ณ ประเทศอังกฤษ
ก๊อก ๆ
“ขออนุญาตค่ะ”
สิ้นเสียงคำพูดร่างบางก็เปิดประตูเข้ามาในห้องทันทีโดยที่ไม่ต้องรอคำตอบ ภายในห้องนอนขนาดใหญ่ เสื้อผ้าถูกถอดกระจัดกระจายไว้ตามพื้น เธอเอาเท้าเขี่ยแพนตี้ลายลูกไม้ให้พ้นทาง แล้วเดินไปหยุดลงปลายเตียงที่มีผู้ชายและผู้หญิงคนหนึ่งนอนหลับอยู่
“คุณธาดาคะ”
“....”
“คุณธาดาคะ”
“....” ไร้ซึ่งการตอบรับ
“เฮ้อ ~” เธอถอนหายใจเฮือกใหญ่อย่างเบื่อหน่าย และเดินไปยังลำโพงบลูทูธก่อนจะเปิด และเชื่อมมันกับโทรศัพท์ของเธอ
“คุณ ธา ดา”
“....” ไม่ตื่นใช่ไหม นิ้วเรียวเลื่อนหาเสียงปลุกประจำตัวเจ้านายของเธอ เอาละ เริ่ม!
(กรี๊ด!! อ๊าก!!)
พึ่บ!
ด้วยพลังเสียงสุดยอดของลำโพงแบรนด์ชั้นนำระดับโลกบวกกับเสียงร้องอันเร้าใจจากฉากหนังสยองขวัญ ทำให้เจ้านายของเธอและผู้หญิงข้างกายตื่นทันที
“อะไรกันเนี่ย!” เธอตื่นขึ้นมาอย่างอารมณ์เสีย
“ปลุกแบบขวัญกระเจิงเหมือนเดิม” เขาบ่นพึมพำพร้อมกับจ้องมองไปยังเลขาส่วนตัว
“เธอเข้ามาทำไม ไม่มีมารยาท”
“ออกไปได้ละ” เขายีหัวตัวเองด้วยความเคยชิน กับวิธีการปลุกของเลขาประจำตัวเขาตลอด 10 ปีที่ผ่านมา
“....” ฉันยืนมองภาพตรงหน้า มันคือเรื่องปกติที่เห็นมันแทบจะทุกวันและชิน แต่สิ่งที่ไม่ชินคือผู้หญิงที่ไม่ซ้ำหน้ากันเลย
“ออกไปสิ จะยืนมองอะไร”
“ไม่ใช่ เธอนั่นแหละออกไป” เธอหันไปมองด้วยความตกใจ แต่ก่อนที่เธอจะพูดอะไรมากกว่านี้ฉันก็เป็นฝ่ายจบสถานการณ์ตรงหน้าเอง
“เชิญค่ะ เดี๋ยวจะมีคนพาคุณไปส่งที่บ้านเองไม่ต้องถามอะไร”
“แต่!”
“พาเธอไป” สิ้นเสียงคำสั่งของฉันการ์ดชุดดำหน้าห้องนอนต่างตรงเข้ามาพาร่างเปลือยเปล่าพร้อมสิ่งของของเธอออกไป
ปึง! เสียงประตูปิดลงในห้อง ตอนนี้เหลือแค่ฉันและธาดาเท่านั้น สายตางัวเงียของเขาจ้องมาที่ฉัน
“อีก 1 ชั่วโมงคุณป้าจะมาถึงที่นี่แล้วค่ะ” คุณป้าที่ฉันหมายถึงก็คือคุณแม่ของเขานั่นแหละ
“ขอนอนต่ออีกสิบนาทีค่อยมาปลุก” แล้วเขาก็ล้มตัวลงนอนต่อ
“ตอนนี้มีเวลาอีก 58.23 วินาทีค่ะ” งานที่ยากที่สุดคือการปลุกเขาให้ลุกจากที่นอน
“....”
“เหลืออีกแปดนาทีค่ะ”
“....”
