#เช้าวันต่อมา เสียงเคาะประตูดังขึ้นตั้งแต่เช้าตรู่ ตามด้วยเสียงเรียกของเด็กน้อยที่ดังอ้าวอยู่ตรงหน้าประตูห้อง ทำให้คลินต์ที่กำลังนอนกอดภรรยาสาวสะดุ้งตัวตื่นขึ้นมา ก่อนที่เขาจะค่อยๆ ลุกขึ้นอย่างระมัดระวังไปเปิดประตู "พ่อครับ มะตื่นแล้ว แม่ล่ะครับตื่นหรือยัง?" เด็กน้อยเอ่ยถามพร้อมกับชะโงกหน้าไปมองข้างใน "จุ๊ๆ เมื่อวานแม่เหนื่อยมากเลย ให้แม่นอนพักก่อนนะครับ" คลินต์เอามือจ่อปากตัวเองพร้อมกับบอกให้ลูกชายเงียบเสียงลง "อ้าวเหรอครับ""มะลงไปกินข้าวกับคุณปู่คุณย่าก่อนนะครับ""ก็ได้ครับ" "เก่งมากเลยครับลูกพ่อ" หลังจากที่จัดการกับเจ้าลูกชายตัวแสบเสร็จเรียบร้อยแล้วคลินต์ก็กลับเข้ามาในห้อง ก่อนจะค่อยๆ ขึ้นไปนอนข้างๆ ใบชาตามเดิม แต่เขาไม่ได้นอนหลับ เขานอนมองใบชาที่กำลังหลับตาพริ้มอยู่ พร้อมกับนึกถึงเรื่องเมื่อคืนที่เพิ่งจะจัดหนักกันกว่าจะได้นอนก็เกือบรุ่งสางแล้ว ยิ่งคิดก็ยิ่งมีความสุข นึกว่าตัวเองจะไม่ได้ลงเอยแบบนี้ซะแล้วสิ "อือ....พี่คลินต์กี่โมงแล้วคะเนี่ย""ยังเช้าอยู่เลย นอนต่อเถอะ ไม่ต้องห่วงลูกหรอก เขาอยู่กับปู่กับย่า" "อือ..." ใบชาหลับไปอีกครั้งด้วยความเพลีย กว่าจะตื่นขึ้นมาอีกทีก็
และแล้วค่ำคืนที่คลินต์รอคอยก็มาถึง หลังจากที่งานเลี้ยงของงานแต่งเล็กๆ นั้นจบลง แขกในงานก็พากันกลับบ้านพักของตัวเอง เพราะพรุ่งนี้มีงานที่ต้องทำ ใบชาเดินออกมาจากห้องน้ำหลังจากที่อาบน้ำเสร็จ แต่แล้วเธอก็ต้องชะงักเพราะกลิ่นบางอย่างในห้องนอน และด้วยท่าทางของคลินต์มันก็ทำให้เธออดถามไม่ได้จริงๆ "พี่ฉีดน้ำหอมเหรอคะ กลิ่นฉุนเชียว" "เหม็นเหรอ?" คลินต์ดีดตัวลุกขึ้นด้วยความร้อนใจ สีหน้าของเขาดูตกใจมากจริงๆ "เปล่าค่ะ ไม่ได้เหม็น แค่ปกติมันไม่มี..." มันไม่ได้เหม็นฉุนขนาดนั้น และไม่เชิงเป็นกลิ่นน้ำหอมที่เรามักจะฉีดใส่ตัวเอง แต่มันเป็นกลิ่นหอมเย็นๆ ที่ได้กลิ่นแล้วรู้สึกสดชื่น "แม่ให้มาน่ะ บอกว่ามันช่วยทำให้เราผ่อนคลาย" "อ๋อ..." "พี่พร้อมแล้วนะ" "....." ใบชามองเงียบๆ เธอสังเกตเห็นตั้งแต่ออกมาจากห้องน้ำแล้วล่ะ ห้องถูกจัดใหม่พร้อมด้วยแสงไฟโทนอุ่น แถมด้วยกลิ่นน้ำหอมอบอวลอยู่อีก "มามะ มาหาพี่ที่เตียงหน่อยครับ ปุปุ ~ " คลินต์เอามือตบที่เตียงนอนเป็นจังหวะ พร้อมกับส่งสายตายั่วยวน แต่แทนที่ใบชาจะเดินไปตามคำขอ เธอกลับยืนยิ้มแล้วหัวเราะเบาๆ ออกมา "ชา อย่ามาแกล้งพี่นะ ให้พี่รอกลางคืน พี่ก็รอแล้วนี่ไ
