Masukครั้งหนึ่งเธอเคยบอกว่า จะรักเขาตลอดไป แต่ตอนนี้เธอกลับจำเขาไม่ได้ เธอลืมเลือนความรักที่เคยมี เขาจะทำให้เธอจำเขาให้ได้ ผู้หญิงที่จารรอยรัก สลักรอยจำ ในรอยใจคือเธอ กีรดารินทร์ ! *** เชิญติดตามความรักของนายวินท์กับหนูกี้ภาคต่อจากรุ้งปลายเมฆค่ะ
Lihat lebih banyakสนามบิน บาราฮัส(Barajas Airport) มาดริด ประเทศสเปน
ร่างสูงโปร่งยืนหันรีหันขวางมองหาคนมารับด้วยความหงุดหงิด กระเป๋าเดินทางถูกลากมาวางไว้ข้างตัว เกือบชั่วโมงแล้วที่นภวินท์รอสิงหกัลยาผู้ช่วยมือใหม่ที่เดินทางมาล่วงหน้าร่วมอาทิตย์ เพื่อติดต่อและประสานงานกับบุคคลที่นิตยสารของเขาต้องการมาสัมภาษณ์ ช่างภาพหนุ่มเดินทางตามมาทีหลังโดยนัดแนะกับคนที่มาก่อน ให้มารับเขาที่สนามบิน เพื่อเดินทางไปยังโรงแรมที่พัก
“ยายสิงห์ จะเป็นคนจัดการทุกอย่างให้แกเอง แกแค่ไปเก็บภาพงานเทศกาลกับภาพของผู้ให้สัมภาษณ์ การสัมภาษณ์ทั้งหมดเป็นหน้าที่ของยายสิงห์ งานนี้หลานสาวฉันมันออกโรงเอง รับรองว่างานทุกอย่างจะราบรื่นเรียบร้อย หมดจดแน่นอน”
คำพูดของเฮียเป๋ง ก่อนการเดินทางทำให้นภวินท์เบาใจ ไม่คิดว่ายายสิงห์รุ่นน้องตัวแสบจะทำพิษให้เขาต้องมารอเป็นชั่วโมงแบบนี้ เขาน่าจะขึ้นรถแท็กซี่ไปที่โรงแรมเอง ไม่น่ารอถึงป่านนี้ เขาเหนื่อยอยากพัก หากต้องทนรอยายสิงห์มารับอีกสักชั่วโมง ชายหนุ่มไม่แน่ใจว่าตัวเองจะทนไหว ก่อนเดินทางเขามีอาการปวดศีรษะเล็กน้อย เมื่อเครื่องลงจอดเขาพบว่าอาการปวดศีรษะนั้นทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ ใบหน้าขาวเริ่มแดงก่ำ ทั้งปวดทั้งมึนเพราะยังปรับเวลาไม่ได้ เป็นอาการที่เรียกว่า เจทแล็ก*1 หากเจ้าตัวยังอดทนรอให้คนมารับอยู่ร่วมชั่วโมง
ช่างภาพหนุ่มตัดสินใจจะเดินทางไปยังที่พักด้วยตัวเอง เขามียาแก้ไข้ติดตัวมาแต่ไม่ยอมกินตอนนี้ นภวินท์รอให้ตัวเองถึงที่พักก่อนเขาอยากกินยาแล้วนอนพักยาวๆมากกว่า ร่างสูงเดินลากกระเป๋ามายังจุดบริการแท็คซี่ ขณะกำลังเดินร่างของเขาก็ถูกใครบางคนวิ่งมาชนอย่างแรงจากด้านหลัง จนกระเป๋าใส่อุปกรณ์ถ่ายรูปที่หิ้วมาด้วยหลุดจากมือกระเด็นไปไกล คนชนวิ่งไปทางประตูทางออกและชนร่างเพรียวบางในชุดเดรสสั้นสีขาวที่เดินสวนมาล้มลงไปจับกบ ข้างๆกระเป๋าใส่อุปกรณ์ของนภวินท์ ผู้คนที่อยู่ในบริเวณนั้นต่างร้องฮือฮา ด้วยความตกใจ
