊ะ!!”“ขอโทษค่ะ”เสียงของผู้หญิงคนหนึ่งพูดขึ้นเป็นภาษาอังกฤษและก้มหัวอย่าง เมื่อเธอนั้นเดินมาชนกับหญิงสาวที่เดินเกาะแขนของผู้เป็นสามี“น้ำอุ่น”“พี่ไอติม บังเอิญจังเลยค่ะ ดีใจจัง”“นี่พี่เจทค่ะ สามีของพี่...เจทนี่น้ำอุ่นค่ะเป็นรุ่นน้องของไอติม เจทจำได้ไหม ที่ไอติมเคยเล่าให้ฟังว่าน้องน่ารักมาก”“อ่อ จำได้ ๆ สวัสดีครับ”“สวัสดีค่ะพี่เจท”ไอติมทักท้วงทันทีเมื่อเงยหน้ามองแล้วพบเจอกับคนรู้จัก ทั้งคู่มีอาการตกใจไม่ต่างกันกับการพบเจอในต่างแดน ไอติมรีบแนะนำสามีให้รู้จักกับรุ่นน้อง แม้จะเรียนอยู่ที่เดียวกันแต่เจทผู้ที่ไม่ค่อยสนใจใคร นอกจากผู้หญิงที่ชื่อไอติมเพียงคนเดียว ทั้งสองคนทักทายกันด้วยรอยยิ้มอย่างเป็นมิตรด้วยสีหน้าระรื่น“แล้วน้ำอุ่นมาเที่ยวเหรอ...พอดีพี่กับเจทมาฮันนีมูล
Komen