รักแรกและแอบรักเขารักเพื่อนตัวเองที่เป็นทั้งเลขาและเป็นผู้กุมหัวใจ เธอหญิงสาวเย็นชาที่พยายามหยุดหัวใจตัวเองไม่ให้รู้สึกกับเขาเกินคำว่าเพื่อนและเจ้านาย ความรัก ความวุ่นวาย ความเจ้าเล่ห์และเย็นชาใครจะชน
ดูเพิ่มเติมรักแรกและแอบรักเขารักเพื่อนตัวเองที่เป็นทั้งเลขาและเป็นผู้กุมหัวใจ เธอหญิงสาวเย็นชาที่พยายามหยุดหัวใจตัวเองไม่ให้รู้สึกกับเขาเกินคำว่าเพื่อนและเจ้านาย ความรัก ความวุ่นวาย ความเจ้าเล่ห์และเย็นชาใครจะชนะ
เธอ... เลขาสาวสวยผู้เย็นชา เธอเป็นผู้หญิงเพียงคนเดียวที่สามารถควบคุมเขาได้ เธอเป็นคนเดียวที่เขายอม และเธอเป็นคนเดียวที่เขารัก แต่ด้วยความผูกพันระหว่างเธอและเขามันใกล้ชิดกันจนกลายเป็นความเคยชิน ทำให้เธอไม่เคยมองเขาในฐานะของผู้ชายคนหนึ่ง แต่มองเขาเป็นเพียงแค่เจ้านายและเพื่อนเท่านั้น
"คุณธาดาไม่ตายเพราะแผลแค่นี้หรอกค่ะ แต่จะตายด้วยเอดส์ก่อน แล้วก็ไม่ต้องห่วงนะงานของคุณคงมีสาวๆ มาร้องไห้กันเยอะน่าดู"
เขา...เจ้านายผู้สร้างปัญหา เขาตั้งใจทำทุกอย่างที่ให้เธอยังคงอยู่กับตลอดไป เขายอมเพียงแค่เธอคนเดียว แต่เธอกลับไม่รู้ตัวเองเลยว่ามีผลกับใจเขาแค่ไหน เจ้านายผู้ทำทุกวิถีทางให้เธอสนใจ แต่ความเย็นชาสุดแสนจะซื่อบื้อของเธอกำลังทำให้เขาคลั่ง
"เธอจะมาใส่ชุดแบบนี้ต่อหน้าฉันไม่ได้นะ ระวังตัวเอาไว้หน่อยอย่าคิดกับฉันแค่เจ้านายหรือเพื่อน...ระวังฉันในฐานะผู้ชายความอดทนต่ำคนหนึ่งไว้ด้วย"
ในทุกๆ วันของพวกเขาคือการอยู่ด้วยกันตลอด24ชั่วโมง จนทำให้ความเคยชินกำลังจะเปลี่ยนเป็นความรัก จากเพื่อนเลื่อนมาเป็นเลขา และเขากำลังจะทำให้เธอเลื่อนมาเป็นของของ เขา แต่งานนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะความเย็นชาของเธอที่ไม่เคยเปลี่ยนไป
ภิญญาพัชญ์ ศิริตานนท์
ชื่อเล่น เทียนไข อายุ 28ปี
เลขาประจำตัวธาดา ผู้หญิงเพียงคนเดียวที่จัดการธาดาได้ทุกเรื่อง นิสัย เย็นชา เยือกเย็น พูดน้อย แต่เธอจะพูดเยอะขึ้นเฉพาะตอนที่ต้องจัดการเจ้านายตัวเองเท่านั้น
"คุณธาดาไม่ตายด้วยแผลแค่นี้หรอกค่ะ แต่คุณธาดาจะตายด้วยเอดส์ก่อน"
ธาดา ปริยากรสกุล
ชื่อเล่น ธาดา อายุ28ปี
ทายาทเพียงคนเดียวของบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ เจ้านายผู้ที่สร้างปัญหาให้เลขาของเขาเสมอ สาเหตุเพียงเพราะต้องการให้เธออยู่ใกล้เขาตลอดเวลา
"ไหนบอกจะไม่มีแฟน ฉันก็จะไม่มีแฟนเพื่อจะได้อยู่เธอตลอดไปนะเทียนไข"