นภวินท์รีบเข้าไปเก็บกระเป๋าของเขา รปภ.ที่อยู่บริเวณนั้นรีบวิ่งเข้ามาประคองร่างบางที่อยู่บนพื้น ส้นรองเท้าของเธอหัก บวกกับอาการจุกการการถูกผู้ชายร่างใหญ่กระแทก ทำให้ร่างเพรียวบางนั้นลุกขึ้นอย่างยากลำบาก ผมยาวสลวยสีน้ำตาลเข้มระใบหน้าจนมองไม่เห็นหน้าตาชัดเจน เมื่อชายหนุ่มเห็นเธอลุกขึ้นยืนได้เขาก็ทำท่าจะผละไป แต่เสียงสบถของเธอทำให้เขาหันมามอง ก่อนจะเบิกตากว้าง
“บ้าจริง! จะรีบไปตามบัฟฟาโร่กลับนาหรือไงยะ”
เสียงใสๆ พ่นคำด่าเป็นภาษาไทยชัดเจน มือเรียวบางยกขึ้นเสยผมที่รุ่ยมาปรกหน้าตาให้เข้าที่ ใบหน้างามผุดผ่องแบบผู้หญิงเอเชียของเธอ ถูกตบแต่งไว้ด้วยเครื่องสำอางบางเบา ดวงตายาวเรียววาววับด้วยความกราดเกรี้ยว ปากบางเคลือบลิปสติกสีชมพูอ่อนยื่นนิดๆอย่างคนเจ้าอารมณ์ เมื่อหันมาเห็นสายตาของคนที่กำลังจ้องมองเธออยู่
“มองอะไรยะ ไม่เคยเห็นคนจับกบกลางสนามบินเหรอไง ! ” หญิงสาวหันไปวีนใส่ชายหนุ่ม
นภวินท์มองหน้าเธอ เขาจ้องดวงหน้าอ่อนใสนิ่ง กวาดสายตาไปยังดวงตายาวเรียวคู่นั้น จมูกโด่งเล็ก คิ้วเรียวสวยได้รูป ก่อนจะมองไปทั่วร่างบางสมส่วนนั้น แล้วกลับมาจ้องหน้าของหญิงสาวอีกครั้ง ริมฝีปากสีกลีบกุหลาบของเธอขยับไปมาพูดอะไรอีกหลายคำ แต่ชายหนุ่มไม่สนใจฟัง ค่อยๆขยับเข้ามาหาร่างบางอย่างลืมตัว
ใบหน้าของเธอ... เสียงของเธอ...
หัวใจที่แห้งเหี่ยวเหมือนต้นไม้ขาดน้ำ คล้ายถูกราดรดด้วยน้ำทิพย์จนชุ่มชื้น
“หือ... ทำอะไรน่ะ ว้าย!”
หญิงสาวกรีดร้องเมื่อร่างของเธอถูกชายหนุ่มดึงเข้าสู่อ้อมกอด วงแขนแข็งแรงรัดร่างน้อยแนบแน่น ใบหน้าคมซุกซบบนซอกไหล่บาง ร่างสูงสั่นสะท้านไปทั้งตัว ราวกับเจ้าตัวสะกดกลั้นความปรีติไว้ไม่ไหว
เขาไม่สนว่ามีผู้คนอยู่รายรอบ... ไม่สนใจว่าตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน...
สิ่งที่เขาสนใจคือหญิงสาวในอ้อมแขนคนนี้คนเดียว !
