“ราม!!!”เมี้ยววว~~“รามจริงๆ ด้วย งื้อออ โรสคิดถึง คิดถึงมากเลยรู้ไหม” ฉันโผล่เข้ากอดแมวตัวสีเทาแต้มขาวที่นั่งอยู่บนโซฟาทันทีที่เจ้าแมวน้อยขานรับ ว่าเขาคือ ราม แมวที่ฉันเคยเก็บมาเลี้ยงเมี้ยวว~ เมี้ยววว~“โรสขอโทษ ขอโทษที่ทิ้งรามไว้แบบนั้น ฮึก” ฉันร้องไห้อีกแล้ว น้ำตาฉันมันไหล่บ่อยเกินไปแล้วนะ แต่มันอดไม่ได้จริงๆ ฉันนึกว่ารามตายไปแล้วซะอีก แต่ธามกลับเป็นคนไปเอาเจ้ารามมาเลี้ยงไว้ ทั้งๆ ที่เขาไม่ชอบแมวเลยด้วยซ้ำฉันโอบกอดเจ้าแมวน้อยของฉันไว้แน่นไม่ยอมปล่อยและมันเองก็เหมือนจะจำฉันได้นะ ดูจากการที่มันคลอเคลียอยู่กับแก้มฉันไปมาและส่งเสียงร้องเหมียวๆ ตลอดเวลา“ร้องไห้อีกแล้ว” ธามย่อตัวลงนั่งชันเข่าข้างหนึ่งแล้วใช่มือขึ้นเกลี่ยเช็ดน้ำตาบนแก้มฉันทั้งสองข้างสลับกัน ก่อนจะลุกไปนั่งบนโซฟาแล้วยกร่างฉันลอยขึ้นกลางอากาศมานั่งลงบนตักแกร่งของเขา ฉันตกใจจนเผลอปล่อยรามออกจากอ้อมกอด“อ๊ะ ธาม ทำอะไรเนี่ย” ฉันพยายามจะขยับตัวลงแต่ธามไม่ยอม แถมเลื่อนแขนโอบกอดเอวฉันไว้อีก“นั่งนี่แหละ&
@บ้านตรีทรัพย์“หนูโรสจ๊ะ”ฉันสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อคุณนายท่านทูตเอ่ยเรียกพลางเอื้อมมือมาจับแขน เพราะจิตใจฉันมันไม่ได้อยู่บนโต๊ะอาหาร และไม่รู้เลยว่าพวกท่านคุยอะไรกันบ้าง“คะ?” ฉันหันกลับมาขานรับท่านตามมารยาท ก่อนจะสลัดเรื่องของธามออกจากหัว บ้าจริง...ฉันมัวแต่นั่งคิดว่าจะบอกเรื่องธามกับคุณพ่อยังไง จะเริ่มจากตรงไหนก่อนดี“เป็นอะไรรึเปล่า อาหารไม่ถูกปากเหรอจ๊ะ”“เปล่าค่ะ อาหารอร่อยมากเลยค่ะ” ฉันพูดไปไม่ใช่เพราะเอาใจคุณนาย แต่แม่ครัวของคุณพ่อฝีมือดีมากจริงๆ แล้วฉันก็หันไปสนใจอาหารตรงหน้าต่อ“งั้นหนูก็มากินข้าวกับพ่อบ่อยๆ ซิ” คุณพ่อพูดขึ้นน้ำเสียงจริงจัง ท่านไม่ได้แค่แซว แต่อยากให้ฉันมาหาบ่อยๆ นั้นคือเรื่องจริง ท่านคงจะเหงาเพราะคุณนายก็ไม่มีลูก ในบ้านก็เลยมีแค่ท่านสองคน“ผมอาสารับส่งให้ฟรีเลยครับ” พี่ซันออกหน้ารับทันที ก่อนที่ฉันจะเงยหน้ามองเขาแบบอึ้งๆ ส่วนคุณพ่อก็เสริมทัพ“ดีเลย พ่อยิ่งไม่อยากให้หนูขับรถอยู่ด้วย”“พ่อ