และแล้วก็มาถึงวันที่คลินต์และใบชาได้แต่งงานกัน งานถูกจัดขึ้นแบบเรียบง่ายตามความต้องการของใบชา ณ กลางไร่องุ่นถูกจัดแต่งให้เป็นซุ้มเล็กๆ และประดับประดาไปด้วยดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมและมีความหมายในงานแต่งพื้นที่รอบๆ ก็มีโต๊ะสำหรับรองรับแขกที่มีไม่เท่าไหร่ ส่วนมากก็เป็นคนงานของที่นี่ ใบชาไม่มีญาติผู้ใหญ่ที่จะต้องมางาน พวกญาติๆ ที่เคยอยู่ด้วยสมัยเด็กๆ เธอไม่อยากไปยุ่งกับใครแล้ว กลัวว่าจะเข้ามาทำให้ครอบครัวที่มีความสุขตอนนี้ของเธอต้องลำบากทางฝั่งของคลินต์ก็มีพ่อแม่ของเขาและคุณอาที่เป็นเจ้าของไร่ตัวจริงที่นี่ ครั้งแรกเลยที่ใบชาได้เห็นหน้าตาของเจ้าของไร่เมื่อถึงเวลาใบชาก็เดินมาพร้อมกับพี่ชาย ญาติผู้ใหญ่คนเดียวของเธอ ด้วยชุดเดรสสีขาวสะอาด กระโปรงพลิ้วแต่ไม่รุ่มร่าม สวยเข้ากับรูปร่างของเธอพอดี ทรงผมถูกม้วนเก็บครึ่งศีรษะแบบเรียบร้อย และประดับด้วยดอกไม้สวยๆ ดูเข้ากับใบหน้าแสนหวานของเธอด้านหน้าคือเจ้าบ่าวที่ใส่ชุดสูทหล่อเหลากับลูกชายที่ยืนอยู่ข้างๆ กัน คลินต์กำลังยิ้มให้กับเจ้าสาวแสนสวยของเขา จนกระทั่งเธอเดินเข้ามาถึง"แม่สวยมากเลยครับ""ขอบคุณครับ เราก็หล่อมากเลยนะ สูทตัวนี้หล่อมาก""ขอบคุณครับ"ค
#เวลาผ่านไป หลังจากวันนั้นฉันย้ายมาอยู่ที่บ้านของพี่คลินต์ และเราก็ใช้ชีวิตอยู่ดั่งเช่นสามีภรรยาทั่วไป อยู่ในครอบครัวที่เล็กๆ แต่มีความสุขและอบอุ่นมาก ส่วนบ้านหลังนั้นพี่เต้ก็อยู่คนเดียวโดยปริยาย แต่ฉันก็แอบคิดนะว่ารายนั้นก็น่าจะหาแฟนสักคนจะได้มาอยู่ด้วยกันจะได้ไม่เหงา แต่ก็ไม่รู้ว่าทำไมถึงยังครองโสดอยู่จนปัจจุบันนี้ฉันเริ่มปรับตัวให้คุ้นชินกับคำว่าครอบครัว แต่ก็ยังทำหน้าที่ของตัวเองเหมือนเดิม ฉันทำงานอยู่ที่บริษัทนึง มะโซวก็เข้าโรงเรียนอนุบาล พี่คลินต์ก็ทำงานเป็นผู้ดูแลไร่นี้ และก็ทำงานที่บริษัทของตัวเองบ้าง เราต่างก็มีหน้าที่ของกันและกันพี่คลินต์อยากให้ฉันลาออกจากงานแล้วคอยดูแลบ้าน แต่ที่นี่ก็มีแม่บ้านคอยทำอะไรหมดทุกอย่างอยู่แล้ว ฉันอยากทำงานอยากมีเงินเก็บเป็นของตัวเองโดยที่เงินนั้นไม่ได้มาจากการที่พี่คลินต์เป็นคนให้ อยากทำงานเก็บเงินเอาไว้ในส่วนของตัวเองครึ่งนึง อีกครึ่งหนึ่งก็เก็บเอาไว้ให้มะโซวเป็นค่าเล่าเรียนของเขา ถึงตอนนี้ฉันจะไม่ต้องลำบากแล้วก็เถอะ เพราะมีพี่คลินต์จัดการทุกอย่าง แต่ฉันก็ยังอยากทำสิ่งที่ตัวเองตั้งมั่นเอาไว้ให้มันสำเร็จตอนนี้เรามีลูกและมะโซวก็เหมือนเชือกสานร