นภวินท์จับไหล่บางไว้มั่น ขยับออกมาในระยะที่สามารถสำรวจร่างเพรียวบางได้อย่างละเอียด เนื้อตัวนุ่มนิ่มอุ่นร้อนแสดงให้เขาเห็น ว่าเธอๆไม่ได้เป็นเพียงภาพมายาหลอนหลอกเขา มือหนาเลื่อนมาลูบแก้มนวลแผ่วๆ
“กี้... กีรดารินทร์คุณยังไม่ตาย คุณกลับมาหาผมแล้ว” เขาเอ่ยเสียงพร่า แย้มริมฝีปากยิ้มด้วยความดีใจ ดวงตาคมเปล่งประกายวาวจ้าด้วยความยินดี
หญิงสาวตรงหน้ามองตอบเขาด้วยแววตากราดเกรี้ยวกว่าเมื่อครู่ ร่างบางสะบัดตัวจากการเกาะกุมเต็มแรง ปฏิกิริยาของเธอ แววตาที่เธอมองเขา ทำให้นภวินท์ชะงักงัน
เพี๊ยะ!!!
ฝ่ามือน้อยฟาดเข้าใส่ใบหน้าขาวๆจนสะบัดไปตามแรงตบ รอยสีแดงรูปฝ่ามือปรากฏขึ้นบนแก้มของชายหนุ่ม
“ไอ้โรคจิต ฉันชื่อ ลีเดีย ไม่ได้ชื่อกี้ ถ้าไม่อยากตายอยู่ห่างๆฉันไว้ ! ”
ดวงตาคู่งาม มองเขาด้วยสายตาของคนแปลกหน้า เธอผลักอกเขาแรงๆ ก่อนจะถอดรองเท้าที่ส้นหักของตัวเอง โยนโครมลงบนพื้น ร่างบางเดินด้วยเท้าเปล่าจากไปโดยไม่สนใจว่าใครจะมองเธอด้วยสายตาแบบไหน ทิ้งให้คนโดนตบหน้ายืนนิ่งอยู่ตรงนั้น
นานกว่านาทีนภวินท์ถึงตั้งสติได้ เขามองตามหลังร่างบางที่เดินหายไปด้านในสนามบิน หัวใจชาหนึบด้วยความรู้สึกสับสน ร่างบอบบางในอ้อมกอดที่เขาสัมผัสเมื่อครู่นี้
กลิ่นกายหอมละมุน... เนื้อตัวนุ่มนิ่มนั้น... ทำไมถึงไม่ใช่กีรดารินทร์
เขาจำเธอได้ ต่อให้ผ่านไปอีกสิบปี เขาก็ไม่มีทางลืมสัมผัสของเธอ
ผู้หญิงคนนั้นคือกีรดารินทร์ เธอคือคุณหนูกี้ลูกสาวเจ้าพ่อภัทร!
“กี้ ผมไม่มีวันยอมปล่อยคุณไปอีกแน่ ไม่มีวันกี้ ! ” ชายหนุ่มวิ่งตามร่างบางเข้าไปด้านใน
นภวินท์เชื่อเต็มร้อยว่าเธอคือกีรดารินทร์ของเขา ครั้งหนึ่งเธอเคยบอกว่า จะรักเขาตลอดไป แต่ตอนนี้เธอกลับจำเขาไม่ได้
เธอลืมเลือนความรักที่เคยมี เขาจะทำให้เธอจำเขาให้ได้
เขาไม่มีวันยอมสูญเสียความรักของเธอ ไปให้ใครหน้าไหนทั้งสิ้น !