(ช่วงวัยเด็กของเทียนไขกับธาดา (ช่วงเกรด7หรือมัธยมชั้นปีที่ 1) ปึง!ประตูห้องครัวหอพักคนงานถูกเปิดออกเต็มแรง พร้อมกับเด็กชายผู้เป็นคุณหนูของบ้านนี้ และยังเป็นเพื่อนสนิทของลูกสาวหัวหน้าแม่บ้านอย่าง...เทียนไข“เทียนไข! ทำไมไม่บอกว่าจะสอบเข้าด้วยคะแนนเต็มเพื่อไปอยู่ห้องคิงล่ะ เรานึกว่าเทียนจะเลือกทำคะแนนน้อยแล้วไปอยู่ห้องสุดท้ายเพราะจะได้มีเวลาไปเล่นกับเรา”เด็กสาวเงยหน้าจากตะกร้าผักที่เธอกำลังเด็ดอยู่แล้วเงยมองขึ้นใบหน้าของ ธาดา ลูกชายเจ้าของบ้าน และเป็นเพื่อนของเธอด้วยสายตาไร้ความรู้สึก“ทำไมต้องทำแบบนั้น”“เพราะเทียนต้องไปเล่นกับเราทุกวันหลังเลิกเรียนไง”“ไม่ไปหรอก เทียนรำคาญธาดา”“...เทียนใจร้าย เทียนทำแบบนี้เราต้องอยู่คนละห้องเลยนะ เราต้องแยกกันตลอดหกปีนะเทียน!”“....” เด็กสาวหันมองธาดาด้วยสายตาเย็นชา ก่อนที่จะลุกขึ้นยืนพร้อมกับอุ้มตะกร้าผักเดินหนี“เราอยากอยู่กับเทียน!” ธาดาวิ่งตามหลัง และพูดคำเดิมซ้ำ ๆ ไปตลอดทาง“รำคาญ....” ไม่ว่าจะโดนเทียนไขว่าสักกี่ครั้งก็ไม่เคยทำให้ธาดาละความพยายามไปได้“เราจะไปรับเทียนที่ห้องทุกวัน! เทียนห้ามมีแฟนนะ เทียนต้องอยู่กับเรา!”“...รำคาญ” น้ำเสียงเย็
“หายไปไหนของเขา”เสียงบ่นพึมพำกับตัวเอง สายตาสอดส่องมองซ้ายมองขวาเพื่อหาตัวธาดาที่ฉันก็ไม่รู้ว่าเขาหายไปไหนสักพักแล้ว โทรศัพท์ก็ไม่พกติดตัวนี่เดินรอบแล้วเหลือแต่ที่หอพักคนงาน แต่ปกติธาดาจะไม่ได้ไปที่นั่นถ้าไม่มีธุระสำคัญ“ป้าขวัญคะ เห็นคุณธาดามั้ย” ในระหว่างที่กำลังหยุดยืนคิดอยู่หน้าบ้านใหญ่ ป้าขวัญ แม่ครัวของบ้านก็เดินออกมาจากมุมมืดพอดี“คุณธาดาเห็นนั่งอยู่กับเก้าตรงสวนด้านหลังนะ ไอ้เก้ามันเมาด้วยเห็นขวดเบียร์ตั้งอยู่”“ขอบคุณค่ะป้า” เมื่อได้ยินอย่างนั้นฉันก็รีบเดินไปยังสวนด้านหลังทันทีเก้าเมาแล้วจะพูดอะไรไม่เข้าหูธาดามั้ยเนี่ย แล้วสิ่งที่น่าสงสัยมากที่สุดเขาไปนั่งอยู่กับเก้าทำไม ในระหว่างที่เดินไป และในหัวเองก็กำลังประมวลผลเรื่องราวที่คาดว่าจะเกิดขึ้น สายตาก็เพ่งมองไปยังร่างบางของผู้หญิงคนหนึ่งที่นั่งอยู่บนพื้นแอบมองอะไรบางอย่างอยู่ก่อนแล้ว“น้ำหวาน” ฉันย่อตัวนั่งลงด้านหลังน้ำหวานแล้วกระซิบเรียกชื่อเธอ“อุ้ย! พี่เทียนตกใจหมด” เมื่อหันมาพบว่าเป็นฉันน้ำหวานก็สะดุ้งสุดตัว แต่ก็เก็บเสียงได้อย่างดี“สองคนนั้นทำอะไร” ฉันมองตรงไปยังโต๊ะม้าหินขวดเบียร์วางเรียงกันบนโต๊ะ และด้านข้างที่ถังน้
