“ฉันคงคาดหวังกับคนอย่างคุณมากเกินไป ฉันคืนให้ค่ะ บอกตามตรงว่าฉันไม่กล้าดื่ม”
ขวดน้ำเย็นจัดถูกยื่นกลับคืนไปให้เจ้าของ มือใหญ่ยื่นออกไปรับมันกลับมา เปิดฝาดื่มของเหลวด้านในลงไปเกือบครึ่งขวด เพื่อแสดงให้เธอเห็นว่าเขาไม่ได้ใส่อะไรแปลกๆลงไป ดื่มเสร็จก็ยื่นคืนกลับไปให้คนตัวเล็กที่นั่งมองอยู่ตลอด
“มันก็แค่น้ำเปล่า”
“ค่ะ ฉันรู้”
ริมฝีปากจิ้มลิ้มคลี่ยิ้มจางๆ รับขวดน้ำจากมือใหญ่กลับมา ดื่มของเหลวข้างในลงไปเพียงนิดเดียวก็ส่งมันคืน จับจ้องร่างสูงกำยำที่กำลังโถมขึ้นมา คลี่ริมฝีปากกว้างขึ้นกว่าเดิม เมื่อเขาอยู่ใกล้จนเห็นร่องรอยบางอย่าง
“ต่อนะ มาต่อจากจูบกันเถอะ”
เฟยหลงดึงรั้งคนตัวเล็กเข้าหาตัว บดจูบลงไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย เขาชอบจูบของเธอ แม้จะเหมือนคนไม่มีประสบการณ์ แต่มันก็ไม่ถึงกลับแย่ เขาชอบที่ได้ไล่ต้อนเธอให้จนมุม ด้วยลิ้นร้อนๆของตัวเอง
“อ๊ะ!”
เสียงครางหวานดังอื้ออึงในลำคอ หญิงสาวใบหน้าสวยหวานยอมเป็นผู้ตามที่ดี ยอมให้ลิ้นใหญ่ไล่ต้อนจนกว่าเขาจะพอใจ มองสบดวงตาดุร้ายอยู่ตลอด เมื่อดวงตาคู่นั้นค่อยๆหยาดเยิ้ม มุมปากจิ้มลิ้มก็เผลอเหยียดตรง
“ถอดนะ?”
มือใหญ่ไล้วนอยู่ตามผิวเนื้อไร้เนื้อผ้า ขออนุญาติเสร็จก็เลื่อนฝ่ามือลงต่ำ ผ่านหน้าท้องเนียนเรียบ หยุดลงตรงตะขอกระโปรง ปลดมันออกจากกันรูดลงต่ำจนเห็นท่อนขาขาวเนียน ร่างกายของหญิงสาวดูเย้ายวนท้าทายสายตามาก แต่เขากลับมองเห็นไม่ค่อยชัด สายตามันฝ้าฟาง แต่ถึงอย่างนั้นก็ยังเห็นความอวบอูมซ่อนอยู่ใต้แพนตี้สีดำ
“อืม สวย”
แพนตี้ตัวจิ๋วแทบจะซ่อนกลีบเนื้ออวบไม่ได้ เฟยหลงเอ่ยปากชมออกไป เธอคนนี้สวยไปทุกสัดส่วนจริงๆ ไม่ได้มีดีแค่หน้าตา แต่ร่างกายก็มีเสน่ห์เย้ายวนมาก มิน่าล่ะ! ผู้ชายในร้านถึงอยากเข้ามาล่าเธอนัก คงจะแอบจินตนาการถึงเนื้อตัวข้างในของเธอ คงอยากปลดเปลื้องเสื้อผ้าน้อยชิ้นออกเพื่อชมความงดงาม แต่เสียใจด้วย ยัยคนสวยนี่ เขาจะเป็นคนแรกที่ได้เห็นตอนเธอเปลือย
“คะ คุณก็ถอดบ้างสิคะ”
“ถอดให้ฉันหน่อยสิ”
“งั้นก็ … นอนลงสิคะ”
ร่างสูงใหญ่ทิ้งตัวนอนลงบนเตียงอย่างว่าง่าย ไม่รู้เพราะเริ่มเมาหนักหรือเพราะอะไร แต่เขาทนต่อไปไม่ไหวแล้ว ไม่อยากอ้อยอิ่งอะไรอีก ตอนนี้รู้สึกง่วงมาก ก็ไม่ได้ดื่มมากมายเท่าไหร่นะ แต่ทำไมเมากว่าทุกที ดวงตามันจะปิดอยู่รอมร่อ
ขอทำก่อนแล้วค่อยนอนไม่ได้เหรอ ทำไมถึงรู้สึกง่วงขนาดนี้วะ!