“57.46 วินาทีค่ะ”
“....” เหนื่อยใจจัง ถ้าไม่ติดว่าบ้านเขามีพระคุณกับครอบครัวฉัน คงหนีเขาไปตั้งแต่ปีแรกละ
“คุณธาดา”
“....” ไม่ขยับ ตายซะไอ้บ้าธาดา
“คุณ...ธาดา...คะ เหลือ 55 นาทีแล้วค่ะ”
“อื้อ ~” เสียงพึมพำดังออกจากใต้ผ้าห่ม
“ธาดาจะลุกดีๆหรือจะให้ใช้กำลัง”
พรึ่บ! เขาเปิดผ้าห่มออก และจ้องหน้าฉัน
“เชิญ ฉันจะเตรียมชุดไว้ให้”
“แรงของเธอชนะฉันได้เหรอ” ฉันจ้องมองเจ้านายตัวเองอย่างเบื่อหน่าย
“จะลองหรือเปล่าล่ะคะ” หลักสูตรศิลปะการต่อสู้ของฉันมีไว้จัดการเขานั่นแหละ ไม่ได้ฝึกมาเพื่อปกป้องเขาหรอก
“เทียนไขจะใจร้ายเกินไปแล้ว” ฉันไม่ชอบให้เขาเรียกชื่อเลย มันน่าขนลุก
“ให้เวลาอาบน้ำสิบนาที อย่าต้องให้มาตามซ้ำ”
“ครับๆ” สุดท้ายก็เป็นเขาอีกตามเคยที่ยอมเธอ สายตาคมจ้องมองร่างบางเดินเข้าไปยังห้องแต่งตัวเพื่อจัดเตรียมเสื้อผ้า 10 ปีได้แล้วมั้งที่มียายนั่นดูแลมาตลอด จะเรียกว่ารักแรกด้วยเลยก็ได้ แต่เพราะความเคยชินและอยู่ด้วยกันมาตั้งแต่เด็ก เลยเปลี่ยนไปเป็นความผูกพัน แต่ตอนนี้กำลังกลับมาเป็นความรักแบบผู้ใหญ่
10 ปีก่อน ณ โรงเรียนมัธยมนานาชาติ
“เทียนไขกลับบ้าน” หนุ่มหล่ออันดับ 1 ของโรงเรียนกำลังได้รับความสนใจจากเพื่อนร่วมชั้นในห้องเรียนของผู้หญิงที่เขามาตาม
“....” ผู้หญิงที่ถูกจัดว่าสวยอันดับ 1 ของโรงเรียนหันไปตามเสียงเรียก เธอเก็บของในทันทีก่อนจะลุก และเดินออกจากห้องตามหลังของเขาไป
ภาพเหตุการณ์ซ้ำๆ ตลอด 6 ปี ที่ทุกคนในโรงเรียนยังไม่ชินกันสักที สายตาที่จ้องมองมาไม่เคยลดลงเลยสักวัน รถเมอร์เซเดส-เบนซ์คันหรูจอดรอรับพวกเขาอยู่หน้าตึกโรงเรียน ธาดานั่งเบาะด้านหลัง และฉันนั่งข้างคนขับ จริงๆแล้วฉันไม่ใช่พวกลูกคุณหนูหรอก
แต่เพียงเพราะพ่อของฉันเป็นคนสนิทที่ทำงานกับพ่อของเขามา 10 กว่าปี ทำให้เราทั้งคู่ถูกเลี้ยงดูมาพร้อมกัน แม่ฉันเป็นหัวหน้าแม่บ้านของบ้านเขา แล้วยังเป็นเหมือนแม่นมของเขาไปด้วย แม่ของธาดาเลยเอ็นดูฉันเสมอมา
ถึงจะเป็นลูกสาวคนงานในบ้าน แต่ฉันก็ถูกวางตัวให้เป็นผู้ดูแลส่วนตัวของเขามาตั้งแต่ตอนเด็กๆแล้ว ธาดาไม่มีเพื่อนสนิทคนอื่นนอกจากฉัน ถ้าเห็นเขาที่ไหน ที่นั่นก็จะมีฉันอยู่ด้วยเสมอ อย่างเช่น การได้เข้าเรียนในโรงเรียนนานาชาติพร้อมกับเขา