แอด!ประตูห้องน้ำเปิดออกพร้อมกับร่างบางในชุดนอนสีฟ้าอ่อนกำลังเดินออกมา แต่สองเท้าก็ต้องหยุดชะงักเมื่อสบตากับคนตัวสูงที่ยืนกอดอกรออยู่หน้าประตู“....” เราทั้งสองคนสบตากัน และธาดาก็ยังคงยืนทำหน้าเครียดไม่พูดไม่จา“....” เอาแต่ยืนมองหน้าแล้ววันนี้จะเข้าใจมั้ยว่าต้องการอะไร“เป็นอะไร” ต้องเป็นฝ่ายถามซะเอง เพราะธาดาเอาแต่ยืนเงียบ“ทำไมไม่ไปนอนด้วยกัน” ที่ไม่พอใจเพราะเรื่องนี้นี่เอง“ก็ของยังอยู่ห้องนี้”“ไปนอนก่อน เดี๋ยวให้คนมาย้ายของให้”“แล้วถ้าไม่ไป” ฉันเดินเข้าไปหยุดยืนตรงหน้าแล้วกอดอกถาม“....” เขาก้มมองคนตัวเล็ก“จะบังคับหรือเปล่า”“ไม่ ถ้าเทียนไขไม่ไป เราก็นอนที่ห้องนี้ อยากกอดเมียแล้วก็ลูก” ริมฝีปากบางอมยิ้มให้กับสิ่งที่เขาพูด ใช่...ฉันกำลังท้อง“ยังไม่แน่ชัดสักหน่อยว่าท้อง เดี๋ยวต้องไปตรวจที่โรงพยาบาลก่อนสิ”“ที่ตรวจสามอันขึ้นสองขีดเนี่ยยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ หรือว่าต้องว่าย้ำ” มือหนาโอบเข้าที่เอวบางแล้วดึงมาชิดตัว“อาจจะเป็นหนึ่งเปอร์เซ็นต์ที่คลาดเคลื่อนก็ได้” แกล้งเขานี่มันสนุกดีจริง“จะบอกว่ากินยามาตลอดยังไงก็ไม่ติดน่ะเหรอ”“....” เขายังจำทุกอย่างที่ฉันเคยพูดเอาไว้ได้อีกนะ“ยาไม่แ
เวลา 05.45 น.ตึก ตึก ตึก!เท้าเล็กวิ่งขึ้นบันไดตรงไปยังห้องนอนของตัวเองในบ้านใหญ่ ยังพอมีเวลาที่จะอาบน้ำแต่งตัวมาดักรอธาดา ถึงเขาจะพูดว่าไม่ให้ฉันมาดูแลในตอนเช้า และก็เพราะนิสัยไม่ดีของตัวเองที่พยายามปฏิเสธความรู้สึกมาตลอดโอเค! จะทำตามใจตัวเองบ้างแล้วนะ มันก็จะเหมือนกับว่าจะเป็นฉันเองที่เป็นฝ่ายไล่ตามเขา เหมือนที่ธาดาก็ทำมาตลอดก่อนหน้านี้ ต่อจากนี้ไม่สนแล้วว่าผลที่ออกจะเป็นยังไง หรือเขาจะปฏิเสธเหมือนที่ฉันเคยทำ แต่ต่อให้เขาปฏิเสธฉันก็ไม่สนแอด!มือเล็กเอื้อมจับลูกบิดประตูแล้วดันเปิดออก สายตามองผ่านความมืดเข้าไปในห้องของธาดา มองจากมุมนี้จะเห็นเพียงแผ่นหลังกว้างที่นอนตะแคงหันหลังให้ เขายังไม่ตื่น ฉันจัดการตัวเองก่อนที่เขาจะออกไปทันแน่“เดี๋ยวเราเจอกัน” เสียงเล็กพึมพำเบา ๆ แล้วดึงประตูปิด ก่อนที่จะมุ่งตรงไปยังห้องนอนตัวเองเพื่อจัดการธุระส่วนตัวให้เรียบร้อย30 นาทีผ่านไป ก๊อก ก๊อก แอด!มือเล็กค้างกลางอากาศเมื่อประตูเปิดออกทันที ร่างสูงเปลือยกายท่อนบน ส่วนล่างมีเพียงผ้าขนหนูพันรอบเอว ร่างกายเปียกซึ่งน่าจะพึ่งออกมาจากห้องน้ำ เขามองฉันด้วยสีหน้าตกใจ“....” ธาดามองหน้าฉันโดยที่ไม่คิดจะพูดท