มือเล็กปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีเข้มออกหมดทั้งแผง ลูบไล้ฝ่ามือไปตามความกำยำอย่างเงอะงะ ในขณะที่คนถูกสัมผัสอ่อนนุ่มลูบไล้ ดวงตาค่อยๆหรี่แคบลงเรื่อยๆ ริมฝีปากจิ้มลิ้มเหยียดยิ้มกว้าง ร่างเพียวบางลุกขึ้นยืนอย่างไม่อาย แม้ว่าร่างกายท่อนล่างจะเหลือเพียงแพนตี้สีดำปิดไว้ ฝ่าเท้าขาวเนียนข้างขวายกขึ้นเหนือเตียง วางมันลงบนแผ่นอกหนันแน่นแรงๆ ส่ายเท้าไปมาราวกับกำลังบดขยี้มดแมลงตัวหนึ่ง
“หึ! แล้วบอกว่าตัวเองเป็นเสือ ไอ้อ่อนเอ้ย!”
ร่างสมส่วนขยับลงจากเตียง หยิบกระโปรงที่ถูกทิ้งไว้ข้างเตียงขึ้นมาสวม ท่าทีของเธอนั้นต่างออกไปจากเมื่อครู่อย่างสิ้นเชิง อาการมึนเมาที่มีก่อนหน้านั้น ไม่หลงเหลืออยู่อีกเลย เมื่อใส่ชุดเสร็จเรียบร้อย ก็เดินไปหยิบขวดน้ำที่ผสมยานอนหลับขึ้นมาถือไว้ ต้องเอามันกลับไปด้วยเพื่อทำลายหลักฐาน ดวงตาคู่หวานมองคนที่หลับเพราะฤทธิ์ยาอีกครั้ง
เธออยากจะพ่นน้ำลายใส่หน้าเขาด้วยซ้ำ แต่มันติดตรงที่ว่า กิริยาไม่งามนั้น มันจะทำให้เธอดูต่ำลงกว่าเดิม
“ช่วยจัดการให้เขาหนักๆหน่อยนะ เห็นแล้วสงสาร รู้ใช่ไหมว่าต้องทิ้งอะไรไว้? แล้วออกไปตอนไหน?”
“ค่ะ จะรีบจัดการตามที่บอก แล้วออกไปก่อนที่เขาจะตื่น”
“อือ ดีมาก ส่งรูปผลงานให้ด้วยนะ เอาไว้ดูเพื่อความสะใจน่ะ งานเสร็จเมื่อไหร่ เตรียมตัวรับเงินที่เหลือได้เลย”
ใบหน้าสวยหวานส่งรอยยิ้มไปให้หญิงสาวที่เคยนั่งดื่มด้วยกัน เดินเบี่ยงตัวหลบไปอีกด้าน ให้คนที่รออยู่ข้างนอกมาตลอดเข้าไปจัดการงานที่เหลือ คนที่เดินจากไปไม่มีความกังวลใจใดๆเลย มั่นใจว่าผู้หญิงคนนั้นจะจัดการเขาได้ดี
แหงล่ะ เธอต้องจัดการเขาได้ดีอยู่แล้ว เพราะเธอเป็นมืออาชีพ
“ขอให้เป็นคืนที่มีความสุขนะ พ่อเสือหนุ่ม!”