ทางบ้านฉันไม่มีปัญญามาจ่ายค่าเรียนแสนแพงขนาดนี้หรอก แต่เป็นเพราะบ้านเขาดูแลค่าเล่าเรียนตั้งแต่เด็กจนปัจจุบันของฉันมาตลอด ฉันต้องอยู่ดูแลเขาในทุกๆที่ และเราตัวติดกันแทบจะตลอดเวลา
“ทำการบ้านให้ด้วยนะเทียนไข”
“ไม่”
“ฉันจ้าง” ฉันหันไปมองธาดาที่นั่งอยู่เบาะหลัง
“ไม่”
“งั้นก็มาสอนด้วย”
“รู้แล้ว” ก็เป็นแบบนี้มาตลอดอยู่แล้ว
“ตัดสินใจเรื่องที่แม่บอกหรือยัง” จู่ๆเขาก็ถามเรื่องนั้นขึ้นมา เรื่องสำคัญที่มีผลกับอนาคตของฉันเอง
“ตัดสินใจแล้ว”
“หวังว่าจะเป็นคำตอบที่ดีนะ” ฉันหันไปมองคนที่นั่งอยู่เบาะหลัง ซึ่งเขาก็มองมาเช่นกัน เรื่องที่เขาพูดถึงคือการไปเรียนต่อที่เดียวกับเขา ณ ประเทศอังกฤษ ฉันต้องการเลือกทางเดินของตัวเองบ้าง
“คงงั้น” รถวิ่งเข้าสู่ตัวคฤหาสน์หลังใหญ่ ภาพเบื้องหน้าของฉันคือความวุ่นวาย มีทั้งรถพยาบาล และคนมากมายกำลังดูอะไรอยู่สักอย่าง ภาพผู้หญิงคนหนึ่งนอนอยู่บนรถเข็นแล้วถูกนำขึ้นรถพยาบาลผ่านหน้าฉันไปก่อนที่รถจะจอดลง
“แม่...”
(ช่วงวัยเด็กของเทียนไขกับธาดา (ช่วงเกรด7หรือมัธยมชั้นปีที่ 1) ปึง!ประตูห้องครัวหอพักคนงานถูกเปิดออกเต็มแรง พร้อมกับเด็กชายผู้เป็นคุณหนูของบ้านนี้ และยังเป็นเพื่อนสนิทของลูกสาวหัวหน้าแม่บ้านอย่าง...เทียนไข“เทียนไข! ทำไมไม่บอกว่าจะสอบเข้าด้วยคะแนนเต็มเพื่อไปอยู่ห้องคิงล่ะ เรานึกว่าเทียนจะเลือกทำคะแนนน้อยแล้วไปอยู่ห้องสุดท้ายเพราะจะได้มีเวลาไปเล่นกับเรา”เด็กสาวเงยหน้าจากตะกร้าผักที่เธอกำลังเด็ดอยู่แล้วเงยมองขึ้นใบหน้าของ ธาดา ลูกชายเจ้าของบ้าน และเป็นเพื่อนของเธอด้วยสายตาไร้ความรู้สึก“ทำไมต้องทำแบบนั้น”“เพราะเทียนต้องไปเล่นกับเราทุกวันหลังเลิกเรียนไง”“ไม่ไปหรอก เทียนรำคาญธาดา”“...เทียนใจร้าย เทียนทำแบบนี้เราต้องอยู่คนละห้องเลยนะ เราต้องแยกกันตลอดหกปีนะเทียน!”“....” เด็กสาวหันมองธาดาด้วยสายตาเย็นชา ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนพร้อมกับอุ้มตะกร้าผักเดินหนี“เราอยากอยู่กับเทียน!” ธาดาวิ่งตามหลัง และพูดคำเดิมซ้ำ ๆ ไปตลอดทาง“รำคาญ....” ไม่ว่าจะโดนเทียนไขว่าสักกี่ครั้งก็ไม่เคยทำให้ธาดาละความพยายามไปได้“เราจะไปรับเทียนที่ห้องทุกวัน! เทียนห้ามมีแฟนนะ เทียนต้องอยู่กับเรา!”“...รำคาญ” น้ำเสียงเย็