เย็นวันหนึ่งหลังเลิกงาน ขณะที่สองพ่อลูกกำลังจอดรถรอใบชาเลิกงานอยู่ที่หน้าบริษัทพนักงานคนอื่นๆ ก็เริ่มพากันทยอยออกมาเมื่อถึงเวลาเลิกงาน ไม่นานนักใบชาเดินออกมา"พ่อครับ แม่มาแล้วอยู่นั่น" มะโซวลูกชายตัวน้อยเอ่ยขึ้นพร้อมกับชี้ออกไปยังเบื้องหน้า ตรงกลุ่มพนักงานที่กำลังพากันเดินออกมามีผู้เป็นแม่ของตัวเองกำลังเดินออกมาอยู่ด้วย"ไปรับแม่กันป่ะ""ครับ"คลินต์กับลูกชายพากันจูงมือเดินตรงไปหาใบชาที่กำลังเดินออกมา แต่ยังไม่ทันที่จะได้เดินไปถึงตัวของใบชา ก็มีพนักงานผู้ชายคนนึงเข้ามาสะกิดเธอจากด้านหลังและคุยด้วยต่อหน้าต่อตาเลยนะนั่น!ไม่รู้ว่ากำลังคุยอะไรกันแต่เห็นแค่นี้ก็หงุดหงิดจนลมออกหูแล้ว"ใบชาครับ""???""ถ้าผมจะขอไลน์ จะว่าอะไรไหมครับ เผื่อเอาไว้คุยกัน""ว่าครับ ขอไม่ได้" คลินต์พูดแทรกเข้าไป เพราะรีบเดินเข้าไปจนได้ยินการสนทนาพอดี"แล้วคุณเป็นใครครับ มาเกี่ยวอะไรด้วย""เกี่ยวสิครับ เพราะผมเป็นสามี""ส่วนมะก็เป็นลูกครับ คนนี้แม่ของมะเอง คุณลุงห้ามยุ่งนะครับ" มะโซวพูดขึ้นอย่างเด็กรู้ทัน ก่อนจะยิ้มกว้างให้คนตรงหน้าที่เข้ามาขายขนมจีบแม่ของตนเอง"เอ่อ จริงเหรอครับใบชา?""ค่ะ นี่ลูกฉันเอง"เธอยอมร
ณ บ้านไร่องุ่น หลังจากกลับมาที่บ้านไร่ใบชาก็ได้ใบตอบรับจากบริษัทที่ไปสมัครงานทิ้งไว้ให้เข้าทำงานพอดี ส่วนเจ้าลูกชายก็เข้าเรียนตามปกติเหมือนเดิม โดยที่มีคลินต์คอยไปส่งเหมือนที่ผ่านมา ส่วนเตชินทร์ที่เคยรับหน้าที่ก็แทบจะไม่ต้องทำอะไรเลยคลินต์ทำหน้าที่แทนหมดแล้วไม่สิ ไม่ใช่การทำแทน แต่มันเป็นหน้าที่ที่เขาต้องทำอยู่แล้ว หน้าที่สามีและหน้าที่พ่อ"แต่งตัวแบบนี้จริงๆ เหรอ?" คลินต์เอ่ยถามใบชา พร้อมกับมองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า ชุดที่เธอใส่แม้มันจะไม่โป๊ แต่ในสายตาของเขามันก็ดูแปลกๆ ยังไงก็ไม่รู้สิเสื้อเชิ้ตกระโปรงทรงเอรัดรูป ก็ปกติของพนักงานออฟฟิศนั่นแหละ แต่ดูมันรัดรูปมากไปหน่อย"อื้อ ทำไมอ่ะ?" ใบชาถามกลับพร้อมกับมองตามที่คลินต์มองเธอ มันแปลกยังไง หรือมันไม่ดียังไงล่ะ"พี่ว่ามันรัดไป""ยังไง บ้าเหรอ กระโปรงทรงเอนะพี่คลินต์ เอาจริงดิ?""ใช่ เอาจริง เปลี่ยนเถอะ"ใบชามองหน้าคลินต์แบบเหนื่อยหน่าย นี่วันแรกของการไปทำงานของเธอนะ จะเจออุปสรรคตั้งแต่ก้าวออกบ้านเลยเหรอแขนเรียวยกขึ้นเพื่อดูนาฬิกาที่ข้อมือ ก่อนที่คิ้วจะขมวดย่นเข้าหากันเหมือนกำลังคิดหนัก"สายแล้ว เปลี่ยนตอนนี้ไม่ทันหรอก ฉันต้องไปรายงานต