เสียงหวานจางหายไปกับอากาศ ร่างสมส่วนเย้ายวนต่อทุกสายตา ก้าวเดินผ่านผู้คนออกไปทางประตูหลัง ท่าทางต่างออกไปจากตอนมา สาวสวยที่ให้ความรู้สึกเหมือนกระต่ายน้อยหลงเข้ามาในดงนักล่า ไม่มีเหลืออยู่เลยจนไม่มีใครกล้าเข้าไปทักทาย และมันก็ทำให้เธอผ่านออกไปถึงรถได้ง่ายๆ แบบไม่ต้องอารมณ์เสียเลย
03 : 45 น.
ดวงตาคมเข้มปรือขึ้นเมื่อเริ่มได้สติ ร่างสูงใหญ่สั่นไหวขึ้นลง ความสุขสมเล่นงานร่างกายส่วนสำคัญ มันถูกความอ่อนนุ่มโอบรอบ ไม่ถึงกับแย่ แต่ก็ไม่ได้รู้สึกดี พยายามครองสติไม่ให้หลับลงไป เพื่อมองใบหน้าคนที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่ด้านบน
หมับ!
“เธอ!?”
“ชู่ว!”
ตับ! ตับ!
มือเรียวสวยจรดลงบนกลีบปากคล้ำ ออกแรงโยกขึ้นลงเพื่อปิดกั้นคำถามที่ตัวเองอาจจะตอบไม่ได้ เคลื่อนไหวร่างกายรุนแรง ตามค่าแรงที่ได้รับมาจากผู้ว่าจ้าง
“อืม! อึก! อีกนิด!”
ฤทธิ์ยานอนหลับทำให้คนตัวโตอยู่ในสภาพกึ่งหลับกึ่งตื่น ฝืนลืมตาทุกครั้งที่รู้สึกตัว เพราะอยากมองคนด้านบนให้ชัดกว่านี้ แต่ไฟในห้องดันปิดทั้งหมด มีเพียงแสงไฟจากห้องน้ำส่องออกมา ไม่ถึงกับมืดมาก แต่ไม่สว่างพอให้เขาเห็นใบหน้าคนด้านบน
ปัก! ตับ! ตับ!
“อืม!”
เสียงทุ้มครางยาว สาวด้านบนเคลื่อนไหวรุนแรงจนเฟยหลงสติหลุด ปล่อยความกังขาให้วิ่งแล่นอยู่ในใจ ปล่อยร่างกายสุขสมเพราะคนบนตัว เรื่องที่ตัวเองสงสัยเอาไว้เสร็จจากเรื่องที่ทำอยู่เมื่อไหร่ ค่อยหาคำตอบก็คงไม่สายหรอก
ฟูหลินใช้มือข้างที่ถนัดพยุงร่างของเพื่อนสนิทไว้ อีกมือใช้มันล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋าแบรนด์ดัง เพื่อโทรขอความช่วยเหลือจากคนในบ้านคนอื่น ซึ่งพี่ซีเหวินว่าที่สามีของเธอ ให้เบอร์ติดต่อไว้แล้ว เพื่อเรียกใช้ในตอนที่จำเป็น“สวัสดีค่ะคุณแม่บ้าน รบกวนมาช่วยฉันพาตัวลี่หมิงขึ้นไปนอนบนเตียงหน่อยได้ไหมคะ?”