นภวินท์วิ่งฝ่าผู้คนตามเธอไป เขาเห็นด้านหลังของผู้หญิงที่เดินเท้าเปล่าอยู่ข้างหน้า ชายหนุ่มเร่งฝีเท้าตามในระยะห่าง ร่างเล็กบางของหญิงสาวเดินขึ้นบันไดเลื่อน ชั่วขณะหนึ่งเธอหันมามองด้านหลัง ดวงตายาวเรียวสะบัดค้อนให้ก่อนจะหมุนกายเดินหนีไปอีก เขาพยายามแหวกผู้คนที่เดินสวนมาเพื่อให้ตามเธอทัน ทว่าคนที่ถูกตามดูเหมือนจะรู้ตัวแล้ว เธอก้าวเท้าออกจากบันไดเลื่อนได้ก็รีบวิ่งหนีเขา นภวินท์อยากจะโยนกระเป๋าสัมภาระที่เขาหอบหิ้วมาด้วยทิ้งเหลือเกิน ค่าที่มันทำให้เขาไม่สามารถพาตัวเองไปได้เร็วตามใจอยาก แต่ก็ทิ้งมันไม่ได้อุปกรณ์ถ่ายภาพราคาแพงกับกระเป๋าเสื้อผ้าหากหายไปเขาต้องแย่แน่
“กี้ หยุดนะกี้ หยุดคุยกันก่อน ! ” นภวินท์ตัดสินใจตะโกนเรียกหญิงสาว
“อย่าตามฉันมานะ ไอ้โรคจิต ! ” เธอหันมาตวาดเขา พร้อมกับเร่งฝีเท้าหนีห่างออกไปอีก
ร่างเพรียวบางเดินแกมวิ่งด้วยฝ่าเท้าเปลือยเปล่านำพาตัวเองให้พ้นจากการติดตาม หญิงสาวเบิกตากว้างเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ของผู้ชายคนหนึ่งเดินมาพร้อมกับชายในชุดดำอีกห้าคน เธอรีบวิ่งตรงไปหาเขาด้วยความยินดี
“พี่ราฟ ช่วยลีเดียด้วย มีคนโรคจิตตามลีเดียมา” มือน้อยเกาะแขนพี่ชายไว้แน่น
ราฟาเอล ก้มลงมองใบหน้าแดงจัดของน้องสาวต่างสายเลือด ดวงตายาวเรียวมีแววตื่นตระหนก มือหนากุมมือน้อยของน้องสาวไว้มั่นบีบเบาให้คลายวิตก เขาส่งสายตาให้บอดี้การ์ดข้างกายเตรียมพร้อม ดวงตาสีควันบุหรี่วาวกล้าขณะมองหาคนที่บังอาจมาทำให้ลีเดียต้องตกใจ
“คุณ เอ่อ... ขอโทษด้วย ผมจำชื่อคุณไม่ได้” นภวินท์หัวเราะกลบเกลื่อน“ผมชื่อฟิลลิป เป็นเลขาของท่านนิโคไลน์ กอนซาเลสครับ” เขาเอ่ยแนะนำตัวเองอย่างเป็นทางการนภวินท์พยักหน้ารับรู้ หากไม่ยอมเอ่ยถึงอาการหลงลืมของตัวเองออกมา “ที่นี่ไหนกันเนี่ย ผมคงเมาจนจำอะไรไม่ได้”“ที่นี่คือซาน เซบาสเตียนครับ เกสเฮ้าส์หลังนี้เป็นของเจ้านายของผม ท่านจัดให้คุณพักในระหว่างเดินทางมาพักผ่อนที่นี่ครับ” เลขาของนิโคไลน์เอ่ยขึ้นนภวินท์ลุกขึ้นยืน ผายมือเชื้อเชิญผู้มาเยือนให้ไปนั่งที่เก้าอี้ริมระเบียง ชายหนุ่มครุ่นคิดถึงวิธีสืบหาความทรงจำที่หายไปของเขา หรือเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ทำให้สมองของเขามึนงง จนจำอะไรไม่ได้ ไม่รู้ว่าเหล้าที่เขาดื่มเข้าไปชื่ออะไร จะได้ไม่ดื่มมันอีก“ที่นี่บรรยากาศดีนะครับ เหมาะสำหรับพักผ่อน แต่ผู้คนเยอะไปหน่อยดูพลุกพล่าน” นภวินท์ชวนคุยฟิลลิปยิ้มเล็กน้อยเมื่อเห็นคู่สนทนาเอนหลังอย่างสบายอารมณ์ เขายื่นถุงกระดาษและกล่องที่ถือมาให้ชายหนุ่ม คนรับมองของที่ได้รับด้วยความสงสัย เมื่อเปิดกล่องออกดูก็พบกล้องและอุปกรณ์ถ่ายภาพ ของที่อยู่ในถุงเป็นเสื้อผ้าชุดใหม่“ เอามาให้ผมทำไมครับ”“ของที่คุณซื้อเมื่อวานยังไงค
“นิโคไลน์ แกอย่าคิดอะไรโง่ๆแบบนั้นนะ ยายผู้หญิงนั่นมันเป็นคนในตระกูลราโดรเปรเรส มันต้องร่วมชดใช้” เขาตอกย้ำเป้าประสงค์หลักให้อีกฝ่ายรับรู้“ผมจะแต่งงานกับเธอ ให้เธอเป็นคนในตระกูลกอนซาเลสของเรา แค่นี้เธอก็ไม่เกี่ยวของกับเฟอร์นันโดแล้ว” คนเป็นหลานหาทางออกให้ทางออกของนิโคไลน์ทำให้คนเป็นลุงรู้สึกขัดใจ คาลอสไม่ต้องการให้สายเลือดของกอนซาเลสไปรวมกับราโดรเปรเรส ไม่ว่าจะโดยตรงหรือทางอ้อม เขาไม่มีวันยอมให้นิโคไลน์เอาลูกสาวของเฟอร์นันโดมายกย่องเป็นเมียออกหน้าออกตา“ถ้าแกไม่ทำตามที่ฉันสั่ง แกก็ส่งเธอมาให้ฉัน แล้วแกก็ไสหัวไปไกลๆฉันเลย ! ” คาลอสเริ่มอารมณ์เสีย เขาตวาดใส่คนปลายสายอย่างหงุดหงิด“ผมไม่ยอมให้ลุงทำอะไรลีเดียหรอกครับ เธอเป็นของผมและผมไม่ยอมส่งเธอให้ลุงเด็ดขาด ถ้าลุงอยากได้ตัวประกัน ผมจะส่งนายนภวินท์ไปให้” นิโคไลน์ไม่ยอมอ่อนข้อให้ผู้เป็นลุง ยามนี้เขาลุกขึ้นมาปกป้องลีเดียอย่างเต็มตัว แสดงให้คาลอสรับรู้ว่าเขาจริงจังกับผู้หญิงคนนี้มากเพียงใด“แกจับตัวนภวินท์ไปด้วยเหรอ ไอ้หลานโง่ แกทำเกินคำสั่งอีกแล้วนะ” คาลอสตะโกนลั่นอย่างหัวเสียสิ่งที่สั่ง นิโคไลน์ไม่ยอมทำ แต่สิ่งที่ไม่ได้สั่งกลับทำเกินหน
คฤหาสน์ตระกูลราโดรเปรเรส คนของตระกูลอรรถไกรสิบคน ที่ส่งมาตามคำขอของนภวินท์ผู้เป็นนายเล็ก ได้เดินทางมาถึงสเปนและมาพบกับเฟอร์นันโด ตามคำสั่งของฆนากรพี่ชายนภวินท์ ขจรเกียรติกับนายวงค์หัวหน้าบอดี้การ์ดร่วมประชุมกับเจ้าของบ้านและลูกชาย ที่เพิ่งกลับมาจากพัมโพลนา “ไอ้คาลอส มันจับตัวลีเดียลูกสาวผมกับคุณนภวินท์ไป ตอนนี้เรากำลังส่งคนตามสืบหาที่อยู่” เฟอร์นันโดเอ่ยขึ้น