“หายไปไหนของเขา”เสียงบ่นพึมพำกับตัวเอง สายตาสอดส่องมองซ้ายมองขวาเพื่อหาตัวธาดาที่ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาหายไปไหนสักพักแล้ว โทรศัพท์ก็ไม่พกติดตัวนี่เดินรอบแล้วเหลือแต่ที่หอพักคนงาน แต่ปกติธาดาจะไม่ได้ไปที่นั่นถ้าไม่มีธุระสำคัญ“ป้าขวัญคะ เห็นคุณธาดามั้ย” ในระหว่างที่กำลังหยุดยืนคิดอยู่หน้าบ้านใหญ่ ป้าขวัญ แม่ครัวของบ้านก็เดินออกมาจากมุมมืดพอดี“คุณธาดาเห็นนั่งอยู่กับเก้าตรงสวนด้านหลังนะ ไอ้เก้ามันเมาด้วยเห็นขวดเบียร์ตั้งอยู่”“ขอบคุณค่ะป้า” เมื่อได้ยินอย่างนั้นฉันก็รีบเดินไปยังสวนด้านหลังทันทีเก้าเมาแล้วจะพูดอะไรไม่เข้าหูธาดามั้ยเนี่ย แล้วสิ่งที่น่าสงสัยมากที่สุดเขาไปนั่งอยู่กับเก้าทำไม ในระหว่างที่เดินไป และในหัวเองก็กำลังประมวลผลเรื่องราวที่คาดว่าจะเกิดขึ้น สายตาก็เพ่งมองไปยังร่างบางของผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนพื้นแอบมองอะไรบางอย่างอยู่ก่อนแล้ว“น้ำหวาน” ฉันย่อตัวนั่งลงด้านหลังน้ำหวานแล้วกระซิบเรียกชื่อเธอ“อุ้ย! พี่เทียนตกใจหมด” เมื่อหันมาพบว่าเป็นฉันน้ำหวานก็สะดุ้งสุดตัว แต่ก็เก็บเสียงได้อย่างดี“สองคนนั้นทำอะไร” ฉันมองตรงไปยังโต๊ะม้าหินขวดเบียร์วางเรียงกันบนโต๊ะ และด้านข้างที่ถังน้
แอด!ประตูห้องน้ำเปิดออกพร้อมกับร่างบางในชุดนอนสีฟ้าอ่อนกำลังเดินออกมา แต่สองเท้าก็ต้องหยุดชะงักเมื่อสบตากับคนตัวสูงที่ยืนกอดอกรออยู่หน้าประตู“....” เราทั้งสองคนสบตากัน และธาดาก็ยังคงยืนทำหน้าเครียดไม่พูดไม่จา“....” เอาแต่ยืนมองหน้าแล้ววันนี้จะเข้าใจมั้ยว่าต้องการอะไร“เป็นอะไร” ต้องเป็นฝ่ายถามซะเอง เพราะธาดาเอาแต่ยืนเงียบ“ทำไมไม่ไปนอนด้วยกัน” ที่ไม่พอใจเพราะเรื่องนี้นี่เอง“ก็ของยังอยู่ห้องนี้”“ไปนอนก่อน เดี๋ยวให้คนมาย้ายของให้”“แล้วถ้าไม่ไป” ฉันเดินเข้าไปหยุดยืนตรงหน้าแล้วกอดอกถาม“....” เขาก้มมองคนตัวเล็ก“จะบังคับหรือเปล่า”“ไม่ ถ้าเทียนไขไม่ไป เราก็นอนที่ห้องนี้ อยากกอดเมียแล้วก็ลูก” ริมฝีปากบางอมยิ้มให้กับสิ่งที่เขาพูด ใช่...ฉันกำลังท้อง“ยังไม่แน่ชัดสักหน่อยว่าท้อง เดี๋ยวต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลก่อนสิ”“ที่ตรวจสามอันขึ้นสองขีดเนี่ยยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ หรือว่าต้องว่าย้ำ” มือหนาโอบเข้าที่เอวบางแล้วดึงมาชิดตัว“อาจจะเป็นหนึ่งเปอร์เซ็นต์ที่คลาดเคลื่อนก็ได้” แกล้งเขานี่มันสนุกดีจริง“จะบอกว่ากินยามาตลอดยังไงก็ไม่ติดน่ะเหรอ”“....” เขายังจำทุกอย่างที่ฉันเคยพูดเอาไว้ได้อีกนะ“ยาไม่แ
เวลา 05.45 น.ตึก ตึก ตึก!เท้าเล็กวิ่งขึ้นบันไดตรงไปยังห้องนอนของตัวเองในบ้านใหญ่ ยังพอมีเวลาที่จะอาบน้ำแต่งตัวมาดักรอธาดา ถึงเขาจะพูดว่าไม่ให้ฉันมาดูแลในตอนเช้า และก็เพราะนิสัยไม่ดีของตัวเองที่พยายามปฏิเสธความรู้สึกมาตลอดโอเค! จะทำตามใจตัวเองบ้างแล้วนะ มันก็จะเหมือนกับว่าจะเป็นฉันเองที่เป็นฝ่ายไล่ตามเขา เหมือนที่ธาดาก็ทำมาตลอดก่อนหน้านี้ ต่อจากนี้ไม่สนแล้วว่าผลที่ออกจะเป็นยังไง หรือเขาจะปฏิเสธเหมือนที่ฉันเคยทำ แต่ต่อให้เขาปฏิเสธฉันก็ไม่สนแอด!มือเล็กเอื้อมจับลูกบิดประตูแล้วดันเปิดออก สายตามองผ่านความมืดเข้าไปในห้องของธาดา มองจากมุมนี้จะเห็นเพียงแผ่นหลังกว้างที่นอนตะแคงหันหลังให้ เขายังไม่ตื่น ฉันจัดการตัวเองก่อนที่เขาจะออกไปทันแน่“เดี๋ยวเราเจอกัน” เสียงเล็กพึมพำเบา ๆ แล้วดึงประตูปิด ก่อนที่จะมุ่งตรงไปยังห้องนอนตัวเองเพื่อจัดการธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย30 นาทีผ่านไป ก๊อก ก๊อก แอด!มือเล็กค้างกลางอากาศเมื่อประตูเปิดออกทันที ร่างสูงเปลือยกายท่อนบน ส่วนล่างมีเพียงผ้าขนหนูพันรอบเอว ร่างกายเปียกซึ่งน่าจะพึ่งออกมาจากห้องน้ำ เขามองฉันด้วยสีหน้าตกใจ“....” ธาดามองหน้าฉันโดยที่ไม่คิดจะพูดท
หลายวันต่อมา “พี่เทียนจะร้องไห้กับหนังผีไม่ได้นะ”เสียงบ่นของน้ำหวานทำให้ฉันได้สติกลับมา ดวงตากลมโตเลอะคราบน้ำตาหันไปมองยังบุคคลที่นั่งอยู่ข้างกัน ตอนนี้เราทั้งคู่อยู่ในห้องนอนของน้ำหวาน ฉันถูกชวนให้มาดูหนังเป็นเพื่อน เพราะเธอเองก็ไม่อยากให้ฉันต้องอยู่เพียงลำพัง“ก็สงสารผีที่ถูกฆ่าตาย”“สงสารตาตัวเองก่อนเถอะ หันมาทางนี้หน่อย”“....” น้ำหวานดึงผ้าห่มที่คลุมหัวออกแล้วจับตัวฉันให้หันมาประจันหน้ากับเธอ“เฮ้อ ตาช้ำแล้วช้ำอีกพี่ร้องไห้ติดต่อกันมากี่วันแล้วเนี่ย” น้ำหวานถามอย่างรู้ทัน พร้อมกับเอาถุงเจลเย็นประคบลงบนเปลือกตา“ไม่ได้ร้องแล้ว มีวันนี้ร้องเพราะหนังนี่ไง”“พี่เทียนกลายเป็นคนโกหกไม่เนียนไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เวลาไปทำงานทำยังไง”“ก็แต่งหน้า” ฉันปาดสายตามองเด็กรู้ทัน“ไม่ต้องมาทำตาดุ เดี๋ยวจะไปบอกคุณธาดาว่าพี่อยู่ที่นี่”“บอกแล้วได้อะไรขึ้นมา” ฉันหันไปถามน้ำหวานด้วยสีหน้าเศร้า“แล้วพี่คิดว่าคุณธาดาเขาจะรู้มั้ยว่าพี่ไม่ได้ที่นอนห้องตัวเองเลยสักคืน”“แล้วเขาจะต้องรู้ไปทำไม”“ปกติพี่อยู่ที่ไหน หายไปไหนเขาจะตามหามั้ย”“ไม่รู้ เลิกถามได้มั้ย เจ้านายของน้ำหวานเขาไม่ได้สนใจหรอกว่าพี่จะอยู่ไหน
“.....” ตอนนี้ได้แต่นั่งนิ่ง ไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองด้วยซ้ำว่าเป็นธาดาจริงหรือเปล่าด้วยตาของตัวเอง แต่ดูจากปฏิกิริยาจากทั้งสองคนก็รู้แล้วว่าเป็นเขาจริง ๆ“เห็นลุงบุญมั้ยน้ำหวาน” เสียงคุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลังของฉัน น้ำหวานลุกขึ้นยืนด้วยท่าทีลนลาน หันมองซ้ายมองขวาหาบุคคลที่ธาดาถามถึง“เดี๋ยวน้ำหวานไปตามหาให้นะคะ”“ถ้าเจอแล้วค่อยบอกว่าให้มาหาฉันหน่อย ไม่ต้องไปตาม”“ได้ค่ะ” น้ำหวานตอบรับเขา แต่สายตามองมาที่ฉันทุกอย่างรอบตัวเงียบสงบไม่มีใครพูดอะไรออกมา จนกระทั่งเสียงฝีเท้าดังขึ้น เพราะธาดาเดินออกไปทันทีไม่คิดจะพูดอะไรกับฉัน น้ำหวานกับเก้ามองมาที่ฉันเป็นจุดเดียวไม่มีใครกล้าพูดอะไรต่อ แต่ความอึดอัดแบบนี้ไม่ชอบเลยพึ่บ! ร่างบางลุกจากเก้าอี้แล้วหันหลังเดินตามหลังคนตัวสูงไปติด ๆหมับ!“ขอคุยด้วยหน่อย”มือเล็กคว้าเข้าที่ข้อมือ แต่ธาดาก็ไม่มีอาการตกใจหรือสะบัดออก เขาปล่อยฉันลากเข้าบ้านตรงไปยังห้องโดยไม่มีทีท่าขัดขืน สายตาของคนรอบตัวหันมามองด้วยความสนใจ ดีนะที่ไม่มีพวกผู้ใหญ่อยู่ตอนนี้ปึง! ประตูห้องปิดลงแล้วทุกอย่างก็เข้าสู่ความเงียบ“ช่วงนี้เป็นอะไร” ฉันทนต่อความรู้สึกอึดอัดแบบนี้ต่อไปไม่ไหวแล