ฟูหลินใช้น้ำเสียงที่บ่งบอกได้ถึงความเกรงใจ ถึงเธอจะเข้ามาเป็นสะใภ้ใหญ่ของตระกูลถิง แต่ไม่มีความคิดจะยกตนเหนือคนอื่น ปฏิบัติกับทุกคนตามหน้าที่ และยึดหลักความเท่าเทียมในฐานะมนุษย์ไว้ผ่านไปเพียงแค่ห้านาที ประตูไม่เนื้อดีก็ถูกผลักเข้ามา คนที่ผลักประตูบานนั้นคือพี่เลี้ยงคนสนิทของลี่หมิง ท่าทางบอบบางของผู้เป็นนาย ทำเอาน้ำตาเม็ดโตร่วงหล่นลงพื้น“ช่วยหน่อยนะคะ”ฟูหลินเข้าใจ เพราะเธอเองก็สงสารเพื่อนสนิทไม่ต่างกัน ทั้งสองคนช่วยกันพยุงร่างคนหลับไปนอนบนเตียง หลังจากนั้นพี่เลี้ยงก็ขออาสาเป็นคนดูแลต่อ หาผ้าชุบน้ำหมาดๆมาเช็ดตัวให้ หาชุดอื่นมาให้ใส่ จากนั้นก็ปล่อยให้นอนพักผ่อนอยู่ตามลำพังลี่หมิงนอนฝันร้ายทั้งคืน ในฝันของเธอมีคนพยายามแย่งเด็กคนหนึ่งไปจากเธอ เด็กคนนั้นเป็นเด็กผู้หญิงหน้าตาจิ้มลิ้ม ในวินาทีแรกที่ได
“ผมก็หวังให้เป็นแบบนั้นครับ”“อือ จะไปดูคนที่ไปกับลีหน่อยไหม เธออยู่ห้อง 304”“ครับ? ลีไม่ได้ไปคนเดียว?”“ไม่นะ มีผู้หญิงคนหนึ่งถูกพามาพร้อมกัน”“?”“ชื่อถิงถิง หลินถิงถิง”“หลินถิงถิง? เลขาของฉันนี่คะ?”“อ่า งั้นไปดูเธอกัน ลีผ่าตัดเสร็จค่อยมาดูเขา”เฟยหลงสรุป คนทั้งสองก้มหน้าลงเพื่อกล่าวคำลากับพ่อของลี จากนั้นก็เดินไปตามทางเดิน มีพยาบาลที่อยู่แถวนั้นรับอาสาพาไปที่ห้อง ลี่หมิงพยายามไม่โทษตัวเอง แต่ยิ่งพบว่ามีคนบาดเจ็บเพราะมีสาเหตุเป็นเธอ ความคิดยิ่งดำดิ่งลงลึก“คุณหลินถิงถิงอยู่ในห้องค่ะ คุณหมอให้เยี่ยมได้แค่สิบนาทีนะคะ”พยาบาลพูดจบก็เดินจากไป เฟยหลงเปิดประตูห้องออก เดินนำเข้าไปก่อน ลี่หมิงเดินตามเข้าไปบ้าง ก้าวขาแทบไม่ออกเมื่อเห็นเลขาที่เคยอารมณ์ดี นอนอยู่บนเตียง มีสายน้ำเกลือเสียบอยู่ที่แขนซ้ายของเธอ ขาถูกพันด้วยผ้าสันนิษฐานว่าด้านในนั้นน่าจะเป็นเฝือก“เอ่อ สวัสดีค่ะ/สวัสดีครับ”ชายวัยกลางคนสวมชุดกราวหันกลับไปมอง ยกมุมปากขึ้นยิ้มแต่แววตากลับไม่ได้ยิ้มตาม เพียงไม่นานก็หันกลับไปแบบเดิม จ้องมองลูกสาวแสนรักเงียบๆ นึกเสียใจที่รักเธอมากเกินไป ยอมตามใจเธอทุกอย่าง ปล่อยให้เธอไปใช้ชีวิตในแบบ
“คุณลี คุณลี! ระวัง!”ปัง!เอี๊ยด!รถยนต์เสียหลักเพราะคนควบคุมพวงมาลัยโดนกระสุนจากรถยนต์คันข้างๆ เจาะเข้าบริเวณซี่โครงด้านขวา เหยียบเบรกเท่าที่ร่างกายจะสามารถทำได้ แต่ถึงอย่างนั้นรถที่ขับมาด้วยความเร็วสูงก็ยังพุ่งไปด้านหน้า ลีพยายามบังคับพวงมาลัยไว้ ก่อนสติสุดท้ายจะหมดลงเขาปกป้องเธอได้หรือเปล่า นั่นคือสิ่งที่อยู่กับเขาในความทรงจำสุดท้ายเมื่อรถยนต์สีขาวปะทะเข้ากับเสาไฟในสภาพด้านหน้าพังยับ รถยนต์คันสีดำก็ขับเคลื่อนออกไปจากบริเวณนั้น งานที่ได้รับมอบหมายสำเร็จลุล่วง ไม่ต้องลงไปตรวจสอบก็ได้ เพราะคำสั่งที่ได้รับจากผู้เป็นนาย จะเป็นหรือตายก็ได้เงินเท่ากันถิงถิงหลั่งน้ำตามองเลือดที่หยดตามใบหน้าหล่อเหลา เขาตั้งใจให้รถชนทางฝั่งที่เขานั่ง พยายามรักษาคำพูดว่าจะปกป้องเธอ โดยใช้ตัวเองเข้าแลก เขาบ้ามาก บ้าที่สุด ทั้งที่บอกว่าเธอเป็นผู้หญิงในแบบที่ชอบแท้ๆ แต่ก็ทำร้ายจิตใจเธอด้วยการทำแบบนี้“อย่าตายนะ! ได้โปรด”ถิงถิงได้ยืนเสียงตัวเอง และเสียงไซเรนที่น่าจะเป็นของรถตำรวจ หรือไม่ก็คงเป็นรถพยาบาล แต่เธอไม่ได้ยินเสียงเขา มองไม่เห็นดวงตาที่เคยเย็นชานั่นด้วย ตาเขาสวยนะ เธอชอบมัน ชอบที่สุด“ฮึก! ฮือ! ฉันช
“ผมไปโรงพยาบาล xxx นะ”ลีเอ่ยชื่อโรงพยาบาลที่ใกล้ที่สุดออกไป กำลังจะถอยออกไปเพื่อปิดประตู เสื้อก็ถูกดึงไว้ จนมันแถบจะหลุดออกมาจากในกางเกง คนทำเม้มริมฝีปากแน่น ไม่กล้าบอกเหตุผลที่ไม่อยากไปโรงพยาบาลแห่งนั้น“ไปส่งฉันที่บ้านก็พอ”“แต่ขาคุณ”“ช่างขาฉันเถอะค่ะ ข้อเท้ามันแพลงเฉยๆ ไปหาหมอก็ได้แค่ยามากินอยู่ดี”คนที่คลุกคลีอยู่กับโรงพยาบาลมาทั้งชีวิต และมีความรู้ด้านนี้มากพอสมควร พูดเสียงห้วนกับคนตัวโต พิงหลังเข้ากับเบาะรถ เอื้อมไปดึงกระเป๋าจากมือคนที่ยังยืนนิ่ง ล้วงหาโทรศัพท์ออกมาอย่างไม่สนใจ แจ้งกับเจ้านายอีกคนว่าเกิดเรื่องบางอย่างขึ้น เธอจึงหยิบของที่เขาต้องการไปให้ไม่ได้ โชคดีที่เจ้านายเธอใจดี ไม่เพียงแค่เข้าใจสถานการณ์ เขายังสั่งให้เธอหยุดงานจนกว่าขาจะหายเจ็บ“บ้านคุณอยู่ที่ไหน?”“ถนน XX ย่านศูนย์การค้า M”รถยนต์สีขาวเคลื่อนออกไปจากลานจอดรถ เมื่อคนขับรู้จุดหมายปลายทางที่จะไป ใบหน้าคมคายโดดเด่นด้วยดวงตาสีน้ำทะเลลึก แอบมองคนข้างๆทุกครั้งที่สบโอกาส แปลกใจที่คนสวยขนาดนี้ยังไม่มีคนรัก ที่แปลกใจมากกว่านั้น คือการที่เธอมาสารภาพรักกับตัวเองถ้าตัดเรื่องฐานะกับหน้าตาออกไป เขาคิดว่าตัวเองไม่มีอะไร