ด้วยสีหน้าเคร่งเครียด “พวกนั้นคงไม่กล้าทำอะไรคุณหนูกับคุณวินท์ เพราะมิสเตอร์คาลอสกับคุณฆนากร เคยมีความสัมพันธ์อันดีต่อกันมาก่อน” ขจรเกียรติให้ความเห็น ก่อนหน้านี้เขาได้รายงานเรื่องที่เกิดขึ้นให้ฆนากรรับรู้ ผู้เป็นนายได้ติดต่อพูดคุยกับมาเฟียอิตาเลี่ยนผู้นั้นแล้ว คาลอสรับปากจะส่งตัว นภวินท์กลับมาอย่างปลอดภัย แต่ไม่ยอมเอ่ยถึงการปล่อยตัวลูกสาวบุญธรรมของเฟอร์นันโด ขจรเกียรติเก็บงำเรื่องนี้ไว้ ไม่ยอมเอ่ยให้อีกฝ่ายรับรู้ ด้วยเกรงจะทำให้หมางใจกันเปล่าๆ เมื่อคาลอสกับเฟอร์นันโดเป็นศัตรูกัน จึงไม่ควรแสดงท่าทีสนิทสนมกับฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมากเกินไป“ตอนนี้ ลีเดียอยู่กับพวกมัน เราไม่
ทายาทตระกูลกอนซาเลส หันไปมองด้านหลังของรถ เขามองร่างของช่างภาพหนุ่มชาวไทยอย่างครุ่นคิด เขาจะจัดการเจ้าหมอนี่ยังไงดี นิโคไลน์ไม่ต้องการฆ่าใครโดยไม่จำเป็น ครู่หนึ่งริมฝีปากหยักหนายกขึ้นพร้อมประกายบางอย่างปรากฏขึ้นบนดวงตาเมื่อความคิดหนึ่งเกิดขึ้น“ฟิลลิป ทำให้ไอ้หมอนี่กลายเป็นคนความจำเสื่อมได้ไหม ฉันจำเป็นต้องเก็บมันไว้” ผู้เป็นนายสั่งลูกน้องคู่ใจ“ท่านจะให้ผมใช้ยานั่นกับมันหรือครับ” ฟิลลิปเอ่ยถามเพื่อความแน่ใจ เขามียากล่อมประสาทชนิดหนึ่งที่ทำให้คนได้รับยา กลายเป็นคนความจำเสื่อมชั่วคราวจากการถูกฤทธิ์ยากดประสาท จนไม่สามารถจำอะไรได้ ง่ายต่อการล้างสมองให้ทำอะไรตามคำสั่ง ตัวยานี้ คาลอส มันชินี่ นำมาให้ใช้เพื่อจัดการกับคนที่ขัดขวางการก้าวสู่อำนาจของ นิโคไลน์ ซึ่งเขาได้ใช้มันกับคณะกรรมการของเมืองหลายคน ที่คัดค้านการขึ้นดำรงตำแหน่งรองประธานผู้เพาะพันธุ์วัวกระทิงของผู้เป็นนาย “จัดการให้เรียบร้อย ก่อนที่มันจะตื่นมาอาละวาด ฉันต้องการให้มันลืมเรื่องของลีเดีย มันจะเป็นเพียงแค่ช่างภาพที่ฉันจ้างมาทำงานให้เท่านั้น” นิโคไลน์ก้มลงมอง ใบหน้างามที่นอนอยู่บนตักตัวเอง “ฉันกับลีเดีย อาจจะอยู่ที่นี่อีกหลายวั