หลายวันต่อมา “พี่เทียนจะร้องไห้กับหนังผีไม่ได้นะ”เสียงบ่นของน้ำหวานทำให้ฉันได้สติกลับมา ดวงตากลมโตเลอะคราบน้ำตาหันไปมองยังบุคคลที่นั่งอยู่ข้างกัน ตอนนี้เราทั้งคู่อยู่ในห้องนอนของน้ำหวาน ฉันถูกชวนให้มาดูหนังเป็นเพื่อน เพราะเธอเองก็ไม่อยากให้ฉันต้องอยู่เพียงลำพัง“ก็สงสารผีที่ถูกฆ่าตาย”“สงสารตาตัวเองก่อนเถอะ หันมาทางนี้หน่อย”“....” น้ำหวานดึงผ้าห่มที่คลุมหัวออกแล้วจับตัวฉันให้หันมาประจันหน้ากับเธอ“เฮ้อ ตาช้ำแล้วช้ำอีกพี่ร้องไห้ติดต่อกันมากี่วันแล้วเนี่ย” น้ำหวานถามอย่างรู้ทัน พร้อมกับเอาถุงเจลเย็นประคบลงบนเปลือกตา“ไม่ได้ร้องแล้ว มีวันนี้ร้องเพราะหนังนี่ไง”“พี่เทียนกลายเป็นคนโกหกไม่เนียนไปตั้งแต่เมื่อไหร่ เวลาไปทำงานทำยังไง”“ก็แต่งหน้า” ฉันปาดสายตามองเด็กรู้ทัน“ไม่ต้องมาทำตาดุ เดี๋ยวจะไปบอกคุณธาดาว่าพี่อยู่ที่นี่”“บอกแล้วได้อะไรขึ้นมา” ฉันหันไปถามน้ำหวานด้วยสีหน้าเศร้า“แล้วพี่คิดว่าคุณธาดาเขาจะรู้มั้ยว่าพี่ไม่ได้ที่นอนห้องตัวเองเลยสักคืน”“แล้วเขาจะต้องรู้ไปทำไม”“ปกติพี่อยู่ที่ไหน หายไปไหนเขาจะตามหามั้ย”“ไม่รู้ เลิกถามได้มั้ย เจ้านายของน้ำหวานเขาไม่ได้สนใจหรอกว่าพี่จะอยู่ไหน
“.....” ตอนนี้ได้แต่นั่งนิ่ง ไม่กล้าแม้แต่จะหันไปมองด้วยซ้ำว่าเป็นธาดาจริงหรือเปล่าด้วยตาของตัวเอง แต่ดูจากปฏิกิริยาจากทั้งสองคนก็รู้แล้วว่าเป็นเขาจริง ๆ“เห็นลุงบุญมั้ยน้ำหวาน” เสียงคุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลังของฉัน น้ำหวานลุกขึ้นยืนด้วยท่าทีลนลาน หันมองซ้ายมองขวาหาบุคคลที่ธาดาถามถึง“เดี๋ยวน้ำหวานไปตามหาให้นะคะ”“ถ้าเจอแล้วค่อยบอกว่าให้มาหาฉันหน่อย ไม่ต้องไปตาม”“ได้ค่ะ” น้ำหวานตอบรับเขา แต่สายตามองมาที่ฉันทุกอย่างรอบตัวเงียบสงบไม่มีใครพูดอะไรออกมา จนกระทั่งเสียงฝีเท้าดังขึ้น เพราะธาดาเดินออกไปทันทีไม่คิดจะพูดอะไรกับฉัน น้ำหวานกับเก้ามองมาที่ฉันเป็นจุดเดียวไม่มีใครกล้าพูดอะไรต่อ แต่ความอึดอัดแบบนี้ไม่ชอบเลยพึ่บ! ร่างบางลุกจากเก้าอี้แล้วหันหลังเดินตามหลังคนตัวสูงไปติด ๆหมับ!“ขอคุยด้วยหน่อย”มือเล็กคว้าเข้าที่ข้อมือ แต่ธาดาก็ไม่มีอาการตกใจหรือสะบัดออก เขาปล่อยฉันลากเข้าบ้านตรงไปยังห้องโดยไม่มีทีท่าขัดขืน สายตาของคนรอบตัวหันมามองด้วยความสนใจ ดีนะที่ไม่มีพวกผู้ใหญ่อยู่ตอนนี้ปึง! ประตูห้องปิดลงแล้วทุกอย่างก็เข้าสู่ความเงียบ“ช่วงนี้เป็นอะไร” ฉันทนต่อความรู้สึกอึดอัดแบบนี้ต่อไปไม่ไหวแล
ความคิดเห็น