“ไปคนเดียวได้ใช่ไหม?”เฟยหลงถามรุ่นน้องมากฝีมือด้วยน้ำเสียงเป็นกังวล มั่นใจว่าลีเอาตัวรอดได้ เพราะเขาเป็นถึงทายาทของบริษัทรักษาความปลอดภัยอันดับหนึ่งของประเทศ แต่ในสถานการณ์แบบนี้ที่ไม่รู้ว่าตระกูลโจวจะมาไม้ไหน เอาการ์ดไปเพิ่มอีกสักคนน่าจะปลอดภัยกว่า“ผมเคลื่อนไหวคนเดียวสะดวกกว่า” ลีตอบ เข้าใจความกังวลของเจ้านาย แต่เคลื่อนไหวคนเดียวสะดวกและรวดเร็วกว่าจริงๆ“ระวังตัวด้วยนะคะคุณลี”“ครับ”ลียืนรอจนกระทั่งรถยนต์คันใหญ่เคลื่อนออกไปจากลานจอดรถ มองจุดหมายปลายทางในโทรศัพท์ที่เจ้านายส่งมาให้ ก้าวเดินออกไปอย่างรวดเร็ว ไม่ทันได้ระวังมุมทางด้านซ้าย เพราะมัวแต่ดูมุมด้านขวา คนที่เดินพ้นมาจากมุมนั้นจึงชนร่างเขาสุดแรงพลั่ก! ตุบ!“อ๊ะ! ขอโทษค่ะ”เลขาสาวเอ่ยปากขอโทษบอดี้การ์ดหนุ่มหล่อของเจ้านาย ทั้งที่ตัวเองล้มพับอยู่บนพื้น และรู้สึกปวดข้อเท้าหนึบๆ ส่วนคนที่เธอชนและเอ่ยขอโทษ ดูเหมือนจะไม่เป็นอะไรเลย ร่างกำยำยังยืนได้อย่างมั่นคง“คุณตามผมมาทำไม?” นั่นคือสิ่งที่ลีสงสัย และมันเป็นสาเหตุที่เขาไม่ยื่นมือเข้าไปช่วยเธอ“คะ? ตามคุณ?”“รถคุณจอดอยู่ชั้นล่าง ไม่มีทางที่คุณจะอยู่ตรงนี้เพราะรถคุณจอดที่นี่”“นี่คุ
ชั่วโมงต่อมาเมื่อมื้ออาหารจบลง ลี่หมิงก็ปลีกตัวไปทำงานของตัวเอง ปล่อยให้พ่อกับพี่ชาย ปรึกษาหารือกับคนรัก เกี่ยวกับวิธีรับมือการเล่นงานจากคนของตระกูลโจว ซึ่งการหารือเต็มไปด้วยความตึงเครียด ตลอดการพูดคุยมีแต่เรื่องให้ปวดหัว และความรุนแรงของแต่ละเหตุการณ์ กว่าจะหาแผนรับมือกับทางนั้นได้ ก็ถึงเวลาเลิกงานของบริษัทพอดี“วันนี้พอแค่นี้ก่อนแล้วกัน”เพราะคนที่นั่งอยู่อีกฟากมีท่าทีกระวนกระวายมาตั้งแต่ครึ่งชั่วโมงก่อน ซีหยวนจึงหยุดการหารือไว้เพียงแค่นั้น อีกอย่างแผนการที่มู่เฟยหลงเสนอมาก็ไร้ช่องโหว่ น่าจะรับมือกับการระรานของคนจากตระกูลโจวได้อย่างถาวร“ผมไปหาลี่หมิงนะครับ”เพียงไม่นานก็ไร้เงาของคนพูด ผู้นำของตระกูลถิงยกยิ้ม มองหน้าลูกชายเพื่อหาแนวร่วม เมื่อเห็นความพอใจบนใบหน้าลูกชาย รอยยิ้มก็ฉายออกกว้างกว่าเดิม“เหลือด่านสุดท้ายสินะ”“ถ้าแม่ได้เห็นสีหน้าเขาเมื่อกี้ ท่านให้ผ่านแน่นอนครับ”“นั่นสิ เพิ่งจะเคยเห็นเจ้าชายเพลย์บอยทำสีหน้าแบบนั้น”สำหรับถิงซีหยวน มู่เฟยหลงไม่ต่างจากเจ้าชาย เพราะเขาเกิดในตระกูลที่มั่งคั่ง ติดอันดับต้นๆของประเทศ ซ้ำยังเป็นหลานคนเดียวที่เป็นผู้ชาย ตำแหน่งผู้นำรุ่นต่อไปของต