ปัจจุบัน...ผมปาดเช็ดน้ำตาแบบลวกๆ ก่อนจะสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และปล่อยมันออกพรืดใหญ่ เพื่อปรับอารมณ์ในร่างกาย ใจจริงผมก็อยากจะถามเธอตรงๆ ไปเลยเหมือนกันนะ แต่ถ้าโรสคิดจะบอก คงไม่เก็บเป็นความลับมาตั้งสี่ปี เพราะฉะนั้น ผมเลยต้องไปหาอีกคนที่น่าจะให้คำตอบผมได้มากกว่า@โรงพยาบาลครืดดดดพรึบบบผมเลื่อนประตูเปิดอย่างถือวิสาสะแล้วเดินเข้ามาโยนซองสีน้ำตาลที่เอาออกมาจากห้องโรสลงบนโต๊ะทำงานเฮียหมอไวน์อย่างแรง“อะไรของมึงวะ” เฮียหมอไวน์มองเอกสารตรงหน้าก่อนจะเลิกคิ้วถามขึ้นด้วยความสงสัย“อธิบายมา” ผมพูดขึ้นเสียงเข้มพร้อมกับเลื่อนเก้าอี้ที่เตรียมไว้สำหรับคนไข้ที่มาเข้าตรวจ ออกมาทิ้งตัวลงเหมือนคนหมดสภาพ เฮียหมอไวน์เปิดซองเอกสารและหยิบมันออกมาดูอย่างพินิจ ก่อนจะเบิกตากว้างมองผมด้วยความตกใจ“มึงไปเอามาจากไหน”“ที่เฮียเคยบอกว่าการรักษาต่อเนื่อง มันคือรักษาตา ให้กลับมามองเห็นอีกครั้งใช่มะ” ผมมั่นใจมากว่าโรสเคยตาบอดแน่ๆ เพราะของที่อยู่ในกล่องนั่นและผมคิดว่าในซองต้องมีเ
“เห่ย!” ฉันโพล่งขึ้นด้วยความตกใจเมื่อฉุกคิดบางอย่างขึ้นมาได้ พี่ซันเองก็สะดุ้งไปตามเสียงของฉันเหมือนกัน“พี่ซัน กลับรถเดี๋ยวนี้เลยค่ะ พาโรสกลับคอนโดก่อน” ฉันพูดบอกพี่ซันที่นั่งทำหน้างงอยู่หลังพวงมาลัยด้วยท่าทางตื่นตระหนกสุดๆ“มีอะ...”“เร็วค่ะ!” ฉันเผลอออกคำสั่งเสียงแข็งกับพี่ซันอย่างลืมตัวตอนที่พี่ซันกำลังจะถามฉัน แต่ตอนนี้ฉันไม่มีเวลาอธิบายอะไรทั้งนั้น สิ้นเสียงฉันพี่ซันรีบเลี้ยวกลับรถตามคำสั่งทันทีพอถึงคอนโดฉันก็รีบเปิดประตูทั้งที่รถยังไม่ทันจอดสนิทดีด้วยซ้ำและพุ่งตรงเข้าไปยังหน้าลิฟต์ทันทีโดยไม่รอฟังว่าพี่ซันจะพูดอะไร ทำไมประมาทอย่างงี้นะโรส ในห้องมีอะไรตั้งหลายอย่างที่ไม่ควรมีใครรู้ ให้คีย์การ์ดเขาไปง่ายๆ อย่างงี้ได้ยังไงกันฉันตะบี้ตะบันกดปุ่มตรงหน้าลิฟต์อย่างร้อนรน มือไม้สั่นไปหมด เร็วกว่านี้ไม่ได้รึไง ต้องโทษฉันที่คิดออกช้าไป บ้าชะมัด...ติ้งงงง“ธาม!”พอประตูลิฟต์เปิดฉันก็เผลอเรียกชื่อคนที่อยู่ข้างในออกมาด้วยความตกใจ ก่อนฉันจะดึงสติกลับมาปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ธามเองก็ดูตกใจนิดๆ เหมือนกัน แต่ฉันรู้สึกเหมือนธามจะตาแดงๆ ด้วยนะ เขาเป็นอะไรรึเปล่า“ทำไมกลับมาเร็ว” ธามเลิกคิ้วถามข
และไม่นานพนักงานเสิร์ฟในร้านก็ยกเครื่องดื่มมาเสิร์ฟที่โต๊ะ กาแฟแก้วหนึ่งและชาเขียวอีกแก้วหนึ่ง ฉันกำลังจะบอกเขาว่าไม่ได้สั่งชาเขียวแต่ธามเดินกลับมาที่โต๊ะพอดีและเอ่ยขอบคุณพนักงานคนนั้นพร้อมๆ กับเลื่อนเก้าอี้ลงนั่งซะก่อน“ขอบคุณครับ”“ธาม สั่งให้โรสเหรอ” พอพนักงานคนนั้นเดินกลับไป ฉันก็เอ่ยธามคนตรงหน้าพอดี ไม่คิดว่าเขาจะจำได้ เพราะฉันไม่กินกาแฟและก็ไม่ค่อยกินอย่างอื่นนอกจากชาเขียว ถ้าจะคิดง่ายๆ ก็ชอบนั่นแหละ“อืม” คำตอบสั้นๆ ห้วนๆ ถูกส่งกลับมาแต่มันก็ทำให้ใจฉันพองโตขึ้นมาได้เฉยเลยนะ ฉันอมยิ้มน้อยๆ ก่อนจะแสร้งมองไปยังวิวทิวทัศน์ข้างนอกแทน คนอะไรไม่รู้...ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งไม่เป็นตัวของตัวเอง เขาทำให้ฉันประหม่าได้ทุกครั้งสิน่า>//////<…..…..อื้อออฉันครางขึ้นในลำคอเมื่อรู้สึกถึงสิ่งรบกวนการนอนของฉันก่อนจะกะพริบตาถี่ปรับโฟกัสกับแสงจ้าตรงหน้า และภาพที่เห็นทำให้ฉันต้องเบิกตากว้างผงะตัวถอยจนติดเบาะ ยกมือขึ้นดันแผงอกแกร่งของธามไว้ไม่ให้เขาใกล้ไปกว่
เฮือกก!!!ฉันสะดุ้งตื่นขึ้นกลางดึก เบิกตากว้างมองเพดานห้องด้วยความตกใจ หายใจหอบถี่ราวกับเพิ่งไปวิ่งรอบสนามมาก็ไม่ปาน ดวงใจน้อยกระหน่ำเต้นโครมครามไม่หยุด เหงื่อผุดออกตามกรอบหน้าเต็มไปหมด ฝันอีกแล้ว...ฝันแบบนี้อีกแล้ว“โรส เป็นอะไร”เสียงนั่นทำให้ฉันกลับมาอยู่ในปัจจุบันและพบว่าตัวเองนอนอยู่ในอ้อมแขนของธามที่ตอนนี้ผงกหัวขึ้นมามองหน้าฉันด้วยแววตาเป็นกังวลและท่าทางงัวเงียหน่อยๆ“ธาม ฮึก โรส...ฝันร้าย ฮึก” ฉันหันไปสบตาธามด้วยนัยน์ตาสั่นระรัว น้ำตาเอ่อล้นออกมาอย่างห้ามไม่ได้“แค่ฝันเอง ร้องไห้ทำไม” มือหนายกขึ้นเกลี่ยน้ำใสที่ร่วงลงข้างหางตาอย่างอ่อนโยน ก่อนจะเลื่อนขึ้นเช็ดเหงื่อบนหน้าผากแล้วลูบผมฉันเบาๆ ปกติฉันนอนคนเดียวก็ฝันแบบนี้แทบจะทุกคืนก็ไม่เห็นจะร้องไห้ แต่พอมีคนถามว่าเป็นอะไร ทำไมมันถึงอ่อนแอขึ้นมาซะงั้น ยิ่งคนตรงหน้าเป็น ธาม น้ำตาก็ยิ่งพรั่งพรูออกมาเหมือนเขื่อนแตกจุ๊บ//ฉันหลับตารับจุมพิตบนหน้าผากจากคนตรงหน้าเพื่อเป็นการปลอบประโลม ก่อนธามจะผละออกแล้วมองนัยน์ตาของฉัน“ไม่เป็นไรนะ