อังตวนสีหน้าขึ้งเครียดกว่าเมื่อครู่ เมื่อยื่นบางสิ่งให้ผู้เป็นนายน้อย “เราพบแต่ไอ้นี่ครับ ผมขอโทษที่ดูแลคุณลีเดียไม่ดีพอ” หัวหน้าบอดี้การ์ดก้มหน้ารับผิดราฟาเอลชาไปทั้งตัวใจหายวาบ เขาหันหลังให้บอดี้การ์ดคนสนิทของบิดา สีหน้าของชายหนุ่มเรียบนิ่งหากแววตากลับวาววับราวกับมีเปลวไฟอยู่ในนั้น มือหนากำแหวนสัญญาณในมือแน่น เขารู้ดีว่าฝ่ายตรงข้ามโหดร้ายทารุณแค่ไหน แม้แต่เด็กตัวเล็กๆมันยังกล้าทำร้ายจนเกือบพิการ ภาพในอดีตวาบผ่านเข้ามาในมโนนึก“ไอ้หนู แกโชคร้ายเอง ที่เกิดมาเป็นคนในตระกูลราโดรเปรเรสนั่น”เสียงห้าวทุ้มของผู้ชายร่างใหญ่ดังขึ้น ขณะมองลูกสมุนของตนกำลังทรมานเด็กชายวัยแปดขวบด้วยการใช้เข็มหมุด ปักลงที่ปลายนิ้วน้อยๆนั้น เสียงร้องไห้ดังลั่น ไม่ทำให้คนมองใจอ่อนสักนิด ดวงตาสีอำพันยังคงมองความเจ็บปวดของเด็กน้อยด้วยสีหน้าพอใจ ร่างของเด็กชายพยายามดิ้นหนีแต่ถูกผู้ใหญ่ตัวโตจับไว้แน่น“ถ่ายรูปส่งไปให้พ่อมันดู ฉันอยากให้ไอ้เฟอร์นันโดมันเห็นลูกชายของมันตอนนี้ ฮ่า ฮ่า ฮ่า” คาลอสหัวเราะสะใจราฟาเอลในวัยเยาว์จดจำใบหน้าของชายใจร้ายฝังใจ ตอนนั้นเขาไม่รู้ว่าชายคนนั้นเป็นใคร เพราะความซุกซนทำให้เขาได้รับบทเรีย
สิงหกัลยาถูกกักไว้ในวงแขนกำยำของมาทาดอร์หนุ่มจนดิ้นไม่หลุด ราฟาเอลยังคงกอดรัดร่างน้อยไม่ยอมปล่อย แม่สิงห์สาวร้อนวูบวาบไปทั้งตัวเมื่อจมูกโด่งงามซุกไซ้ไปทั่วซอกคอหอมกรุ่น โต๊ะที่ทั้งสองนั่งอยู่เป็นมุมอับสายตาคนแถมไฟยังสลัว เสียงเพลงเปิดคลอผสานกับเสียงของผู้คนที่นั่งอยู่ตามโต๊ะต่างๆ ทำให้ไม่มีใครสนใจว่าใครกำลังทำอะไร บอดี้การ์ดของเขายืนหันหลังให้เปิดโอกาสให้นายน้อยของตน ได้วาดลวดลายสีหญิงเต็มที่ ยิปซีสาวหลงถิ่นมองหาทางรอดแทบไม่เจอ เมื่อถูกเขารังแกแบบไร้ทางสู้ราฟาเอลเพลินกับเนื้อตัวนุ่มนิ่มของสาวน้อยในอ้อมกอด ทำให้หัวใจของเขาโรจน์แรง จากที่คิดจะแกล้งเธอให้ตกใจเล่น แต่เมื่อได้สัมผัสเนื้อนวล มาทาดอร์หนุ่มกลับห้ามใจตัวเองไว้ไม่อยู่ ลืมเรื่องที่น้องสาวออกไปกับช่างภาพหนุ่มไป เขากดริมฝีปากจุมพิตแก้มนวลแรงๆอีกครั้ง อย่างอดใจไม่ไหว กระซิบเสียงพร่าว่า“ลีโอโนร่า... ฉันชอบเธอ”“แต่ฉันเกลียดนาย ไอ้มาทาดอร์หื่น”สิงหกัลยาดันหน้าที่ก้มลงมาแนบชิดออกห่าง ไม่ได้เคลิ้มไปกับคำพูดของเขาเลย เขาเคยบอกว่าจะทำให้เธอรัก แต่สิ่งที่เขากำลังทำเธอกลับเพิ่มความเกลียดมากกว่าจะรู้สึกรักเขาลง ผู้ชายอย่างเขามองผู้หญิงเป
Komen